กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ ทำให้การ "ร้อยไหม" เป็นหนึ่งในเทคนิคเสริมความงามที่ได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวิธีการยกกระชับและปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

---

ร้อยไหม ดีอย่างไร ? ช่วยหน้าเรียวจริงไหม ?
ร้อยไหม คือหนึ่งในหัตถการความงาม นิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า ยกหน้า ด้วยคุณสมบัติของไหมละลายที่มีเงี่ยง เำมื่อแพทย์ร้อยลงไปในชั้นผิวหนัง แล้วดึงเส้นไหมให้ตึงขึ้น ในทิศทางที่แพทย์ร้อยไหมเข้ามา เงี่ยงบนไหมก็จะทำหน้าที่คล้ายตะขอเกี่ยว ทำให้ผิวถูกดึงกระชับตามมา ส่งผลให้โครงหน้าดูเรียวสวย ดูเด็กลง และช่วยเสริมจุดเด่นบนใบหน้าได้หลากหลาย ได้แก่

• ร้อยไหมปรับรูปหน้า เพื่อให้ใบหน้าเรียวเล็ก V-Shape สวยมากขึ้น
• ร้อยไหมยกกระชับผิว เพื่อแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ทำให้ผิวดูกระชับ เรียบเนียน อ่อนวัยขึ้น
• ร้อยไหมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ ให้เรียบเนียน

นอกจากนี้ยังสามารถร้อยไหมจมูก เพื่อเสริมจมูก หรือปรับรูปจมูกให้โด่งสวย คมเฉียบขึ้น รวมถึงร้อยไหมยกคิ้ว ยกหางได้ด้วย

---

ร้อยไหม เหมาะกับใคร ?
การร้อยไหมเหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหารูปหน้า ผิวหย่อนคล้อย โดยใช้วิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่สามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังมีความเป็นธรรมชาติ ได้แก่

• ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์และกระชับมากขึ้น
• ผู้ที่ต้องการใบหน้าดูเรียวและมีสัดส่วนที่ดีขึ้น การร้อยไหมสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปคิ้วให้โค้งสวย แก้ปัญหาคิ้วตก หางตาตก
• ผู้ที่ต้องการเห็นผลการปรับรูปหน้าและยกกระชับผิวอย่างรวดเร็ว

---

ร้อยไหม อันตรายไหม ?
การร้อยไหมจะมีความปลอดภัย หากใช้เส้นไหมละลายที่มีคุณภาพ และทำการร้อยโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูง ก็จะช่วยให้หลังทำเสร็จเห็นผลการยกกระชับทันที ไม่ต้องพักฟื้นนาน เมื่อเวลาผ่านไปเส้นไหมก็จะค่อย ๆ ละลายไปเองโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง

ดังนั้น หากเลือกใช้ไหมใช้วิธีร้อยไหมเพื่อการปรับรูปหน้า ควรคำนึงความปลอดภัย เส้นไหมต้องมีคุณภาพ และทำการร้อยไหมในคลินิกที่น่าเชื่อถือ โดยแพทย์มีประสบการณ์

---

ร้อยไหม ใช้ไหมแบบใดบ้าง ?
การร้อยไหมจะใช้ไหมละลายที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติในร่างกาย แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป แพทย์จะประเมินและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยแบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลัก ได้แก่
ไหม PDO
ไหมที่นิยมใช้กันมากที่สุดทำมาจาก PDO (Polydioxanone) เป็นไหมสีน้ำเงิน มีความยืนหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง ไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนัง โดยเป็นไหมที่ใช้ในทางการแพทย์ผ่าตัดเย็บเส้นเลือดหัวใจ และเป็นไหมชนิดแรกที่นำมาใช้ในวงการเสริมความงาม ไหมชนิดนี้จะละลายหมดภายใน 4 - 6 เดือน
ไหม PLLA
PLLA (Polylactate) เป็นไหมสีขาวใส พัฒนามาจากไหม PDO มีจุดเด่นที่ความแข็งแรง ทนต่อแรงดึง อยู่ได้นาน แต่ไม่ค่อยยืนหยุ่นจึงทำให้เปราะหักง่าย ข้อดีคือสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี ไหมชนิดนี้ละลายหมดภายใน 12 - 18 เดือน
ไหม PCL
ไหม PCL (Polycaprolactone) เป็นไหมสีขาวเส้นใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูงสุด แข็งแรงทนทาน ไม่เปราะหักง่าย และในรุ่นล่าสุดได้ผสมคุณสมบัติของไหม PLLA เข้าไปด้วย ทำให้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีและละลายช้า โดยจะละลายหมดภายใน 18 - 24 เดือน

---

ร้อยไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
หลังการร้อยไหมอาจพบผลข้างเคียงเล็กน้อยที่เป็นเรื่องปกติ เช่น อาการบวม เขียวช้ำ จากการฉีดยาชาและเลือดที่ออกใต้ผิว ซึ่งจะหายไปเองใน 1 - 2 สัปดาห์ และอาจรู้สึกถึงเส้นไหมที่ถูกร้อยเข้าไปบนใบหน้าชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม หากพบผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายร้ายแรง เช่น ไหมทะลุ ไหมขาด เกิดการอักเสบติดเชื้อ มักเกิดจากการร้อยไหมที่ขาดเทคนิค ขาดประสบการณ์ ใช้เส้นไหมคุณภาพต่ำ หรือทำกับสถานพยาบาลและแพทย์เถื่อนที่ไร้มาตรฐาน

---

วิธีดูแลหลังร้อยไหม เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีหลังร้อยไหม จะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ได้นานมากขึ้น พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงจากร้อยไหมด้วย โดยมีขั้นตอนการดูแลตัวเองที่สำคัญ ดังนี้

• 3 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ร้อยไหม และไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ
• ไม่ควรนอนตะแคง หรือนอนคว่ำใน 2 - 3 คืนแรก ป้องกันการกดทับบริเวณที่ร้อยไหม
• หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารที่มีรสหวานจัดและเผ็ดจัด อย่างน้อย 48 ชม.
• ใช้ยาแก้ปวด ยาลดบวม ตามที่แพทย์สั่ง เพื่อบรรเทาอาการหลังร้อยไหม
• งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ยุบบวมช้า และผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง
• งดยิงเลเซอร์ร้อน และหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้ความร้อน เป็นเวลา 1 เดือน
• กลับมาพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามดูอาการ

---

สรุป
ร้อยไหม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นวิธีการที่ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ มีระยะพักฟื้นสั้น และสามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจร้อยไหมควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยสูงสุด รวมถึงการดูแลตนเองอย่างถูกวิธีหลังร้อยไหม เพื่อรักษาผลการรักษาให้คงอยู่ได้นานที่สุด

ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากเป็นระบบสำเร็จรูป

การติดตั้งระบบ Metal Deck

นั้นถือเป็นกระบวนการที่ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากเป็นระบบสำเร็จรูปที่ผลิตมาจากโรงงาน โดยแผ่นเหล็กกัลวาไนส์หรือเหล็กเคลือบสังกะสีจะถูกขึ้นรูปเป็นลอนคลื่นลึก มีขนาดตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมติดตั้งได้ทันที

ในขั้นตอนการติดตั้ง Metal Deck นั้น สามารถทำได้โดยการวางแผ่นลงบนโครงสร้างคานเหล็กหรือคานคอนกรีตเสริมเหล็กที่เตรียมไว้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการตัดหรือประกอบชิ้นส่วนใดๆ เพิ่มเติม ทำให้ประหยัดเวลาและแรงงานในการติดตั้ง รวมถึงลดความผิดพลาดในการประกอบชิ้นส่วนด้วย

หลังจากวาง Metal Deck ลงบนโครงสร้างคานแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเทคอนกรีตลงบนแผ่นเหล็กลอนคลื่น เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับพื้น โดยแผ่น Metal Deck จะทำหน้าที่เป็นแบบหล่อคอนกรีต ช่วยรองรับน้ำหนักขณะเทคอนกรีต และป้องกันไม่ให้คอนกรีตหกร่วงระหว่างการก่อสร้าง

ด้วยรูปแบบการติดตั้งที่สะดวกรวดเร็ว ทำให้ Metal Deck เป็นระบบพื้นที่ประหยัดเวลาในการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี โดยใช้เวลาในการติดตั้งน้อยกว่าการก่อสร้างพื้นแบบดั้งเดิมถึง 50% นอกจากนี้ยังช่วยลดจำนวนแรงงานก่อสร้างที่ต้องใช้ได้อีกด้วย ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนค่าแรงได้มาก

การติดตั้งที่รวดเร็วของ Metal Deck ยังส่งผลให้สามารถก่อสร้างอาคารได้เสร็จเร็วขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินงานโครงการก่อสร้างได้มาก ซึ่งจะนำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายโครงการโดยรวมได้อีกทางหนึ่ง ด้วยข้อดีเหล่านี้ จึงทำให้ Metal Deck เป็นระบบพื้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในงานก่อสร้างอาคารทั่วไป

ช่องทางการติดต่อ ConTel Metal Deck

LINE : @contelmetaldeck

Tel. 083 699 6697

แหล่งอ้างอิง : https://contelmetaldeck.com/what-is-metal-deck-or-steel-deckhow-is-it-good/

ในปัจจุบันไม่ว่าแบรนด์ของคุณจะเป็นธุรกิจประเภทใดก็ตาม การมีโลโก้หรือตราสินค้าให้กับแบรนด์นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญต่อธุรกิจอย่างมาก เพราะการออกแบบโลโก้ที่ดีจะช่วยสื่อสารอัตลักษณ์ของแบรนด์ออกมาได้อย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์การตลาดโดยรวมของแบรนด์ อีกทั้งยังทำให้แบรนด์ของคุณดูโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้นโลโก้จึงมีความหมายต่อธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย โลโก้ที่ดีนั้นจะช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ เพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ และยังยกระดับมูลค่าของแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย วันนี้เราจึงได้รวบรวม 5 กระบวนการออกแบบโลโก้ที่ดีให้กับแบรนด์ของคุณมาให้แล้ว ไปดูกันค่ะ

5 กระบวนการออกแบบโลโก้ที่ดีให้กับแบรนด์ของคุณ


1. ควรออกแบบโลโก้ให้ง่ายต่อการจดจำ
"ภาพหนึ่งภาพมีค่าเท่ากับคำพูดเป็นพันคำ (A picture is worth a thousand words)" หมายความว่า การอธิบายด้วยคำพูดว่าแบรนด์ต้องการจะสื่อสารอะไรนั้นยากต่อการจดจำมากกว่าอธิบายด้วยภาพเพียงแค่ภาพเดียว

โลโก้จึงควรที่จะเป็นสิ่งที่สามารถทำให้คนจดจำแบรนด์ของคุณได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แม้จะแค่เห็นตอนขับรถผ่าน เพราะฉะนั้นโลโก้ที่ดีนั้นควรจะต้องมีลักษณะเฉพาะ ไม่เหมือนใคร จดจำได้ง่าย และแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ

2. น้อยแต่มาก เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
แม้ว่าคุณจะอยากสื่อความหมายหลายๆอย่างผ่านโลโก้ของคุณมากเท่าไหร่ แต่คุณควรที่จะรักษาความเรียบง่ายของโลโก้เอาไว้ ไม่จำเป็นต้องมีรายละเอียดที่ดูแล้วซับซ้อน หลีกเลี่ยงการใช้สีหลายสี และเลือกรูปทรง ตัวอักษร สัญลักษณ์ต่างๆที่จะไม่ทำให้ดูรกและยากที่จะเข้าใจ

เนื่องจากจะทำให้ลูกค้าประมวลผลได้ยาก เพราะไม่รู้จะต้องมองตรงไหนหรือโลโก้ต้องการจะสื่อว่าอะไร โดยใช้หลักการ "น้อยแต่มาก" เพราะภาพที่เรียบง่ายนั้นจะดึงดูดสายตาได้ดีกว่าภาพที่มีความซับซ้อน

3. ควรออกแบบโลโก้ให้สะท้อนถึงตัวตนแบรนด์
โลโก้ไม่ใช่แค่การเอาชื่อแบรนด์มาจับคู่กับภาพหรือรูปทรงเฉยๆ โลโก้ที่ดีควรที่จะสามารถสื่อสารเล่าเรื่องราวได้ว่าแบรนด์ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร มีอัตลักษณ์และวิสัยทัศน์อย่างไร สะท้อนถึงตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

ยกตัวอย่างเช่น โลโก้ของ Amazon.com เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา จากโลโก้จะเห็นได้ว่ามีลูกศรโค้งคล้ายรอยยิ้มชึ้จากตัว A ไปยังตัว Z ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า Amazon มีขายทุกอย่างตั้งแต่ A ถึง Z และเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าที่ถูกใจก็จะมีรอยยิ้มนั่นเอง

4. คิดนอกกรอบอย่างรอบคอบ
เพราะโลโก้นั้นควรง่ายต่อการจดจำและสะท้อนถึงตัวตนของแบรนด์ คุณจึงควรคิดให้แตกต่าง หรือคิดให้นอกกรอบจนกว่าคุณจะได้โลโก้ที่ไม่เหมือนใคร โดดเด่น และสดใหม่อย่างแท้จริง

โดยคุณควรคิดให้รอบคอบในทุกๆองค์ประกอบ เพราะโลโก้นั้นจะต้องอยู่กับแบรนด์ต่อไปอีกนาน ตราบเท่าที่โลโก้ยังสามารถสื่อสารความหมายและตัวตนของแบรนด์ได้ คุณก็สามารถปรับเปลี่ยนโลโก้ในแบบที่คุณต้องการได้

5. อย่าออกแบบโลโก้ตามเทรนด์หรือกระแส
เนื่องจากเทรนด์หรือกระแสของการออกแบบนั้นไม่ได้อยู่ได้นานเสมอไป บางเทรนด์ก็อยู่ในกระแสได้นาน แต่บางเทรนด์ก็อยู่แค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อมีเทรนด์ใหม่เข้ามา เทรนด์เก่าก็จะตกไป หากคุณออกแบบโลโก้ตามเทรนด์ ณ ขณะนั้น ก็อาจจะทำให้โลโก้รวมไปถึงแบรนด์ของคุณตกเทรนด์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ในปัจจุบันหลายแบรนด์มักออกแบบโลโก้จากไอเดียที่แตกต่างและมีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อจะทำให้โลโก้อยู่ไปได้อีกหลายทศวรรษ โดยไม่ตกเทรนด์นั่นเองค่ะ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกแบบโลโก้นั้นเป็นหนึ่งในโจทย์ยากของการสร้างแบรนด์ เพราะว่าโลโก้จะต้องผ่านกระบวนการคิดหลายขั้นตอนถึงจะสามารถสื่อสารอัตลักษณ์ของแบรนด์ออกมาได้ดีที่สุด แต่ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าต้องออกแบบโลโก้แบบไหนถึงจะเหมาะกับแบรนด์ ก็มาออกแบบโลโก้กับเราได้เลย!

ทางทีม BEP Digital Agency ยินดีให้คำปรึกษาและรับทำ Logo ให้ตรงใจแบรนด์ของคุณที่สุด รวมถึงรับออกแบบเว็บไซต์, UX/UI, Branding และ Media design นอกจากนี้เรายังมีบริการด้าน Digital Marketing แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น Content Marketing, SEO, Google Ads และ Social media Ads

สยามฟาร์เทคเป็นบริษัทที่ขายอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ทดสอบทางการแพทย์ที่มีบริการครบวงจรสำหรับธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพ word hurdle บริษัทนี้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีคุณภาพ เช่น ที่ตรวจอะตอมในร่างกาย

 

โครงสร้างพื้นเหล็ก: มั่นคง ยืดหยุ่น และยั่งยืน

โครงสร้างพื้นเหล็ก เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของวิศวกรรม เป็นวัสดุที่มนุษย์ใช้มาอย่างยาวนาน  โครงสร้างพื้นเหล็กมีบทบาทสำคัญในหลากหลายโครงการก่อสร้าง  ตั้งแต่ตึกระฟ้าขนาดใหญ่ ไปจนถึงสะพานที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำ  คุณสมบัติอันโดดเด่นของเหล็ก  เช่น  ความแข็งแรง  ความยืดหยุ่น  และความทนทาน  ทำให้เหล็กกลายเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการก่อสร้าง



คุณสมบัติของโครงสร้างพื้นเหล็ก

โครงสร้างพื้นเหล็กมีคุณสมบัติเด่นดังนี้

ความแข็งแรง: โครงสร้างพื้นเหล็กมีความแข็งแรงสูง สามารถรับแรงอัด แรงดึง แรงเฉือน และแรงบิดได้ดี เหมาะสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างที่มีขนาดใหญ่
ความยืดหยุ่น: โครงสร้างพื้นเหล็กมีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้ง หรือปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ เหมาะสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างที่มีรูปร่างซับซ้อน
ความทนทาน: โครงสร้างพื้นเหล็กมีความทนทานต่อสภาพอากาศ สามารถต้านทานการกัดกร่อน เหมาะสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรง
น้ำหนักเบา: โครงสร้างพื้นเหล็กมีน้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เช่น คอนกรีต เหมาะสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างที่มีความสูง
การรีไซเคิล: โครงสร้างพื้นเหล็กสามารถรีไซเคิลได้ เหมาะสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
ประเภทของโครงสร้างพื้นเหล็ก

โครงสร้างพื้นเหล็กมีหลายประเภท  ขึ้นอยู่กับการใช้งาน  ดังนี้



โครงสร้างพื้นเหล็กแบบคาน: นิยมใช้สำหรับการก่อสร้างอาคาร สะพาน และโครงสร้างอื่นๆ ที่ต้องรับแรงอัดและแรงดึง
โครงสร้างพื้นเหล็กแบบเสา: นิยมใช้สำหรับการก่อสร้างอาคาร เสาไฟฟ้า และโครงสร้างอื่นๆ ที่ต้องรับแรงอัด
โครงสร้างพื้นเหล็กแบบโครง: นิยมใช้สำหรับการก่อสร้างหลังคา โรงงาน และโครงสร้างอื่นๆ ที่ต้องรับแรงดึง
โครงสร้างพื้นเหล็กแบบตาข่าย: นิยมใช้สำหรับการก่อสร้างรั้ว บันได และโครงสร้างอื่นๆ ที่ต้องการความโปร่งแสง
การออกแบบโครงสร้างพื้นเหล็ก



การออกแบบโครงสร้างพื้นเหล็กต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ  ดังนี้

การใช้งาน: โครงสร้างพื้นเหล็กต้องออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งาน
แรง: โครงสร้างพื้นเหล็กต้องออกแบบให้สามารถรับแรงต่างๆ ที่โครงสร้างจะต้องรับได้
วัสดุ: โครงสร้างพื้นเหล็กต้องออกแบบโดยใช้เหล็กที่มีคุณภาพ
มาตรฐาน: โครงสร้างพื้นเหล็กต้องออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานการก่อสร้าง

ข้อดีของการใช้โครงสร้างพื้นเหล็ก


การใช้โครงสร้างพื้นเหล็กมีข้อดีดังนี้

ก่อสร้างได้รวดเร็ว: โครงสร้างพื้นเหล็กสามารถก่อสร้างได้รวดเร็วกว่าโครงสร้างที่ทำจากวัสดุอื่นๆ
ประหยัดค่าใช้จ่าย: การใช้โครงสร้างพื้นเหล็กสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
ความยืดหยุ่น: โครงสร้างพื้นเหล็กมีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดแปลงได้ง่าย
ความทนทาน: โครงสร้างพื้นเหล็กมีความทนทานสูง
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: โครงสร้างพื้นเหล็กสามารถรีไซเคิลได้

ช่องทางการติดต่อ ConTel Metal Deck

LINE : @contelmetaldeck

Tel. 083 699 6697

แหล่งอ้างอิง : https://bit.ly/4b6xx3o