ศาลรัฐธรรมนูญจัดให้ความรู้เเละโชว์ศาลอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน

[JaY_SoniC]

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 56  ที่ห้องประชุม Law 201 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายจรูญ อินทจาร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รักษาราชการแทนประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วย นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ตศร.) นายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ตศร.) และ คณะผู้บริหารสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้จัดโครงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญและส่งเสริมการศึกษาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั้ง 5 จังหวัด ที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 58 ทุน ทุนละ 10,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการ และบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งเรื่องราวที่เกี่ยวข้องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ท่าน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียน ผู้ปกครอง และ ประชาชนทั่วไป เป็นอย่างยิ่ง

นายจรูญ อินทจาร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รักษาราชการแทนประธานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า โครงการในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อต้องการที่จะประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญในด้านของการคุ้มของสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะรู้และเข้าใจอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสถานการณ์ยืดเยื้อยาวนานมาตั้งแต่ปี 2547 และศาลรัฐธรรมนูญเองก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการอำนวยความยุติธรรมและช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดเอาไว้

ทั้งนี้นอกจากจะมีการจัดนิทรรศการและบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญให้กับผู้ที่สนใจแล้ว ยังมีการเผยแพร่ภารกิจของศาลรัฐธรรมนูญในลักษณะของการแสดงรูปแบบศาลจำลอง โดยมีการหยิบยกเอากรณีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 45 ลงวันที่ 17 ม.ค. 2515 ที่ห้ามขายข้าวต้มในเวลากลางคืนตั้งแต่เวลา 01.00-05.00 น. โดยมีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มอาชญากรและมิจฉาชีพ แต่ทางผู้ประกอบการได้เรียกร้องขอความเป็นธรรม พร้อมยื่นใบอนุญาตประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499 เพื่อยืนยันว่าสถานประกอบการมิใช่สถานที่อันมีลักษณะเช่นนั้น รวมทั้งไม่ได้เป็นแหล่งมั่วสุมของอาชญากร และไม่ได้กระทำการที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งต่อมาทางศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยรับรองเสรีภาพในการประกอบอาชีพได้ตามปกติ และรับรองหลักนิติธรรมในส่วนของการใช้อำนาจตามกฎหมายที่ต้องไม่เกินสัดส่วนความจำเป็น และให้โอกาสผู้ที่อยู่ใต้บังคับสามารถปฏิบัติได้ตามหลักสากล ซึ่งกรณีตัวอย่างดังกล่าวทำให้นักเรียนและประชาชนที่เข้าชมได้ตื่นตัว และมีการซักถามถึงข้อสงสัยในกรณีต่างๆที่ตนเองอยากรู้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนต่อไป
/////