กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

จะไม่มีลงข่าวโลมาอิรวดีเิกิดลูกบ้างเลยรึ มีแต่ตายกับตาย เจ้าหน้าที่เอามาเพาะพันธุ์ไม่ได้เหรอครับ จะได้้ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ คิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ทุกฝ่ายควรเข้ามาจัดการก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ต่อไปโลมาอิรวดีคงจะเป็นเหมือนช้างแกลบที่เลือนหายไปตามกาลเวลา เกิดมาแล้วก็ตายไปโดยไม่มีใครสนใจศึกษาเรื่องราว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    16 ธันวาคม 2553 15:49 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สลดพบโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตายเพิ่มอีก 2 ตัว เป็นโลมาท้องแก่ติดอวนจนลูกทะลักออกมาเสียชีวิตทั้งคู่ เผยเป็นตัวที่ 13 ในรอบปีนี้
       
       วันนี้ (16 ธ.ค.) นายอุทัย ยอดจันทร์ ประธาน กลุ่มอนุรักษ์โลมาอิรวดีบ้านแหลมหาด หมู่ 6 ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา รับแจ้งจากชาวบ้านที่ออกหาปลาในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา ว่า พบซากโลมาอิรวดีสองแม่ลูกลอยตายอยู่ในทะเลสาบสงขลา พื้นที่บ้านมหาการ ต.ระโนด อ.ระโนด จ.สงขลา ห่างชายฝั่งประมาณ 3 กม. หลังจากที่นำเรือออกไปลากซากโลมาทั้งสองตัวกลับเข้าฝั่ง พร้อมกับประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างมาตรวจสอบ
       
       จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า สภาพโลมาทั้งสองแม่ลูกน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน โดยตัวแม่เป็นโลมาเต็มวัยความยาวประมาณ 205 ซม. ส่วนลูกโลมามีความยาวประมาณ 65 ซม. แต่ที่น่าสลดใจคือสภาพของลูกโลมายังมีสายรกติดอยู่กับท้องของแม่
       
       เจ้าหน้าที่ระบุว่าตัวแม่เป็นโลมาท้องแก่ใกล้คลอด แต่ขณะกำลังออกหากินในทะเลสาบสงขลาเกิดไปติดอวนของชาวประมง แม่โลมาจึงพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด เป็นเหตุให้ลูกทะลักออกมาและเสียชีวิตคาอวนพร้อมกันทั้งคู่
       
       ทั้งนี้ เนื่องจากตามผิวหนังของโลมาทั้งสองตัวมีร่องรอยของตาข่ายอวนติดอยู่หลายแห่ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะส่งไปพิสูจน์ ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างอย่างละเอียดอีกครั้ง หนึ่ง ซึ่งการตายของโลมาสองแม่ลูกคู่นี้สร้างความสลดใจให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็น อย่างมาก
       
       ด้าน นายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของโลมาสองแม่ลูกคู่นี้เป็นตัวที่ 12 และ 13 ในรอบปีนี้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้ปลาโลมาอิรวดีใน ทะเลสาบสงขลาตายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ฝนตก และน้ำหลาก มีการวางอวนดักปลาบึกและสวายในทะเลสาบสงขลามากขึ้น
       
       ประกอบกับอยู่ในช่วงที่ปลาโลมาตั้งท้องและมีลูกอ่อนทำให้ต้องหาร อาหารกินเพิ่มขึ้น จึงออกนอกเขตทุ่นพื้นที่ 100 ตารางกิโลเมตร ที่ได้มีการวางไว้บริเวณทะเลสาบสงขลาตอนบนเขต รอยต่อสงขลากับพัทลุง เพื่อกันเป็นเขตของปลาโลมาอิรวดี ทำให้เสี่ยงต่อการติดอวนของชาวประมง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ปลาโลมาตาย
       
       ทั้งนี้ สถานการณ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาขณะนี้อยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีโลมาเหลือประมาณ 40 ตัวเท่านั้น