ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ยอดขายแย่มากไม่เคยเจอแบบนี้เลย

เริ่มโดย กุ๊กนอกครัว, 09:56 น. 01 ส.ค 55

gamezadvd

ถ้าขายของในเมืองว่าแย่แล้ว สินค้าเกษตรยิ่งแย่หนักครับ เกษตรกรตอนนี้หนี้ท่วมกระอักเลือดแล้ว สินค้าเกษตรหลายๆอย่างตกต่ำแบบไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้คนไทยเป็นหนี้ พอคนเป็นหนี้กันเยอะขึ้นเขาก็ต้องประหยัดรัดเข็มขัดเพราะต้องเอาเงินไปจ่ายเงินต้นดอกเบี้ย ของก็เลยขายไม่ดี นโยบายรถคันแรกนี่ล่ะตัวดี เพื่อนผมทำงานเงินดือน 14000 อยากมีรถถอยป้ายแดง ตอนนี้เครียดหนัก ไหนจะค่ากินตัวเอง ค่าผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายให้ลูกเมีย ชักหน้าไม่ถึงหลัง หมุนเงินพันละวันในแต่ละเดือน  รัฐบาลนี่แหละตัวดี นายกปูกับสส. ส่วนใหญ่ไม่ใช่นักบริหารประเทศอยู่แล้ว การบริหารประเทศไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ต้องมีความรู้ ประสบการณ์ วิสัยทัศน์ เอาคนทำงานไม่เป็นมาบริหารประเทศก็เป็นอย่างที่เราๆเห็นนี่แหละ

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: phanuwat เมื่อ 11:24 น.  02 ส.ค 55
ไม่โทษรัฐบาลแล้วจะโทษใครละครับ เพราะรัฐเป็นคนกำหนดนโยบาย(โง่)เข้ามา ค่าแรง 300 ยังงี้ รถคันแรก และของก็แพงขึ้นทุกวัน เนื้อ หมู ไก่ ผัก ราคาก็ปรับตลอด มันจะไม่โทษใครได้หรือว่าจะโทษฮุนเซนละครับ
ส.สู้ๆ หมันแหละ
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

คนล่องหน

อ้างจาก: gamezadvd.thport.com เมื่อ 12:02 น.  02 ส.ค 55
ถ้าขายของในเมืองว่าแย่แล้ว สินค้าเกษตรยิ่งแย่หนักครับ เกษตรกรตอนนี้หนี้ท่วมกระอักเลือดแล้ว สินค้าเกษตรหลายๆอย่างตกต่ำแบบไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้คนไทยเป็นหนี้ พอคนเป็นหนี้กันเยอะขึ้นเขาก็ต้องประหยัดรัดเข็มขัดเพราะต้องเอาเงินไปจ่ายเงินต้นดอกเบี้ย ของก็เลยขายไม่ดี นโยบายรถคันแรกนี่ล่ะตัวดี เพื่อนผมทำงานเงินดือน 14000 อยากมีรถถอยป้ายแดง ตอนนี้เครียดหนัก ไหนจะค่ากินตัวเอง ค่าผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายให้ลูกเมีย ชักหน้าไม่ถึงหลัง หมุนเงินพันละวันในแต่ละเดือน  รัฐบาลนี่แหละตัวดี นายกปูกับสส. ส่วนใหญ่ไม่ใช่นักบริหารประเทศอยู่แล้ว การบริหารประเทศไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ต้องมีความรู้ ประสบการณ์ วิสัยทัศน์ เอาคนทำงานไม่เป็นมาบริหารประเทศก็เป็นอย่างที่เราๆเห็นนี่แหละ
ประชาชนต้องผ่อนรถ4-5ปี/คัน  งั้นเมื่อไหร่เศรษฐกิจจะฟื้นละครับท่านนายกฯ และผู้มีส่วนร่วม นี้แหละประชานิยมของท่าน ส.โขกกำแพง

phanuwat

เรามาดูกันดีกว่านะครับว่า นโยบายรัฐเนี่ยมีผลกระทบอะไรบ้าง

นโยบายประชานิยม น้ำมันแพงทั้งแผ่นดิน !!!

นโยบายประชานิยม ของรัฐปู (ปัญญา) นิ่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดค่าครองชีพ ลดราคาน้ำมัน ขึ้นค่าแรง 300 บาท ปรับเงินเดือน 15,000 บาท จำนำข้าว 15,000 บาทต่อตัน รถคันแรก บ้านหลังแรก พักการชำระหนี้ กู้เงินแก้ปัญหาน้ำท่วม ฯลฯ

นโยบายดังกล่าวข้างต้น ล้วนแล้วแต่ล้มเหลว และสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ กระทบกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่สิ่งที่ได้คือ พ่อค้า นักการเมือง คอร์รัปชั่น กอบโกง โกงกิน กันอย่างหน้าด้าน ๆ ดังเช่นที่เป็นข่าวในยุครัฐปู'นิ่ม มีการเรียกเงินใต้โต๊ะกันตั้งแต่ 35% ขึ้นไป

สำหรับราคาน้ำมัน และแก๊ส เช่นเดียวกัน เป็นนโยบายที่มีวาระซ่อนเร้นเพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงาน (น้ำมัน แก๊ส) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า รัฐวิสาหกิจประกอบธุรกิจน้ำมัน ได้ถูกแปรรูปเป็นบริษัทมหาชน โดยให้เอกชนถือหุ้น มีส่วนเป็นเจ้าของกิจการได้สูงถึง 49%

และเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้นอยู่ในเงื่อมมือของนักการเมือง ตลอดจนบริวารเครือญาติ โดยเฉพาะนายทุนสามานย์ ผู้มีแต่ความโลภ และโลภ ในกมลสันดาน

จากการหาเสียงหลอกลวงคนไทยทั้งประเทศของนายกปู'นิ่ม เรื่องยกเลิกกองทุนน้ำมัน และลดราคาน้ำมัน โดยอ้างว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ "น้ำมัน แก๊ส แพงทั้งแผ่นดิน" และ "สินค้าและบริการแพงทั้งแผ่นดิน" ในทุกวันนี้ !!!

สาเหตุที่กล่าวดังนั้น มีเหตุและผล เชื่อมโยงกันดังนี้

1. ก่อนที่รัฐปู'นิ่มจะเป็นรัฐบาล กองทุนน้ำมันติดลบอยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เพราะน้ำมันดีเซลเป็นพลังงานสำหรับใช้ขนส่งสินค้าทั่วประเทศ จึงจำเป็นต้องให้การสนับสนุน เพื่อมิให้สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคาทั้งระบบ

2. หลังจากนายกปู'นิ่ม เป็นรัฐบาล ราคาน้ำมันตลาดโลกมากกว่า 100 เหรียญต่อบาเรล ซึ่งราคาน้ำมันในประเทศควรจะเพิ่มสูงขึ้นตามราคาตลาดโลกในขณะนั้น แต่รัฐปู'นิ่ม ใช้นโยบายประชานิยมสวนทางกับความเป็นจริง ด้วยการประกาศลดราคาน้ำมันเบนซินแบบฮวบฮาบลิตรละ 6 – 7 บาทต่อลิตร จึงมีผลทำให้กองทุนน้ำมันขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งเคยติดลบจาก 1,800 ล้านบาท เป็นติดลบไม่น้อยกว่า 25,000 – 30,000 ล้านบาท

3. นี้คือสาเหตุที่รัฐปู'นิ่ม ยกเลิก "กองทุนน้ำมัน" ตามที่หาเสียงไว้ไม่ได้ !!!

4. การปรับลดราคาน้ำมันเพื่อสนองนโยบายหาเสียงของรัฐปู'นิ่ม เป็นไปได้เพียงรายะสั้น ๆ ประชาชนดีใจได้ไม่นาน ผลสุดท้าย ต้องยอมรับความจริงเพราะทนรับสภาพกองทุนน้ำมันมีแต่จะติดลบเพิ่มมากขึ้นไม่ไหว จึงต้องปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล แก๊ส อย่างต่อเนื่อง (บางสัปดาห์ปรับขึ้นราคาถึงสองครั้ง) โดยราคาน้ำมันของรัฐปู'นิ่ม เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น จนกระทั้งราคาน้ำมันสูงกว่าราคาก่อนรัฐปู'นิ่ม ประกาศลดราคาน้ำมัน 6 - 7 บาทต่อลิตร ตามที่นายกปู'นิ่ม ตะเบ็งหาเสียงท่ามกลางคนเสื้อแดง ณ สนามกีฬาฯ ในคืนวันนั้น

5. ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลมากกว่า 30 บาทต่อลิตร (31 – 32 บาทต่อลิตร) ทำให้ภาคการขนส่งมีต้นทุนเพิ่มขึ้น จึงทำให้ราคาสินค้า และบริการ เกือบทุกประเภทปรับราคาขึ้นกันอย่างพรวดพลาด อันเป็นที่มาของเรื่อง "แพงทั้งแผ่นดิน" โดยเฉพาะราคาสินค้า "ขึ้นแล้วขึ้นเลย" ไม่มีวันหวนกลับไปเหมือนเดิม เพราะความไร้ประสิทธิภาพของรัฐปู'นิ่มโดยสิ้นเชิง

6. ปัจจุบันราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงประมาณ 80 – 90 เหรียญต่อบาเรล ดังนั้น ราคาน้ำมันในประเทศควรจะลดลงตามราคาตลาดโลก ซึ่งน่าจะลดราคาได้ถึงราคาที่เคยประกาศลดในตอนหาเสียงระยะแรก 6 – 7 บาทต่อลิตร แต่รัฐปู'นิ่มลดราคาไม่ได้ถึงขนาดนั้น เพราะกองทุนน้ำมันติดลบจำนวนมากมายมหาศาล จึงทำได้เพียงลดราคาครั้งละ 30 – 50 สตางต่อลิตร เป็นการสร้างภาพเพื่อมิให้รัฐปู'นิ่มถูกโจมตีและถูกประชาชนออกมาขับไล่

7. แต่ที่เล่นกลซ้อนเงื่อนกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศคือ เมื่อราคาตลาดโลกปรับราคาน้ำมันขึ้น ประมาณ 1 – 5 เหรียญต่อบาเรล คือราคายังอยู่ในระดับ 80 – 90 เหรียญต่อบาเรล ราคาน้ำมันในประเทศก็ประกาศปรับขึ้นราคา 30 – 50 สตางค์ทุกครั้ง ซึ่งความจริงไม่ควรขึ้นราคาและควรลดราคาได้อีกหลายบาทต่อลิตรด้วยซ้ำไป

8. ดังนั้น การที่ประชาชนคนไทยยังต้องใช้น้ำมัน แก๊ส ในราคาแพงกว่าราคาตลาดโลก เพราะรัฐปู'นิ่ม ต้องทำกำไรให้มาก ๆ เพื่อไปลดการขาดทุนติดลบ "กองทุนน้ำมัน" ซึ่งปัจจุบันติดลบประมาณ 15,000 ล้านบาท สาเหตุที่กองทุนน้ำมันติดลบลดลง จึงมาจากการขูดรีดประชาชนด้วยการขายน้ำมันในราคาที่สูงกว่าความจริง ไม่สอดคล้องกับราคาตลาดโลก นั้นเอง

9. แต่ข้อสังเกตที่ประชาชนคนไทยต้องสงสัยคือ พฤติกรรมการขูดเลือดขูดเนื้อประชาชนดังกล่าวข้างต้น นายทุนเจ้าของบริษัทน้ำมัน ผู้ค้าน้ำมัน ตลอดจนผู้ถือหุ้นบริษัทน้ำมัน ไม่ได้เสียผลประโยชน์แต่อย่างใด มีแต่ผลกำไรเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น จำนวนนับเป็นแสน ๆ ล้านบาท ดังที่ได้เห็นและรับทราบผลกำไรของบริษัทน้ำมันที่แปรรูปจากรัฐวิสาหกิจ โดยมีนักการเมือง และนายทุนสามานย์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อยู่ในขณะนี้ ได้ส่วนแบ่งเงินปันผลกันจำนวนมากมายมหาศาล

ประชานิยมจอมปลอม อันมีวาระซ่อนเร้นของบรรดานายทุนสามานย์และนักการเมือง แสวงหาอำนาจ เพื่อกอบโกย โกงกิน ทุกรูปแบบ ดังนั้น ประชาชนคนไทยทั้งประเทศมีแต่ตายกับตายเท่านั้น !!!
บินเท่าที่บินไหว

phanuwat

สรุปแล้วเมื่อราคาของพลังงานไม่ลด ค่าสินค้าก็จะสูงตามเนื่องจากค่าขนส่งไม่ลด สุดท้ายประชาชนรากหญ้า หาเช้ากินค่ำ มนุษย์เงินเดือน เกษตรกร ทั้งหลายก็เดือดร้อนกันถ้วนหน้า ข้าแกงพุ่งจานละ 35-40 บาท มันกระทบทั้งหมด นโยบายฉาฐฉวยไม่ได้ช่วยให้เรายั่งยืนเลย ดังคำพ่อสอน ให้สอนลูกตกปลา ดีกว่าไปตกปลามาให้ลูกกิน นี่แหละปรัชญาที่ล้ำค่า ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยเหลือตัวเองให้ผ่านพ้นไปได้เดือนชนเดือน.....
บินเท่าที่บินไหว

ผู้เฒ่าเต่า

พอดีว่าช่วงกลางเดือนที่แล้วไป นครปฐม - กทม มาทางนั้นยังหาซื้อข้าวมันไก่ในราคาห่อละ 25-30 บาทได้

ราคานี้ใส่เครื่องในด้วยเพียบเหมือนประชดเลย (ตกใจ)  ราคาของกินโดยทั่วไปยังเริ่มที่ 25 บาทครับอร่อยสุด

ปริมาณไม่น้อยด้วย คิดทีไรอยากไปกินอีก

อ้างจาก: ธรรมในใจ เมื่อ 10:43 น.  01 ส.ค 55
แสดงว่าท่านเริ่มตาสว่างแล้วละครับ

ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้   โดนเลย
อย่าใช้ภาษาผิด ๆ สะกดผิด ๆ เดี๋ยวภาษาที่ ปู่ ย่า ตา ยาย ใช้กันมานมนานจะวิบัติไปกันหมด   
              พลังคลื่นเต่า..........ปู๊ด !!!!!!



คนเลี้ยงครอบครัว

หาดใหญ่เดี๋ยวนี้กินข้าวมันไก่ห่อ 40
ถ้าไม่อยากกินจนน้ำลายหก ไม่กล้ากินแล้วเนี้ย ซื้อแกงถุงกลับบ้านหุงข้าวกินได้สามสี่คนค่ะ
เข้าใจรึยังทำไมถึงเงียบ

GreFrez

อ้างจาก: คนเลี้ยงครอบครัว เมื่อ 07:51 น.  03 ส.ค 55
หาดใหญ่เดี๋ยวนี้กินข้าวมันไก่ห่อ 40
ถ้าไม่อยากกินจนน้ำลายหก ไม่กล้ากินแล้วเนี้ย ซื้อแกงถุงกลับบ้านหุงข้าวกินได้สามสี่คนค่ะ
เข้าใจรึยังทำไมถึงเงียบ

ร้านข้าวมันไก้ เส้น ศุภสารรังสรรค์ที่ติดกับข้าวขาหมู เดี๋ยวนี้พิเศษห่อ 60 เมื่อวานสั่งกลับบ้านห่อนึง  ส.โอ้โห ส.โขกกำแพง ส.โขกกำแพง
=====  When you go in search of honey you must expect to be stung by bees.  =====

โอวตี๋

คนหาดใหญ่กินง่ายอยู่แล้ว แพงแค่ไหนก็กิน กินไปบ่นไป เห็นเลิกกินได้ไม่กี่วันกลับไปกินอีกแล้ว ฉะนั้นเปิดร้านในหาดใหญไม่ต้องกลัว ขนาดแต่เตี้ยมคำละ8บาท10บาท คนก็ยังแน่นร้าน อ้างว่าต้นทุนสูง มันสูงตรงไหนหว่า?แค่เอาหมูสับผสมกุ้งใส่ชูรสเยอะๆเอาไปยัดในมะระ ยัดในเต้าหู้หรือผักอื่นๆ นึ่ง5นาทีสุก น้ำจิ้มขวด15บาทใ่ส่ได้ตั้ง10จาน ขายคำละ8บาท10บาท รับเละ