ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

Condo Hatyai Situation 2012

เริ่มโดย Condo @ hatyai 2012, 21:38 น. 28 ก.ค 55

Condo @ hatyai 2012

หลายท่านที่มีการงานเริ่มที่จะมั่นคง  คงคิดที่จะซื้อบ้านหรือคอนโดไว้เป็นของตนเองสักหลัง   ในฐานะที่ผมผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาก่อนจึงขอเล่าเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้กับทุกท่านไว้พิจารณาและตัดสินใจในการเลือกซื้อบ้านและคอนโดในฝันของท่าน โดยสรุปได้ 7 ข้อ ดังนี้
1. รายรับ- รายจ่าย ของตัวเราเป็นอย่างไร (สำหรับคนที่มีเงินเก็บและสามารถจ่ายเงินก้อนซื้อได้เลย คงไม่ต้องอ่านรายละเอียดในข้อแรกนี้)  แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีเงินเก็บเป็นล้าน ๆ  ผมแนะนำไว้ดังนี้   เบื้องต้นให้ท่านดูรายรับ (เงินเดือน) ของเราที่แน่นอนในแต่ละเดือน หักลบด้วยหนี้สินที่ต้องชำระในแต่ละเดือน และคูณด้วย 50 นี่แหละคือการประมาณคร่าว ๆ ของยอดเงินกู้จากธนาคาร  เช่น
นาย ก. มีเงินเดือนประจำ เดือนละ 2 หมื่นบาท แต่มีค่าผ่อนรถ 8 พัน ต่อเดือน ค่าผ่อนบัตรเครดิต 2 พัน ต่อเดือน เมื่อเอารายรับหักรายจ่าย เท่ากับมีเงินใช้ในแต่ละเดือนจริง ๆ 1 หมื่นบาท (20,000-(8,000+2,000)) = 10,000 บาท
เมื่อนำ 1 หมื่น x 50 จะได้ 5 แสน  เท่ากับว่าเราจะกู้แบงค์ได้ประมาณ 5 แสนบาท  นั่นเท่ากับว่าถ้าบ้านราคา 1 ล้าน เราต้องหาเงินดาวน์ให้ได้ 5 แสน นาย ก. ก็จะเป็นเจ้าของบ้านในฝันได้  แต่ถ้าเราไม่มีเงินดาวน์ถึง 5 แสนหล่ะ ?
คงต้องหาคนที่จะกู้ร่วมกับนาย ก.  ที่มีอายุไม่เกิน 60 ปี มาช่วยกัน อาจจะเป็นญาติพี่น้อง หรือสามี- ภรรยา หรือกิ๊กก็ตามแต่ท่านจะเลือกคนที่จะเป็นหนี้คู่กับท่าน
ข้อควรระวัง !!!  บางคนหลงไปกับพนักงานขายและห้องตัวอย่างที่สวยหรู ลืมนึกถึงรายรับของตัวเอง ต้องระวังดี ๆ นะครับ !!!  ถ้ากู้ไม่ผ่าน ท่านจะทำอย่างไร ? เพราะฉะนั้น ! กลับมาดูรายรับ และรายจ่ายของเราก่อนว่า ฐานะของเราคู่ควรกับที่อยู่ในระดับใด   เข้าไปลองคำนวณเงินกู้ก่อนได้ที่ http://www.scb.co.th/th/pnb/pnb_loan_calculate.shtml


และสำหรับท่านที่ติด Blacklist / เครดิตบูโร อาจต้องตัดใจก่อนในช่วงนี้ เพราะธนาคารคงไม่ปล่อยกู้ให้ผ่านได้ง่าย ๆ อ่านรายละเอียดตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวท่านเอง   ได้ที่

http://www.ncb.co.th/Default.htm




2. ได้รับใบอนุญาตการก่อสร้าง และ EIA แล้วหรือยัง เพราะมันมีกรณีตัวอย่างมาแล้วครับ ลองเข้าไปดูที่  Click




3. ที่อยู่ตอบสนอง Life style ของท่านหรือไม่? เช่น ทำงานแถวสีลม ไม่มีรถส่วนตัว อาจจะเลือกคอนโดติดแนวรถไฟฟ้า จะดีกว่าไปเลือกบ้านเดียวแถวชานเมือง เป็นต้น  อันนี้ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความชอบส่วนบุคคลครับ




4. สัญญาซื้อขายเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วข้อนี้แก้ยาก เพราะเขาเองก็มีลูกค้าหลายราย ไม่ใช่เราคนเดียว ท่านใดสนใจลอง Download ตัวอย่างสัญญาซื้อ ขาย ห้องชุด ได้ที่ Click



5. ทำเล และทิศทางลม อันนี้ต้องลองสังเกตดูครับ ว่าห้องหันหน้าไปทางทิศใด ข้อแนะนำคือ พึงหลีกเลี่ยงห้องที่หันไปด้านทิศตะวันตก เพราะกลางวันจะโดนแดดเต็ม ๆ


หรือเป็นห้องที่มีเพดานต่ำกว่า 2.6 เมตร ท่านอาจจะรู้สึกอึดอัดได้ แต่ก็มีข้อดีคือ "ประหยัดแอร์"


หรือเข้าซอยไปลึกมาก ๆ ให้นึกถึงตอนออกมาทำงานด้วยว่าจะต้องรถติดในซอยกว่าจะออกถนนใหญ่ได้ เสียเวลาเท่าไหร่ หรือค่าสองแถว / มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น


6. ก่อนซื้ออาจไปหาข้อมูลตาม Web board ของลูกบ้านดูว่าเป็นอย่างไร คืออย่างน้อยได้รู้ว่าเพื่อนบ้านในอนาคตทำงานอะไร มีทัศนคติ มีน้ำใจหรือจะพึ่งพาอะไรได้หรือไม่ ลองเข้าไปดูที่ Click




ตัวอย่างชุมชน On line ที่ลูกบ้านน่ารัก ช่วยเหลือรักใคร่กันดี ลองเข้าไปอ่านข้อมูลกันเล่น ๆ ได้ที่ Click


สำหรับ Website ของโครงการคงให้ข้อมูลได้ในเรื่องทำเล ที่ตั้ง Concept ซึ่งเป็นข้อมูลเบื้องต้น ถ้าทางโครงการมีก็เข้าไปดูไว้เป็นข้อมูล




7. ดูประวัติของโครงการที่ผ่านมาว่าเคยมีปัญหาอะไรกับลูกบ้านหรือไม่ เพราะอาจจะประวัติศาสตร์ซ้ำรอยได้ บริษัทที่มีชื่อเสียงก็สร้างความเชื่อมั่นกว่าบริษัทเล็กได้ในระดับหนึ่ง แต่มันก็ไม่เสมอไป เห็นช้างล้มมาก็เยอะแล้วครับ  ลองเข้าไปสอบถาม Guru ของ  Pantip.com   ได้ที่  Click



บทความโดย ดร.ปกรณ์ สุปินานนท์ : drKaew@hotmail.com