ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

หาดใหญ่เมืองที่ล้อมรอบด้วยโลงศพ

เริ่มโดย ศักดิ์ดา, 16:17 น. 21 พ.ย 53

คนหนอ

เห็นโรงศพแล้ว ยังไม่หลั่งน้ำตาอีก  ทุกอย่างมันเกิดเพราะความประมาทของคน ชอบคิดเอาเอง สรุปเอาเอง  ไม่คิดเผื่อไว้ก่อน

จำไว้อย่าคิดเอง  จงคิดเผื่อไว้ให้มาก เผื่อเสียหาย เผื่อขาด  เหลือดีกว่าขาด

VAN.

ยังไม่หยุดที่โทษคนอื่นอยู่ดี ไม่มีใครเค้าฝากความหวังไว้กับนายไพรหรอกครับ เพียงแต่ทุกคนประมาท ตอนที่น้ำมาบางคนยังนั่งดูน้ำอยู่เลย จนเก็บของไม่ทัน เพราะไม่คิดว่ามันจะมาท่วม ข่าวพยากรณ์เค้าก็เตือนอยู่ ประสบการณ์ปีก่อนๆ ก็เตือนอยู่ คนไทยก็เป็นเสียอย่างเนี๊ยะ ไม่เคยมองหัวแม่ตีนตัวเองเลย ให้ตายสิ

ใช่ครับอย่าโทษคนอื่นเลย  น้ำท่วมก็ต้องโทษธรรมชาติครับ และที่ธรรมชาติลงโทษก็เพราะคนเรานี่แหละครับที่ไปทำลายธรรมชาติให้เสียสมดุลถึงเวลาแล้วทีธรรมชาติเอาคืน  ข่าวสารตอนนี้มีให้ติดตามเยอะแยะ  ..โทษคนอื่นไม่ได้ครับ..ประมาทเอง.

ขุนศึก

ผมคนนึงละครับที่เก็บของขึ้นชั้น2+ย้ายรถไปจอดที่สูงตั้งแต่บ่าย2 เชื่อหรือไม่ว่าขนแม้แต่ขยะเพราะคิดว่าถ้าน้ำท่วมจริงขยะแห้งก็เก็บง่ายกว่าขยะเปียก สิ่งที่เหลือไว้ชั้น1นั้นคือสิ่งที่สุดวิสัยเกินกว่าจะเคลื่อนย้าย เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เย็น แต่ก็หาของมารองให้สูงขึ้นเผื่อว่าจะช่วยได้ในระดับนึง จากนั้นก็ล็อคออฟฟิตกลับบ้าน ก็ตามหลายๆท่านว่าละครับด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา เพราะเป็นคนหาดใหญ่โดยกำเนิดเจอน้ำท่วมมาก็หลายครั้งก็พอจะรู้ว่าต้องทำอะไรบ้างช่วงเดือนเสี่ยงภัยแบบนี้ ......

ในวันที่น้ำท่วมก็แอบลุ้นเงียบๆว่าอย่าให้ที่ออฟฟิตน้ำสูงกว่าปี43 เพราะที่ออฟฟิตเป็นที่ที่ต่ำ ขนาดปี43น้ำในออฟฟิตก็ 2เมตรแล้ว และที่ต้องลุ้นเงียบๆก็เพราะไม่อยากให้คนในครอบครัวไม่สบายใจไปด้วย เรื่องอาหารการกินไม่มีปัญหาเท่าไหร่เพราะเตรียมของแห้งไว้แล้ว จะมีก็แต่น้ำดื่มน้ำใช้ที่ต้องจัดสรรกันให้พอเท่านั้นเอง ของแจกของช่วยเหลือต่างๆจากภาคเอกชนหรือภาครัฐนั้นก็ไม่ได้หวังอะไรมากครับอย่างที่แจ้งไปละครับว่ามีประสบการณ์ คนที่พอจะพึ่งพาได้ดีที่สุดคือเพื่อนบ้านเรานั่นเองครับ ขาดเหลืออะไรก็แบ่งๆกันไปตามเท่าที่จะพอช่วยเหลือกันได้

หลังน้ำลดรีบกลับมาตรวจสอบความเสียหายด้วยเพราะความเป็นห่วงกลัวว่าน้ำจะถึงชั้น2 หลังจากเข้าตรวจสอบก็แทบช็อคครับ ชั้นสองผมน้ำท่วมถึงจริงๆ ข้าวของเสียหายแทบ100% เมื่อเข้าไปเห็นสภาพแทบจะหมดความรู้สึกไปเลย วูบต่อมา รู้สึกเหนื่อย ท้อและสิ้นหวัง คิดเลยเถิดขนาดจะขายที่ทางแถวนี้แล้วพาครอบครัวกลับไปอยู่จังหวัดอื่นซึ่งเป็นบ้านเดิมของพ่อแม่ผมกันเลยทีเดียว

ต่อมาได้ยินข่าวสารว่าทางรัฐมีความช่วยเหลือมามอบให้ เช่นเงิน 5000 บาท และ เงินกู้ SME ผมก็ดีใจนะ อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้สึกว่าในความสิ้นหวังมันก็ยังมีแสงสว่างอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าไม่รู้จะกู้ได้ไหมและเงิน5000บาทจะได้เมื่อไหร่

แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือน้ำท่วมสูงขนาด 1.5-3.5 เมตรนี้เป็นไปได้ไงกับสภาพเมืองแบบหาดใหญ่นี้ สภาพเมืองแทบจะเป็นคลองตอนน้ำท่วมแบบนี้คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในประเทศไทย ปริมาณน้ำที่มากขนาดนี้เป็นน้ำที่สะสมมากจากที่ไหน ถูกตั้งใจปล่อยออกมาหรือไหลมาเองโดยธรรมชาติ อ่านตามข่าวเค้าว่าเป็นเพราะประมาณน้ำฝนมากกว่าปกติทำให้มีน้ำเยอะ แต่ที่ไม่เข้าใจคือถ้าฝนตกหนักซึ่งตอนนั้นฝนก็ตกหนักจริง แต่น้ำที่ทำให้ท่วมได้เป็นวงกว้างและระดับน้ำสูงขนาดนี้มันไปสะสมกันอยู่ตรงไหน ทำไมมันไม่ค่อยๆทยอยไหลมา  ทำไมอยู่ดีๆมันพร้อมใจกันไหลมาหาดใหญ่พร้อมๆกันได้แบบนัดหมายกันมาดีแบบนี้ ผมไม่รู้หรอกนะว่ามีท่านใดสงสัยเรื่องพวกนี้แบบผมไหม ผมไม่รู้หรอกครับว่าเป็นหน้าที่ของใครที่จะต้องมาชี้แจงจะ นักวิชาการ เทศบาล อำเภอ จังหวัด หรือ ใครๆ แต่ถ้าท่านใดพอจะมีคำตอบอย่างน้อยช่วยอธิบายผมหน่อยเถอะครับ

อยากรู้ด้วยคนครับ

อ้างจาก: ขุนศึก เมื่อ 01:59 น.  06 ธ.ค 53
ผมคนนึงละครับที่เก็บของขึ้นชั้น2+ย้ายรถไปจอดที่สูงตั้งแต่บ่าย2 เชื่อหรือไม่ว่าขนแม้แต่ขยะเพราะคิดว่าถ้าน้ำท่วมจริงขยะแห้งก็เก็บง่ายกว่าขยะเปียก สิ่งที่เหลือไว้ชั้น1นั้นคือสิ่งที่สุดวิสัยเกินกว่าจะเคลื่อนย้าย เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เย็น แต่ก็หาของมารองให้สูงขึ้นเผื่อว่าจะช่วยได้ในระดับนึง จากนั้นก็ล็อคออฟฟิตกลับบ้าน ก็ตามหลายๆท่านว่าละครับด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา เพราะเป็นคนหาดใหญ่โดยกำเนิดเจอน้ำท่วมมาก็หลายครั้งก็พอจะรู้ว่าต้องทำอะไรบ้างช่วงเดือนเสี่ยงภัยแบบนี้ ......

ในวันที่น้ำท่วมก็แอบลุ้นเงียบๆว่าอย่าให้ที่ออฟฟิตน้ำสูงกว่าปี43 เพราะที่ออฟฟิตเป็นที่ที่ต่ำ ขนาดปี43น้ำในออฟฟิตก็ 2เมตรแล้ว และที่ต้องลุ้นเงียบๆก็เพราะไม่อยากให้คนในครอบครัวไม่สบายใจไปด้วย เรื่องอาหารการกินไม่มีปัญหาเท่าไหร่เพราะเตรียมของแห้งไว้แล้ว จะมีก็แต่น้ำดื่มน้ำใช้ที่ต้องจัดสรรกันให้พอเท่านั้นเอง ของแจกของช่วยเหลือต่างๆจากภาคเอกชนหรือภาครัฐนั้นก็ไม่ได้หวังอะไรมากครับอย่างที่แจ้งไปละครับว่ามีประสบการณ์ คนที่พอจะพึ่งพาได้ดีที่สุดคือเพื่อนบ้านเรานั่นเองครับ ขาดเหลืออะไรก็แบ่งๆกันไปตามเท่าที่จะพอช่วยเหลือกันได้

หลังน้ำลดรีบกลับมาตรวจสอบความเสียหายด้วยเพราะความเป็นห่วงกลัวว่าน้ำจะถึงชั้น2 หลังจากเข้าตรวจสอบก็แทบช็อคครับ ชั้นสองผมน้ำท่วมถึงจริงๆ ข้าวของเสียหายแทบ100% เมื่อเข้าไปเห็นสภาพแทบจะหมดความรู้สึกไปเลย วูบต่อมา รู้สึกเหนื่อย ท้อและสิ้นหวัง คิดเลยเถิดขนาดจะขายที่ทางแถวนี้แล้วพาครอบครัวกลับไปอยู่จังหวัดอื่นซึ่งเป็นบ้านเดิมของพ่อแม่ผมกันเลยทีเดียว

ต่อมาได้ยินข่าวสารว่าทางรัฐมีความช่วยเหลือมามอบให้ เช่นเงิน 5000 บาท และ เงินกู้ SME ผมก็ดีใจนะ อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้สึกว่าในความสิ้นหวังมันก็ยังมีแสงสว่างอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าไม่รู้จะกู้ได้ไหมและเงิน5000บาทจะได้เมื่อไหร่

แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือน้ำท่วมสูงขนาด 1.5-3.5 เมตรนี้เป็นไปได้ไงกับสภาพเมืองแบบหาดใหญ่นี้ สภาพเมืองแทบจะเป็นคลองตอนน้ำท่วมแบบนี้คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในประเทศไทย ปริมาณน้ำที่มากขนาดนี้เป็นน้ำที่สะสมมากจากที่ไหน ถูกตั้งใจปล่อยออกมาหรือไหลมาเองโดยธรรมชาติ อ่านตามข่าวเค้าว่าเป็นเพราะประมาณน้ำฝนมากกว่าปกติทำให้มีน้ำเยอะ แต่ที่ไม่เข้าใจคือถ้าฝนตกหนักซึ่งตอนนั้นฝนก็ตกหนักจริง แต่น้ำที่ทำให้ท่วมได้เป็นวงกว้างและระดับน้ำสูงขนาดนี้มันไปสะสมกันอยู่ตรงไหน ทำไมมันไม่ค่อยๆทยอยไหลมา  ทำไมอยู่ดีๆมันพร้อมใจกันไหลมาหาดใหญ่พร้อมๆกันได้แบบนัดหมายกันมาดีแบบนี้ ผมไม่รู้หรอกนะว่ามีท่านใดสงสัยเรื่องพวกนี้แบบผมไหม ผมไม่รู้หรอกครับว่าเป็นหน้าที่ของใครที่จะต้องมาชี้แจงจะ นักวิชาการ เทศบาล อำเภอ จังหวัด หรือ ใครๆ แต่ถ้าท่านใดพอจะมีคำตอบอย่างน้อยช่วยอธิบายผมหน่อยเถอะครับ
ครับ ผมก็เหมือนกันครับ สงสัย คาใจ จริง  แล้วถ้าน้ำเยอะทำไมเพียง 2 วัน ถึงแห้งได้สนิทครับ ระบบการระบายน้ำดีขนาดนั้น แต่ทำไมยังท่วมได้สูงขนาดนี้ มันสูงจนไม่น่าเชื่อเลย

อืม

น้ำทะเลมันหนุนอ่ะ ทำให้น้ำไหลลงสู่ทะเลไม่ได้ พูดง่ายๆคือน้ำทะเลกับน้ำคลองอยู่ในระดับเดียวกัน ฟังเค้ามานะ


ที่ผมอยากรู้ โซตัส พารากอน บาร์เบอร์รี่ มีคนตายเยอะไหมหรอ เมาๆๆๆกันทั้งน้าน

พี่ แอ๊ด

เห็นด้วยกับ  "ขุนศึก"   และ  "อยากรู้ด้วยคนครับ"
ก่อนน้ำท่วม    สมาชิกเว็บกิมหยง   หลายท่านด้วยกัน    ติดตามข่าวคราวของสภาพอากาศ   โดยเฉพาะพี่แอ๊ด   
ขับรถจากหาดใหญ่   เพื่อไปน้ำทะเลที่แหลมสมิหลาสงขลาเมื่อเช้าวันอาทิตย์   พร้อมทั้งนำรูปถ่ายลงในเว็บกิมหยง
และทราบว่าน้ำต้องท่วมแน่นอน  แต่ไม่คิดว่าจะท่วมอย่างมโหฬารเช่นนี้     

ขุนศึก

ดีใจครับที่มีผู้ร่วมตั้งข้อสังเกตุ ยังไงท่านใดพอจะมีข้อมูลมาแบ่งปันกันนะครับ

คิดได้งัย

ข้อมูลฟังไม่ขึ้นเลย กะ มาโทษ ร้านขายโลงศพ

ให้ไอ้พวกกินภาษีประชาชนคิดให้ดีกว่านี้ หน่อย

ไปทำลายธรรมชาติมากมาย ไม่คิดเลย น่ะ!!!!

คนน้ำน้อย(บนเขา)

อ้างจาก: wachi29 เมื่อ 09:40 น.  23 พ.ย 53
ผมเห็นด้วยกับความคิดคุณเลยครับ เพราะตั้งแต่น้ำท่วมเมื่อวันที่ 1 ผมเห็นหลายคนเข้ามาต่อว่าทางเทศบาลฯ ตลอดว่าไม่เตือนภัย เตือนช้าบ้าง ผมเลยงงว่า ทำไมเค้าไม่สนใจข่าวสารบ้าง กรมอุตุเตือนเป็นระยะ รายงานเชื่อถือได้ ผมอยู่น้ำน้อย ไม่มีใครมาปักธงให้ผมดู ผมก็ต้องอาศัยทีวี อินเตอร์เน็ต และบทเรียน ในเมื่อมันเคยท่วม มันก็อาจเกิดขึ้นได้อีก ผมซื้อกระสอบทรายมาเอง ก่อนวันที่1 เพราะมันจะท่วมช่วงปลายเดือน เพราะหากรอเทศบาลน้ำน้อย ซึ่งเอามาให้วันน้ำท่วมมันคงไม่ทันก่อน ผมดูพยากรณ์ครั้งสุดท้ายก่อนที่น้ำจะท่วมคือ 2 ทุ่มกว่า ซึ่งเค้ารายงานว่าพายุฯ จะขึ้นฝั่งประมาณ 3 ทุ่ม ผมก็นั่งรอเลย ทุกอย่างเตรียมการแล้ว และมันก็มาจริง เราลองถามตัวเองดูก่อนว่าเราพยายามอะไรแล้วหรือยัง หรือเรามัวแต่รอคอยความช่วยเหลือ แต่หากคนที่มีภาระหรืออาจจะไม่สะดวกติดตามข่าวสาร อันนั้นละไว้ในฐานที่เข้าใจ แต่ผมว่าคนที่เข้ามาต่อว่าทางราชการในนี้ ก็แสดงว่าเค้าก็มีสื่อหลากหลายให้ติดตาม แต่ไม่ใส่ใจ

ใช่ค่ะ  อันดับแรก เราต้องเตรียมพร้อมให้กับครอบครัว  และตัวเราก่อน  ดิฉันก็อยู่น้ำน้อยค่ะ(บนเขา)
น้ำท่วมแถวบ้านทุกปี  ช่วงปลาย ๆ ปี  จะต้องเตรียมไว้แล้ว  อันดับแรกกระสอบทรายก่อนเลย  ถ้าน้ำมาไม่มากนักก็พอเอาอยู่  เทศบาลน้ำน้อย  ชอบเอาทรายมาให้  หลังน้ำลดทุกที  แล้วเราจะหวังพึ่งใคร  ถ้าไม่พึ่งตนเองก่อน
วันที่ 1 พ.ย.  ก็ฟังและติดตามข่าวตลอด  เขาก็บอกพายุจะมาตอน 3 ทุ่ม  ดิฉัน พ่อ  แม่  เราเตรียมพร้อมแล้ว  นั่งรอเลย  3 ทุ่มมันมาจริง ๆ พร้อมทั้งเสียงฟ้าดังกึกก้องท้องฟ้า    น่ากลัวที่สุดเลย  พ่อ+แม่บอก  ยังไม่เคยเห็นฟ้าลั่นฟ้าร้องน่ากลัวเท่านี้มาก่อนตลอดอายุท่าน   3ทุ่มครึ่ง ไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน  พร้อมกับความมืดภายในบ้าน  แต่ข้างนอกกลับมีแสงสว่างเป็นระยะ  ของสายฟ้า  คืนนั้น...เป็นคืนที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดเท่าที่สัมผัสมา  ฟ้าลั่นที่รุนแรงสามารถทำให้เตียงนอนสั่นได้   คืนนั้นทั้งคืน  คงไม่มีใครนอนหลับฝันดีสักคน...
...อย่ามัวไปโทษใครกันเลยนะคะ  และอย่าหวังพึ่ง...รอให้คนอื่นมาช่วยเหลือ...ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุดค่ะ...

...สรุปข้าวของใช้ในบ้านไม่มีอะไรเสียหาย...ยกเว้นสวนยางพารา ...ที่เจ้าพายุเอากลับไปด้วย...มันบิดซะต้นยางขาดท่อน... :'( :'( :'(

พบทู่หลกๆๆ หล่าว

ฮ้าโหลยอย่าคิดมากตะ น้ำมันมาก ชาดอิเจ็บหัวแหม็ดงานนี้
เรื่องยังตั้งลุยเหลยนิ เอาทู้ไหม่ตะ
ตายแล้วไม่้ต้องคิดไหล ใส่โลงเพนและ เจ็บหัว เจ็บหัว เลิกๆๆๆๆ
ไปทู้ป้ายผิดนุหลอยหวาลุย  ส-ดีใจ ส-ดีใจ ส-ดีใจ