วันนี้ผมจะมาชวนคุยเรื่องที่ว่า ทำไมจึงไม่ควรบวช !
หลายคนที่สนใจใฝ่ธรรม แต่ไม่บวชนั้นมีมากมายเป็นส่วนใหญ่
โดยทั่วๆไปนั้นที่ไม่บวชนั้นมักจะเกิดจาก
ไม่สามารถทำตามกฏกติกาตามพระวินัยพุทธบัญญัติได้
ส่วนเรื่องต้องดูแลรับผิดชอบทางโลกนั้น
ล้วนมักเป็นข้ออ้างมากกว่าเหตุผลจริงๆ ทั้งๆที่ก็ทราบว่า
ชีวิตความเป็นพระนั้นตัดปริโพช เรื่องการดิ้นรนทำมาหากิน
คนที่ไม่บวชนั้น โดยมากก็ตระหนักในใจตัวเองอยู่ว่า
ตนไม่สามารถประพฤติตามกฏกติกาเหล่านั้นได้บริบูรณ์
จึงอาศัยการครองเพศฆราวาส..
ครองเรือนไปด้วยประพฤติธรรมไปด้วย
เพราะมีความละอายใจ ในอันที่จะประพฤติไม่ดีไม่สมบูรณ์
อันเป็นเหตุให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสียหาย
และเป็นเหตุแห่งการอันตรธานไปในที่สุด
จัดว่าเป็นกรรมหนัก กรรมขนาดใหญ่
หากเป็นภิกษุที่ไม่ละอาย(อลัชชี) เพราะ การเกิดขึ้นยากมาก
นั่นคือการเกิดอุบัติขึ้นของพระพุทธศาสนา
เนื่องจากการบวชนั้น
เป็นสิ่งสมควรเฉพาะแก่ผู้ที่เห็นภัยทางโลก
และมีความพร้อมที่จะประพฤติตามกรอบของธรรมวินัย
ซึ่งจะต้องละทิ้งอาการชาวบ้านเป็นให้หมดสิ้น
เช่นว่า เคยท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆตามใจก็ต้องอยู่กับที่
เคยทำอย่างนั้นอย่างนี้ตามใจ ก็ต้องมาประพฤติวัตรปฏิบัตร
ให้เป็นเวลา สม่ำเสมอ ซึ่งอาการที่เหมือนชาวบ้านนั้น
พระพุทธองค์จึงทรงบัญญัติให้งด เพื่อให้ภิกษุ
มีความงดงามในธรรมวินัย เป็นบ่อเกิดศรัทธาในเบื้องต้น
ที่จะเป็นที่มาของปัจจัย๔ อันชอบธรรม เนื่องจาก
การเป็นสมณนั้นตัดปริโพชเรื่องทำมาหากิน
ความละอายหิริ โอตัปปะ นั่นเองทำให้ ฆราวาส
ยังเป็นผู้ครองเรือน เป็นผู้ประพฤติธรรม
เป็นผู้ค้ำชูพระศาสนาอันเป็นกำลังสำคัญ
ในการบวชนั้นพระจะมีกิจธุระหลักๆ 2 ประการคือ
คันถธุระ( ศึกษาเรียนพระวินัย พระธรรมคำสอน)
และวิปัสนาธุระ(บำเพ็ญเพียรฝึกฝนลดละกิเลส)
ซึ่งนั้นคือ หน้าที่ของความเป็นภิกษุ
ถ้าไม่เข้าข่ายสองข้อนี้ ก็เป็นอันผิดปกติวิสัย
ซึ่งจะแสดงอาการออกมาทางอาการของชาวบ้าน
เช่น ไปตั้งตนเป็นอาจารย์เทศน์สอนผู้อื่นผิดๆถูกๆ
ไม่ใช่หน้าที่ไม่ใช่สิ่งสมควร
หรือจะไปทำกิจกรรมช่วยชาวบ้าน เป็นผู้มักก่อสร้างอะไร
ก็ตามล้วนผิดประเพณีความเป็นภิกษุ
และเป็นบ่อนทำลายพระศาสนาไปพร้อมกัน
เป็นบาปมากกว่าบุญหลายเท่าตัว เป็นต้น
เนื่องด้วย ความเป็นผู้ครองเรือนเป็นทางแคบ
แต่ถ้าฆราวาสใดที่ตัดปริโพชต่างๆได้
ความเป็นฆราวาสผู้หวังในธรรมย่อมเป็นโอกาสที่ดีงาม
กว่าความเป็นภิกษุที่ยังมีอาการชาวบ้านมาก
การจะเป็นผู้บวชสู่ความเป็นภิกษุนั้น
ถ้าหากไม่พร้อมก็อย่าได้บวชให้เกิดเป็นบาปหนัก
ร่วมกันทำลายศาสนาเหมือนพระส่วนใหญ่ที่เป็นกันในปัจจุบัน
ในเพศภิกษุไม่ใช่ที่ฝึกให้ท่านอยู่ในพระวินัย
แต่เป็นที่ฝึกบำเพ็ญสองธุระข้างต้น ก็เหมือนเด็กนักเรียน
ที่มุ่งหวังไปโรงเรียน เพื่อความรู้ ก็ต้องมีการแต่งกาย
ทำตามกฏระเบียบของโรงเรียน ไม่ใช่ไปฝึกหัดแต่งกาย
ฝึกหัดเรื่องอื่น ควรข้ามขั้นตอนนี้ไปตั้งใจเรียน ลับสมองสติปัญญา
มิฉะนั้นก็เป็นได้แค่เด็กเกเร ภิกษุก็เช่นกัน
ที่กล่าวเช่นนั้น เพราะ
หากท่านมีความรู้ดีในเรื่องธรรมวินัยแล้ว
ท่านจะหาพระกราบสนิทใจไม่ได้เลย
กราบได้แค่ทำตามมารยาททางประเพณีเท่านั้นเอง
ดังนั้นหากท่านมีความละอาย มีหิริโอตัปปะ
ไม่พร้อมก็อย่าได้บวชให้ลงนรกเลย ไม่คุ้มมกับความสุขสบาย
บนศรัทธาชาวบ้าน เป็นผู้ลวงโลก...มั่วสุมอยายมุข...
