ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

บริการรับทำเว็บไซต์ทั่วราชอาณาจักร การันตีคุณภาพด้วยลูกค้า กว่า 300 เว็บ

เริ่มโดย thaiwebeasy, 14:09 น. 07 ส.ค 56


thaiwebeasy

เว็บไซต์ คืออะไร

เว็บไซต์
เว็บไซต์ (Web Site) คือ แหล่งที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารและสื่อประสมต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง ข้อความ ของแต่ละบริษัทหรือหน่วยงานโดยเรียกเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้ว่า เว็บเพจ (Web Page) และเรียกเว็บหน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ว่า โฮมเพจ (Home Page) หรืออาจกล่าวได้ว่า เว็บไซต์ก็คือเว็บเพจอย่างน้อยสองหน้าที่มีลิงก์ (Links) ถึงกัน ตามหลักคำว่า เว็บไซต์จะใช้สำหรับผู้ที่มีคอมพิวเตอร์แบบเซิร์ฟเวอร์หรือจดทะเบียนเป็นของตนเองเรียบร้อยแล้วเช่น www.google.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูลเป็นต้น
     

     สรุป เว็บไซต์ คือ ชื่อเรียกหรือที่อยู่ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการ
เว็บเพจ คือ หน้าแต่ละหน้าที่มีการเชื่อมโยงถึงกัน
โฮมเพจ คือ หน้าแรกที่เข้าสู่เว็บไซต์นั้น ๆ

   
     ส่วนประกอบของเว็บเพจที่สำคัญ มีดังนี้
1. ข้อความ (Text) ได้แก่ ตัวอักษร ตัวเลข ซึ่งอาจเป็นภาษาอังกฤษ ไทย หรือภาษา อื่น ๆ ก็ได้
2. กราฟิก (Graphics) ได้แก่ ภาพวาดและรูปภาพต่าง ๆ
3. มัลติมีเดีย (Multimedia) ได้แก่ ภาพเคลื่อนไหว ภาพวีดิทัศน์ เสียง
4. ลิงก์ (Link) ข้อความหรือรูปภาพที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปยัง เว็บเพจอื่น ๆ ได้ เราสามารถตรวจสอบได้ว่าส่วนใดเป็นลิงก์โดยนำเมาส์ไปนี้สัญลักษณ์เมาส์จะเปลี่ยนเป็นมือ ? แสดงว่าส่วนนั้นเป็นลิงก์

thaiwebeasy

สร้างรายได้ทางอินเตอร์เน็ต ทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง
  หลายคนพยายามที่จะแสวงหาโอกาสให้กับตนเอง เพื่อการหารายได้ ไม่ว่าจะเป็นรายได้เสริมหลังเลิกงาน หรือระหว่างการใช้อินเตอร์เน็ตสิ่งที่จะแนะนำต่อไปนี้ จะเป็นข้อมูลพื้นฐานทั่วไปว่า การที่จะหารายได้ทางอินเตอร์นั้นนั้น จะต้องมีการเตรียมการอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีการลงทุนใดๆเลย นอกจากค่าชั่วโมงอินเตอร์เน็ตที่ใช้ในการเชื่อมต่อซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนก็ทราบดีว่ามันต้องมี จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับการใช้บริการกับเครือข่าย แพ็คเกจและโปรโมชั่น ซึ่งอีกไม่นานในอนาคตอันใกล้นี้ก็มีข่าวดีสำหรับสถานศึกษาและภาครัฐที่จะมีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรีๆ นั่นก็หมายความว่า เป็นโอกาสทองเลยก็ว่าได้สำหรับผู้ที่คิดจะหาเงินทางอินเตอร์เน็ต เพราะจะมีผู้คนมากกว่า 10 ล้านคนในแต่ละวันของประเทศไทยเข้าใช้การค้นหาขู้มูลต่างๆทางอินเตอร์นั่นเอง
    อีเมลแอดเดรส เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี เพราะจะใช้ในการติดต่อสือสารต่างๆ และใช้ยืนยันว่า เรามีตัวตนจริงๆในโลกใบนี้ การสมัครอีเมลก็ทำได้ฟรีๆมีอยู่หลายบริการ ที่นิยมใช้คือ
     Gmail    Yahoo   Hotmail   ท่านสามารถคลิกเข้าไปสมัครได้เลย หากมีแล้วก็ให้ไปหัวข้อต่อไป       
    เว็บไซต์ หรือ บล๊อก ก็เป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้นๆก็ว่าได้ เช่นเดียวกันกับการเป็นพ่อค้าแม่ขายในตลาดนัดหรือในห้างสรรพสินค้า จำเป็นจะต้องมีแผง บุชท์ หรือร้านค้านั่นเอง จะว่าไปแล้วมันก็ยิ่งกว่าร้านค้า เพราะเปรียบได้กับเรามีพื้นที่หรือที่ดินสักแปลงใว้ในระบบอินเตอร์เน็ตนั่นเอง เราสามารถตกแต่งให้สวยงามเฉกเช่นการจัดสวน จัดสนาม หรือตกแต่งเพื่อดึงดูดฝูงชนให้เข้ามานั่นเอง
  ไม่ต้องตนกวิตกจริตไปว่ามันจะเสียตังค์ครับ เพราะว่าเราสามารถมีได้ฟรีๆ แต่มันจะแตกต่างจากเว็บไซต์ที่ต้องจดทะเบียนโดเมนเนมอย่างเป็นตุเป็นตะ เพราะนั่นมันเหมาะสำหรับการทำธุกรรมแบบเป็นล่ำเป็นสันจริงๆ หรือสำหรับบริษัท องค์กร หรือการมีสินค้าและบริการเป็นของตนเองซึ่งก็ไม่ยากเลยที่จะทำเว็บไซต์ เพราะปัจจุบันมีหลากหลายบริการที่เป็นแบบ All in one หมายความว่า มีบริการจดทะเบียนโดเมนเนมพร้อมเว็บสำเร็จรูปที่นำไปใช้ได้ทันที มีระบบตระกร้าสินค้า เว็บบอร์ด พูดง่ายๆว่า ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เหมาะกับทุกรูปแบบธุรกิจเลยทีเดียว
มันก็แหงมๆ..อยู่แล้วเพราะเมื่อจ่ายตังค์ให้อะไรๆก็ดีไปหมด
   
   หากสนใจแบบเสียตังค์ก็ลองเข้าไปดูที่นี่www.thaiwebeasy.com
   
สำหรับเว็บเพจหรือบล๊อกที่เป็นของฟรี ประสิทธิภาพก็ไม่ด้อยไปกว่าเว็บไซต์แบบจดทะเบียนโดเมนเนมแต่อย่างไรเพียงแต่อาจมีข้อจำกัดการใช้งานอยู่บ้าง ทำไงได้ของฟรียังไงมันก็คือฟรีหล่ะนะ แต่มันก็เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่ต้องการเสี่ยงต่อการขาดทุน เพราะไม่อยากลงทุนว่างั้นเถอะ 
    อาจสงสัยว่า มันจำเป็นด้วยหรือว่า การที่จะสร้างรายได้ออนไลน์ทางเน็ตนั้นต้องมีบล๊อกหรือเว็บไซต์    
ตอบตรงๆว่า ถึงแม้บางท่านบอกว่าไม่จำเป็น แต่แล้วขอแนะนำว่า ควรมีและจำเป็นมากๆ เพราะมันจะทำให้ข้อมูลของเราในการหารายได้ออนไลน์ดูมีพลังมากเลยที่เดียว เช่นเดียวกับเวลาที่เราซื้อของกินของใช้ หากซื้อในห้างหรือในร้านค้ามันก็คงจะดูดีกว่าซื้อตามแผงริมฟุตบาท หรือไม่ก็คงไม่อยากซื้อกับใครบางคนที่นำมาเสนอขาย หรือเคาะขายถึงประตูหน้าบ้านเหมือนขายตรงทั่วไป(มันน่ารำคาญ)
    บล๊อกฟรี ตัวแรกที่ขอนะนำคือ กูเกิลบล๊อก เพราะของเขาดีจริงๆครับใช้ง่ายผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วไป    
ก็ค้นหาได้ง่ายในเสริชเอ็นจิ้นของกูเกิล นอกจากนี้แล้วก็นำไปเข้าระบบสร้างรายได้กับเว็บอื่นๆได้สะดวกดี
อีกตัวหนึ่งที่ใช้ได้ดีพอๆกันก็คือ Space Windows Live ก็คือบล๊อกนั่นเองใช้ดีเช่นกันครับ
  ข้อแนะนำสำคัญ : บางทีอาจสงสัยว่า เมื่อสร้างบัญชีบล๊อกหรือสเปสแล้วจะพิมพ์เนื้อหาหรือใส่ข้อมูลอะไรเข้าไป ก็ขอแนะนำว่า จะเป็นอะไรก็ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวประทับใจที่อยากบอกเล่า บทกลอน ร้อยแก้วร้อยกรอง หรือแต่งนวนิยาย หรือประวัติตัวเองอะไรทำนองนั้น หรือจะเป็นสิ่งที่คุณใฝ่ฝัน วิชาการ บทความน่ารู้ พุทธพจน์ ฯลฯ ทำขึ้นมาสักหน้าสองหน้าก็พอ
    เว็บไซต์ฟรี เพื่อความดูดีมีสเนห์ ดังกล่าวแล้วข้างต้น การมีเว็บไซต์นั้นก็ไม่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้อง    
เรียนรู้ภาษาโปรแกรมประยุกต์ในการออกแบบเว็บไซต์แต่อย่างไร ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ก็ทำได้ ขอแนะนำ
  เว็บไซต์ฟรีของกูเกิล เหตุผลก็คือ ไม่มีบังคับซื้อขายหรือยัดเยียดของแถมโฆษณาภายหลัง
และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เชิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลของกูเกิลไม่มีวันล่ม เข้าดูได้ทั่วทุกมุมโลก และสามารถเลือกใช้รูปแบบเทมเพลทได้หลากหลาย พื้นทีความจุก็เหลือเฟือว่างั้นเถอะแต่สำหรับชื่อลิงค์พาร์สจะเป็นลักษณะนี้ จะไม่เหมือนลิ้งค์โดเมนเนม หรือดอทอื่นๆทั่วไป
  สรุปก็คือ ทางกูเกิลจะทำเป็นลิ้งค์พาร์ทเพื่อชี้ไปยังที่อยู่ของหน้าเว็บเพจของเรา
  ดังตัวอย่างข้างต้น เป็นที่อยู่หรือชื่อเว็บของเรา ซึ่งเราจะเป็นผู้ตั้งเอง เช่นคุณอาจจะตั้งชื่ออะไรก็ได้ หากเราจะใช้เป็นชื่อโดเมนเนมเลยก็ได้แต่ต้องเสียตังค์นั่นเอง หรือเมื่อเราใช้ไปสักระยะแล้วจึงเสียตังค์เช่าโดเมนเนมมาใส่ภายหลังก็สะดวกดีไม่มีบัญหาอะไร หรือจะใช้ลิ้งค์พาร์สดังกล่าวไปตลอดชีวิตก็ สามารถใช้ในการสร้างเงินล้านได้โดยไร้อุปสรรคทางโลกออนไลน์

thaiwebeasy

เพิ่มช่องทางการโปรโมทธุรกิจ ง่ายๆแค่มีเว็บไซต์ ไม่ว่าอยากได้ระบบไหน เรามีการปรับปรุงได้ตามที่ลูกค้าต้องการค่ะ โดยโปรแกรมเมอร์มืออาชีพ และ บุคลากรที่คอยซัพพอร์ต ระบบอย่างต่อเนื่องค่ะ

thaiwebeasy

ในการเลือก หน้าร้าน หรือทำเล ย่อมสำคัญ ในการสร้างธุรกิจ การเลือกสร้างเว็บไซต์ก็สำคัญเช่นกัน ไม่มีใครอยากทำแล้วมาทำใหม่ เพราะไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น เลือก บริษัทที่เปิดตัวแบบมืออาชีพ ค่าใช้จ่ายอาจจะแพงกว่า แต่ก็คุ่มค่าที่จะนำธุรกิจอันมีมูลค่ามหาศาลของคุณมาฝากไว้ให้เราดูแล นะค่ะ



thaiwebeasy

ในการเลือก หน้าร้าน หรือทำเล ย่อมสำคัญ ในการสร้างธุรกิจ การเลือกสร้างเว็บไซต์ก็สำคัญเช่นกัน ไม่มีใครอยากทำแล้วมาทำใหม่ เพราะไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น เลือก บริษัทที่เปิดตัวแบบมืออาชีพ ค่าใช้จ่ายอาจจะแพงกว่า แต่ก็คุ่มค่าที่จะนำธุรกิจอันมีมูลค่ามหาศาลของคุณมาฝากไว้ให้เราดูแล นะค่ะ


thaiwebeasy

เก็บมาฝากกันค่ะ

- ในการทำเว็บ ตอนแรกเลยไม่ควรคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้ หรือจะทำอย่างไรที่จะหาประโยชน์จากเว็บเราให้ได้มากที่สุด แต่ควรคิดว่าจะทำอย่างไรที่เว็บของเราจะให้ประโยชน์แก่คนอื่น หรือคนที่เข้ามาในเว็บเราได้มากที่สุด เพราะถ้าเว็บเรามีประโยชน์ให้ประโยชน์แก่คนที่เข้าชมเว็บเราได้ นั่นหมายถึงเว็บเรามีคุณภาพ คนเข้าเว็บก็จะมาเรื่อยๆเอง แล้วรายได้ก็ตามมาเอง โดยเฉพาะการขายแบนเนอร์มีจ่อให้คิวไม่ว่างเลยละครับ แต่ถ้าเราไปคิดแต่ว่าทำอย่างไรเว็บเราจะมีรายได้ เราก็จะมุ่งแต่หาผลประโยชน์คุณภาพที่แท้จริงของเว็บก็ไม่เกิด อาจทำให้เรามีรายได้จริง แต่ก็เป็นรายได้แบบไม่ยั่งยืน กับคนที่จะทำเว็บแล้วติดแอนเซ้นก็เช่นกันเลยครับ ถ้าเราทำเว็บสักเว็บแล้วหวังจะติดแอดเซ้น คิดแต่ว่าทำอย่างไรถึงจะติดสมัครแอดเซ้นผ่าน ขั้นแรกเราก็จะทำเพื่อแค่สมัครแอดเซ้นให้ผ่านเท่านั้น โดยไม่สนใจประโยชน์ที่แท้จริงของเว็บที่เราทำเลย ว่าทำแล้วมันเป็นประโยชน์อย่างไรกับคนเข้าเว็บ อย่างบางคนได้คำแนะนำมาว่า อัพบทความ 5-10 บทความแล้วยื่นสมัครแอดเซ้นถึงจะผ่าน พออัพบทความครบก็เลยยื่นสมัครไป ทั้งๆที่เว็บก็ยังหาคุณภาพไม่ค่อยได้ คนเข้าชมก็ยังแทบไม่มี มันก็ยากที่จะสมัครผ่าน หรือถึงสมัครผ่านไป ก็จะมีประโยชน์อะไร ไม่มีคนเข้าเว็บ ไม่มีคนคลิก รายได้ก็ไม่มี พอเป็นอย่างนี้ หลายคนก็บ่นว่า ทำแอดเซ้นมาตั้งนาน รายได้แทบไม่มี ท้อ เบื่อ ที่สุดก็เลิกทำไป

- ทำงาน อย่าคิดแต่ว่าจะได้เงิน/ผลตอบแทน จากงานเท่าไหร่ แต่จงคิดว่า เราจะทำอะไรให้องค์กร ให้บริษัทเขาได้บ้าง ถ้าเราแต่คิดแต่ว่าเราจะได้เงิน ได้ค้าจ้าง หรือผลตอบแทนจากองค์กรนั้นๆมากน้อยแค่ไหน ความสำเร็จในหน้าที่การงานก็ยากที่จะเกิด เพราะการที่บริษัท องค์กรใดจ้างงานเรา เขาย่อมต้องการให้เราทำประโยชน์ให้เขา ทำผลงานให้เขาอยู่แล้ว ไม่มีใครจ้างเราไปรอรับเงินเดือนสบายๆอยู่แล้วครับ ลองคิดถึงใจเขาใจเรา ถ้าเราเปิดบริษัท เราอยากจะรับคนที่หวังแต่จะมาเอาเงินเดือนเข้าทำงานหรือเปล่า? และคนที่เป็นเจ้าของบริษัท หรือเจ้าของธุรกิจนะครับ เขาต้องแบกรับอะไรๆหลายอย่างมากกว่าพนักงานประจำ เขาไม่มีรายได้แน่นอน แต่เขามีรายจ่ายที่แน่นอน เขาต้องรับความเสี่ยง ลูกค้าเขาไม่มีเขาก็ไม่มีรายได้ แต่เขายังคงต้องจ่ายเงินพนักงาน ถ้าในฐานะลูกจ้าง หรือพนักงานยังไม่สามารถคิดที่จะทำประโยชน์อะไรให้องค์กร ให้นายจ้างได้ อย่าคิดเลยค่ะที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ

สรุปค่ะ ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จ เราต้องคิดว่าเราจะทำประโยชน์ หรือจะนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์อะไรให้ผู้อื่นได้บ้าง แต่ถ้าเราแค่อยากมีเงินกินเงินใช้ไปวันๆ เราก็แค่คิดว่าเราจะหาเงินยังไง
ก็ลองเลือกกันเอาละกันค่ะว่าเราอยากจะประสบความสำเร็จจริงๆ หรือแค่อยากได้เงินมากินมาใช้ไปวันๆ

สุดท้ายอยากฝากคร่ะ"ยิ่งให้ ยิ่งได้" น้ำใจยังใช้ได้ทุกสถานที่ บนโลกใบนี้ค่ะ ยืนยัน

thaiwebeasy

เก็บมาฝากจร้า

ทำความเข้าใจเรื่อง ติดอันดับ Google กับ โฆษณาบน Google ต่างกันยังไง

       ห่างหายการเขียนบทความไปพักใหญ่ ( จริงๆ หลายพักแล้วล่ะ )  พอดีนั่งถูแกลบอยู่  ไม่ใช่อย่างนั้น  พอดีมีโปรเจคใหญ่เข้ามาเพราะน้อง ๆ ที่ไปแนะนำความรู้ให้เขา เขาไปบอกอาจารย์ว่าเราทำนู่นทำนี่ได้  โดนเลยครับ ๆ งานนี้ งานเข้าเลย โปรเจคใหญ่มากจริง ๆ จะขอ contact รายปี เขียน module กันระดับประเทศเลยทีเดียว มีการรับสมัครเรียกสัมภาษณ์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่งานประจำนะ  มีสอบคัดเลือกด้วย  งงเลยสิ  เป็นงานของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งจะใช้ module เชื่อมกับต่างประเทศ  เพราะฉะนั้นงานนี้ภาษาอังกฤษล้วน ๆ  น่าลุ้นน่าลองดีครับ  เผอิญว่าได้เครดิตทำโดยไม่ต้องสอบคัดเลือก แถมเป็นมือขวาอีกต่างหาก เลยงานเข้าซะแล้ว  พอละเดี๋ยวยาว แค่จะบอกว่าทำไมไม่ว่างมาเขียนบทความ

       ช่วงนี้รู้สึกได้เลยว่าลูกค้าที่ติดต่อเข้ามา จะถามเกี่ยวกับการติดอันดับใน Google search มีถามมากกว่า 80% ของลูกค้าที่โทรเข้ามา  ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากการอ่านหนังสือที่มีขายทั่วไป หรือเห็นโฆษณาว่าจะติด Google น่ะหรือ ง่ายดายมาก ไม่กี่นาทีก็ทำได้

       เห็นแล้วเหมือนกับความรู้สึกของการทำเว็บสำเร็จรูปแตกต่างยังไงกับเว็บที่รับทำ case by case   คนไม่มีความรู้ด้านนี้อ่านแล้ว เห็นแล้วคงคิดว่ามันเหมือนกันซะทีเดียว  จริง ๆ แล้วมันก็แค่คล้าย แต่ก็มีส่วนต่างที่จะแยกได้ชัด  แต่ผู้ให้บริการมักบอกแค่ว่าก็อยู่หน้าแรกของ Google ได้ละกัน   อยากให้ทำความเข้าใจกันก่อน  ซึ่งผมเองเคยเขียนเกี่ยวกับ Google ranking ไว้แล้ว 1 บทความ

ทำไมต้องแยกให้เห็นความแตกต่าง

    ให้เข้าใจว่าคุณได้รับบริการอะไรอยู่
    เวลาไปสอบถามใครจะได้แยกถูก บอกเขาถูกว่าเป็นสิ่งเดียวกัน ไม่ใช่คุยกันคนละอย่าง
    มันมีข้อดี ข้อเสียยังไง


      การที่เว็บไซต์จะติดอันดับใน Google เขาเรียกว่า Google ranking แต่ถ้าไปลงโฆษณาเสียเงินให้ Google อันนี้เขาเรียก Google adword

มาดูความต่างกัน

Google ranking  ทำโดยฝีมือของผู้พัฒนาเว็บ หรือบางทีไม่ได้ทำมันไปติดเอง ตรงนี้คือ การทำ SEO มีเทคนิคหลากหลายที่ Google ใช้ในการตรวจสอบ  ไม่ขอพูดถึง  จริง ๆ แล้ววิธีนี้ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย  ถ้าคุณทำได้เอง  ที่เสียเงินนี่คือเสียให้ผู้ที่รับทำ SEO หรือ Search engine optomize  เขาจะทำให้เว็บคุณติดอันดับเวลา search ด้วย keyword ที่กำหนด   ลองอ่านบทความเก่าผมดู  ถึงจะไม่ละเอียดก็เถอะ


Google adword  ทำได้โดยเสียเงินให้ Google หรือจะลงผ่าน agency ก็ได้  คำว่า agency ก็แค่เขาดูแลโฆษณาให้คุณ อาจมีส่วนลดได้บ้าง  แต่ไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรมาก คือไม่ได้ใช้เลยดีกว่า  ของ Ranking นี่ยากพอควร  อันนี้แค่จ่ายเงินให้ Google แล้วก็จะได้แสดงโฆษณาที่ด้านบนและด้านขวา เมื่อมีการ search ตาม keyword ที่กำหนด  เวลาใช้ Google จะเขียนว่า ลิ้งค์สปอนเซอร์ ผู้สนับสนุน  นั่นล่ะ adword



           เมื่อเข้าใจ 2 อย่างแล้ว  เวลาไปเห็นโฆษณาที่เขาลงว่า ทำให้เว็บคุณติดหน้าแรก Google ได้แน่นอน ต้องดูนะว่าเป็น Ranking หรือ adword เพราะราคาและเงื่อนไขผิดกันราวฟ้ากับเหวเลย   ผมเองไม่ค่อยชอบเวลาเห็นโฆษณาอะไรที่ของ 2 อย่าง จริง ๆ มันแค่คล้ายกัน แต่โฆษณาพยายามทำให้มันเป็นเหมือนกันเป๊ะ ในความเข้าใจของผู้บริโภค  ซึ่งส่วนใหญ่ผู้บริโภคไม่เคยศึกษา ตรวจสอบอยู่แล้วว่ามันต่างกันตรงไหน ยังไง  มองแค่ว่าผลมันออกมาก็เหมือน ๆ กันล่ะมั้ง

thaiwebeasy

 เก็บมาฝากกันต่อค่ะ

การโปรโมท web เพื่อให้เว็บไซต์ของท่านเป็นที่รู้จักได้นั้นท่านต้องเลือกที่จะทำอย่างไร และมีหลักการอย่างไรบ้างที่จะดึงดูดความสนใจให้มีผู้เข้ามาชมเว็บไซต์เราให้มากที่สุด และเมื่อมีผู้เข้ามาชมเว็บไซต์ท่านแล้วไม่เกิดความผิดหวัง โดยการโปรโมท webทางเราจะมีหลักการที่จะเลือกใช้คีย์เวิร์ดให้ถูกต้องและเหมาสมกับเนื้อหาในเว็บไซต์มากที่สุด โดยคีย์เวิร์ดที่ใช้มีผู้เข้ามาเสิร์ชในเว็บเสิร์ชอ็นจินด้วยไม่ใช่เป็นศัพท์เฉพาะมากจนเกินไป
การโปรโมท web โดยการทำ seo

การโปรโมท web โดยการทำ seo นั้นจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงสื่อโฆษณาที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับการโฆษณาประเภทอื่น และการโปรโมท web วิธีนี้ก็ทำได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง โดยการทำ seo หรือ search engine optimization คือการปรับแต่งเว็บไซต์ของท่านให้ติดอันดับต้นๆของการ search engine(คือ เครื่องมือค้นหาข้อมูลหรือโปรแกรมค้นหาข้อมูล) ซึ่งจะค้นหาด้วย keyword หรือคำ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่าน โดยหากเว็บไซต์ของท่านติดอันดับต้นๆ ของการ search engine หรืออยู่หน้าแรกในการเสิร์ชคือลำดับที่ 1 - 10 หรือหน้าที่สองคือลำดับที่ 11 – 20 ก็จัดได้ว่ามีผู้เข้าชมบ่อยที่สุด
การโปรโมท web โดยการทำ google adword

การโปรโมท web หรือโฆษณาผ่านระบบออนไลน์ด้วยวิธีการ search engine ในรูปแบบ PPC (Pay Per Click) หรือ CPC(Cost Per Click) โดยโฆษณาของคุณจะปรากฏให้เห็นตามคีย์เวิร์ด และเว็บไซต์ของท่านจะต้องอยู่ในส่วนของสปอนเซอร์ของกูเกิลซึ่งเมื่อทำการเสิร์ชนั้นจะอยู่ทางด้านขวาและด้านบนเสมอ แล้วเมื่อคลิดเข้าไปก็จะลิงค์ไปที่เว็บไซต์ที่เราได้ทำการกำหนดไว้ ซึ่งหากมีคนคลิกเข้ามาก็จะเสียค่าใช้จ่ายแต่จะไม่เสียค่าใช้จ่ายหากเป็นแค่การเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เพียงเท่านั้น และไม่มีการคลิก
เหตุใดจึงมีการโปรโมท web

การโปรโมทก็คือการทำให้มีคนรู้จัก หรือรู้ข้อมูลที่เราต้องการอยากสื่อให้คนอื่นได้รับรู้ได้รู้และมีความเข้าใจตรงกัน ดังนั้นการโปรโมท web ก็เป็นการโปรโมทหรือ โฆษณาประเภทหนึ่งผ่านระบบออนไลน์ที่เพื่อให้ได้กลุ่มลูกค้าตรงตามกลุ่มเป้าหมาย และทำให้เว็บไซต์ของท่านเป็นที่รู้จักและมีผู้เข้าชมกันมากที่สุด โดยจะเป็นตัวผลักดันให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จที่จะเข้าไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งการโปรโมท web ก็มีแนวทางให้เลือกทำกันอยู่มากมาย ท่านสามารถเลือกได้ว่าธุรกิจแบบท่านนั้นต้องโปรโมท web ในรูปแบบไหนถึงจะมีผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดในเว็บเสิร์ชเอ็นจิน ถ้าหากท่านมีความสนใจอยากจะโปรโมท web สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-187-0187
ประโยชน์ที่ได้รับจากการโปรโมท web

    สามารถโปรโมทเว็บ webได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้
    ทำให้เว็บไซต์ของท่านเป็นที่รู้จักมากขึ้น
    เสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือการโปรโมท web ที่ถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการโฆษณาประเภทอื่น
    สามารถใช้โปรโมท web ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ได้ลูกค้าตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่ท่านได้วางไว้
    ทำให้เพิ่มโอกาสในการขายและทำให้มีผู้คนเข้าถึงธุุรกิจของท่านมากขึ้นด้วย





thaiwebeasy

เทคนิคการเพิ่มยอดขายสินค้าในอินเตอร์เน็ต
ทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคนมากขึ้นทุกวัน จากผลสำรวจเราพบว่าแทบทุกบ้านสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ไม่ว่าจะผ่านคอมพิวเตอร์ หรือมือถือ ธุรกิจต่างๆจึงใช้อินเตอร์เน็ตในการหาลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า การขายบริการ หรือแม้แต่การหาสมาชิก อาทิเช่นธุรกิจเครือข่ายต่างๆ สิ่งที่เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ดำเนินธุรกิจต่างๆเหล่านี้ในอินเตอร์เน็ตนั่นคือ การหากลุ่มเป้าหมาย ทำอย่างไรให้ยอดขายในอินเตอร์เน็ตขยายตัวและเพิ่มมากขึ้น ต่อไปนี้ทางทีมงาน Thaiwebeasy จะนำความลับมาเปิดเผยให้คุณได้รู้เพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าในอินเตอร์เน็ตให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น
นี่เป็นเพียงการค้นหาส่วนหนึ่งจาก google ที่จะทำให้คุณเห็นว่ากลุ่มผู้สนใจสินค้ามาพบประกาศของคุณได้อย่างไร และจากนี้เราจะมาเจาะลึกวิธีการทำให้ประกาศของคุณติดในอันดับการค้นหาของ google โดยอาศัยทางผ่านคือเว็บไซต์
สิ่งสำคัญ เว็บไซต์ยังเพิ่มความตัดสินใจแก่ลูกค้าได้ง่ายขึ้นอย่างมาก ด้วยความน่าเชื่อถือและการเก็บข้อมูลที่ลูกค้าสามารถเปิดเข้ามาดูได้ง่าย และสะดวกในการสั่งซื้อ ทั้งลูกค้าและแม่ค้าด้วย สอบถามได้ฟรีที่ 090-1789889


thaiwebeasy

เคล็ดไม่ลับ การสร้างเว็บไซต์ให้ผู้เข้าชมติดใจเว็บไซต์คุณ

26 ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ให้ยอดวันละหมื่นห้า

หากคุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด คุณจะประสบความสำเร็จภายในหนึ่งปี ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเป็นภาษาไทย ยอดน่าจะได้ประมาณ 2000 คนต่อวัน หลายๆคนอาจจะไม่เชื่อว่าเป็นไปได้ ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ไม่เชื่อนั่นแหละดี เราจะได้พิสูจน์กันไปพร้อมๆกันเลยว่า อีกหนึ่งปีข้างหน้า ยอดเว็บของเราจะพุ่งถึง 2000 คนต่อวัน จริงหรือเปล่า? ลองมาทำตามไปพร้อมๆกันเลยครับ (บทความนี้ เน้นถึงการทำเว็บไซต์ที่เหมาะกับ Search Engine และดึงผู้เข้าชมจาก Search Engine เป็นหลัก)

A) เตรียมตัวให้พร้อม:

    เตรียมตัวคุณให้พร้อม และเตรียมเนื้อหาให้พร้อม เนื้อหาของเว็บไซต์สำคัญกว่าชื่อโดเมนเสียอีก ถ้าหากคุณคิดชื่อโดเมนได้ แต่ไม่มีเนื้อหา คนเข้ามาก็จะรู้สึกแย่กับเว็บคุณ แล้วก็จะไม่กลับมาหาคุณอีกเลย! ทางที่ดี ควรจะเผื่อเนื้อหาไว้ให้พร้อมซัก 100 หน้าเป็นอย่างน้อย ที่สำคัญๆก็อย่างเช่น About Us หรือ Company Profile, Contact Us, Privacy Policy, Terms of Agreement เป็นต้น และถ้าเป็นไปได้ ต้องเป็นเนื้อหาที่หาที่ไหนไม่ได้ ตรงมาอ่านที่เว็บไซต์ของคุณเท่านั้น จะเยี่ยมมากๆ

B) ชื่อโดเมน:

    ต้องเน้นให้ จำง่าย, พิมพ์ง่าย ยิ่งพยางค์น้อย หรือน้อยตัวอักษรได้เท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าจะให้ดีมี keyword สำคัญๆของคุณอยู่ในโดเมนด้วยยิ่งดี แต่บางคนก็คิดว่า ชื่อโดเมนที่มี keyword อยู่ด้วยนั้น "Out" ไม่ทันสมัย เชยระเบิดระเบ้อ นั่นก็ขึ้นอยู่กับความชอบเป็นการส่วนตัว อย่าง SEO-Thai นี่จะถือว่ายาวก็ได้ สั้นก็ได้อีก หรือชื่อที่ไม่มีความหมายอย่าง Google ใครจะคิดว่าจะดังเปรี้ยงปร้างขนาดทุกวันนี้ นั่นขึ้นกับหลักง่ายๆที่ว่า ของดีเสียอย่าง ใครๆก็อยากได้ เพราะฉะนั้น เตรียมเนื้อหาของคุณให้ดี เอาเวลาคิดชื่อโดเมนเก๋ไก๋ไปทำเนื้อหาดีกว่าครับ

C) ออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ให้ใช้ง่าย และตรงกับกลุ่มเป้าหมาย:

    ง่ายไว้ก่อน ดีที่สุด ! ดีทั้งกับ Spiders และดีทั้งผู้เข้าชม, ดีกับ Spiders จะทำให้คนค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย และทำให้มีคนเข้ามามาก และเมื่อเข้ามาแล้วเว็บไซต์ใช้งานง่าย ทำความเข้าใจง่าย เนื้อหาก็ดี โดเมนจำง่าย ใครจะไม่เข้ามาอีก :) คุณอาจจะถามไปอีกว่า ง่ายน่ะ ง่ายยังไง เว็บของผมไม่เห็นจะใช้งานยากตรงไหนเลย? ผมมีวิธีทดสอบสองวิธีครับ

    วิธีแรก ให้ลองนึกไปถึงวันแรกๆที่คุณใช้คอมพิวเตอร์ เล่นอินเทอร์เนต ความรู้สึกในวันนั้น คุณคงจำได้ว่า มันเงอะๆงะๆไปหมด ปุ่มไหนคืออะไร จะไปหน้าอื่นต้องทำอย่างไร รู้สึกว่ามันมีปุ่มอะไรต่างๆเยอะแยะไปหมด เอาง่ายๆ Mouse ยังใช้ไม่คล่องเลย! จริงมั้ยครับ? ลองนึกไปถึงวันนั้น แล้วดูเว็บของคุณอีกทีว่า ถ้าคุณในวันนั้นมาเข้าชมเว็บคุณ จะรู้สึกอย่างไร?

    วิธีที่สอง เป็นวิธีทดสอบโดยใช้อาสาสมัคร โดยคุณจะต้องหาคนที่ไม่เคยใช้เว็บของคุณเลย จะเป็นคนที่ใช้อินเทอร์เนตคล่องอยู่แล้ว หรือจะเป็นมือใหม่หัด Serve Net ก็สุดแท้แต่ ขอให้มีเขายินดีมาเป็นตัวทดสอบเป็นใช้ได้ การทดสอบก็ง่ายๆ โดยการที่คุณตั้งโจทย์ให้ผู้ทดสอบทำอะไรซักอย่างเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณเช่น อาจจะให้ลองเลือกซื้อของ หรือหาบทความที่มีอยู่ในเว็บ และคุณนั่งดูอยู่ข้างหลัง ดูอย่างเดียวนะครับ ห้ามแนะนำใดๆทั้งสิ้น ดูว่าเขาใช้งานได้คล่องเหมือนคุณหรือเปล่า? ถ้าไม่เกิน 20 นาทีก็ถือว่าผ่านครับ :)

    อีกอย่างก็คือต้องพยายามจัดเนื้อหาของหน้าแรกให้ตรงกับกลุ่มคำ หรือข้อความในหัวข้อหลักของเว็บ มันจะมีความจำเป็นเมื่อ search engine ส่ง bot มาสำรวจเว็บของคุณมันจะได้รู้สึกว่าเว็บของคุณมีเนื้อหาไปในทำนองเดียวกับ meta-tag หรือ title จริงๆ

    ความเร็วอาจจะไม่ใช่ทุกอย่าง การทำให้โหลดเร็วเข้าว่าเพียงอย่างเดียวก็อาจจะทำให้เว็บขาดความน่าสนใจไป มันอยู่ที่ว่าคุณจัดสรรหรือคัดเรื่องเด่นแค่ไหนเข้ามาลงหน้าแรก

D) ขนาดของข้อมูลในแต่ละหน้า (File Size):

    ยิ่งเล็กยิ่งดี แต่กำลังพอดีจะดีที่สุด :) ถ้าเนื้อหามีน้อยก็ควรใส่รูปภาพประกอบ ตกแต่งให้สวยงาม แต่ถ้าเนื้อหามีมาก ถ้าใส่ไว้ในหน้าเดียวอาจจะทำให้โหลดข้อมูลนานเกินไป ควรจะทำการแบ่งเป็นหน้าๆ ตั้งชื่อแต่ละหน้า ตามหัวข้อของหน้านั้นๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดของไฟล์มากจนเกินไป ควรจะแบ่งให้อ่านแล้วรู้เรื่อง ไม่ใช่แบ่งซอยยิบเกินไป หวังให้โหลดเร็ว อย่างนั้น Search Engine ชอบ แต่คนไม่ชอบ เข้ามาแล้วอาจจากไปลับก็ได้ ควรให้พอดีๆ

E) เนื้อหา:

    ทำเนื้อหาตาม Keyword ที่เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณ โดยการตั้ง Keyword เป็นตัวตั้ง ยกตัวอย่างเช่น เว็บของคุณขายต้นไม้ส่งในประเทศ คุณอาจจะเลือก "ไม้ประดับ" หรือ "ไม้มงคล" เป็น Keyword แล้วทำเนื้อหาตาม Keyword ที่เลือกไว้ แล้วคอย Update อย่างสม่ำเสมอ รับรองว่า "ไม้มงคล" หรือ "ไม้ประดับ" ของคุณจะออกดอกออกผลให้ได้ชื่นชมแน่ๆ

F) จำนวน Keyword และการจัดวางตำแหน่งในแต่ละหน้า:

    แน่นอนว่า ถ้าคุณอยากให้ Search Engine หาคุณพบด้วย Keyword คำไหน แต่ไม่มีคำนั้นๆในเว็บไซต์ของคุณเลย จะเป็นไปได้หรือ? และถ้ามีมากจนล้นเลยยิ่งแล้วใหญ่ (Spam) Search Engine เกลียดนัก ถือว่าดูถูกความสามารถกันอย่างร้ายแรง คุณต้องระวังให้จงหนักเลย ทางที่ดีควรจะมีไม่เกิน 5% ต่อจำนวนคำทั้งหมดในหน้านั้น (ไม่นับ Tag HTML) แต่ถ้าจำเป็นจะต้องมี Keyword คำนั้นๆมากๆ เพราะเหตุการณ์บังคับ ก็ควรจะใช้มุขเดิมคือ แบ่งเป็นหลายๆหน้า หรือหาเนื้อหาอื่นๆมาเพิ่ม ลดทอนจำนวน Keyword นั้นลง

G) การเชื่อมโยงไปเว็บไซต์อื่นๆ:

    เชื่อมโยงถึงเว็บไซต์ใหญ่ๆ ด้วย Keyword ในหน้านั้นเป็นการอ้างอิงให้ผู้เข้าชมเชื่อถือ แถมยังอ้างให้ Search Engine รู้ด้วยว่าเราเป็นเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆได้ง่ายยิ่งขึ้น (Ralate Link) เพราะเว็บไซต์ใหญ่ๆนั้น Search Engine รู้จักดีอยู่แล้ว เมื่อเราอ้างถึงเว็บไซต์นั้นๆ Search Engine จะสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของคุณ กับ Keyword ที่คุณ link ออกไป เปรียบเหมือนการแนะนำตัวกับ Search Engine เว็บไซต์ของเราอยู่หมวดหมู่ไหนนั่นเอง

H) โครงสร้างของการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ของคุณ (Cross Links หรือ Link Structure):

    cross links ก็คือ links การเชื่อมโยงข้อมูลภายใน website ของเรานั้นเอง ถ้าคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับอาหาร คุณอาจจะต้องมีการเชื่อมโยงไปยัง หน้า แอปเปิ้ล หรือ ผักผลไม้อื่นๆ หรืออะไรก็ตามที่ชื่อพ้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกหน้า แต่ถ้าคุณขยันและมีเวลาพอละก็ ผมแนะนำให้คุณทำ link ในคำทุกคำที่สามารถ link ได้ แต่ต้องไปหาหมวดหมู่หรือหน้าที่เกี่ยวข้องนะครับ และที่สำคัญมากๆ ทุกหน้าควรมี link ไปหน้าแรกเสมอ ห้ามลืม เด็ดขาด!!!

I) ได้เวลาออนไลน์:

    ถ้าคุณมีทุนทรัพย์เพียงพอ คุณควรเลือก Hosting ที่มี IP ให้สำหรับคุณคนเดียว ไม่ควรเลือกแบบ Virtual Host แต่ถ้าเบี้ยน้อย หอยน้อย เลือก ็Host ราคาถูกๆ แต่ไม่ค่อยล่ม ก็พอได้อยู่ เมื่อมี Hosting แล้ว เนื้อหาพร้อมแล้ว link sturcture ทำได้นวลเนียนดีแล้ว ก็ออนไลน์ออกสู่โลกกว้างได้เลยครับ และขอให้จำไว้เลยว่า ถ้าไม่พร้อม อย่าเพิ่งออนไลน์เด็ดขาด นอกเสียจากคุณไม่แคร์ และคุณมีวินัยเพียงพอที่จะเพิ่มเนื้อหาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผมแนะนำให้คุณใจเย็นๆ รอให้พร้อมก่อนดีกว่าอยู่ดี

J) Submit:

    ได้เวลาของการโฆษณาแล้วครับ ขั้นตอนนีคือการเอาเว็บของคุณไป submit ตาม search engine ต่างๆ เท่านี้แหละครับ อย่าไปคาดหวังว่าจะได้รับการจัดอันดับในเร็ววันครับ คอยตรวจสอบบ้างสัปดาห์ละครั้งก็พอ

K) ตรวจสอบและติดตามผล:

    ทำได้โดยการวิเคราะห์ log ครับ ไม่ต้องไปสนใจข้อมูล graphics ที่สวยงามแต่ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร ทำนอง "สวยแต่รูป จูบไม่หอม" ไม่เอาครับ logs file คือสิ่งที่เราต้องการ อย่าลืมดูว่า logs มีข้อมูล referer หรือเปล่า ถ้าไม่ก็ย้าย hosting ดีกว่าครับ ถ้าคุณอ่าน Logs File ไม่เป็น ผมแนะนำให้คุณจ้างโปรแกรมเมอร์ มาจัดส่วนตรงนี้ให้คุณดีกว่า บอกความต้องการเขาไปว่า อยากให้เขียนโปรแกรมวิเคราะห์ Log File ให้แสดงผลออกมาในแบบคุณอ่านรู้เรื่อง หรือหาๆเอาใน internet นี่แหละครับ ของฟรี ดีด้วย ยังมีอีกเยอะ เพียงแต่คุณจะหามันเจอหรือเปล่าเท่านั้นเอง

L) เอาอกเอาใจ Spider ให้มากๆเข้าไว้:

    ให้คุณคอยดูว่า มีแมงมุม (Spiders) มีล่าเหยื่อ (เนื้อหา) ของคุณไปติดหรือยัง? หมายความว่า Search Engine ส่ง Bot หรือ Spider เข้าไปเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคุณไปหรือยัง ตรวจสอบง่ายๆด้วยการใช้คำสั่ง site:www.seo-thai.com โดยเปลี่ยนจาก seo-thai เป็นชื่อโดเมนของคุณเอง เท่านี้ คุณก็จะได้รู้ว่า แมงมุมฮุบเหยื่อยัง :) ถ้ายัง ต้องรีบมาตรวจแล้วว่าผิดกฏของ Search Engine บ้างหรือเปล่า? โครงสร้าง Link ดีหรือไม่อย่างไร มีเว็บอื่นสร้าง link มาหาคุณบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่มีเลย คุณก็ต้องหาพันธมิตรให้ได้ ไม่งั้นเว็บของคุณก็จะกลายเป็นเว็บร้างแน่ๆ

M) จัดหมวดหมู่ให้เรียบร้อย เน้นเข้าใจง่าย ใช้ง่ายเป็นหลัก:

    พยายามจัดหมวดหมู่ของ keyword ให้เป็นเรื่องเดียวกับ topic ของมันครับ ไม่มีอะไรมาก :)

N) Links จากเว็บประเภทเดียวกัน:

    ในกรณีที่เว็บของคุณได้รับการ index บน www.dmoz.org แล้ว ให้คุณพยายามขอแลก link กับเว็บในหมวดหมู่เดียวกัน ถ้าเขาไม่ยอมรับแลกก็ไม่เป็นไร ขอกับเว็บอื่นก็ได้ ใครก็ได้ที่ยอมรับการแลกกับเรา เน้นให้พยายามแลก link กะเว็บที่ค่อนข้างจะมีการ update อย่างต่อเนื่อง

O) เนื้อหาๆๆ:

    ควรจะมีหน้าที่มีเรื่องที่เด่นๆ ในแต่ละวัน โดยถ้าเป็นบท ความยาวๆ หน่อยจะดีมาก อย่าพยายามลงในเรื่องที่มีคนสนใจน้อย หรือเรื่องที่มันกว้างเกินไป อันนี้คุณต้องกลับไปค้นหนังสือวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนเรียงความมาอ่านสักหน่อยก็จะดีครับ เขียนให้อ่านง่ายๆไว้ก่อน สำนวนภาษาเป็นเรื่องเฉพาะตัว แต่ก็ฝึกกันได้ ขอให้เขียนทุกวันเป็นใช้ได้ เมื่อครบปีแล้ว คุณลองกลับมาอ่านบทความแรกๆที่คุณเขียน คุณจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทีเดียว

P) ลูกเล่น ต่างๆ:

    พยายามหลีกเลี่ยงลูกเล่นแปลกๆ ที่อาจจะสร้างความ สนุกให้ท่าน แต่นั่นอาจจะสร้างความรำคาญให้แก่คนที่เข้ามาชมก็เป็นได้ พยายามให้มันดูกลางๆ ไม่จืดหรือหวือหวาจนน่ารำคาญ

Q) Link จากเว็บพันธมิตร:

    ข้อนี้จะต่างจากข้อ N ตรงที่อาจจะเป็น Link ที่ไม่ได้มาจากเว็บในประเภทเดียวกัน แล้วจำเป็นที่จะต้อง Link กลับไปหาเว็บนั้นๆด้วย เรียกง่ายๆว่า "การขอแลก Link" นั่นเอง อันนี้ผมแนะนำว่าคุณจำเป็นต้องเลือกสักหน่อย อย่า Link ไปสะเปะสะปะ เพราะถ้า link ปลายทางเป็น เว็บโป๊ ละก็ ภาพลักษณ์ของเว็บของคุณก็จะถูกมองเป็นเว็บแนวๆนั้นทันที เสียทั้งหน้าตา และ Search Engine ก็จะงงกับเว็บคุณอีกด้วย

R) บริการเสริม:

    เพิ่มบริการเสริมที่จำเป็นอย่างเช่น "ส่งเว็บนี้ให้เพื่อน" กระดานสนทนา หรือจดหมายข่าว เป็นต้น เท่านี้ก็แทบจะเพียงพอแล้ว อย่าเพิ่มลูกเล่นอื่นๆที่ไม่จำเป็น เพราะนั่นอาจจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการจ้างทำเว็บของคุณสูงจนเกินจำเป็น แถมยังเปล่าประโยชน์อีกด้วย

S) อย่ายัดเยียดโฆษณา!:

    ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ขายสินค้า ขอให้ระมัดระวังเรื่องการโฆษณาสักหน่อย อย่ายัดเยียดจนดูน่าเกลียด ต้องทำให้ดูแนบเนียนประมาณว่า ผู้เข้าชมได้รับชมโฆษณาไปโดยไม่รู้ตัว อย่างนั้นได้ยิ่งดี โปรดระลึกไว้เสมอว่า ผู้ชมเข้าเว็บของคุณเพราะต้องการเนื้อหา หรือ สินค้าที่ต้องการ ไม่ใช่ "โฆษณา"

T) เพิ่มเนื้อหา หรือ สินค้า บ่อยๆและสม่ำเสมอ:

    ควรเพิ่มเนื้อหา หรือบทความอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำเว็บไซต์เลยทีเดียว

U) เรียนรู้เรื่อง Logs:

    หลังจากเปิดดำเนินการได้ 30-60 วัน ก็ได้เวลาที่จะต้อง ทำตัวเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลกันแล้วครับ ข้อมูลที่จะนำมาวิเคราะห์ก็ควรจะนำมาจาก Log Files นั่นเอง คุณควรจะคอยดูว่าผู้เข้าชมใช้ Keyword คำไหนเข้ามาสู่เว็บคุณ อาจจะเป็นคำที่คุณไม่ได้เตรียมไว้ (Optimize) ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณควรจะ Optimize เพิ่ม ยกตัวอย่างเช่น ผู้เข้าชม มักจะใช้คำว่า "orange citrus fruit" แต่ว่าคุณเตรียมเนื้อหาไว้สำหรับคำว่า "oranges" ฉะนั้นคุณควรจะเตรียมเนื้อหาสำหรับคำว่า "citrus" และ "fruit" แล้วก็ทำ Cross Links ถึงกัน

V) การกะระยะเวลา:

    เมื่อทำให้เว็บไซต์ได้รับความนิยมแล้ว ไม่ได้ทำให้คุณหมดหน้าที่ไป เพราะคุณยังคงต้องเฝ้าประคบประหงม เว็บของคุณให้ติดอันดับต่อไปอีก เหมือนขี่หลังเสือไม่อาจจะลงได้ การะวิเคราะความเป็นไปก็ยังค้องต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมนะครับว่า กว่าที่ keyword ของคุณจะไปประกฎใน search engine อาจจะใช้เวลานานถึง 3 เดือน เช่นถ้าคุณต้องการให้ผลิตภัณฑ์ของ คุณปรากฏอยู่ใน search engine ในตอนต้นปี คุณอาจจะต้องทำ web ให้เสร็จก่อนหน้านั้นถึง 3 เดือนเป็นอย่างน้อย

W) เพื่อนและพันธมิตร:

    ในโลกความเป็นจริงคุณต้องมีเพื่อนหรือทำความรู้จักผู้คน ในโลกอินเทอร์เน็ตก็เช่นกัน คุณควรจะทำความรู้จักผู้คน โดยการเข้าที่กระดานสนทนา หรือ กระดานข่าวในเรื่องที่คุณสนใจ แต่ว่ากระดานสนทนาเกี่ยวกับ SEO ในบ้านเรายังไม่เห็นมี คุณต้องหากระดานสนทนาของประเทศ เช่น http://www.searchengineworld.com เป็น และเมื่อคุณเข้าไปแล้ว ก็ใช่ว่าควรจะอ่านอย่างเดียว คุณควรจะสมัครสมาชิก รับจดหมายข่าว แสดงความเห็นหรือสอบถามบ้าง อย่าลืมว่ากระดานข่าวไม่ใช่แค่เข้าไปแล้ว อ่านๆ อย่างเดียว แต่กระดานข่าวตอบคำถามคุณได้

X) อย่าลืมจดบันทึกไอเดียเด็ดของคุณ:

    หากคุณเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆทุกวัน นั่นอาจจะทำให้คุณต้องใช้สมองจนเครียดพอสมควรทีเดียว เพราะฉะนั้นบางครั้งคุณอาจจะคลายเครียดโดยการเปลี่ยนกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เช่น ออกไปเดินเล่น อาบน้ำ แต่เมื่อหลังจากการคลายเครียดแล้ว บางครั้งรายระเอียดที่คุณพยายามคิดมาตั้งนาน ก็พลันหายไปพร้อมกับความเครียด!! ผมแนะนำว่า คุณควรจะจดบันทึกไอเดียของคุณเอาไว้ทุกครั้งที่นึกออก หรือก่อนจะออกไปพัก หรือถ้าคุณมีเครื่องบันทึกเสียงก็ยิ่งดี มันจะช่วยคุณได้ในกรณีที่ไอเดียของคุณหลั่งไหลออกมาจนคุณจดตามไม่ทัน คุณอาจจะพูดๆๆ ใส่เครื่องบันทึกเสียง แล้วค่อยกรอกลับมาฟังใหม่ รับรองไอเดียเด็ดของคุณจะไม่สูญหายไป

Y) ตรวจสอบผลการ Submission เมื่อผ่านไปได้ 6 เดือน:

    กลับไปดูว่าผลการ Submission กับ Search Engine ต่างๆ หรือ Directory ต่างๆ อย่างเช่น ODP นั้น Index เว็บไซต์ของคุณให้หรือยัง? ถ้ายัง คุณต้อง ReSubmit ไปอีกครั้ง คราวนี้จะมีโอกาสเพิ่มขึ้น เพราะคุณมีเนื้อหาหรือสินค้ามากกว่าเดิม 180 หน้าแล้ว :)

Z) พยายามสร้างเนื้อหาที่ Search Engine ชอบ ทุกๆวัน:

    เนื้อหาที่ Search Engine ชอบเป็นอย่างไร? อธิบายง่ายๆก็คือเนื้อหาที่มีการคัดกรองมาอย่างดี มีบทนำ มีเนื้อหา มีบทสรุป เน้นในสิ่งที่ควรเน้น มีจำนวนคำต่อหน้าที่พอเหมาะ มีการอ้างอิงถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้รับความนิยม (มีจำนวน Link มาหามาก) ไม่ทำผิดกฏของ Search Engine ไม่ใช้ ลูกเล่นหรือ HTML ที่ซับซ้อนจนเกินกว่าที่ Search Engine จะเข้าใจได้ (Search Engine ไม่ฉลาดเท่า Browser)
    จะว่ายากก็ไม่น่ายากเท่าไหร่นักที่จะทำให้ได้ครบทุกข้อ แต่ถ้าคุณคิดเนื้อหาไป แล้วก็ Optimize ไปด้วย ผมรับรองว่ายากแน่ๆ คุณควรจะคิดเนื้อหาให้ครบถ้วนก่อน จากนั้นให้ทำเว็บไซต์ด้วย HTML Code ง่ายๆก่อน แล้วจึง Optimize เป็นอันดับสุดท้าย ถ้าคุณทำได้ครบ สิ้นปี คุณจะมีจำนวนหน้าที่คุณภาพคับแก้ว เกือบ 400 หน้าทีเดียว!

thaiwebeasy

เพิ่มเนื้อหา หรือ สินค้า บ่อยๆและสม่ำเสมอ:

    ควรเพิ่มเนื้อหา หรือบทความอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำเว็บไซต์เลยทีเดียว


thaiwebeasy

พยายามสร้างเนื้อหาที่ Search Engine ชอบ ทุกๆวัน:

    เนื้อหาที่ Search Engine ชอบเป็นอย่างไร? อธิบายง่ายๆก็คือเนื้อหาที่มีการคัดกรองมาอย่างดี มีบทนำ มีเนื้อหา มีบทสรุป เน้นในสิ่งที่ควรเน้น มีจำนวนคำต่อหน้าที่พอเหมาะ มีการอ้างอิงถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้รับความนิยม (มีจำนวน Link มาหามาก) ไม่ทำผิดกฏของ Search Engine ไม่ใช้ ลูกเล่นหรือ HTML ที่ซับซ้อนจนเกินกว่าที่ Search Engine จะเข้าใจได้ (Search Engine ไม่ฉลาดเท่า Browser)
    จะว่ายากก็ไม่น่ายากเท่าไหร่นักที่จะทำให้ได้ครบทุกข้อ แต่ถ้าคุณคิดเนื้อหาไป แล้วก็ Optimize ไปด้วย ผมรับรองว่ายากแน่ๆ คุณควรจะคิดเนื้อหาให้ครบถ้วนก่อน จากนั้นให้ทำเว็บไซต์ด้วย HTML Code ง่ายๆก่อน แล้วจึง Optimize เป็นอันดับสุดท้าย ถ้าคุณทำได้ครบ สิ้นปี คุณจะมีจำนวนหน้าที่คุณภาพคับแก้ว เกือบ 400 หน้าทีเดียว!