ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

“มาร์ค” ลงตรวจภัยพิบัติเมืองคอน เร่งเชื่อมถนน-ตั้งงบ 6 พันล.

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 10:19 น. 11 เม.ย 54

ทีมงานบ้านเรา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    9 เมษายน 2554 22:50 น.

นครศรีธรรมราช - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ลงพื้นที่ตรวจเหตุภัยพิบัติน้ำท่วมใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งถนนหนทาง สะพานยังถูกตัดขาดอีกหลายแห่ง จึงได้เร่งให้มีการเชื่อมต่อเพื่อส่งความช่วยเหลือ โดยรัฐบาลได้เตรียมเงินเยียวยาจำนวน 6,000 ล้านบาท

       วันนี้ (9 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.40 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ, นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.นครศรีธรรมราช น.ส.พิมภัทราวิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบชีนุก มาลงยังสนาม ฮ.ชั่วคราว ที่โรงเรียนบ้านเผียน หมู่ที่ 10 ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พบปะกับประชาชนจำนวนนับพันคนอย่างอบอุ่น
       
       นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับประชาชนผู้ประสบภัย ทั้งนี้รัฐบาลจะเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งด้านที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน และเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยครัวละ 5,000 บาท โดยได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ 6,000 ล้านบาท เพื่อรองรับ
       
       ขณะเดียวกันได้กำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างเชื่อมทางสัญจรที่ เสียหายให้เร็วที่สุด เพื่อสามารถเดินทางติดต่อประสานงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น ขณะนี้ได้สั่งการให้ จังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายให้แล้วเสร็จภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อเสนอต่อ ครม.พิจารณาอนุมัติงบประมาณในการช่วยเหลือต่อไป คาดว่าหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์จะสามารถอนุมัติงบให้แล้วเสร็จ และขอร้องให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแจ้งข้อมูลตามความเป็นจริง กระบวนการความช่วยเหลือจะได้มีความรวดเร็วมากขึ้น
       
       ต่อจากนั้น คณะนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ด้วยรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ เข้าไปยังบริเวณดินถล่มกวาดบ้านเรือนชาวบ้าน สวนผลไม้ และตรวจสอบความเสียหายของฝายน้ำล้น บ้านอ่าวทุ่งยางแดง หมู่ที่ 10 ตำบลเทพราช อำเภอสิชล ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายจากเหตูการณ์ดินโคลนถล่มบริเวณดังกล่าว มีประชาชนกว่า 60 ครัวเรือนที่จะได้รับผลกระทบจากดินและหินลงมาทับเส้นทาง สะพานและบ้านเรือนเสียหาย ส่วนฝายน้ำล้นดังกล่าวนั้นถูกกระแสน้ำพัดจนพังไปอย่างสิ้นเชิง
       
       ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวกล่าวว่า พื้นที่ตรงจุดนี้เป็นที่ที่อุดมสมบูรณ์ จึงมีการสร้างฝายน้ำล้นขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนได้เก็บกักน้ำไว้ใช้ แต่ด้วยความรุนแรงของน้ำได้กวาดเอาทุกอย่างไปหมดทั้งบ้านเรือน สวนผลไม้ซึ่งในย่านนี้เป็นสวนทุเรียนจำนวนมาก ธารน้ำเปลี่ยนไปจากเดิมกัดเซาะทุกอย่างหายไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประสานงานในการหาที่อยู่และ ที่ทำกินให้กับชาวบ้านที่สูญเสียที่ดินทำกินกลายเป็นธารน้ำไปอย่างสินเชิง
       
       บินต่อลงนบพิตำ เส้นทาง-ที่ทำกินเสียหาย
       
       ต่อมานายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชีนุก บินต่อไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวโรงเรียนนบพิตำวิทยา เข้าพบปะเยี่ยมเยียนประชาชน โดยมี พ.อ.สมชาย ภุมรินทร์ รองเสนาธิการ ทภ.4 ได้กล่าวรายงานถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทหารที่ต้องบินในภารกิจขนส่งเสบียง และอพยพรวมแล้ว 164 เที่ยวบินอพยพประชาชนออกมาจำนวน 777 คน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าว และแจ้งประชาชนถึงงบประมาณ 6,000 ล้านบาท ที่ ครม.อนุมัติไว้ในการช่วยเหลือครอบครัวละ 5,000 บาท
       
       จากนั้นได้เดินทางไปยังบริเวณสะพานกลาย ซึ่งเชื่อมเส้นทางระหว่าง อ.นบพิตำ และ ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลาซึ่งอยู่ในสภาพขาดอย่างสิ้นเชิง มีระยะทางกว่า 100 เมตรนายกรัฐมนตรีได้ไปยืนดูโดยมีชาวบ้านอีกฝั่งมายืนรอต้อนรับบนสะพานห่างไป กว่า100 เมตรไม่สามารถข้ามมาได้
       
       อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้แสดงความหนักใจเนื่องจากสะพานดังกล่าวขาดเป็นระยะทางยาวมาก ได้เร่งรัดให้ทางหลงชนบทหาวิธีการแก้ไข เนื่องจากขณะนี้ประชาชนยังไม่สามารถสัญจรใช้เส้นทางดังกล่าวได้ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี
       
       ยื่นหนังสือเร่งรัดนายกรัฐมนตรีช่วย-สมัครนายอำเภอแล้ว 3 คน
       
       นายสมชาย ชลสินธ์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสิชล เปิดเผยว่า ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในการขอความช่วยเหลือในพื้นที่อย่างเร่ง ด่วน คือเรื่องบ้านที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกินที่ถูกพังราบ และความช่วยเหลือในด้านค่าชดเชย รวมทั้งการเร่งรัดในเรื่องของการจัดหานายอำเภอมาประจำการ
       
       "ส่วนการรับสมัครนายอำเภอของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสิชล ขณะนี้มีผู้มายื่นความจำนงที่จะเป็นนายอำเภอแล้ว 3 คนและมีการติดต่อเพิ่มสมัครเข้ามาเรื่อยๆ จากหลายที่ หากยังไม่มีการแต่งตั้งนายอำเภอมาทำหน้าที่กำนันผู้ใหญ่บ้านอาจต้องตั้งนาย อำเภอมาทำหน้าที่เอง เพราะรับสมัครไว้แล้ว" ปธ.ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านนครศรีธรรมราชกล่าว
       
       พระองค์เจ้าศรีรัศม์ พระวรชายาฯเเสด็จเยี่ยมชาวสิชลพรุ่งนี้
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศม์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชการกุมารจะเสด็จเยี่ยมประชาชนในพื้นที่บ้านเผียนบน ต.เทพราช อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ในเวลาประมาณ 13.00 น. เพื่อทรงพระราชทานถุงของขวัญเพื่อปลอบขวัญประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ และพระราชทานของขวัญให้กับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่ให้การช่วยเหลือประชาชน อย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าสภาพบ้านเรือนของเจ้าหน้าที่บางคนเองจะอยู่ในสภาพเสียหายไม่แพ้ ประชาชนที่ประสบภัย
       
       ตชด.พาสุนัขค้นหาพ่อเฒ่าถูกน้ำพัดหาย 15 วันยังไม่พบตัว
       
       นางประคิ่น ทั่วด้าว อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 หมู่ 9 ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากทนายกิตติพันธ์ เพชรชู จ่าจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายเดชา กังสนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้ช่วยส่งหน่วยกู้ภัยไปค้นหานายบุญฤทธิ์ ทั่วด้าว อายุ 61 ปี สามี ที่ออกไปล่ามวัวและถูกกระแสน้ำป่าพัดพาร่างจมหายไปกับกระแสน้ำ เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 26 มี.ค. 2554 บริเวณริมคลองกลาย ในท้องที่หมู่ 9 ต.สระแก้ว จนถึงขณะนี้ยังค้นหาร่างของนายบุญฤทธิ์ไม่พบ และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งในวันเกิดเหตุ และนางประคิ่นได้แจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.สมบัติ จำปาทอง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
       
       ต่อมานายเดชา กังสะนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้นายธีระพงศ์ ช่วยชู ปลัดอำเภอหัวหน้างานทะเบียน ที่ทำการปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าประสานงานให้ความช่วยเหลือโดยขอกำลังจากตชด.42 พร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่น เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ และมูลนิธิไต้เต๊กตึ๊ง แต่การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยในจุดดังกล่าวกว้างขวาง ประกอบกับมีดินโคลนทับถมและทางน้ำเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยคาดว่าร่างของนายบุญฤทธิ์ น่าจะถูกดินโคลนทับถมอยู่ลึกเกิน 1 เมตร
       
       อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะพยายามทุกวิถีทาง เพื่อค้นหาศพนายบุญฤทธิ์ ให้เจอให้ได้ เพื่อให้ญาติ ๆ นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป ซึ่งทางนางประคิ่นภรรยาของผู้สูญหายพร้อมญาติๆ ก็มาช่วยค้นหาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
       
       ค้นหาครูโดดแม่น้ำตาปีต่อเนื่องยังไม่พบร่าง
       
       ส่วนความคืบหน้าในการค้นหาร่างของนายวิทยา เทพบุรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1796/18 ถนนท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นอาจารย์สอนสอนอยู่ที่โรงเรียนมารีย์พิทักษ์ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้กระโดดแม่น้ำตาปีจมหายไปต่อหน้าสายตาคนจำนวนมากเมื่อวานนี้ (8เม.ย.54) เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาอย่างต่อเนื่อง
       
       นายสมโชค บุญญาธิการ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยฉวาง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หลายส่วนได้พยายามติดตามค้นหาร่างของนายวิทยา ขณะนี้ยังไม่พบร่าง ดูจากกระแสน้ำที่ยังเชี่ยวแรงมากเชื่อว่าจะถูกพัดไปไกล และต้องรอเวลาให้ศพลอยขึ้นมา หากไม่ลอยขึ้นมานั้นเชื่อว่าต้องไปติดค้างอยู่ในเศษซากสวะต่างๆ ที่มีเป็นจำนวนมาก
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

คนผ่านมา

ให้เป็นความจริงนะ  ชาวบ้านเขารอคอยอยู่ ถ้าไม่ได้จะไปประท้วงหน้าทำเนียบ

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวแรก:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง