ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มาเลย์พร้อมร่วมดับไฟใต้ ยันไม่กระทบสัมพันธ์ 2 ประเทศ

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 11:11 น. 08 ก.ย 55

ทีมงานบ้านเรา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   8 กันยายน 2555 11:07 น.   

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือทวิภาคีกับนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่า ได้หารือถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความมั่นคง ต่อกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีการนำธงชาติมาเลเซียปักในที่เกิดเหตุ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ให้ความมั่นใจในความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ โดยยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเลเซีย แม้จะมีความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น พร้อมยืนยัน ให้ความร่วมมือที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน โดยมาเลเซียสนับสนุนการแก้ปัญหาอย่างสันติ และการพัฒนา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนที่ต้องเสริมสร้างความปลอดภัย โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจสอบ

          ส่วนปัญหาบุคคลสองสัญชาติ เป็นเรื่องที่เห็นตรงกันที่จะเร่งรัดเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเป็นหัวข้อในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-มาเลเซีย ที่มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในเดือนตุลาคมนี้

          นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือถึงการแก้ไขปัญหายางพารา ที่ทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ต้องหารือร่วมกันเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพารา เพราะต้องยอมรับว่าการพัฒนา ต้องทำให้ประชาชนมีการกินดีอยู่ดี จึงจะเพิ่มเสถียรภาพด้านความมั่นคงในระยะยาว
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

puiey

ขอให้แก้ปัญหาให้ได้นะครับ เบื่อกับการก่อการร้ายเต็มทนแล้ว
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

คนรือเสาะรู้ดี

มาเลย์นะหรือจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ใครเชื่อยกมือขึ้น?ผมเกิดมาก็เห็นว่าบ้านผมมีโจรชื่อดังแล้วหลายคน ตั้งแต่สมัยขุนโจร"มะอีซอ"ที่ทางการไม่สามารถจับตัวได้ จนบัดนี้หน้าตาก็ยังไม่รู้ว่าเป็นยังไง?หลังจาก"มะอีซอ"ก็มีุขุนโจรทะยอยเปิดตัวตามมาเป็นกะตั๊ก จำไม่หมด แต่ที่เหมือนกันคือพวกขุนโจรเหล่านี้ใช้วิธีเดียวกันหมดคือ...ก่อคดีร้ายแรงในบ้านแล้วหนีไปกบดานบ้านเพื่อนหรือประเทศเพื่อนบ้าน เกือบทั้งหมดไปอยู่แบบเศรษฐีมีกิจการใหญ่โตและอยู่อย่างเปิดเผย จำได้ว่าสมัยนั้นทางการไทยหมดปัญญาปราบ(เหมือนเดี๋ยวนี้)ก็ขอร้องให้มาเลย์ช่วย ให้ตายต่อหน้าหลอดตะเกียบเถอะครับ..ผมไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นว่าทางการมาเลย์ช่วยจับส่งมาให้เลยสักคน
จริงๆแล้วเหตุการณ์ความไม่สงบใน3จชต.มีมาตลอดระยะ50ปีที่ผ่านมา บางช่วงรุนแรง บางช่วงเบาหน่อยไม่ค่อยเป็นข่าวใหญ่โต แต่พอต้นปี47เป็นต้นมามันรุนแรงระดับมโหฬาร หรือระดับโลกก็ว่าได้ ที่ยังเหมือนเดิมตลอดระยะ50ปีคือก่อคดีร้ายแรงในเมืองไทยแล้วหนีไปกบดานประเทศเพื่อนบ้าน และไม่เคยเห็นเขาช่วยจับให้เลย...สักคน
ถ้าบุญเก่ายังเหลืออยู่บ้าง ผมอาจจะได้เห็นความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมก็ได้ สำหรับนายกฯหญิงแล้วเรื่องแค่นี้"เอาอยู่" มีคนเชิดฝีมือดีซะอย่าง สะบายบรื๋อ

เด็กใหญ่

คนพื้นที่นี้ พูดตรงๆอย่างนี้ ไปฟังคนที่อื่นเดาก็บ้าแล้ว

คนรือเสาะรู้ดี

และคนไทยจงรับรู้ไว้ด้วยว่า มาเลย์เขามองเรายังไง?เขาเห็นเราเป็นแค่ตัวตลกอาเซียน ข่าวสารคดีเปรตๆในบ้านเราที่พาดหัวใหญ่โตเขาเอาไปพาดหัวต่อเพื่อให้คนของเขาดูแล้วช่วยกันเหยียบซ้ำและ"ไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง" แต่พอมีข่าวดีๆที่เป็นหน้าเป็นตา เขากลับเมินเฉยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ยกตัวอย่าง..ถ้าฟุตบอลเขาชนะเรา รุ่งขึ้นพาดหัวทุกฉบับ แต่พอเราไปได้แชมป์โลกอะไรสักอย่าง ไม่ต้องไปหา ข่าวทำนองนี้เขาไม่ลงให้หรอก ผิดกับสื่อของเราที่เปิดกว้างกว่า
ต่อหน้าสาธารณะชนเช่นเวลาผู้นำเจอกันในเวทีระดับชาติ เขาจะแสดงน้ำใจเป็นห่วงเป็นใยพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ ผู้นำประเทศอื่นๆเห็นเข้าต้องชมเชย เอาไปเผยแพร่ทั่วโลก เขารับคะแนนไปเต็มๆ แต่พอลงจากเวทีถ้าพูดได้เขาคงอยากจะพูดว่า"ไม่ใช่เรื่อง" มีแต่ฝ่ายเรานี่แหละที่วาดหวังไว้เต็มกระโปรง คิดว่าสักวันหนึ่งเขาต้องช่วยเราจับผู้ก่อการร้ายให้แน่ๆ และก็คอยๆๆๆๆๆๆ คอยจนเปลี่ยนรัฐบาลมาเป็น10ชุดแล้ว ไหนล่ะโจรใต้?นี่หรือความร่วมมือจากมหามิตรผู้ใกล้ชิดที่สุด?
เมื่อทบทวนความทรงจำตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย มีแต่ข่าวลือว่า"ประเทศเพื่อนบ้านหนุนหลังโจรใต้"มาตลอด ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ แม้ตอนนี้ก็ยังมีข่าวทำนองนี้ และก็ยังไม่มีใครเชื่อ
น่าจะมีแต่ผมนี่แหละ....ที่เชื่ออยู่คนเดียว  ส.โขกกำแพง

ตอแหลหน้าตาย

ให้มาเลย์ช่วยจับโจรใต้เหรอ ผมว่าให้นายกฯมาเลย์กินหมูให้สื่อดูผมยังจะเชื่อมากกว่า แต่ไหนแต่ไรก่อเรื่องเสร็จก็หนีไปซุกหว่างขาผู้หญิงในมาเลเซียทุกที ผมไม่เคยได้ยินว่ามาเลย์เคยจับโจรใต้ส่งตัวกลับมาให้เรายิงเป้าเลยซะคน มีแต่จะเรียกร้องให้ไทยยกระดับความรุนแรงให้เป็นเรื่องของนานาชาติเข้ามาเสือกกิจการภายในไทยได้ รัฐบาลไทยไม่เคยมีนโยบายในแนวรุก ป้องปราม ในการจัดการกับพวกโจรถ่อยพวกนี้ มีแต่ไปกราบตีนโชว์ แจกเงิน แจกของ แจก สารพัดแจก โดยไม่ได้เข้าถึงความต้องการของบุคคลเหล่านี้ ใช้คนที่ไม่รู้จักพื้นที่และวัฒนธรรมท้องถิ่นมาทำงาน อีกอย่างทำไมถึงไม่ตัดถนนยุทธศาสตร์เลียบชายแดนตั้งแต่สตูลไปจนถึงนราธิวาส แบบทางเหนือที่ตัดถนนเลียบชายแดนตั้งแต่เชียงรายมาจนถึงตาก ซึ่งถนนแนวนี้จะช่วยในการตรวจจับพวกทำผิดกม.ได้ง่าย ปล่อยให้พวกจัญไรนี้เที่ยวก่อความรุนแรงเข้าออกโดยสะดวก เพราะมาเลย์ดีแต่พูดไม่เคยให้ความร่วมมือจริงจังในการจับกุม
เพื่อนบ้านแบบนี้อย่ายอมให้เขาเอาเปรียบเราเกินไป ผู้นำของเราไม่เคยมีใครกล้ากดดันมาเลย์เรื่องนี้เลยซะคน มีแต่ง๋อเขาตลอดแล้วแบบนี้เมื่อไหร่ภาคใต้จะสงบล่ะ ในเมื่อมาเลย์อยากได้แต่ชอบตอแหล ส.บ่น ส.บ่น ส.บ่น ส.บ่น ส.บ่น ส.บ่น ส.บ่น ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง

เด็กใหญ่

ผมได้อ่าน ผุ้เขียนใช้นามปากกาว่า "สนต้นที่เก้า" ผู้เชี่ยวชาญ ด้านรัฐศาสตรการปกครองของมาเลย์เซีย จากเวปhttp://www.citymayors.com/politics/malaysia_locdem.htm แล้วอดที่จะคัดบางตอนมาให้เพื่อนๆในนี้อ่านไม่ได้
คนที่ยังไม่ได้อ่าน จะได้อ่านซะเลย หากใครต้องการความรู้แบบเต็มๆก็เปิดอ่านได้ที่เวปดังกล่าว.
อ่านแล้วจะได้ความรู้เพื่อเป็นข้อมูลเกี่ยวกับภูมิหลังมาเลย์. คนชายแดนติดกันอย่างเราๆจะได้รู้จักชาติมาเลย์ในรูปแบบแก้ผ้าประชาธิปไตย์แบบมาเลย์ซะหน่อย และเพื่อสนับสนุนข้อมูลที่ว่ามาเลย์เซียเล่นการเมืองกับไทยตลอดเวลา อยู่เบื้องหลังกองกำลังแบ่งแยกดินแดนในไทยนั้น น่าเชื่อถือหรือไม่ ดังข้อความต่อไปนี้...
""""จริงๆแล้วการเลือกตั้งท้องถิ่นของประเทศมาเลเซียนั้นเมื่อก่อนก็เคยจัดขึ้นมาแล้ว  แต่ต้องถูกยกเลิกไปเมื่อปี 1970 นั้นเอง  หลังจากนั้นเป็นต้นมาเทศมนตรีหรือผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องะถิ่นก็มาจากการแต่งตั้งของ Menteri  Besar โดยตรง  และชื่อที่ถูกเสนอขึ้นไปจะมาจากการเสนอของพรรคการเมืองที่ได้รับชัยชนะในรัฐนั้นๆ  หากมองในแง่นี้เทศมนตรีหรือผู้นำในระดับท้องถิ่นเหล่านี้ก็จะไม่มีอิสระในการบริหารเท่าที่ควร  พวกเขาจะขึ้นตรงต่อผู้ที่แต่งตั้งเขามาเท่านั้น  หากมองในเรื่องของประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว  การเลือกตั้งที่มีในระดับท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ดีซึ่งประเทศมาเลเซียเองนับว่ามีการพัฒนาล่วงหน้าประเทศไทยไปมาก  แต่แล้วทำไมประเทศนี้ต้องยุติการเลือกตั้งตัวแทนในระดับท้องถิ่นเสีย  มีสิ่งดีๆอยู่แล้วทำไมต้องยกเลิก 
เรื่องนี้มีคำตอบครับ
      อย่าลืมว่าประเทศมาเลเซียเป็นประเทศแบบสหพันธ์รัฐซึ่งในที่นี้หมายถึงรัฐต่างๆของมาเลเซียเองก็ยังมีกฎหมายเป็นของตนเองด้วย  และแต่ละรัฐก็มีผู้บริหารที่มาจากการเลือกตั้งเหมือนดังที่เกิดขึ้นในระดับประเทศทั่วไป  รวมไปถึงในระดับท้องถิ่นประเทศนี้ยังเปิดโอกาศให้มีการเลือกตั้งในระดับล่างสุดด้วย  แล้วทำไมอยู่ดีดีประเทศมาเลเซียต้องระงับไม่ให้มีการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น  เรื่องนี้มีอยู่ว่าเราคงทราบดีว่าเมื่อครั้งหนึ่งหลังจากที่มาลายาได้รับเอกราชมีการชวนรัฐต่างๆเข้าร่วมกับมาลายาเพื่อก่อดังสหพันธ์รัฐมาเลเซียผู้ที่ได้รับชวนเข้าร่วมได้แก่ ซาบะห์  ซาราวัค บรูไน  และสิงค์โปร   ท้ายที่สุดบรูไนไม่ยอมเข้าร่วม  แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่บรูไน  การที่สิงค์โปรเข้าร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับมาเลเซียนั้นมีประเด็นหนึ่งซึ่งชาวจีนที่อยู่ในสิงค์โปรไม่เห็นด้วยคือเรื่องของการให้สิทธิพิเศษแก่ชนเชื้อชาติมาลายู  ซึ่งทำให้เกิดการจราจลจนทำให้มีผู้เสียชีวิต  เหตนี้ทำให้สิงค์โปรต้องแยกตัวออกไปในที่สุด  ซึ่งความไม่พอใจในเรื่องดังกล่าวยังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน
     การเกิดการจราจลระหว่างชาติพันธุ์หลังจากการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในปี 1969 ซึ่งมีพรรคการเมืองหนุนหลัง ทำให้มาเลเซียตระหนักว่าหากปล่อยให้พรรคการเมืองก้าวลงไปถึงในระดับรากหญ้าแล้ว(การปกครองส่วนท้องถิ่น)อาจจะทำให้เกิดการต่อต้านแนวคิดหรือความต้องการในระดับชาติได้  รัฐบาลกลางมีความกังวลเป็นอย่างมากในการที่จะป้องกันการแตกหักของประชาชนที่อาจมีขึ้นในอนาคตได้หากปล่อยให้มีการแข่งขันกันในระดับท้องถิ่นขึ้นอีก (กลัวประวัติศาสตร์ซำ้รอย) ซึ่งปัจจุบันก็มีความพยายามให้การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นกลับมาอีกครั้ง
      จากเรื่องที่นำมาเสนอนี้ทำให้เห็นถึงจุดอ่อนของเราและเพื่อนบ้านที่ขาดความเข้าใจกันในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่อาจทำให้การประสานงานหรือการร่วมมือใดๆเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นอันเนื่องมาจากการไม่เข้าใจเรื่องราวเหล่านี้  ซึ่งจะเห็นได้ว่าเราไม่ค่อยที่จะทำความรู้จักในเชิงลึกกับประเทศเพื่อนบ้านเท่าที่ควร  บางครั้งเราอาจรู้จักกับเพื่อนบ้านเหล่านี้ผ่านทางปรนะเทศที่สามที่อยู่ห่างไกลด้วยซำ้  ซึ่งจริงๆแล้วเราน่าจะรู้จักเพื่อนบ้านเหล่านี้ดีที่สุดเพราะเขาอยู่ใกล้กับเรามาก.....