เกือบ 100 ปีของทางรถไฟสายเศร้า!

[Mr.No]

[attach=1]

สองสามวันก่อนไปเดินตลาดนัดพ่อพรหมหาดใหญ่ใน เลยแวะนั่งกินน้ำชา +โรตีแกงไก่รสชาติดี กับเพื่อนฝูงสภากาแฟร้านบัง เจ้าเก่า  เสวนากันสารพันเรื่องตามประสาคนสูงวัยที่ยังไม่ค่อยชอบให้ใคร ๆ เรียกว่า "ลุง"

คุยกันสารพันเรื่อง ก็มาจบลงเรื่อง ปัญหาจราจร และลงท้ายว่าด้วยความห่วยบวกเห่ย ๆ ของ "การถไฟไทย"

คุยกันเรื่องรถไฟไทย...ผมว่ามีน้อยคนที่จะออกปากชมองค์กรนี้ เพราะคงไม่มีคนไทยคนไหนที่ไม่รู้ว่า  องค์กรนี้ บริหารกิจการได้สุดยอดแบบที่รัฐบาลต้องเอาตัวเอง,ครม และภาษีคนไทยทั้งประเทศ ไปค้ำประกันต่างชาติขอกู้หนี้ยืมสินเค้ามา เพื่อให้  "การรถไฟไทย" ยัง(มีหน้า)อยู่ได้!

เขียนมาถึงบรรทัดนี้ คนรถไฟอาจเคือง ... ก็ต้องของบอกว่า  "อย่าเคือง..อย่าโกรธ" ผมเลย 
ผมนี่จะบอกให้ว่า... ผมนี่ละ  "คนรักรถไฟไทย" ตัวจริง เสียงจริง.....    

แต่ที่ต้องสารภาพไปพร้อมๆ กับ "รัก" ก็คือ  เกลียด!  พอ ๆ กัน...

ผมเกลียด การบริหารจัดการที่โหลยโท่ยของการรถไฟไทย  ... รู้สึกยี้ทุกครั้งที่ผู้บริหารที่เป็นคีย์แมนสำคัญ ๆ ของการรถไฟไทย ส่วนใหญ่ทำงานแบบเอาตัวรอด...ขาดวิสัยทัศน์และความกล้าหาญ.....และที่สำคัญคนเหล่านี้ไม่เคยรู้สึกว่า   ตนเองและครอบครัว ได้กินได้ใช้ และเติบโตในหน้าที่  ก็เพราะ  "รถไฟ" แต่กลับไม่ได้ทำอะไรให้ "รถไฟ" ดีขึ้น

ระบบราชการที่ล้าหลังและยังเดินจมปลักอยู่ในวังวนของผลประโยชน์ที่ การเมือง+นายทุน+รถไฟ(ผู้บริหารบางคน) คือ สามเส้าที่สร้างปัญหาให้แก่  รถไฟไทย จนแทบไม่น่าเชื่อว่า จากที่รถไฟไทยเคยเป็นหน้าตา..เป็นความทันสมัยอันดับต้น ๆ ของสยามประเทศนับแต่รัชสมัยพระพุทธเจ้าหลวง มาวันนี้กลายเป็นองค์กรที่ล้าหลังและสร้างหนี้ให้แก่ชาติมากที่สุดองค์กรหนึ่ง!

ตัวอย่างที่คนไทยตื่นเต้นว่า ..เอาละวะ  ชาตินี้ตูคงมีโชคได้นั่งรถไฟความเร็วสูงกันละโหวย.... เพราะหลังจากที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เอาโครงการรถไฟความเร็วสูง มาปัดฝุ่น คุยกับจีน เสวนากับญีปุ่น จนรูปธรรมเริ่มเกิด....

แต่การเมืองมันก็อย่างที่รู้กัน  "ตถตา" ไปตามเวลา สุดท้ายรัฐบาลอภิสิทธิ์ก็สิ้นฤทธิ์แพ้สีแดงที่มาแรงจน นโยบายที่ตั้งต้นไว้ดี วันนี้ก็ดีต่อ..แต่ดันดี เฉพาะกลุ่ม เฉพาะอย่าง

การสานฝัน..เส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่ว่าจะวิ่งจากคุนหมิงผ่านลาวมาจบที่หนองคาย และอาจลากต่อไปถึงสุดท้ายปลายทางคือ สิงค์โปร์ คือการเปิดประตูให้ประเทศไทย ได้กลายเป็นศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียนดูจะเป็นเรื่องดี ๆ ในท่ามกลางเรื่องร้าย ๆ ...แต่สุดท้ายเมื่อรัฐบาล คุณหญิงยิ่งลักษณ์ ขึ้นมา ล่าสุด คุณเธอก็เริ่มเป๋ ... บอกว่า เส้นทางที่จะสร้างน่ะสร้างแน่ แต่เธอจะสร้างตามที่หาเสียงคือ กรุงเทพ-เชียงใหม่ ให้ปี๋น้องจาวเหนือที่เลือกเฮามาก่อน.... เล่นเอาคนเหนือปรบมือกราว แต่คนไทยทั่วประเทศออกอาการงง ว่า...เฮ้ย!  ตกลงเอางบมากมายไปสร้างศิวิไลซ์แถวบ้านตัวเองก่อน แทนที่จะเป็นเส้นทางที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศในภาพรวม!

เสียงก่นคงมากพอดู...หลังจากนั้น ที่อุดรธานี คุณเธอพร้อมด้วย ครม สัญจร ก็สรุปว่า อนุมัติให้สร้างเส้นทาง หนองคาย-กรุงเทพด้วยเช่นกัน  ... 

แต่ล่าสุดเธอเล่นเปลี่ยนใหม่ (อีกละ) บอกว่า เส้นทางเชียงใหม่ไม่เอาแล้วละค้า....แต่จะ(อยู่)แบบเอาสั้น ๆก่อน คือ กรุงเทพ – พิษณุโลก ส่วนเส้นตะวันออกเฉียงเหนือก็เอาแค่ โคราช และทางใต้ที่มันยาว ๆ  ขอ(เอา)แค่หัวหินค้า!

นโยบายยักไปย้ายมา..เล่นเอา เพื่อนบ้านอย่างลาวออกอาการสับสนว่า รัฐบาลไทยวันนี้ตกลงว่าเฮาจะเจรจากับไผ๋ดีระหว่างพี่ชายกับน้องสาว สุดท้ายประเทศลาวยอมเปิดบ้านรับพี่ชายให้เสื้อแดงไปผูกข้อมือกัน แต่ที่ลึก ๆ ก็คือ รัฐบาลลาวขอคุยกับนายกตัวจริง...เพื่อต้องการถามว่า  ตกลงเรื่องรถไฟความเร็วสูง จีน-ลาว-ไทย เจ้าซิเฮดจังใด๋

[attach=2]

ประเทศลาวนั้น..สิ่งที่น่ายกย่องก็คือ นายสมสะหวาด นายกฯ ประเทศลาว ประกาศชัดว่า เส้นทางรถไฟสายนี้จะทำให้ประเทศลาวกลายเป็นประเทศที่ก้าวขยับจากประเทศที่แอบในซอกหลืบของโลกกลายเป็นประเทศที่ก้าวข้ามผ่านไปสู่ความทัดเทียมประเทศอื่นได้ด้วยเวลาที่รวดเร็วมากทีเดียว

แม้ความล่าช้าที่อาจสะดุดบ้างก็คือ การที่ประเทศจีนเล่นออกอาการนายทุนขี้งก เพราะประกาศว่าต้องการที่สำหรับให้ประเทศลาวเวนคืนเพื่อนำมาเป็นใช้สำหรับวางเส้นทางรวมเบ็ดเสร็จสองฝั่งของรางคือ  2 กิโลเมตร!

ถ้าเป็นนักการเมืองไทย...คำถามแรกที่จะถามจีน คงประมาณ  ...    "แล้วลื้อจะตัดค่าคอมฯให้อั้วกี่เปอร์เซนต์?"

แต่คนลาวนั้นแตกต่างเพราะหน้ายังบางนัก..อีกทั้งความกลัวในเรื่องบาปบุญคุณโทษ มีมากกว่านักการเมืองไทยมากนัก จึงกลายเป็นการที่ประเทศลาว มองเห็นว่า จีนเอาเปรียบ!  เพราะแค่แปดร้อยเมตรสองฝั่ง ก็น่าจะสร้างประโยชน์ด้านธุรกิจให้จีนมหาศาลบานตะไทแล้ว....

ล่าสุดก็พอเห็นหนทางว่า จีนได้ประนีประนอมและลาวเองก็คงผ่านอุปสรรคปัญหานี้ไปได้แบบประเทศลาวได้ประโยชน์ที่คุ้มค่ากว่า

ส่วนของไทย...เรื่องบางอย่างที่ยังน่ากังวล เช่น การที่ไทยลงทุนร่วมกับจีนภายใต้เงื่อนไขกฎหมายต่างชาติที่ห้ามมิให้เกิน 50 เปอร์เซ็นต์นั้นจะกลายเป็นอุปสรรคให้กับจีนเพราะดูแล้วไม่คุ้มค่าหรือไม่ หรือจะเป็นทางออกอื่นแบบที่ลาวต่อสู้คือกรณีผืนที่ดินสองข้างทางมหาศาลอาจต้องยกให้จีนใช้ประโยชน์อื่นด้านธุรกิจ ฯลฯ

เล่ามายืดยาว...สรุปเอาตรงที่ว่า

โครงการใดก็ตาม....ถ้า นักการเมือง+นักธุรกิจ + ราชการ ได้ผลประโยชน์ คุ้มค่า  โครงการนั้นต่อให้ต้องทำบนฟ้าหรือใต้เหว ก็ไม่มีอุปสรรค

แต่ถ้าโครงการใด ...ได้ไม่คุ้มเสีย สำหรับ 3 เส้าเน่า ๆ นี้.... ชาติหน้า แค่สมบัติเดิมของชาติก็อย่าหวังจะรักษาไว้ได้

เส้นทางรถไฟหาดใหญ่ – สงขลา จึงอาจต้องกลายเป็น เส้นทางรถไฟสายสนธยาอีกต่อไป เพราะ...
1. คงไม่มีนักการเมืองหน้าไหนอย่างมีปัญหากับมวลชน (คนบุกรุกทีดิ่นรถไฟ)
2. นักธุรกิจใหญ่ที่จะหาญกล้าฝ่าอิทธิพลท้องถิ่นบนเส้นทางนี้ โดยเฉพาะกับธุรกิจด้านรถไฟที่มีข้อกฎหมายหยุมหยิม
    วุ่นวาย ดูไม่คุ้มค่า (ยกเว้นว่าจะยอมให้มีการพัฒนาทีดิ่นสองฝั่งรถไฟสองฝั่งได้อย่างคุ้มค่า)
3. ข้าราชการ ยิ่งไม่ยากแตะ..โดยเฉพาะลำพังฝ่ายสินทรัพย์รถไฟเอง..ก็ผลักภาระกันให้วุ่น  แถมฟ้องร้องบุกรุก็ทำกันแบบ
    พอไปที เพราะแตะเรื่องนี้มีหวังหมดอนาคตในหน้าที่การงาน ฯลฯ

แม้นจะใกล้ 100 ปีเส้นทางรถไฟสายนี้เข้ามาทุกที.....
เรื่องเศร้า ๆ ของเส้นทางสายเเส้นนี้ก็คงเป็นแค่ ตำนานเล่าสู่ให้ลูกหลานไปอีกนานแสนนาน.....

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

ต้องทำใจครับ
ระบบการบริหารของ รฟท ถ้าไม่แบ่งเค้กกินกันเอง ป่านนี้ก็ก้าวหน้าไปไกลแล้วครับ

[นายไข่นุ้ย]

ต้องทำใจครับ
ระบบการบริหารของ รฟท ถ้าไม่แบ่งเค้กกินกันเอง ป่านนี้ก็ก้าวหน้าไปไกลแล้วครับ

หมัน

[นายไข่นุ้ย]

ข่าวประมูลซื้อหัวรถจักรใหม่70คัน วงเงิน 3300ล้านบาท งานนี้เค้กลอยกันบาน

[ผู้เฒ่าเต่า]

วันเกิดใครหล่าวมีเค๊กลอยด้วย แบ่งมั่งตะ 

[นายไข่นุ้ย]

วันเกิดใครหล่าวมีเค๊กลอยด้วย แบ่งมั่งตะ 

อย่ากินเลยท่าน เค็ม 

[65456]

ร้านน้ำชายีเดช ยีหลีม  ใช่หม๊าย  บังซ๊บขายโรตี บังสิดขายน้ำชา  2 ร้านเจ้าเก่าในตำนาน  ขายมา 50ปีได้แล้วมั้ง  ทั้งนักการเมือง  นายกชวน  อภิสิทธิ์ก็เคยมานั่ง  วันก่อนเห็น เลขาอาเซียน สุริน พิสุวรรณ ก็มานั่ง

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

ข่าวประมูลซื้อหัวรถจักรใหม่70คัน วงเงิน 3300ล้านบาท งานนี้เค้กลอยกันบาน

รถจักรใหม่ 70 หัว ผมได้ไปสนทนากับพี่ๆรถไฟ เขาบอกว่า การดำเนินการไปอย่างช้าๆ ถึง ช้ามากแทบไม่กระดิกเลย  ข่าวที่ออกไปว่า จะได้หัวใหม่ในปี 2556 ก็ยังไม่แน่นอนครับ ปัจจัยหลายๆอย่าง คิดว่า เราต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์รถจักรเก่าๆไปเรื่อยๆ
อีกอย่าง รถจักรน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน (ที่จะสั่งซื้อ 20 คัน) เราก็ต้องปรับปรุงสภาพทาง สะพาน อีกบานเบอะเลย ไม่อย่างนั้นเอามาวิ่งรับรองได้ว่า รางแบะแน่นอน รถจักรที่ใช้ทุกวันนี้น้ำหนักกดเพลาไม่ถึง 20 ตัน ก็ยังตกรางได้เพราะสภาพทาง รฟท ตอนนี้ส่วนมากเข้าขั้นไม่ได้มาตรฐานด้วยซ้ำ

ก็ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไปเรื่อยๆครับ

[นายไข่นุ้ย]

รถจักรใหม่ 70 หัว ผมได้ไปสนทนากับพี่ๆรถไฟ เขาบอกว่า การดำเนินการไปอย่างช้าๆ ถึง ช้ามากแทบไม่กระดิกเลย  ข่าวที่ออกไปว่า จะได้หัวใหม่ในปี 2556 ก็ยังไม่แน่นอนครับ ปัจจัยหลายๆอย่าง คิดว่า เราต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์รถจักรเก่าๆไปเรื่อยๆ
อีกอย่าง รถจักรน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน (ที่จะสั่งซื้อ 20 คัน) เราก็ต้องปรับปรุงสภาพทาง สะพาน อีกบานเบอะเลย ไม่อย่างนั้นเอามาวิ่งรับรองได้ว่า รางแบะแน่นอน รถจักรที่ใช้ทุกวันนี้น้ำหนักกดเพลาไม่ถึง 20 ตัน ก็ยังตกรางได้เพราะสภาพทาง รฟท ตอนนี้ส่วนมากเข้าขั้นไม่ได้มาตรฐานด้วยซ้ำ

ก็ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไปเรื่อยๆครับ

หมัน วันก่อยคุยกับเจ้าหน้าที่ เค้าส่ายหัวเลยเหมือนท่านว่า   หากยังมีการแบ่งเค้กอยู่ ไปไม่รอด ผมได้แต่ยิ้มๆ เค้าถามต่อว่าสู คนนอกรู้ได้อย่างไร ผมบอกว่า เว็บของการรถไฟไง 555

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

หมัน วันก่อยคุยกับเจ้าหน้าที่ เค้าส่ายหัวเลยเหมือนท่านว่า   หากยังมีการแบ่งเค้กอยู่ ไปไม่รอด ผมได้แต่ยิ้มๆ เค้าถามต่อว่าสู คนนอกรู้ได้อย่างไร ผมบอกว่า เว็บของการรถไฟไง 555

ตอนนี้ไม่แปลกแล้วครับ หากคนนอกอย่างเราๆจะรู้ลึกกว่าคนรถไฟ เพราะการบริหารที่แบ่งเค๊กกัน ได้งบฯแต่ละที กี่ปีๆก็ย่ำอยู่กับที่ ยิ่งข่าวสารต่างๆก็มีการวิเคราะห์แตกประเด็นไปได้อีกเยอะ
รถจักรใหม่จะกี่หัวก็ตาม ผมสงสัยจังว่า ทำไมมีแต่นโยบาย แต่การดำเนินการกลับช้ากว่าเต่า  รถจักร รฟท ในตอนนี้ ผมบอกได้เลยว่า "ถ้านับจริงๆ ตอนนี้หัวรถจักรทุกคันล้วนหมดอายุการใช้งานไปแล้ว" ไม่ว่าจะ GEA หรือ HID อายุใช้งานมากกว่า 15 ปีแล้ว เมืองนอก(ที่พัฒนา)เขาถอดชิ้นส่วนไปนานแล้วครับ แต่บ้านเราก็อย่างที่รู้ๆกัน รถจักรอายุมากกว่า 30 ปี ก็ยังฝืนสังขารออกวิ่งไม่รู้จบ อย่าง ALS  GE หรือแม้กระทั่งรถดีเซลรางต่างๆ ล้วนน่าสงสารทั้งสิ้น  แล้วยังขยันทำสีใหม่ ขยันเปลี่ยนเครื่องยนต์ แต่การใช้งานก็ยังใช้แบบไม่ตายไม่ซ่อม เหมือนเดิม  ใช่ไหมครับ    ปลงๆๆๆ

[นายไข่นุ้ย]

ตอนนี้ไม่แปลกแล้วครับ หากคนนอกอย่างเราๆจะรู้ลึกกว่าคนรถไฟ เพราะการบริหารที่แบ่งเค๊กกัน ได้งบฯแต่ละที กี่ปีๆก็ย่ำอยู่กับที่ ยิ่งข่าวสารต่างๆก็มีการวิเคราะห์แตกประเด็นไปได้อีกเยอะ
รถจักรใหม่จะกี่หัวก็ตาม ผมสงสัยจังว่า ทำไมมีแต่นโยบาย แต่การดำเนินการกลับช้ากว่าเต่า  รถจักร รฟท ในตอนนี้ ผมบอกได้เลยว่า "ถ้านับจริงๆ ตอนนี้หัวรถจักรทุกคันล้วนหมดอายุการใช้งานไปแล้ว" ไม่ว่าจะ GEA หรือ HID อายุใช้งานมากกว่า 15 ปีแล้ว เมืองนอก(ที่พัฒนา)เขาถอดชิ้นส่วนไปนานแล้วครับ แต่บ้านเราก็อย่างที่รู้ๆกัน รถจักรอายุมากกว่า 30 ปี ก็ยังฝืนสังขารออกวิ่งไม่รู้จบ อย่าง ALS  GE หรือแม้กระทั่งรถดีเซลรางต่างๆ ล้วนน่าสงสารทั้งสิ้น  แล้วยังขยันทำสีใหม่ ขยันเปลี่ยนเครื่องยนต์ แต่การใช้งานก็ยังใช้แบบไม่ตายไม่ซ่อม เหมือนเดิม  ใช่ไหมครับ    ปลงๆๆๆ

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

ข้อมูลอาจเก่าไปบ้าง แต่ยังใช้เป็นหลักฐานในปัจจุบันได้ดี

[Mr.No]

ร้านน้ำชายีเดช ยีหลีม  ใช่หม๊าย  บังซ๊บขายโรตี บังสิดขายน้ำชา  2 ร้านเจ้าเก่าในตำนาน  ขายมา 50ปีได้แล้วมั้ง  ทั้งนักการเมือง  นายกชวน  อภิสิทธิ์ก็เคยมานั่ง  วันก่อนเห็น เลขาอาเซียน สุริน พิสุวรรณ ก็มานั่ง

[Mr.No]

ข่าวประมูลซื้อหัวรถจักรใหม่70คัน วงเงิน 3300ล้านบาท งานนี้เค้กลอยกันบาน

ไม่รู้ว่า หัีวรถจักรใหม่จะวิ่งยังไงหนอที่ไม่ต้องตกรางหรือเครื่องแรงแต่ต้องเบาทาง แถว ๆ ร่อนพิบูลย์..