- ยินดีต้อนรับสู่ กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด.
กระทู้โดย แอบรักคนรถไฟ
- 19:10 น. 19 ธ.ค 53เปงกำลังใจให้คนงานทุกหน่วยโดยเฉพาะหน่วย2
คงจะเหนื่อยกันมากละครับ
ต่อไปก็คงไม่มีแล้วนะ
ผมรักคนงานหน่วย2และนายตรวจ
และชและส.ด้วยครับ
ผมจะต้องทำงานรถไฟให้ได้ครับ
คงจะเหนื่อยกันมากละครับ
ต่อไปก็คงไม่มีแล้วนะ
ผมรักคนงานหน่วย2และนายตรวจ
และชและส.ด้วยครับ
ผมจะต้องทำงานรถไฟให้ได้ครับ
กระทู้โดย คนชอบเที่ยว
- 16:04 น. 15 ธ.ค 53หลังเกิดเหตุใหม่ๆไม่น่ากลัว เพราะเขาคงระดมคนมาจัดการจนเรียบร้อย แต่พอนานๆไปเขาไปทำอย่างอื่นจนลืมดูแล ตอนนั้นก็ตัวใครตัวมัน นี่คือระบบการทำงานของ"รัฐวิสาหกิจไทย"
กระทู้โดย แฟนเก่าชื่อส้ม
- 13:36 น. 15 ธ.ค 53อ้างจาก: Thanakorn P. เมื่อ 13:22 น. 15 ธ.ค 53จะรอชมภาพสวยๆจากคุณธนากร ออกทริปปีใหม่นะครับ
เดี๋ยววันที่ 28 ธ.ค. 53
ก็จะขึ้นไปเที่ยวกรุงเทพฯ
ไปกับรถไฟด้วย รู้สึกเสียวสันหลังจัง
หวังว่าคงปลอดภัยนะวันนั้น
กระทู้โดย Thanakorn P.
- 13:22 น. 15 ธ.ค 53เดี๋ยววันที่ 28 ธ.ค. 53
ก็จะขึ้นไปเที่ยวกรุงเทพฯ
ไปกับรถไฟด้วย รู้สึกเสียวสันหลังจัง
หวังว่าคงปลอดภัยนะวันนั้น
ก็จะขึ้นไปเที่ยวกรุงเทพฯ
ไปกับรถไฟด้วย รู้สึกเสียวสันหลังจัง
หวังว่าคงปลอดภัยนะวันนั้น
กระทู้โดย รถไฟเท่ง
- 12:34 น. 15 ธ.ค 53ร.ฟ.ท.รถไฟเท่ง เวียนว่ายตายเกิดอยู่กับสิ่งเหล่านี้ชั่วนิรันดร
1.ไม่ตรงเวลาช้าเป็นปรกติ
2.ส้วมเหม็น
3.อาหารบูด
4.กินเหล้าบนรถไฟ
5.เจ้าหน้าที่ไม่สุภาพ
6.มีตัวริ้นตัวเรือดหนูและแมลงสาบ
7.จอดนาน(โดยไม่มีเหตุผล)
8.บรรทุกของเถื่อน
9.สภาพรถสกปรก
10.รางหมดสภาพ
ชาตินี้จะแก้ได้รึป่าวหว่า?
1.ไม่ตรงเวลาช้าเป็นปรกติ
2.ส้วมเหม็น
3.อาหารบูด
4.กินเหล้าบนรถไฟ
5.เจ้าหน้าที่ไม่สุภาพ
6.มีตัวริ้นตัวเรือดหนูและแมลงสาบ
7.จอดนาน(โดยไม่มีเหตุผล)
8.บรรทุกของเถื่อน
9.สภาพรถสกปรก
10.รางหมดสภาพ
ชาตินี้จะแก้ได้รึป่าวหว่า?
กระทู้โดย ทีมงานบ้านเรา
- 09:22 น. 15 ธ.ค 53ม้าเหล็ก "สปรินเตอร์กรุงเทพฯ-ยะลา" ตกรางนครศรีฯ หวิดโศกนาฏกรรม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2553 16:59 น.
นครศรีธรรมราช - รถไฟ "สปรินเตอร์กรุงเทพฯ-ยะลา" ตกรางที่นครศรีธรรมราชอีก หวิดโศกนาฏกรรมห่างเหวแค่ 5 เมตร ซ้ำรอยเป็นขบวนที่ 3 ในรอบไม่ถึงเดือน ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามาจากสาเหตุใด อีกทั้งนักธุรกิจวอนตรวจสภาพทั้งระบบเหตุตกซ้ำซาก
วันนี้ (14 ธ.ค.) นายบุญยวง กลีบโชค นายสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถดีเซลราง หรือที่เรียกว่า สปรินเตอร์ที่ 41 ต้นทาง กทม.ปลายทางยะลา ได้ประสบอุบัติเหตุตกรางที่บริเวณบ้านช่องเขา ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ รอยต่อ ม.9 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง ห่างจากสถานีบ้านช่องเขาไม่กี่ร้อยเมตร มีผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้น จึงประสานกับ พ.ต.ท.วีระชาญ ขุนไชยแก้ว พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งสง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงทางที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบว่า เป็นซอกเขาพบขบวนรถดังกล่าวซึ่งเป็นรถดีเซลรางโบกี้ตอนหน้าสุดตกจากรางตะแคง พิงกับภูเขา โดยห่างจากหัวขบวนที่ตกรางไป 5 เมตรเป็นเหวลึกประมาณ 20-30 เมตร ส่วนโบกี้ตอนท้ายอีก 2 โบกี้ยังอยู่บนราง หมอนรางรถไฟคอนกรีตได้รับความเสียหายรางโค้งบิดงอบางส่วน ขณะที่ผู้โดยสารจำนวนมากอยู่ในอาการตกใจ
เจ้าหน้าที่การรถไฟจึงทำการจัดระเบียบเพื่อที่จะขนย้ายออกจากที่เกิด เหตุไปกับโบกี้ที่เหลือซึ่งสามารถขับเคลื่อนกลับไปทางสถานีทุ่งสงได้อีก 2 โบกี้ ออกจากตัวโบกี้ที่ประสบอุบัติเหตุไปได้โดยมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน เจ้าหน้าที่ประจำรถอีก 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดรถบัสมารับตอนผู้โดยสารที่มีประมาณ 200 คนเศษ บริเวณจุดตัดถนนบ้านจำปา ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง ห่างจากจุดเกิดเหตุไปราว 1 กม.เพื่อไปส่งยังสถานีปลายทาง ส่วนการเดินรถขึ้นล่องภาคใต้ทุกขบวนสามารถจอดรับส่งผู้โดยสารได้เพียงสถานี ชุมทางทุ่งสงเท่านั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับหัวรถจักรเครื่องกลหนักติดเครน จากฝ่ายซ่อมบำรุงทางหาดใหญ่ และจาก จ.ตรัง เดินทางมายังที่เกิดเหตุเพื่อทำการเก็บกู้ขบวนรถ ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลาทั้งคืน เนื่องจากเมื่อมีการเก็บกู้แล้วต้องซ่อมบำรุงทางที่ได้รับความเสียหายด้วย พนักงานประจำขบวนรายหนึ่ง เปิดเผยว่า รถได้วิ่งมาถึงจุดดังกล่าวได้ยินเสียงคล้ายโลหะหักเสียงดังสนั่น
จากนั้นโบกี้แรกซึ่งเป็นหัวจักรขับเคลื่อนได้ตะแคงตกจากรางไปพิงกับ ภูเขา ท่ามกลางความตกใจของผู้โดยที่ได้รับแรงกระแทก ซึ่งสาเหตุนั้นไม่รู้จริงๆ ว่า เกิดจากรางหรือตัวรถ และเป็นความโชคดีของผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ขบวนรถที่ทุกคน เมื่อลงมาจากขบวนรถ พบว่า จุดที่ตกรางนั้นพิงกับภูเขาพอดี ห่างจากนั้นมาแค่ 5 เมตร จะเป็นเหวที่มีความลึกมาก ซึ่งถ้าโบกี้คันแรกตกลงไปจะฉุดอีก 2 โบกี้ไปด้วย ซึ่งด้วยความลึกของเหวอาจทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากอย่างแน่นอน
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งต่อเนื่องรายหนึ่ง เปิดเผยว่า อยากให้การรถไฟตรวจสอบระบบรางการเดินรถทุกขั้นตอนในพื้นที่นครศรีธรรมราช ซึ่งจะพบว่ามีการตกรางบ่อยมากในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ทุ่งสง อ.ชะอวด รถไฟตกรางชนิดเรียกได้ว่า ซ้ำซากอาจจะต้องรื้อกันทั้งระบบแล้ววางระบบความปลอดภัยกันใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับขบวนรถที่ตกรางในรอบ 20 วันที่ผ่านมาประกอบด้วย เมื่อ 25 พฤศจิกายน ขบวนรถด่วนพิเศษ บัตเตอร์เวิร์ต (มาเลเซีย)-กรุงเทพฯ ตกรางที่ระหว่างสถานีช่องเขา-ร่อนพิบูลย์ วันที่ 26 พฤศจิกายน ขบวนรถเร็ว กรุงเทพฯ-กันตัง ตกรางระหว่างสถานีทุ่งสง-สถานีที่วัง อ.ทุ่งสง และในวันนี้เป็นขบวนสปรินเตอร์กรุงเทพ-ยะลา.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2553 16:59 น.
นครศรีธรรมราช - รถไฟ "สปรินเตอร์กรุงเทพฯ-ยะลา" ตกรางที่นครศรีธรรมราชอีก หวิดโศกนาฏกรรมห่างเหวแค่ 5 เมตร ซ้ำรอยเป็นขบวนที่ 3 ในรอบไม่ถึงเดือน ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามาจากสาเหตุใด อีกทั้งนักธุรกิจวอนตรวจสภาพทั้งระบบเหตุตกซ้ำซาก
วันนี้ (14 ธ.ค.) นายบุญยวง กลีบโชค นายสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถดีเซลราง หรือที่เรียกว่า สปรินเตอร์ที่ 41 ต้นทาง กทม.ปลายทางยะลา ได้ประสบอุบัติเหตุตกรางที่บริเวณบ้านช่องเขา ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ รอยต่อ ม.9 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง ห่างจากสถานีบ้านช่องเขาไม่กี่ร้อยเมตร มีผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้น จึงประสานกับ พ.ต.ท.วีระชาญ ขุนไชยแก้ว พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งสง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงทางที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบว่า เป็นซอกเขาพบขบวนรถดังกล่าวซึ่งเป็นรถดีเซลรางโบกี้ตอนหน้าสุดตกจากรางตะแคง พิงกับภูเขา โดยห่างจากหัวขบวนที่ตกรางไป 5 เมตรเป็นเหวลึกประมาณ 20-30 เมตร ส่วนโบกี้ตอนท้ายอีก 2 โบกี้ยังอยู่บนราง หมอนรางรถไฟคอนกรีตได้รับความเสียหายรางโค้งบิดงอบางส่วน ขณะที่ผู้โดยสารจำนวนมากอยู่ในอาการตกใจ
เจ้าหน้าที่การรถไฟจึงทำการจัดระเบียบเพื่อที่จะขนย้ายออกจากที่เกิด เหตุไปกับโบกี้ที่เหลือซึ่งสามารถขับเคลื่อนกลับไปทางสถานีทุ่งสงได้อีก 2 โบกี้ ออกจากตัวโบกี้ที่ประสบอุบัติเหตุไปได้โดยมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน เจ้าหน้าที่ประจำรถอีก 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดรถบัสมารับตอนผู้โดยสารที่มีประมาณ 200 คนเศษ บริเวณจุดตัดถนนบ้านจำปา ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง ห่างจากจุดเกิดเหตุไปราว 1 กม.เพื่อไปส่งยังสถานีปลายทาง ส่วนการเดินรถขึ้นล่องภาคใต้ทุกขบวนสามารถจอดรับส่งผู้โดยสารได้เพียงสถานี ชุมทางทุ่งสงเท่านั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับหัวรถจักรเครื่องกลหนักติดเครน จากฝ่ายซ่อมบำรุงทางหาดใหญ่ และจาก จ.ตรัง เดินทางมายังที่เกิดเหตุเพื่อทำการเก็บกู้ขบวนรถ ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลาทั้งคืน เนื่องจากเมื่อมีการเก็บกู้แล้วต้องซ่อมบำรุงทางที่ได้รับความเสียหายด้วย พนักงานประจำขบวนรายหนึ่ง เปิดเผยว่า รถได้วิ่งมาถึงจุดดังกล่าวได้ยินเสียงคล้ายโลหะหักเสียงดังสนั่น
จากนั้นโบกี้แรกซึ่งเป็นหัวจักรขับเคลื่อนได้ตะแคงตกจากรางไปพิงกับ ภูเขา ท่ามกลางความตกใจของผู้โดยที่ได้รับแรงกระแทก ซึ่งสาเหตุนั้นไม่รู้จริงๆ ว่า เกิดจากรางหรือตัวรถ และเป็นความโชคดีของผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ขบวนรถที่ทุกคน เมื่อลงมาจากขบวนรถ พบว่า จุดที่ตกรางนั้นพิงกับภูเขาพอดี ห่างจากนั้นมาแค่ 5 เมตร จะเป็นเหวที่มีความลึกมาก ซึ่งถ้าโบกี้คันแรกตกลงไปจะฉุดอีก 2 โบกี้ไปด้วย ซึ่งด้วยความลึกของเหวอาจทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากอย่างแน่นอน
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งต่อเนื่องรายหนึ่ง เปิดเผยว่า อยากให้การรถไฟตรวจสอบระบบรางการเดินรถทุกขั้นตอนในพื้นที่นครศรีธรรมราช ซึ่งจะพบว่ามีการตกรางบ่อยมากในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ทุ่งสง อ.ชะอวด รถไฟตกรางชนิดเรียกได้ว่า ซ้ำซากอาจจะต้องรื้อกันทั้งระบบแล้ววางระบบความปลอดภัยกันใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับขบวนรถที่ตกรางในรอบ 20 วันที่ผ่านมาประกอบด้วย เมื่อ 25 พฤศจิกายน ขบวนรถด่วนพิเศษ บัตเตอร์เวิร์ต (มาเลเซีย)-กรุงเทพฯ ตกรางที่ระหว่างสถานีช่องเขา-ร่อนพิบูลย์ วันที่ 26 พฤศจิกายน ขบวนรถเร็ว กรุงเทพฯ-กันตัง ตกรางระหว่างสถานีทุ่งสง-สถานีที่วัง อ.ทุ่งสง และในวันนี้เป็นขบวนสปรินเตอร์กรุงเทพ-ยะลา.