ตม.ระนอง จัดแพทย์ดูแล 22 ชาวโรฮิงญา ตลอด 24 ชม.

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย เนชั่นทันข่าว http://breakingnews.nationchannel.com

พ.ต.ท. สมชาย จิตสงบ รองผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ระนอง เปิดเผยว่า จากการที่ทาง ตม.ระนอง ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ให้ช่วยรับฝากขัง 22 ชาวโรงฮิงญา ซึ่งเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ขณะที่ลอยเรือขึ้นฝั่งบริเวณทะเลอันดามันเขตพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อวันที่ 17 ม.ค.56 ที่ผ่านมา รวม 86 คน ซึ่งส่วนหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ได้จัดทำประวัติแล้วเสร็จ ก็ได้ทยอยนำมาฝากขังไว้ที่ ตม.ระนอง เนื่องจากมีความพร้อมเรื่องสถานที่

สำหรับชาวโรฮิงญาจำนวน 22 คนที่มาจาก จ.พังงา เดินทางมาถึงด่าน ตม.ระนอง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ม.ค.56 ที่ผ่านมา พบว่าขณะนี้ชาวโรฮิงญาทั้ง 22 คนต่างมีสีหน้า ยิ้มแย้มแจ่มใส มีสุขภาพดี โดยทาง ตม.ระนอง ได้ประสานเจ้าหน้าที่พยาบาลและแพทย์เข้ามาประจำที่อาคารควบคุมผู้ต้องกัก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด่าน ตม.ระนอง ตลอด 24 ชม.เพื่อดูแลชาวโรฮิงญา รวมถึงผู้ต้องกักอื่นๆ

พ.ต.ท.สมชาย กล่าวอีกว่า ทาง ตม.ระนอง เคยมีประสบการณ์ในการดูแลชาวโรฮิงญา ซึ่งจะยึดการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน 37 ข้ออย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ภายในสถานที่ยังมีห้องละหมาดให้ชาวโรฮิงญาประกอบพิธีทางศาสนา รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในขณะเดียวกันทางด่าน ตม.ระนอง คงจะไม่สามารถรับชาวโรฮิงญาได้มากกว่านี้ เนื่องจากปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมายถูกคุมขังและรอการส่งกลับเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากนำชาวโรฮิงญามาเพิ่มอีก หวั่นเกรงว่าจะแออัดเกินไป

พล.ต.มนัส คงแป้น ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาการทะลักเข้ามาของชาวโรฮิงญาที่ผ่านมาทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนแยก 1 ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมวางมาตรการรับมือผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลชาวโรฮิงญาที่ได้อพยพเข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมากหลังหมดช่วงฤดูมรสุม โดยพบว่าตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม มีผู้อพยพหลบหนีเข้าเมืองทางทะเลชาวโรฮิงญาลักลอบเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยแล้วรวม 2,817 คน และกำลังที่จะทะลักเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก

ซึ่งถือว่าผิดปกติกว่าทุกปีที่ผ่านมา ที่ผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวโรฮิงญาอพยกเข้ามาสู่ประเทศไทยเร็วกว่าทุกปี ทั้งยังมีจำนวนมาก จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจร่วมกันของทุกหน่วยทมี่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อผู้อพยพหลบหนีเข้าเมืองทางทะเลชาวโรฮิงญา

ที่ผ่านมาทาง กอ.รมน.ภาค 4 สย. 1 ได้เข้าดำเนินการสกัดกั้น ยับยั้ง ควบคุมผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลชาวโรฮิงญา โดยการปฏิเสธการเข้าเมืองและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยยึดถือแนวทางการปฏิบัติผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล (SOP) อย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามหลักการด้านมนุษยธรรม หลักศาสนา ต่อเพื่อนมนุษย์โดยละมุนละม่อม

สำหรับขั้นตอนการดำเนินการ การปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลชาวโรฮิงญาแบ่งออกเป็น 3 ขั้นดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นการสกัดกั้น ยับยั้ง และโน้มน้าว เป็นการดำเนินการเพื่อมิให้ชาวโรฮิงญาหลบหนีเข้ามาในประเทศ โดยจะทำการลาดตระเวนทางเรือและใช้เครือข่ายกำลังภาคประชาชนแจ้งข่าวสาร ขั้นที่ 2 ขั้นการควบคุมตรวจสอบ ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิเสธการเข้าเมือง และอำนวยความสะดวกในการเดินทาง

พล.ต.มนัส กล่าวอีกว่า แนวโน้มสถานการณ์ผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลชาวโรฮิงญา จากสถิติพบว่าในปี 2555 มีการอพยพเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งสาเหตุมาจากการเกิดปัญหาจราจลในรัฐยะไข่ ประเทศพม่า ซึ่งเป็นปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในเมืองซิลตเว รัฐยะไข่ ทางตะวันตกของพม่า ระหว่างพม่าพุทธ กับพม่าอิสลาม ซึ่งเป็นการส่งผลให้ชาวโรฮิงญาที่นับถือศาสนาอิสลามมีการอพยกมากยิ่งขึ้น

โดยพื้นที่ในฝั่งทะเลอันดามันด้าน จ.ระนอง พบหลายพื้นที่ที่ชาวโรฮิงญามักใช้เป็นจุดที่ลักลอบขึ้นฝั่งเข้าสู่ประเทศไทยประกอบด้วย บริเวณเกาะสินไน,เกาะช้าง,เกาะพยาม,เกาะกำใหญ่ และตามแนวชายฝั่งของ อ.กะเปอร์ และ อ.สุขสำราญ โดยในช่วงที่ผ่านมาทาง กอ.รมน.ภาค 4 สย. 1 ได้ดำเนินการผลักดันจำนวน 21 ครั้ง จำนวนผู้อพยพ 2,276 คน ดำเนินการผลักดันโดย กอ.รมน.ภาค 4 สย.ทร. จำนวน 7 ครั้ง ผู้อพยพ 541 คน

[puiey]

ขอบคุณเจ้าหน้าที่แทนชาวโรฮิงญาด้วยนะครับ เพราะเค้าก็เป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน