กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

อย่าช่วยแต่เงิน พวกนี้ชอบ"ขอ" และอย่าลืมช่วยทำให้เด็กและผู้ดูแล"ฉลาด"ขึ้นด้วย ไม่ใช่ดักดานคอยแต่จะขอไม่คิดช่วยตัวเอง

สธ.สงขลาเตรียมเข้าช่วยเหลือ ด.ช.9 ขวบ กินบะหมี่แทนข้าว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    24 มกราคม 2554 20:49 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แพทย์เร่งหาทางเข้าช่วยเหลือเด็กชายวัย 9 ขวบ มีพฤติกรรมกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทนข้าว มาตั้งแต่เกิด
       
       จากกรณีที่ ด.ช.ธนพล หลีคง หรือ น้องบินลาเด็น อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านปากบาง ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา มีพฤติกรรมแปลกไม่ยอมกินข้าว แต่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารหลักแทนข้าว ซึ่งทางผู้ปกครอง ครู มีความเป็นห่วงถึงพฤติกรรมของเด็กดังกล่าว หวั่นว่า จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็กตามที่เป็นข่าวไปนั้น
       
       ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวเมื่อวันวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เพื่อสอบถามถึงแนวทางการช่วยเหลือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็ก นพ.สรรพงษ์ ฤทธิรักษา รองผู้อำนวยการสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ในเบื้องต้นคงต้องหาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กรวมถึงการ ประเมินภาพรวมเรื่องโภชนาการของตัวเด็ก เพื่อจะมาประมวลและวางแผนในการแก้ไขพฤติกรรมของเด็ก โดยหลังจากทราบเรื่องราวของเด็ก จะได้ประสานและมอบหมายให้ทางหน่วยงานของสาธารณสุขในระดับพื้นที่เข้าไปตรวจ สอบและช่วยเหลือ
       
       นายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ หน่วยงานของสาธารณสุขจังหวัดสงขลาในระดับพื้นที่ อ.จะนะ กล่าวว่า กรณีของเด็กก็เพิ่งจะทราบข่าว พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น คือไม่ยอมทานข้าว ทานแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารนั้น มีผลเสียต่อสุขภาพของเด็กอย่างแน่นอน
       
       แนวทางในการปรับเปลี่ยนแก้ไขพฤติกรรมของตัวเด็กจากประสบการณ์ที่ผ่าน มาในกรณีคล้ายๆ กันนี้ สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก แต่ต้องอาศัยเวลาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จะปรับเปลี่ยนทันทีหรือใช้วิธีบังคับไม่ได้ ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป และพบกันครึ่งทางกับเด็ก อาจจะใช้วิธีจูงใจด้วยการให้รางวัล หรือคำชมกับเด็ก จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้เร็วขึ้น ตรงนี้ต้องอาศัยความอดทนและคนที่อยู่แวดล้อมตัวเด็กในการช่วยเหลือปรับ
       
       อย่างไรก็ตาม ในกรณีของเด็กรายนี้คงต้องลงพื้นที่เข้าไปพบกับเด็กและครอบครัวอีกครั้งก่อนหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

 ...เคยมีรุ่นน้องสมัยเรียนประถมคนนึง เป็นแบบนี้เช่นกันกินแต่มาม่า[nb]เรียกตามสมัยนั้นคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป[/nb]แต่เธอก็เสียชีวิตเพราะขาดสารอาหาร เห็นว่านะ ตอนอยู่ ป.6 เอง

เคยเจอที่มาเลย์เป็นภารโรง กินข้าวแล้วอ๊วก วันๆจึงกินแต่ขนมปังแทนข้าว วันหนึ่งมันพาพวกเราไปนอนในแพเลี้ยงปลากลางทะเล ขนมปังของมันมีพอกินได้จนถึงเช้า แต่รุ่งขึ้นเรือเสียกลับไม่ได้ กว่าช่างจะมาซ่อมต้องข้ามไปอีกวัน ขนมปังหมดเกลี้ยงเห็นมันกินข้าวได้ดีเด่ แบบนี้เขาเรียกอุปาทานมากกว่า ถ้าผู้ปกครองซื่อบื้อด้วย เด็กก็จะถูกบังคับให้เป็นแบบนั้นไปเรื่อยๆ แล้วจะฝังใจไปจนตาย

ผมก็เคยเจอ เพื้อนผมเอง และก็เป็นอิสลามเหมือนกัน เมื่อ 17 ปีที่แล้วตอนผมอยู่ ป4 ที่โรงเรียน เทศบาล5วัดหาดใหญ่ใน เพื้อนผมแหละชื่อ สุรวิท ไม่กินข้าวสวยตั่งแต่เกิด กินแต่ก๋วยเตี๋ยว มาม่า ข้าวต้ม อะไรพวกนี้ ข้าวสวยไม่แตะเลย ร้องอย่างเดียว แต่มีครูที่ดีคนนึงชื่อ อ.สมเพียร สอน ส.ป.ช ง่ายๆครับ แกสอน และป้อนให้นักเรียนกินเลย หากไม่กินก็หิวตาย แกบังคับให้เคี้ยวครับ รู้สึกว่าเริ่มจากบริมานน้อยมากก่อนนะ 1 คำก่อนอ่ะแล้วค่อยพัฒนา แต่ที่สำคัญ ครูคนนี้ดีมาก และโหดมากเด็กกลัวครับ 55

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    23 มกราคม 2554 17:41 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบเด็กชายวัย 9 ขวบชีวิตประหลาดไม่เคยกินข้าวตั้งแต่เกิด กินแต่บะหมี่สำเร็จรูป และอาหารเหลว ชีวิตสุดน่าสงสารกำพร้าตั้งแต่เด็กอาศัยอยู่กับยาย ครูและชาวบ้านวอนหน่วยงานด้านสาธารณสุขเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูร่างกาย
       
       วันนี้ (23 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากครูโรงเรียนบ้านปากบาง ม.4 ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ว่ามีเด็กชายวัย 9 ปี มีพฤติกรรมแปลกตั้งแต่เกิดไม่ยอมรับประทานข้าวสวยเลย กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารหลักทุกวัน จนทางครูและชาวบ้านในพื้นที่เป็นห่วงว่า จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็ก
       
       ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางลงไปยัง หมู่บ้านปากบาง ต.สะกอม อ.จะนะ เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยหลังจากไปถึงได้พบกับทางนางชุติกาญจน์ หวั่นห้วย ครูโรงเรียนบ้านปากบาง ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของเด็ก ที่ได้เล่าเรื่องราวของ ด.ช.ธนพล หลีคง หรือชื่อเล่นว่า "บินลาเด็น" อายุ 9 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านปากบาง ที่ไม่ยอมรับประทานข้าวสวยมาตั้งแต่เล็ก จะรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารทุกวัน
       
       ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 245/2 เป็นบ้านของ น้องบินลาเด็น ซึ่งอาศัยอยู่กันสองคนกับนางเอียด สุกพัฒน์ ผู้เป็นยายวัย 65 ปี โดยนางเอียดได้เล่าว่า บินลาเด็น เป็นลูกของลูกสาวกับลูกเขย แต่ทั้งคู่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ตนจึงเลี้ยงบินลาเด็นมาโดยลำพัง โดยมีลูกชายอีกคนที่ทำอาชีพประมงเป็นคนดูแลครอบครัว ตอนเกิดใหม่เขาตัวเล็กมากหนักเพียง 1 กิโลกรัมกว่าๆ ตอนเด็กกินนมเป็นอาหาร พอเริ่มที่จะต้องเปลี่ยนจากนมเป็นข้าวต้ม เขาก็ยังกินได้ แต่เมื่อเริ่มคลานได้ จึงเริ่มป้อนข้าวสวยเป็นอาหาร แต่เมื่อป้อนเขาปากเขาจะคายออกมาตลอดไม่ยอมกิน จนต้องป้อนข้าวต้มมาตลอด จนเมื่อโตขึ้นเริ่มเดินได้ และได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เขาจึงชอบกินและจะขอเงินไปซื้อมาเป็นเป็นประจำจนถึงทุกวันนี้
       
       "รู้สึกเป็นห่วงหลาน เพราะเขาไม่ยอมกินข้าวเลย กินบ้างก็ข้าวต้มเปล่าๆกับน้ำปลา ที่เขากินได้ หากไมยอมให้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลย ก็กลัวเขาจะหิว และไม่มีแรงจึงต้องยอมปล่อยให้กินแต่ให้กินแค่วันละ 1 ครั้งเท่านั้น หลายๆครั้งที่ตนเองและญาติๆพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมเขา ทำยังไงเขาก็ไม่ยอมกิน แม้กระทั่งช้อนตักข้าวที่ใช้ตักข้าวสวยแล้ว เอามาให้เขาใช้เขาก็จะไม่ใช่เลย ผักต่างๆก็ไม่ยอมกิน พวกเนื้อสัตว์ก็จะกินได้เพียงแต่ไก่ทอด ไม่ยอมกินอย่างอื่นเลย"
       
       ยายของน้องบินลาเด็น กล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่เห็นเล่นกับเพื่อนเขา และเพื่อนกินข้าวกัน เขาทำได้เพียงมองเพื่อนกิน ไม่สามารถกินได้ รู้สึกสงสารเขามาก พยายามนำไปหาหมอมาหลายแห่งแล้ว หมอแนะนำให้กินยาวิตามินบำรุง เขาก็กิน แต่ทำอย่างไรก็ไม่ยอมกินข้าวสวยเลย
       
       หลังจากที่ได้คุยกับนางเอียด ยายของน้องบินลาเด็น ผู้สื่อข่าวเลยให้ทดลองนำข้าวสวยมาให้กิน เขาจะพยายามก้มหน้าบ่ายเบี่ยง แม้กระทั่งพยายามจะป้อน เขาก็จะไม่ยอมหันหน้ามากิน จนทางญาติได้นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาให้ บินลาเด็นรีบรับถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและกินทันทีอย่างเอร็ดอร่อย
       
       น้องบินลาเด็น กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไก่ทอดมาก ส่วนข้าวสวยกับผักไม่ชอบกิน เวลากินเข้าไปแล้วอยากจะคายออกมาทุกครั้ง แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตนกินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ
       
       ด้านนางชุติกาญจน์ หวั่นห้วย ครูโรงเรียนบ้านปากบาง ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของ น้องบินลาเด็น กล่าวว่า ปกติทางโรงเรียนจะมีอาหารกลางวัน ซึ่งมีการจัดมาแล้วให้มีคุณค่าทางอาหารครบห้าหมู่ แต่เขาก็ไม่ยอมกิน จึงมาทราบจากทางยายเขาว่า เขาชองกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จึงอยากช่วยเหลือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเขา ให้ได้กินอาหารทีมีประโยชน์มากขึ้น เพราะตัวเขาเอง มีน้ำหนักและส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์ปกติมาก อีกทั้งสมองเขาช้ากว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน เรียนหนังสือไม่ทันเพื่อนรุ่นเดียวกัน ยังไม่สามารถเขียนหนังสือได้เลย
       
       "จึงเริ่มการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเขา โดยซื้อโจ๊กสำเร็จรูปมาตั้งเอาไว้ในห้องพร้อมกับกระติกน้ำร้อน เพื่อให้เขาสามารถมาหยิบกินได้ ซึ่งในช่วงแรกๆเขามาหยิบไปกินตามปกติ พบซองของโจ๊กสำเร็จรูป ประมาณ 1 สัปดาห์ เริ่มพบความผิดปกติ โจ๊กหายไป แต่ไม่พบซอง จึงได้ค้นในห้องพบว่า เขาได้เอาโจ๊กซองไปซ่อนเอาไว้ไม่ยอมกิน เชื่อว่า เขาเริ่มมีอาหารเบื่อโจ๊กแล้ว จึงไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ยังดีที่เขาชอบกินไก่ทอด จึงให้เขากินไก่ทอดเป็นอาหารเที่ยงที่โรงเรียนแทน"
       
       นางชุติกาญจน์ กล่าวอีกว่า รู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะทุกวันนี้ เขาก็มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์เกือบ 3 กิโลกรัม ถือว่าต่ำมากในเด็กรุ่นเดียวกัน ทั้งการทำงานของสมองเขาก็ช้ากว่าเพื่อในรุ่นเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลจากพฤติกรรมการกินที่ผ่านมาของเขา หากยังปล่อยให้เขามีพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไป อาจจะเกิดผลเสียต่อตัวเด็กได้ในอนาคต
       
       โดยทั้งญาติชาวบ้านและครูประจำชั้นต้องการให้หน่วยงานด้านสาธารณสุข เข้ามาช่วยเหลือ ด.ช.ธนพล เพื่อแก้ไขพฤติกรรมการกินอาหารให้กลับมากินข้าวสวยได้ รวมทั้งช่วยเหลือครอบครัวที่ค่อนข้างลำบากเพราะเป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่กับ ยายเพียงคนเดียวเท่านั้น