ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ตอบ

รูปแนบ: (ล้างรูป)
Restrictions: 10 per post (10 remaining), maximum total size 6.40 MB, maximum individual size 4.88 MB
เลือกที่นี่เพื่อลบไฟล์แนบของคุณ
คลิกเพื่อใส่รูปหรือลากรูปมาวางตรงนี้
ตัวเลือกเพิ่มเติม...
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยรองตัวสุดท้าย:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง

สรุปหัวข้อ

กระทู้โดย เจ้าลัทธิ
 - 18:50 น. 25 ธ.ค 53
วันๆทำไรคับท่าน คิดแต่จะก่อเหตุ คิดแต่จะสร้างผลงาน ฆ่าเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก พวกท่านเป็นเจ้าลัทธิใหม่หรือคับท่าน
ใครไม่เป็นพวกหรือเป็นเหมือนพวกท่าน จะ ฆ่าให้หมดโลกหรือไงท่าน หรือจะให้เหลือแต่พวกท่าน หรือ อย่างไรครับท่าน
กระทู้โดย ระวังด่านนอกด้วย
 - 23:08 น. 24 ธ.ค 53
อย่าลืมป้องกันภัยที่ด่านนอกด้วยก็แล้วกัน

มัวแต่ระวังในพื้นที่หาดใหญ่ สงขลา แต่ประมาทในพื้นที่อื่น
กระทู้โดย เด็กป้อมหก(ไม่6)
 - 20:28 น. 23 ธ.ค 53
ดีแล้วครับคอยกระตุ้นให้คนหาดใหญ่ตื่นตัวทุกเวลานาที ทุกคนมีหน้าที่คอยสอดส่องดูแล ความปลอดภัยก็มากขึ้น นทท.เที่ยวสบายใจ เงินทองไหลมาเทมา
กระทู้โดย ทีมงานบ้านเรา
 - 17:46 น. 23 ธ.ค 53
ระดมกำลังคุมหาดใหญ่เข้มช่วงปีใหม่ หลังรับรายงาน "RKK" เตรียมป่วน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    23 ธันวาคม 2553 12:42 น.
     
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กำลัง จนท.ทุกฝ่ายคุมเข้มทุกพื้นที่ในตัวเมืองท่องเที่ยวของนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวน มาก หลังหน่วยข่าวแจ้งเตือนมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบเตรียมวางแผน ก่อวินาศกรรมช่วงเทศกาลปีใหม่
       
       จากรายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ระบุว่าได้รับรายงานจากสายข่าวว่ามีการความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายดุลละหะ เล็ง ยามาสกา แกนนำ อาร์เคเค และนายยูโซะ มะเด็ง แกนนำ อาร์เคเค ระดับหัวหน้าปฏิบัติการ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พร้อมด้วยแนวร่วมก่อเหตุรุนแรงที่เป็นผู้หญิง 4 คนเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่บ้านตะโละเว ม.9 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อเตรียมวางแผนก่อวินาศกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่
       
       รายงานข่าวแจ้งว่าได้มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยใน พื้นที่ ให้สังเกตซึ่งมีรถยนต์ 3 คันและรถจักรยานยนต์ 13 คันที่ประกอบวัตถุระเบิด ชุดที่จะปฏิบัติงานได้ผ่านการฝึกในประเทศเพื่อนบ้านมาแล้วเข้าร่วม 8 คนได้มีการแบ่งเป็นชุดปฏิบัติการเป็นชุดๆ เพื่อก่อวินาศกรรม โดยมีเป้าหมาย คือ จ.สงขลา ด้วยรถยนต์ที่ประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง 1 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คันไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อรถ ในพื้นที่ จ.ยะลา ด้วยรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ฮีโร่ สีดำ ที่ประกอบวัตถุระเบิด 1 คัน รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ที่ประกอบระเบิดแสวงเครื่อง 3 คัน
       
       จากรายงานข่าวดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายตำรวจ ทหาร และพลเรือน ได้วางแผนป้องกันอย่างเต็มที่ โดย พล.ต.ท.วีรยุทธ สิทธิมาลิก ผบช.ภาค 9 เปิดเผยว่า ทางตำรวจร่วมกับกองทัพภาค 4 ส่งกำลังทหารจาก มทบ. ค่ายเสนาณรงค์ มาช่วยป้องกันเหตุร้ายในเมืองหาดใหญ่และ อ.เมืองสงขลา ส่วนกำลัง ตชด. ทหารพรานร่วมกับตำรวจท้องที่นั้น รักษาความปลอดภัยใน 5 อำเภอชายแดนได้แก่ อ.สะบ้าย้อย เทพา นาทวี สะเดาและ อ.จะนะ
       
       พล.ต.ท.วีรยุทธ กล่าวต่อว่า ถนนที่เข้าเมืองหาดใหญ่มีการตั้งด่านตรวจถาวรที่ควนมีด คลองหวะ หาดใหญ่ใน คลองแห โดยใช้กำลังทหาร มทบ. 42 ตำรวจและอาสาสมัคร และขอกำลังจาก สภ.รอบนอก ซึ่งไม่มีปัญหาการก่อการร้ายเข้ามาเสริมตำรวจท้องที่ เพื่อทำหน้าที่ตรวจค้นบ้านเช่าและหอพักเป้าหมาย ตนได้มีคำสั่งให้ตำรวจจากกองบัญชาการภาค 9 ออกตั้งด่านสับเปลี่ยนเวลาบนถนนสายหลัก และยังมีชุดตำรวจเพื่อร่วมเดินทางในเวลากลางคืนด้วย ซึ่งแผนการทั้งหมดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมนี้ คาดว่าใช้กำลังไม่น้อยกว่า 700 นาย
       
       ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัช แม่ทัพภาค 4 ได้ประชุมร่วมกับนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ตำรวจและทหาร ผู้นำท้องถิ่น ภาคเอกชนและอาสาสมัครวิทยุเครื่องแดง เพื่อวางมาตรการป้องกันเหตุร้ายใน อ.หาดใหญ่ ช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายฝ่ายได้เสนอแนะแนวทางป้องกัน โดย นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เสนอว่า บริเวณปริมณฑลของเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้แก่เทศบาลเมืองคลองแห และเทศบาลเมืองคอหงส์มีความสำคัญเพราะเป็นเขตกันชน ควรมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้เต็มพื้นที่ด้วย เพื่อจะได้ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่จะเข้ามาก่อเหตุในเขต เทศบาลนครหาดใหญ่อีกด่านหนึ่ง
       
       ส่วนแม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่คาดว่าจะมี ประชาชนเข้ามาเที่ยวหาดใหญ่เป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการวางมาตรการป้องกันก่อนเทศกาล และในช่วงเทศกาลก็ให้มีการกวาดล้างตรวจค้นบ้านเช่า ห้องพัก หอพัก ให้มีการบันทึกประวัติคนแปลกหน้า ตั้งจุดตรวจและจุดสกัดเส้นทางเข้าออกเทศบาลนครหาดใหญ่ มีการจัดสายตรวจเดินเท้าร่วมระหว่างทหาร ตำรวจและอาสาสมัคร โดยเฉพาะสถานที่ที่มีประชาชนหนาแน่น เช่นสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ย่านการค้าต่างๆ
       
       นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เทศบาลนครหาดใหญ่ได้จัดกิจกรรมเสริมในช่วงปีใหม่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวให้มาก มาตรการรักษาความปลอดภัย ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งเมืองและกล้องอยู่ในสภาพดี คาดว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่น้อยกว่า 25,000 - 30,000 คน
       
       ด้านนายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมธุรกิจโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการจองห้องพักโรงแรมชั้นในเต็มหมดแล้วประมาณ 9,000 ห้อง เหลือโรงแรมชั้นนอก รีสอร์ท และห้องพักใน อ.เมืองสงขลา ซึ่งยังมีห้องว่างอยู่ประมาณร้อยละ 10 และทางสมาคมฯ คาดว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาฉลองเทศกาลปีใหม่ไม่น้อยกว่า 30,000 คน เงินสะพัดไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท
       
       ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ประชุมผู้เกี่ยวข้องในการดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลปีใหม่ปี เพื่อเตรียมวางแผนงานในการป้องกันดูแลการก่อเหตุร้าย โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมทั้งประชาชนที่จะเข้ามาร่วมกิจกรรมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2554 จากการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมแผนรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว ด้วยการสนธิกำลังจากทุกฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน วิทยุเครื่องแดง อาสาสมัครภาคประชาชน วางกำลังทั้งวงในและวงนอก รวมทั้งการตั้งด่านตรวจค้น จุดสกัดตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นได้วางสายสืบไว้ทุกพื้นที่โดยเฉพาะในย่านชุมชนจะมีการตรวจสอบ บุคคลแปลกหน้า บ้านเช่า หอพักอย่างละเอียด การติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดที่สามารถใช้ได้ทุกมุมเมือง
       
       ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในการป้องกันเหตุร้ายต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งแบะแส หากพบสิ่งผิดสังเกตหรือบุคคลต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้เข้าไป ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบทีวีวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ทุกมุม เมืองให้อยู่ในสภาพใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
       
       อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวในระหว่างเดินทางมาเยี่ยมตำรวจที่บาดเจ็บจากสถานการณ์ใต้ที่โรงพยาบาล สงขลานครินทร์ ว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องของคาร์บอมเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลและวันหยุดยาว ซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วง นี้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยวดยานพาหนะบนท้องถนนและตามจุดสำคัญต่างๆ ในเขตเมืองมากขึ้นตามไปด้วย จึงยากที่จะคาดเดาได้ว่าจะมีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุหรือ วางคาร์บอมหรือไม่
       
       แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะระดมกำลังตั้งจุดตรวจจุด สกัดในพื้นที่สำคัญ ทั้งภายในตัวเมืองและถนนสายหลักรอบนอก เพื่อคอยตรวจเช็คยวดยานพาหนะที่ต้องสงสัยในเบื้องต้น รวมทั้งจะจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการก่อเหตุ ซึ่งทั้งหมดจะต้องอาศัยข้อมูลด้านการข่าวที่รวดเร็วและแม่นยำจากหลายๆ หน่วยงานด้วยกันในการร่วมกันวางแผนรักษาความปลอดภัย ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจได้
       
       ทั้งนี้ จากปัญหาสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัช แม่ทัพภาค 4 ได้เปิดเสวนาเรื่องประวัติศาสตร์ปัตตานีในแนวทางสันติวิธี เมื่อเร็วๆ นี้ที่โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อ.สิงหนคร จ.สงขลา เนื่องจากปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยว ข้อง และสภาพปัญหามีความซับซ้อนโดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งในลักษณะความไม่เข้าใจ กัน กลุ่มที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ใช้ความแข็งแกร่งทางอัตลักษณ์ในด้าน ประวัติศาสตร์ชาติพันธ์และศาสนาเป็นเงื่อนไข โดยมีภาคประชาสังคม นักวิชาการและภาครัฐเข้าร่วมประมาณ 30 คน
       
       พล.ท.อุดมชัย เปิดเผยว่า การสร้างความเข้าใจกับกลุ่มที่มี ความเห็นแตกต่างกันที่เลือกใช้ความรุนแรงให้หันมาใช้แนวสันติวิธีอันเป็นทาง เลือกใหม่ ซึ่งจะไม่มีผู้แพ้และผู้ชนะ แต่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างกันไม่นำเอาประเด็นประวัติศาสตร์ปัตตานีมาใช้ ในความขัดแย้ง รัฐหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาและแสวงหาวิธีการจัดการกับความขัดแย้ง โดยเน้นการสร้างพลังสามัคคีบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย การเสวนาเป็นกระบวนการหนึ่งที่จะระดมความคิดจากทุกภาคส่วนนำผลลัพธ์มาผลิต เป็นทฤษฏี ให้ผู้ปฏิบัติงานนำไปใช้ในการต่อสู้ทางแนวความคิด ความเชื่อ ความเข้าใจของประชาชน