'ห้าเสือ' คุมดุลอำนาจ

[itplaza]

จัดให้ชุ่มปอดกันไปเลย กับมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุดไฟเขียวให้หยุดยาวฉลองเทศกาลปีใหม่ยาว 5 วันเต็มเหยียด ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 1 มกราคม2557

เป็นของขวัญจากนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มอบให้คนไทย

ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างเป็นทางการในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ โดยยุทธศาสตร์แฝงที่หวังผลได้ จากการปล่อยไฟเขียวช่วงหยุดยาวปีใหม่ ประชาชนคนไทยก็จะมุ่งไปที่การออกท่องเที่ยวฉลองเทศกาล

ไม่ค่อยสนใจกระแสการเมือง

เรื่องของเรื่องรัฐบาลก็ได้ผ่อนสถานการณ์ม็อบในช่วงปลายปี

ตามจังหวะที่เดาทางกันได้ล่วงหน้า ฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนพฤศจิกายน ล็อกคิวเชือดสมัยประชุมนี้แน่นอน

เร้ากระแสร้อนๆตีคู่ไปกับปรากฏการณ์ที่ม็อบเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่เบื้องหลังสแกนแล้วก็เป็นเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่จับมือกับ 12 องค์กรฝ่ายต้านระบอบทักษิณที่แตกตัวมาจากม็อบพันธมิตรฯ ยึดถนนแยกอุรุพงษ์ปักหลักชุมนุมไล่รัฐบาล

เลี้ยงไฟ รอหัวเชื้อลามปะทุ

แถมล่าสุดนายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศระบุ กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งเป็นการภายในจากศาลโลกแล้วว่าศาลฯ จะพิจารณาตัดสินคดีที่ประเทศกัมพูชายื่นขอตีความคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อปี พ.ศ.2505 ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้

ตามสถานการณ์ม็อบจะไปออกันช่วงปลายปีพอดี

มันก็เป็นอะไรที่ถือว่า ฉลาด รัฐบาลจัดหยุดยาวปีใหม่ ตัดพลังม็อบไว้ล่วงหน้า

เอาเป็นว่า การเมืองเรื่องม็อบยังอยู่ในวิสัยที่คุมเกมเล่นได้

แต่ที่ยากจะคุมเกม เพราะเกินวิสัยของรัฐบาล

เชื่อเลยว่าทีมงานพรรคเพื่อไทย เครือข่าย "ทักษิณ" จับตากันไม่กะพริบ กับผลสรุปที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีนายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกาเป็นประธาน

ได้ลงมติเลือกนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ข้าราชการบำนาญ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเลขาธิการพีเน็ต นายบุญส่ง น้อยโสภณ ผู้พิพากษาอาวุโส ในศาลอุทธรณ์ ภาค 7 และนายประวิช รัตนเพียร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ชุดใหม่

โดยคณะกรรมการสรรหาจะเสนอรายชื่อต่อประธานวุฒิสภา เพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเพื่อให้ที่ประชุมวุฒิสภาให้ความเห็นชอบต่อไป

หลังจากก่อนหน้านี้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ลงคะแนนเลือกนายศุภชัย สมเจริญ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เป็นบุคคลที่เสนอชื่อเป็น กกต.ให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณา

โฉมหน้าว่าที่ 5 เสือ กกต.ชุดใหม่ พอเห็นรำไรๆแล้ว

โฟกัสจากประวัติการทำงาน นายบุญส่งกับนายศุภชัยคืออดีตผู้พิพากษา ไม่ต้องสงสัยในความเป็นมือแม่นกฎหมาย ส่วนนายสมชัย รู้จักชื่อมาตั้งแต่ยุคการทำงานตรวจสอบการเลือกตั้งกับองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย มีโปรไฟล์การันตี

ที่คุ้นชื่อมากที่สุดก็คือรายของนายประวิช เพราะมีพื้นฐานมาจากนักการเมือง เป็นอดีต รมว.วิทยาศาสตร์ ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย แต่ต่อมาก็พลิกบทไปเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยสถานะจึงไม่ชัดเจนว่าเป็นคนยี่ห้อ "ทักษิณ" หรือเครือข่ายขั้วตรงข้าม "นายใหญ่"

ตามรูปการณ์จึงถูกลากมาอยู่ตรงกลางโดยอัตโนมัติ

แต่ทั้งหมดทั้งปวง เมื่อรายชื่อที่ออกมาได้ผ่านกระบวนการกรองจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และกรรมการสรรหาที่มีประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำฝ่ายค้านในสภา เป็นกรรมการ กว่าจะคัดกันได้ต้องกรองหลายรอบ

ก็ต้องเชื่อไว้ก่อนว่า การล็อบบี้ทำได้ยากกว่าเกมการเมืองของนักเลือกตั้ง

ที่สำคัญรู้กันอยู่ว่า สถานการณ์ข้างหน้ามันทั้งโหดและหิน โดยภารกิจของ กกต.ชุดนี้จะต้องเป็นด่านสำคัญในการกรองฝ่ายเข้าไปถืออำนาจรัฐ

ท่ามกลาง "เขาควาย" แหลมๆ 2 ขั้ว

ยังไงก็ต้องเจอแน่ๆกับแรงเสียดทานจากมวลชนนอกสภาทั้งเสื้อแดง กองเชียร์พรรคเพื่อไทย เสื้อฟ้า ฝ่ายสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์

งานหนักสาหัส ต้องได้คนมือถึง ใจถึงจริงๆ.

ขอบคุณเนื้อหา  : ไทยรัฐ
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=30460&page=1