- ยินดีต้อนรับสู่ กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด.
กระทู้โดย jomlight
- 22:32 น. 17 ส.ค 57อย่าลืม "ปฏิรูปโครงสร้างขององค์การสวนยาง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วยนะครับ"
กระทู้โดย ทีมงานบ้านเรา
- 10:19 น. 31 ก.ค 57(30 ก.ค.57) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง สถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำในขณะนี้ว่า ขอเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แก้ปัญหาเรื่องนี้โดยด่วน เนื่องจากขณะนี้รายได้ของประเทศหายไป 1 ใน 3 จากยอดส่งออกยางถึง 400,000 ล้านบาท จึงและขอเสนอมาตรการเร่งด่วนระยะสั้นเพื่อยกระดับราคายางให้อยู่ในจุดสมดุลกับผลิตภัณฑ์ยาง ดังนี้
1. ประกาศลดความต้องการขาย เพื่อเพิ่มความต้องการของผู้ซื้อในตลาดซื้อขายยางล่วงหน้า นำยางในสต๊อคของประเทศมาทำยุทธภัณฑ์โดยให้กองทัพซื้อมาเก็บไว้ และส่งเสริมการใช้ภายในประเทศ และประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตหลัก จะไม่ส่งเสริมให้มีการปลูกยางเพิ่มจนกว่าราคายางจะดีขึ้น
2. ส่งเสริมให้พ่อค้ายางซึ่งมีเครือข่ายการส่งออกกับต่างประเทศ มาแข่งขันการซื้อและเก็บสต็อค โดย คสช.สนับสนุบเงินทุนและสต็อคเครดิต
3. คสช.ที่กำลังได้รับความ ร่วมมือกับอาเชียน ควรจะเข้าไปเจรจากับประเทศผู้ผลิตหลักในระดับผู้มีอำนาจสูงสุด เพื่อกำหนดมาตรการทางบวกร่วมกัน และประกาศอย่างเป็นทางการ
4. หากราคายังไม่ดีขึ้น ประเทศผู้ผลิตหลักโดยเฉพาะประเทศไทย จะต้องดำเนินการชี้นำการตลาดกำหนดราคาเป้าหมายยางแผ่นดิบที่ราคากิโลกรัมละ 80 บาท และยกระดับไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ประเทศอุสาตหกรรมยางยอมรับได้ รวมถึงต้องมีมาตรการให้ถึงมือเกษตรกรและไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น
สำหรับมาตรการระยะยาว ขอเสนอดังนี้
1. ประเทศไทยต้องกำหนดโซนนิ่งผลผลิตทางการเกษตรอย่างจริงจัง
2. ส่งเสริมการแปรรูปยางและผลิตภัณฑ์ยางอย่างจริงจัง เช่นจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ขององค์การสวนยาง สนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแก่ผู้ประกอบการ เพราะประเทศไทยนำยางมาแปรรูปได้แค่ 10% แต่มีมูลค่าถึง 200,000 ล้านบาท ซึ่งหากแปรรูปได้ 50 % เหมือนมาเลเซียจะมีมูลค่ามหาศาล
3. สนับสนุนการวิจัยและพัฒนายางเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ และอุทยานวิทยาศาสตร์การยางเพื่อให้ภาคเอกชนมาร่วมและลงทุนในเชิงพาณิชย์
4.นำไทยให้เป็นศูนย์กลางอาเซียนด้านยางพารา แทนการแข่งขันกันเปิดกว้างส่งเสริมการลงทุน และเป็นผู้นำในการเจรจาต่อรอง โดยคสช.ต้องประกาศเลยว่า คืนความสุขให้ชาวสวนยาง ซึ่งตนเชื่อว่าจะมีผลต่อจิตวิทยาการตลาดทันที และราคายางจะยกระดับตามมา โดยหัวหน้าคสช.ต้องลงมือจัดการเองด้วยความจริงใจ
1. ประกาศลดความต้องการขาย เพื่อเพิ่มความต้องการของผู้ซื้อในตลาดซื้อขายยางล่วงหน้า นำยางในสต๊อคของประเทศมาทำยุทธภัณฑ์โดยให้กองทัพซื้อมาเก็บไว้ และส่งเสริมการใช้ภายในประเทศ และประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตหลัก จะไม่ส่งเสริมให้มีการปลูกยางเพิ่มจนกว่าราคายางจะดีขึ้น
2. ส่งเสริมให้พ่อค้ายางซึ่งมีเครือข่ายการส่งออกกับต่างประเทศ มาแข่งขันการซื้อและเก็บสต็อค โดย คสช.สนับสนุบเงินทุนและสต็อคเครดิต
3. คสช.ที่กำลังได้รับความ ร่วมมือกับอาเชียน ควรจะเข้าไปเจรจากับประเทศผู้ผลิตหลักในระดับผู้มีอำนาจสูงสุด เพื่อกำหนดมาตรการทางบวกร่วมกัน และประกาศอย่างเป็นทางการ
4. หากราคายังไม่ดีขึ้น ประเทศผู้ผลิตหลักโดยเฉพาะประเทศไทย จะต้องดำเนินการชี้นำการตลาดกำหนดราคาเป้าหมายยางแผ่นดิบที่ราคากิโลกรัมละ 80 บาท และยกระดับไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ประเทศอุสาตหกรรมยางยอมรับได้ รวมถึงต้องมีมาตรการให้ถึงมือเกษตรกรและไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น
สำหรับมาตรการระยะยาว ขอเสนอดังนี้
1. ประเทศไทยต้องกำหนดโซนนิ่งผลผลิตทางการเกษตรอย่างจริงจัง
2. ส่งเสริมการแปรรูปยางและผลิตภัณฑ์ยางอย่างจริงจัง เช่นจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ขององค์การสวนยาง สนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแก่ผู้ประกอบการ เพราะประเทศไทยนำยางมาแปรรูปได้แค่ 10% แต่มีมูลค่าถึง 200,000 ล้านบาท ซึ่งหากแปรรูปได้ 50 % เหมือนมาเลเซียจะมีมูลค่ามหาศาล
3. สนับสนุนการวิจัยและพัฒนายางเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ และอุทยานวิทยาศาสตร์การยางเพื่อให้ภาคเอกชนมาร่วมและลงทุนในเชิงพาณิชย์
4.นำไทยให้เป็นศูนย์กลางอาเซียนด้านยางพารา แทนการแข่งขันกันเปิดกว้างส่งเสริมการลงทุน และเป็นผู้นำในการเจรจาต่อรอง โดยคสช.ต้องประกาศเลยว่า คืนความสุขให้ชาวสวนยาง ซึ่งตนเชื่อว่าจะมีผลต่อจิตวิทยาการตลาดทันที และราคายางจะยกระดับตามมา โดยหัวหน้าคสช.ต้องลงมือจัดการเองด้วยความจริงใจ