ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ตอบ

รูปแนบ: (ล้างรูป)
Restrictions: 10 per post (10 remaining), maximum total size 6.40 MB, maximum individual size 4.88 MB
เลือกที่นี่เพื่อลบไฟล์แนบของคุณ
คลิกเพื่อใส่รูปหรือลากรูปมาวางตรงนี้
ตัวเลือกเพิ่มเติม...
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวที่สอง:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง

สรุปหัวข้อ

กระทู้โดย ทีมงานบ้านเรา
 - 10:06 น. 25 พ.ค 61
พาณิชย์ยืนยันการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนสินค้า สั่งการพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจคุมราคาสินค้าและก๊าซหุงต้มไม่ให้จำหน่ายเกินราคา

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จและสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ตลาดกลางบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี โดยยืนยันว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (ก๊าซแอลพีจี) และน้ำมันดีเซล ไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนสินค้ามากนักและยังไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้า ยกเว้นพืชผักตามฤดูกาลที่มีการปรับขึ้นราคา ทั้งนี้จากการสอบถามผู้ประกอบร้านอาหารปรุงสำเร็จ ต่างยืนยันว่าแม้ต้นทุนก๊าซหุงต้มจะสูงขึ้น แต่ยังไม่กระทบต่อต้นทุนการผลิต โดยก๊าซหุงต้ม 1 ถัง ขนาด 15 กิโลกรัม สามารถปรุงอาหารได้ 500-600 จาน/ชาม ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิตเพียง 2 สตางค์ต่อจาน/ชาม เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สมเหตุสมผลที่จะปรับขึ้นราคา 3-5 บาทต่อจาน/ชาม

ส่วนสถานการณ์ราคาข้าวสาร จากการสอบถามผู้ประกอบการได้รับการยืนยันว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีการปรับขึ้นราคาข้าวสารแต่อย่างใด โดยมีการจำหน่ายข้าวสารในราคาปกติ ซึ่งราคาจำหน่ายข้าวสารในปัจจุบันราคาข้าวหอมมะลิ เฉลี่ยอยู่ที่ราคา 550 - 660 บาทต่อถัง หรือเฉลี่ยกิโลกรัมละ 35 - 50 บาท ส่วนข้าวขาว (ข้าวเสาไห้) จำหน่ายในราคา 370 บาทต่อถัง หรือกิโลกรัมละ 27 บาท

อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาก๊าซหุงต้มเพื่อไม่ให้จำหน่ายเกินราคา หากพบเห็นการปรับขึ้นราคาสินค้าเกินความเป็นจริง จะมีโทษปรับ 1.4 แสนบาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ


แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย