ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

นักการเมืองต้องไม่หน้าด้าน-มีมาตรฐานจริยธรรมสูง !!

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 13:39 น. 10 พ.ย 53

ทีมงานบ้านเรา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   10 พฤศจิกายน 2553 01:07 น.

ผ่าประเด็นร้อน
       
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย 6 ส.ส.พ้นสมาชิกภาพทันทีจากกรณีถือหุ้นในบริษัทที่เป็นคู่สัมปทานกับรัฐ ถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน คือฉบับปี 2550 ส่งผลให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ใน 5 เขตเลือกตั้ง( 1 คนเป็น ส.ส.สัดส่วน) ใช้งบประมาณเลือกตั้งรวมแล้ว 60 ล้านบาท
       
       สิ่งที่ต้องมาพิจารณากันก็คือจริยธรรมของนักการเมือง ซึ่งตามหลักการต้องมีมาตรฐานสูงและต้องเป็นตัวอย่างให้กับคนทั่วไป อย่างไรก็ดีกลายเป็นว่าทำท่าจะกลายเป็นสิ่งตรงกันข้าม มีแต่เรื่องที่เห็นแก่ตัว พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบให้มากที่สุด
       
       กรณีที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์พูดถึงกันอย่างกว้างขวางอยู่ในเวลานี้ก็คือ กรณีของ อดีต ส.ส.ที่เป็นรัฐมนตรีจำนวน 2 รายที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินจากกรณีถือหุ้นโดยมิชอบดังกล่าว คือ บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทย และ เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เวลานี้ยังไม่มีท่าทีออกมาให้เห็นว่าจะลงเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ หรือว่าหากลงเลือกตั้งแล้วจะต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีก่อนหรือไม่ ซึ่งในทางกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ ยกเว้นใช้ตำแหน่งหน้าที่หรือเวลาราชการไปหาเสียง
       
       อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องพิจารณาตามมาก็คือ มาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมืองดังกล่าวว่าแต่คนควรมีความสำนึกกันมากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญการเลือกตั้งซ่อมที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีสาเหตุมาจากพวกเขาที่จงใจกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ แม้ว่าบางคนบอกว่าไม่ตั้งใจ หรือถือหุ้นเพียง "เล็กน้อย" ไม่มีผลต่อการครอบงำหรือการดำเนินการของบริษัทนั้นๆก็ตาม แต่เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการป้องกันไม่ให้นักการเมืองเข้าไปหาผลประโยชน์ ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลก็ออกมาในลักษณะสนับสนุนที่ว่า "แม้ถือหุ้นเดียวก็ผิด" อะไรประมาณนั้น
       
       เจตนารมณ์ของกฎหมายได้ถูกถ่ายทอดออกมาตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีดังกล่าว แต่กลายเป็นว่าบรรดานักการเมืองบางกลุ่มที่กำลังหาช่องทางทุกอย่าง เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยอ้างเพียงแค่กฎหมายในบางมุมเท่านั้น
       
       ชาวบ้านทั่วไปเมื่อได้ยินคำพูดของบรรดาผู้บริหารพรรค และเจ้าของพรรคหลายคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในทำนองว่าอดีต ส.ส.ที่เป็นรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องลาออกสามารถลงสมัครรับสมัครเลือกตั้งซ่อมควบคู่กันไปได้ โดยอ้างกฎหมายไม่ได้ห้ามเอาไว้
       
       คำพูดและท่าทีที่เกิดขึ้นออกมาจากปากของ บรรหาร ศิลปอาชา ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคชาติไทยพัฒนา และ ชุมพล ศิลปอาชา น้องชาย ที่ปัจจุบันได้รับมอบอำนาจให้มาดูแลกิจการภายในพรรคเป็นการชั่วคราวก็ออกมาในทำนองเดียวกัน นั่นคือ ไม่จำเป็นต้องลาออกจากรัฐมนตรี ในกรณีของ เกื้อกูล พร้อมทั้งไม่สนใจกรณีตัวอย่างที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคกำหนดให้ต้องลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงหากจะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1
       
       แม้ว่าในกรณีของ สุเทพ เทือกสุบรรณ จะมีความหมายซับซ้อนและดูซ่อนนัยบางอย่างเอาไว้ก็ตาม แต่อย่างน้อยในภาพที่เห็นก็ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีได้ไม่น้อยเหมือนกัน ไม่อาจมีข้อครหาในเรื่องเอาเปรียบฝ่ายตรงข้าม หรืออาจพูดได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานทางการเมืองในยุคใหม่
       
       แต่เมื่อวกกลับมาดูท่าทีและเจตนาของผู้บริหารพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น บรรหาร ศิลปอาชา ไล่เรียงมาถึง ชุมพล ศิลปอาชา ในครั้งนี้ถือว่าน่าผิดหวัง เพราะนอกจากไม่อาจสร้างความหวังให้กับสังคมได้แล้ว อีกด้านหนึ่งยังส่อไปในทาง "เห็นแก่ตัว" และเอาแต่ได้เท่านั้น ทั้งที่อยู่ในวงการเมืองมายาวนาน ผ่านมาในทุกสถานการณ์ น่าจะรับรู้ว่าสาเหตุที่บ้านเมืองไม่พัฒนาไปไกลและเกิดปัญหามากมายในขณะนี้ส่วนสำคัญมาจากสาเหตุทางด้านเมืองที่ไม่พัฒนานั่นแหละ
       
       ยิ่งถ้าแยกโฟกัสเฉพาะกรณีที่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ ต้องเสียเงินงบประมาณเป็นจำนวนถึง 60 ล้านบาทจากการทำผิดกฎหมายของนักการเมือง ทั้งที่มีข้อห้ามกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าไว้ชัดเจนอยู่แล้ว หากเป็นชาวบ้านทั่วไปอาจจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย แต่สำหรับนักการเมืองนอกจากไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว ยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดให้เหนือกว่าคนทั่วไป
       
       ขณะเดียวกันการเสียงบประมาณเลือกตั้งซ่อมโดยไม่จำเป็นดังกล่าว นักการเมืองที่เป็นต้นเหตุจะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่แสดงท่าทีอย่างไร้สำนึกแบบนี้
       
       ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่จะเห็นมาตรฐานของคนพวกนี้ในสายตาชาวบ้านตกต่ำลงทุกวัน และนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องมีกฎข้อบังคับเข้มงวดมากขึ้นไปอีก จนทำให้ขยับตัวลำบาก และที่ผ่านมาทั้งพฤติกรรมและคำพูดล้วนแต่ทำให้เสื่อมศรัทธาลงได้ทุกวัน และคำว่ามาตรฐานทางจริยธรรมที่สูงกว่าคนทั่วไปคงไม่อาจไม่อาจนำมาใช้ได้อีกแล้ว และยิ่งบางคนที่ใช้การเมืองทำธุรกิจจนร่ำรวย มันก็ยิ่งสมควรถูกเหยียดหยาม !!
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

ทะแนะ

จะให้การเมืองไทยสะอาดระดับไว้ใจได้ ต้องรอให้บอลไทยไปเวิลด์คัพก่อนครับ