- ยินดีต้อนรับสู่ กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด.
กระทู้โดย เคยเห็น
- 18:59 น. 01 มี.ค 54น่าสงสาร ตัวนี้มันไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย วิ่งก็ช้า เจอศัตรูเข้าใกล้ มันขดม้วนตัวอย่างเดียว เลยจับง่ายมาก
กระทู้โดย เคยเห็น
- 18:30 น. 01 มี.ค 54สัตว์ประเภทนี้เกิดมามีกรรม ถูกอุปโลกว่าเป็นยาโด๊ปชั้นเยี่ยม ใครได้กินไม่เสียชาติเกิด แบบเดียวกับรังนก,หูฉลาม,อุ้งตีหมี,ดีหมีและฯลฯล้วนเป็นอาหารอุปาทานทั้งนั้น ประโยชน์ของมันก็แค่โปรตีนและอื่นๆ ไ่ม่ได้วิเศษประเภทกินแล้วไม่ตาย...ซะเมื่อไหร่? ราคาก็เลยสูงชนเมฆ คนจีนนิยมมากและยอมจ่ายไม่อั้น แม้ราคาที่เมืองจีนตกกิโลละเกือบ2หมื่น
ขั้นตอนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางที่เมืองจีนเท่าที่เคยออกทีวี
1.รับซื้อจากมาเลย์กิโลละเฉลี่ย100บาท ในมาเลย์ป่ายังสมบูรณ์มากสัตว์แปลกยังมีอีกเยอะ ยิ่งคนมุสลิมกินไม่ได้ด้วยยิ่งหาง่าย ราคาจึงไม่ค่อยแพง คนที่จับมาขายก็คนที่ไม่กินนั่นแหละ
2.ถึงหาดใหญ่เอามาพักไว้1-2คืน(แถวๆควนลังและเขต8)แล้วเดินทางยาวไปกรุงเทพ ราคาที่นี่จะขึ้นอีกเท่าตัว
3.ออกจากกรุงเทพไปชายแดนลาวเพื่อส่งต่อไปเวียตนามและจีน ราคาที่นี่จะแพงกว่าหาดใหญ่อีก2-3เท่าตัว
4.ถึงฝั่งลาวจะมีการ"ฉีดแป้งมันเข้าท้อง"เพื่อเพิ่มน้ำหนัก ราคาที่นี่จะตกกิโลละ2000-3000
5.สุดปลายทางที่ประเทศจีน เมื่อเข้าภัตตาคารแล้วเขาจะเฉาะหางเอาเลือดสดๆมาผสมเหล้าดื่มทันที หรือเอาเลือดไปดองเหล้าเก็บไว้กิน เนื้อเอาไปทำอาหาร คนมีเงินเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์สั่งมากิน
ขั้นตอนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางที่เมืองจีนเท่าที่เคยออกทีวี
1.รับซื้อจากมาเลย์กิโลละเฉลี่ย100บาท ในมาเลย์ป่ายังสมบูรณ์มากสัตว์แปลกยังมีอีกเยอะ ยิ่งคนมุสลิมกินไม่ได้ด้วยยิ่งหาง่าย ราคาจึงไม่ค่อยแพง คนที่จับมาขายก็คนที่ไม่กินนั่นแหละ
2.ถึงหาดใหญ่เอามาพักไว้1-2คืน(แถวๆควนลังและเขต8)แล้วเดินทางยาวไปกรุงเทพ ราคาที่นี่จะขึ้นอีกเท่าตัว
3.ออกจากกรุงเทพไปชายแดนลาวเพื่อส่งต่อไปเวียตนามและจีน ราคาที่นี่จะแพงกว่าหาดใหญ่อีก2-3เท่าตัว
4.ถึงฝั่งลาวจะมีการ"ฉีดแป้งมันเข้าท้อง"เพื่อเพิ่มน้ำหนัก ราคาที่นี่จะตกกิโลละ2000-3000
5.สุดปลายทางที่ประเทศจีน เมื่อเข้าภัตตาคารแล้วเขาจะเฉาะหางเอาเลือดสดๆมาผสมเหล้าดื่มทันที หรือเอาเลือดไปดองเหล้าเก็บไว้กิน เนื้อเอาไปทำอาหาร คนมีเงินเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์สั่งมากิน
กระทู้โดย bana
- 21:14 น. 26 ก.พ 54
กระทู้โดย ทีมงานบ้านเรา
- 16:19 น. 25 ก.พ 54ศุลกากรปาดังฯจับ 2 นักค้าสัตว์ป่าชาวมาเลย์ลอบขนตัวนิ่ม 126 ตัวกว่า 2 ล้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กุมภาพันธ์ 2554 19:25 น.
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จับกุมสองนักค้าสัตว์ป่าชาวมาเลเซียลักลอบขนตัวนิ่ม 126 ตัว มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ผ่านด่านพรมแดน เพื่อส่งให้ขบวนการค้าสัตว์ป่าใน อ.หาดใหญ่ส่งต่อไปยังประเทศจีน
เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (24 ก.พ.) นายชวลิต พรหมรา นายด่านศุลกากร ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ พร้อมเจ้าหน้าด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จับกุม นายมูหมัด อัสรี ยิน นอร์ดิน อายุ 32 ปี และนายเจฟรี่ บินอับดุลรอมาน อายุ 33 ปี ชาวมาเลเซีย ขณะลักลอบขนตัวนิ่มจำนวน 126 ตัว ซึ่งซุกซ่อนมาในท้ายรถเก๋งจำนวน 2 คัน จากประเทศมาเลเซีย เพื่อไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ได้รับค่าจ้าง14,000 บาท
นายชวลิต พรหมรา นายด่านศุลกากร ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ เผยว่า ตัวนิ่มทั้งหมดจะส่งขายกันราคากิโลกรัมละ 5,000 บาท หากสามารถส่งต่อไปยังประเทศจีนจะขายได้ถึง ราคากิโลกรัมละ 12,000 บาท โดยตัวนิ่มที่จับกุมได้ในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ส่วนตัวนิ่มของกลางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รับไปดำเนินการอนุบาล ที่ศูนย์อนุรักษ์และฟื้นฟูสัตว์ป่าโตนงาช้าง เพื่อปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติต่อไป
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กุมภาพันธ์ 2554 19:25 น.
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จับกุมสองนักค้าสัตว์ป่าชาวมาเลเซียลักลอบขนตัวนิ่ม 126 ตัว มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ผ่านด่านพรมแดน เพื่อส่งให้ขบวนการค้าสัตว์ป่าใน อ.หาดใหญ่ส่งต่อไปยังประเทศจีน
เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (24 ก.พ.) นายชวลิต พรหมรา นายด่านศุลกากร ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ พร้อมเจ้าหน้าด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จับกุม นายมูหมัด อัสรี ยิน นอร์ดิน อายุ 32 ปี และนายเจฟรี่ บินอับดุลรอมาน อายุ 33 ปี ชาวมาเลเซีย ขณะลักลอบขนตัวนิ่มจำนวน 126 ตัว ซึ่งซุกซ่อนมาในท้ายรถเก๋งจำนวน 2 คัน จากประเทศมาเลเซีย เพื่อไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ได้รับค่าจ้าง14,000 บาท
นายชวลิต พรหมรา นายด่านศุลกากร ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ เผยว่า ตัวนิ่มทั้งหมดจะส่งขายกันราคากิโลกรัมละ 5,000 บาท หากสามารถส่งต่อไปยังประเทศจีนจะขายได้ถึง ราคากิโลกรัมละ 12,000 บาท โดยตัวนิ่มที่จับกุมได้ในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ส่วนตัวนิ่มของกลางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รับไปดำเนินการอนุบาล ที่ศูนย์อนุรักษ์และฟื้นฟูสัตว์ป่าโตนงาช้าง เพื่อปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติต่อไป