การเมือง กทม. ฐานะ พงศพัศ พงษ์เจริญ ยังเป็นรองคุณชาย

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย มติชน www.matichon.co.th

ไม่ว่าเกจิระดับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไม่ว่าข้าราชการประจำระดับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ล้วนออกมายอมรับตรงกัน

ตรงกันในสถานะอันเป็น "รอง" ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ

เท่ากับเป็นการยอมรับในสภาวะอันอ่อนด้อยกว่าระหว่าง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร

ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับความเหนือกว่าของพรรคประชาธิปัตย์ต่อพรรคเพื่อไทย

หากมองในแง่พรรคการเมือง จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เมื่อเดือนสิงหาคม 2547 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้รับเลือกด้วยคะแนน 911,441

การเลือกตั้งเดือนตุลาคม 2551 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้รับเลือกอีกครั้งด้วยคะแนน 991,018

การเลือกตั้งเดือนมกราคม 2552 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้รับเลือกด้วยคะแนน 934,602 คะแนน

จากปี 2547 ถึงปี 2556 คนของพรรคประชาธิปัตย์ยึดครอง กทม. นี่คือสถานะอันเหนือกว่าพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย

นี่คือสถานะอันเป็น "รอง" ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ

สถานะอันเป็น "รอง" นี้ยิ่งมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเมื่อนำคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์มาเปรียบเทียบกับคะแนนของพรรคเพื่อไทย

พรรคประชาธิปัตย์ยืนระยะอยู่ที่ 900,000 ขึ้นโดยตลอด

ลงสมัครหนแรกเมื่อปี 2547 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อาจได้ 911,441 ลงสมัครหนสองเมื่อปี 2551 ก็ทะยานไปที่ 991,018

เมื่อตกมาถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ในปี 2552 ก็อยู่ที่ 934,602

กล่าวสำหรับพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2547 นางปวีณา หงสกุล ได้ 619,039 คะแนน ปี 2551 นายประภัสร์ จงสงวน ได้ 543,488 คะแนน ปี 2552 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ได้ 611,669 คะแนน

อาจกล่าวได้ว่าตรึงอยู่ที่ 600,000 เป็นหลัก

เปรียบเทียบระหว่าง 900,000 ของพรรคประชาธิปัตย์ กับ 600,000 ของพรรคเพื่อไทยระยะห่างอยู่ที่ 300,000 คะแนน

หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รักษา 900,000 ไว้ได้ก็ย่อมชนะ

ขณะเดียวกัน หาก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ สามารถดึง 300,000 คะแนนมาเพิ่มให้กับ 600,000 คะแนนที่มีอยู่โดยพื้นฐานก็มีโอกาส

คำว่า "ขอโอกาส" อันออกมาจากปาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จึงอยู่ตรงนี้

อยู่ที่ 300,000 คะแนน

การเมืองยุคใหม่ การต่อสู้ด้วย "นโยบาย" ทรงความหมายและมีบทบาทเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย

ตรงนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อยู่ในจุดได้เปรียบและเหนือกว่า

ได้เปรียบตรงที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องจากยุค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน มาถึงยุคที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รับช่วงงานต่อ

กระนั้น จุดแข็ง 1 ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ คือ สภาวะ "ไร้รอยต่อ"

เป็นการประกาศบทบาทในสถานะ "สะพานเชื่อม" ระหว่างรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ กทม.

เท่ากับเสนอคำถามว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลกับ กทม.มีปัญหาหรือไม่

เป็นคำถามถึงคน กทม. เป็นคำถามถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อันเป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์

คน กทม.ต้องการให้ กทม.คานอำนาจกับรัฐบาล

หรือคน กทม.ต้องการให้การพัฒนาเติบใหญ่ของ กทม.ดำเนินไปอย่างประสานสอดคล้องกับพิมพ์เขียวใหญ่ของประเทศผ่านรัฐบาล

คำถามนี้มีลักษณะทางยุทธศาสตร์

ระยะจากเดือนมกราคมจนถึงวันที่ 3 มีนาคม มีโอกาสพลิกผัน แปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

พลิกผันจาก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากที่เป็นรองให้เป็นต่อ หรือดำเนินไปอย่างยืนยันว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ครองความเหนือกว่าตั้งแต่ต้นจนจบ

คะแนนจากคน กทม.คือคำตอบ

หน้า 3 มติชนรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2556

[นายไข่นุ้ย]

ได้ใครว้า

[baseballx89]

คนกทม.เค้าคงรู้นะครับว่าที่ผ่านมาทางรัฐบาลเพื่อไทยพยามทุกอย่างที่จะดิสเครดิตกทม. เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นเกมส์

[๛๏uๅellwu llสulwลิu๏๛]

เล่นการเมือง เงินคงดีกว่า รับราชการตำรวจ   

[puiey]

ที่แน่่ ๆ ไม่เอาเพื่อไทย เผาบ้านเผาเมือง แต่ก็แล้วแต่คนกรุงเทพจะคิดยังไง

[นายไข่นุ้ย]

ที่แน่่ ๆ ไม่เอาเพื่อไทย เผาบ้านเผาเมือง แต่ก็แล้วแต่คนกรุงเทพจะคิดยังไง

หากบ่าวเป็นคนกรุง บ่าวมีตัวเลือกแล้ว