ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

น้ำลดตอผุด! เงินหาย2หมื่นล้าน

เริ่มโดย Go6 TV, 23:47 น. 23 ส.ค 55

Go6 TV

น้ำลดตอผุด! เงินหาย2หมื่นล้าน มาร์คทำสัญญาขาย1.9ล้านตัน ขายจริงแค่2พันตัน


กลุ่มผู้อกหักส่งออกข้าวจากการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่ผ่านมา
เสนอ "กิตติรัตน์" ตรวจสอบสัญญาย้อนหลัง
สงสัยรัฐเสียประโยชน์ เหตุเอกชนไม่มารับมอบข้าว
เผย "เอ็มทีฯ" ได้รับสัญญาขายข้าวกว่า 1.9 ล้านตัน
แต่ส่งออกจริงแค่ 2,000 ตัน ตั้งคำถามส่วนที่เหลือหายไปไหน

แม้ว่านางพรทิวา นาคาศัย กับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
จะกลายเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับอดีตรองนายกรัฐมนตรีไปแล้ว
แต่ผลการอนุมัติขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลเพื่อการส่งออกไม่น้อยกว่า 1.9 ล้านตัน
มูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท ให้กับบริษัทเอ็มที เซ็นเตอร์เทรด
ผู้ส่งออกข้าวในเครือเม้งไต๋ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ อ.ม่วงสามสิบ
ที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 10 ล้านบาท ยังไม่จบ

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
ขณะนี้มีผู้ส่งออกข้าวที่ผิดหวังจากการเปิดประมูลดังกล่าว
ได้เรียกร้องให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี
และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ตรวจสอบสัญญาการซื้อขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลย้อนหลัง
ในสมัยของนางพรทิวา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ที่ระบายข้าวไปแล้ว 3-4 ล้านตัน
จากเดิมที่มีสต๊อกอยู่ในระดับ 5-6 ล้านตัน ในเดือนมกราคม 2553

ทั้งนี้ รัฐบาลชุดที่ผ่านมา
ได้ทยอยระบายสต๊อกข้าวเรื่อยมาจนถึงลอตสุดท้ายที่เปิดระบายในเดือนสิงหาคม 2553
และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก
เนื่องจากเป็นการเปิดประมูลเฉพาะกลุ่ม
ส่งผลให้มีบริษัทผู้ส่งออกข้าวเพียง 4 รายเท่านั้นที่สามารถซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้
ประกอบด้วย
บริษัทเอเชีย โกลเด้นท์ไรซ์
บริษัทนครหลวงค้าข้าว
บริษัทข้าวไชยพร
และบริษัท เอ็มที เซ็นเตอร์เทรด จำกัด

แหล่งข่าวกล่าวว่า 3 บริษัทแรกถือเป็นท็อปไฟฟ์ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศ
และมีความสามารถที่จะเข้าถึงข้าวในสต๊อกรัฐบาลมาทุกสมัย
ส่วนบริษัทเอ็มทีฯนั้นน่าสนใจมากกว่า
เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดเล็กและไม่เป็นที่รู้จักในวงการ
แต่คว้าสัญญาซื้อขายข้าวไปได้ถึง 1.9 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าที่ 3 บริษัทข้างต้นได้รับ
แม้ว่าถึงที่สุดแล้ว
เอ็มทีฯจะไม่สามารถหาเงิน 690 ล้านบาท มาวางค้ำประกันสัญญาซื้อขายข้าว
ทั้ง 1.9 ล้านต้นได้ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ต่อมามีข้อน่าสงสัยว่า ทำไมรัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายข้าว
ที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในขณะนั้น
ได้อนุมัติให้เอ็มทีฯซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้อีกเป็นครั้งที่ 2
ในปริมาณ 450,000 ตัน มูลค่า 5,000 ล้านบาท
ทั้ง ๆ ที่การทำสัญญาข้าวลอตแรก 1.9 ล้านตันก็แสดงให้เห็นแล้วว่า
บริษัทไม่มีความสามารถในการหาเงินมาวางค้ำประกันได้

นอกจากนี้ ยังมีข้อน่าสังเกตว่า
การขายข้าวให้เอ็มทีฯทั้ง 2 ลอต เป็นราคาที่เท่ากันทั้ง 2 ครั้ง ในราคาตันละ 12,000 บาท
ทั้ง ๆ ที่ราคาข้าวในตลาดขณะนั้นเคลื่อนไหวอยู่ในระดับตันละ 13,000-14,000 บาท
นั่นหมายความว่า นอกจากจะให้โอกาสกับบริษัทนี้แล้ว ยังให้ขายข้าวในราคาที่รัฐขาดทุนด้วย

"การขายข้าวลอตที่ 2 ไม่ได้จบลง แค่นี้
เพราะมีกระแสข่าวว่า มีการนำเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
ของวิทยาลัยโปลีเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาให้บริษัทนี้
วางค้ำประกันค่าข้าว แต่เรื่องก็เงียบไปพร้อม ๆ กับการเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่"

ล่าสุด ได้มีการตรวจสอบข้อมูลการส่งออกข้าวของคณะกรรมการตรวจข้าว
-คณะกรรมการสาขาข้าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
พบว่า บริษัทเอ็มทีฯมีการส่งออกข้าวในระดับที่ต่ำ
ซึ่งไม่สอดคล้องกับการได้รับสัญญาซื้อขายข้าวจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา
โดยปี 2553 มีปริมาณส่งออกข้าวไปเพียง 480 ตัน
และช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 ส่งออก 1,430 ตัน
รวมมีปริมาณการ ส่งออกข้าวไม่น่าเกิน 2,000 ตัน

รัฐบาลชุดที่ผ่านมาเปิดระบายข้าวใน สต๊อกครั้งสุดท้าย
ในช่วงเดือนสิงหาคม 2553 คาบเกี่ยวต้นปี 2554 มีปริมาณข้าวส่งออกประมาณ 4 ล้านตัน
และหากคำนวณการส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 600,000-700,000 ตัน
จะต้องใช้เวลาประมาณ 5 เดือน (150 วัน)
หรือส่งออกหมดไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2554
ตามที่บริษัทผู้ส่งออกข้าวที่ได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวในสต๊อก
รัฐบาลขอขยายระยะเวลารับมอบข้าวจาก 90 เป็น 150 วัน

"ตรงนี้เราอยากให้คุณกิตติรัตน์เข้ามาตรวจสอบการส่งออกข้าวของบริษัท
ที่ได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลในสมัยที่ผ่านมา
ว่ามีการทำสัญญา การค้ำประกัน ทยอยรับมอบข้าวกันอย่างไร
และมีการทิ้งสัญญาไม่มารับมอบข้าวหรือไม่
เพราะสุดท้ายแล้ว รัฐบาลจะเป็นฝ่ายเสียประโยชน์
หากเกิดกรณีไม่ยอมวางค้ำประกัน หรือไม่มารับมอบข้าว มีการลงโทษหรือไม่
ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปแบบนี้" แหล่งข่าวกล่าว

ส่วนกรณีการเปิดรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดใหม่ที่กำหนดไว้ว่า
จะรับจำนำข้าวขาว 15,000 บาท ข้าวหอมมะลิ 20,000 บาท
ล่าสุดได้มีการเรียกประชุมเพื่อชี้แจงนโยบายการรับจำนำข้าวกับทุกภาคส่วน
มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
ปรากฏที่ประชุมไม่สามารถกำหนดแนวทางและวิธีการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี  2554/2555
ได้ เพียงแต่ปรับเลื่อนระยะเวลาเริ่มโครงการจำนำจาก 15 เป็น 7 ตุลาคมนี้แทน