โฆษกอัยการสูงสุดแจง สั่งไม่ฟ้อง "ทักษิณ" คดีก่อการร้าย

[itplaza]

วันที่ 10 ต.ค. ที่ห้องประชุม 303 สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการคดีพิเศษและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการสั่งคดีสำนวนคดีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 ร่วมกับแกนนำ นปช.รวม 24 คน กระทำผิดก่อการร้าย โดยกระทำนั้นเกิดขึ้นภายนอกราชอาณาจักร ในการชุนนุมของ นปช.ปี 2553 ว่า

คดีนี้นายจุลสิงห์ วสันต์สิงห์ อดีตอัยการสูงสุดพิจารณาพฤติการณ์แล้ว มีคำสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ตามความเห็นของพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เนื่องจากเห็นว่าขณะเกิดเหตุพ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ในต่างประเทศ การวิดีโอลิงก์ โฟนอิน และทวิตเตอร์ ทั้งภาพและเสียงเข้ามาที่เวทีปราศรัยของนปช. ที่มีผู้ชุมนุมประท้วงตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยให้มีการยุบสภาตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งโจมตีการรัฐประหาร การบริหารงานของรัฐบาลยุคพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายนันทศักดิ์กล่าวอีกว่า โดยคำกล่าวของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เรียกร้องให้ผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายในการเผาศาลากลางจังหวัด สถานทูต สถานกงสุล หรือยุยงให้ล้มล้างรัฐธรรมนูญด้วยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการเกิดเหตุรุนแรงที่แยกราชประสงค์ นื่องจากรัฐบาลใช้กำลังทหารเข้ากดดัน กระชับพื้นที่และปิดล้อมโดยใช้รถยานเกราะและอาวุธสงคราม ขับไล่สลายการชุมนุมกลุ่มนปช. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากการที่กลุ่มประท้วงได้กระจายไปตามต่างจังหวัด และมีการวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ ศาลากลางจังหวัด 4 แห่ง หรือมีผู้ก่อความไม่สงบวางระเบิด หรือยิงอาวุธปืนร้ายแรงเข้าไปในพื้นที่ธนาคาร หรือสถานที่ราชการต่างๆ นั้น ไม่มีข้อเท็จจริงเชื่อมโยงว่าเกิดจากการยุยงสนับสนุนของพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น พยานหลักฐานจึงยังไม่พอรับฟังได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ร่วมกันหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิด หรือสนับสนุนให้มีการกระทำผิดฐานก่อการร้าย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีก่อการร้ายว่า ถือเป็นคำสั่งที่สวนทางกับกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง เรื่องนี้จึงต้องส่งกลับให้ดีเอสไอพิจารณา ดังนั้นต้องถามนายธาริตว่ายังยืนยันในคำสั่งฟ้องก่อนหน้านี้หรือไม่
ด้าน นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทราบว่าอัยการสูงสุดมีคำสั่งเมื่อวันที่ 7ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนลงนามคำสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงมีคำสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ แต่กลับฟ้องผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายอีก 24 คน ไม่ทราบว่ามีข้อเท็จจริงส่วนใดที่ไม่เหมือนกัน เพราะคดีนี้เดินมาด้วยข้อเท็จจริงในลักษณะคดีที่เหมือนกันมาโดยตลอด นอกจากนี้ทราบว่าก่อนหน้านี้สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ โดยมีนายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เป็นประธาน และสรุปความเห็นให้สั่งฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ จึงอยากถามว่าเหตุผลและข้อสรุปคณะทำงานชุดนี้คืออะไร และเหตุใดที่สั่งไม่ฟ้อง จึงอยากให้อัยการสูงสุดชี้แจงเพื่อให้ประชาชนมองสำนักงานอัยการสูงสุดในทิศทางที่ดี เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญ สาธารณชนให้ความสนใจ ทั้งนี้ตนได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยในวันที่ 14 ต.ค.นี้ เวลา 13.00 น. จะมีการเชิญตน ตัวแทนอัยการสูงสุด และนายวินัย มาซักถามข้อเท็จจริง และหากพบว่าอัยการสูงสุดมีความผิดในการใช้ดุลพินิจก็สามารถยื่นฟ้องต่อป.ป.ช.     
"ถ้าอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ก็จะจบเลย แต่ผมจะบอกว่าไม่ใช่เพราะความผิดเกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทยจากการสไกป์ และผมมั่นใจคนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยปล่อยโอกาสให้ตัวเองเป็นผู้แพ้ แต่จะเกี่ยวข้องคดีนี้อย่างไรยังไม่สามารถระบุได้ ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยากติดคุกแม้แต่วินาทีเดียว การหลุดจากคดีก่อการร้ายจะเป็นศักดิ์ศรีได้ว่าไม่เคยทรยศประเทศ ไม่เคยสั่งเผาบ้านเผาเมือง ขณะนี้พรรคเพื่อไทยก็เดินหน้าเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา309 จะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ หลุดจากทุกคดีที่คตส. เคยทำมาก่อนหน้านี้" นายถาวร กล่าว

ขอบคุณเนื้อาหา  : ข่าวสด
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=30308&page=1