ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ปชป:พท สูสีกัน แพ้ชนะขึ้นอยู่กับ ภท.กับคนใช้สิทธิมากหรือไม่

เริ่มโดย ล ลิง, 20:01 น. 25 มิ.ย 54

ล ลิง

บทวิเคราะห์โดย :
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีต ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.)
ประชาธิปัตย์ : เพื่อไทย สูสีกันมาก จะแพ้ชนะกันมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับภูมิใจไทย จะยันเพื่อไทยได้มากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญที่สุด "ประชาชนจะออกมาลงคะแนนมากแค่ไหน"
        การหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ได้วางแผนดึงพรรค ปชป. ให้ตามแก้เกมส์เรื่องคุณยิ่งลักษณ์ฯ และนโยบายต่างๆ ที่เกินความเป็นจริง เพื่อปกปิดข้อเท็จจริงอันเป็นจุดด้อยของพรรคเพื่อไทยซึ่งมีอยู่อย่างมากมาย จนเป็นผลสำเร็จ เพราะตลอดระยะเวลา ๑ เดือนที่ผ่านมา พรรค ปชป. ตามแก้เกมส์ทั้ง ๒ เรื่องของพรรคเพื่อไทยมาตลอด แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะเริ่มได้ผล เพราะกระแสของคุณยิ่งลักษณ์ฯ เริ่มตกลง และประชาชนเริ่มเห็นว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย ๓ - ๔ เรื่องใหญ่ๆ เป็นไปไม่ได้ เพราะมูลค่าของมันเกือบเท่างบประมาณแผ่นดิน

        พรรค ปชป. ที่หลงทางมาระยะหนึ่ง เพิ่งตื่นตัวกลับมาพูดถึงจุดด้อยของพรรคเพื่อไทยเอาเมื่อวันที่ ๒๓ มิ.ย. ๕๔ นี้ ที่สี่แยกราชประสงค์ แม้จะพูดได้ดีทุกคน มีกระแสการตอบรับจากประชาชนอย่างท่วมท้น (ประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน) ท่ามกลางข่าวลือเรื่องระเบิดและสายฝนที่ตกลงมาก่อนเปิดการอภิปราย (ตอนคุณสุเทพฯ พูดอยู่ก็ยังตกปรอยๆ) แต่ก็ช้าเกินไปครับที่จะทำให้ประชาชนทั้งประเทศนึกถึงเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาได้เป็นส่วนใหญ่

        นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องที่ควรนำมาพูดอีกหลายเรื่อง เพื่อประกอบชี้ให้ เห็นว่า การเผาบ้านเผาเมืองที่เกิดขึ้นนั้น มีการวางแผนกันมาก่อนเป็นอย่างดี แต่ไม่มีใครพูดถึง หรือคุณสุเทพฯ จะรอเก็บไว้พูดในวันที่ ๑ กรกฎา ๕๔ ซึ่งเป็นการปราศรัยหาเสียงใหญ่ครั้งสุดท้าย  แม้พรรค ปชป. จะพลาดไปตอนต้น แต่คะแนนนิยมของพรรค ปชป. ในปัจจุบันนั้นไล่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันมาก โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ จุดที่ ปชป. จะแพ้นั้น ไม่ใช่เรื่องความนิยมของพรรค แต่เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่ส่งลงสมัครมากกว่า เพราะผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ทำงานในพื้นที่มานานกว่านั่นเอง ในปัจจุบันจึงเหลือปัญหาอยู่ ๒ กรณีเท่านั้น ที่จะช่วยพรรค ปชป. ได้ คือ (๑) ถ้าพรรคภูมิใจไทยของคุณเนวินฯ สามารถยันพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคอีสานได้แล้ว ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสานก็จะลดลง  จำนวน ส.ส.ทั้งหมดก็จะตกอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ ปชป. เมื่อรวมถึงเสียง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อแล้ว พรรค ปชป. ก็อาจมีสิทธิ์ชนะได้ แต่ถ้าพรรคภูมิใจไทยยันพรรคเพื่อไทยไม่ได้ พรรค ปชป. ก็แพ้ครับ แพ้มากหรือแพ้น้อยขึ้นอยู่กับพรรคภูมิใจไทยจะแพ้แค่ไหน  แต่ถ้าเราเชื่อว่า คุณเนวินฯ ร้ายจริงตามข่าวลือ สู้คน ลูกเล่นมาก ทันคนแล้วละก็     ยังพอสบายใจได้ระดับหนึ่งครับ  (๒) กรณีที่ ๒ ขึ้นอยู่กับจำนวนประชาชนที่ออกมาเลือกตั้ง ถ้ามากก็จะมาชดเชยเสียงที่ ปชป. เสียไปจาก VOTE NO, ปุระชัยฯ และชูวิทย์ฯ ได้สบายมาก

        ผมไม่เคยคิดว่าในชีวิตผมจะต้องมาเชียร์คุณเนวินฯ ในเรื่องทางการเมือง (เรื่องฟุตบอลยังเชียร์อยู่) แต่ก็ต้องเชียร์แล้วครับ ตัดเรื่องอคติส่วนตัวออกไป เอาบ้านเอาเมืองไว้ก่อน เพราะถึงคุณเนวินฯ จะร้ายอย่างไร ก็ไม่ร้ายถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง หรือเข้ามาพูดจาพาดพิงกระทบต่อสถาบันฯ ครับ

        ที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้เพราะมีหลายพื้นที่เลือกตั้งที่ ปชป., เพื่อไทย และภูมิใจไทยแข่งขันกัน แน่นอนครับ ปชป. กับภูมิใจไทย ต้องแย่งคะแนนกันอยู่แล้ว จะยอมซูเอี๋ยกันก็ไม่ได้ เพราะมีเสียง ส.ส.บัญชีรายชื่อผูกพันอยู่ด้วย พื้นที่เหล่านี้ พรรคเพื่อไทยจะได้เปรียบเช่นเดียวกับกรุงเทพฯ เพราะฐานคะแนนเสียงไม่มีใครมาแย่ง ดังนั้นทั้งพรรค ปชป. และภูมิใจไทยต้องขยันมากขึ้นแม้จะเหลือเวลาอยู่ไม่มากแล้วก็ตาม

        ตู้ฟู่ (กวียุคเดียวกับหลี่ไป ราชวงศ์ถัง) เคยแต่งกลอนเก้าบทของ "กวีเจ็ดคำสะท้อนความรู้สึก" ถึงการลาจากของฤดูฝนไว้ว่า "สิ้นสุดธารวสันต์ ใจจะขาด หยุดยั้งยืนหยัดริมสันดอน หลิวย้อยปุยนุ่นพัดปลิวตามลม ดอกท้อลอยล่อง   ตามสายชล" (ภูผามหานทีเล่ม ๑) สะท้อนถึงความไม่แน่แท้ของจิตใจผู้คนและธรรมชาติ
        "วันเวลาผ่าน ผู้คนก็จากไป สิ่งที่รักและสงสัย จมลึกในใจดวงเดียวกัน" (ผมแต่งกลอนนี้บอกลานายทหารจีนคนหนึ่งที่มาเรียน วปอ. รุ่น ๕๑)

        ไม่มีใครเคยลืมเรื่องที่เป็นจุดอ่อนหลายๆ เรื่องของพรรคเพื่อไทยได้หรอกครับ เพียงแต่มันจมลึกอยู่ในหัวใจ กาลเวลายิ่งช่วยซ้ำเติมให้จุดอ่อนเหล่านี้ดูไร้ความสำคัญมากขึ้น เช่นเดียวกับความรักของมนุษย์ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง และถูกฝังจมลึกอยู่ในหัวใจ เมื่อพรรค ปชป. ไม่ได้ขุดค้นขึ้นมา เพื่อเตือนประชาชน, ไม่ได้ตอบข้อสงสัยที่เกิดขึ้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว, ไม่ได้รวบรวมข้อเท็จจริงที่เกิดอยู่ในช่วงที่มีการชุมนุมหลายสิบเรื่อง ที่สามารถยืนยันได้ว่า ในที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ในตอนนั้น มีกลุ่มบุคคลที่ใช้อาวุธสงครามเข้าไปอยู่ เข้าไปปะปนรวมอยู่ด้วย โดยที่แกนนำไม่ได้ออกมาท้วงติง แต่อย่างใด, ไม่ได้เปิดเผยว่าหมู่บ้านเสื้อแดงจริงๆ มีสภาพอย่างไร ฯลฯ

        ข้อเท็จจริงเหล่านี้ จะเป็นข้อมูลที่ทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าพูดบ่อยๆ มันจะย้อนกลับเข้ามาปลุกสำนึกของประชาชนได้ในระดับหนึ่ง จากการพูดที่ราชประสงค์ "ดีมาก" แต่ไม่สามารถแพร่กระจายออกไปสู่พื้นที่ชนบทได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้พรรค ปชป. ยังเสียเปรียบมากขึ้นในพื้นที่ชนบท หรือแม้แต่พื้นที่ชายขอบในกรุงเทพฯ เอง

        เรื่องนักรบชุดดำและการสะสมอาวุธ เป็นเรื่องที่มีการพูดถึง มีการโต้ เถียงกันอย่างต่อเนื่องมาตลอด ระหว่างรัฐบาล, ทหาร กับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม จนกลายมาเป็นหัวข้อวิวาทะต่อมา ในกลุ่มประชาชนทั่วๆ ไป และแพร่กระจายออกไปมากขึ้น โดยไม่มีใครมาพูดหรือแสดงข้อเท็จจริงอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ข้อโต้เถียงนี้ยุติลงหรือลดน้อยลง ซึ่งถ้าปล่อยไว้ ผลเสียต่อประเทศชาติจะทวีคูณขึ้นมาเรื่อยๆ ดังนั้นแม้จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเจ็บ ปวดกับเรื่องเหล่านี้ ก็จะต้องทน ทนเพื่อชาติ เพราะในปัจจุบันนี้ ใครผิดใครถูกดูจะไม่มีความสำคัญแล้ว เราจะต้องก้าวข้ามเรื่องนักรบชุดดำและเรื่องการสะสมอาวุธสงครามไปให้ได้ โดยพูดกันให้ชัดเจนเสียในวันนี้ เสียใจ เจ็บใจ ดีใจกันให้มันยุติไปโดยเร็ว อย่าให้เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาที่ยังไม่ชัดเจน จนกระทั่งอีก ๒-๓ ปีข้างหน้า ก็ยังพูดยังถกเถียงกันอยู่ต่อไปอีก ถ้าก้าวข้ามเรื่องนี้ไม่ได้ การปรองดองก็จะเกิดขึ้นได้ยาก ผมขอเขียนย่อๆ เฉพาะข้อมูลในทางเปิดที่ปรากฏขึ้นในสื่อมวลชน, อินเตอร์เน็ต มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน (ยังไม่รวมข้อมูลจากการสืบสวนของทางราชการ) ข้อมูลเหล่านี้ เมื่อนำมาสนธิกรรมตามระบบงานข่าวกรองแล้ว ได้ข้อสรุปว่า นักรบชุดดำที่อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. หรือการสะสมอาวุธสงครามนั้นน่าจะมีอยู่จริง โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังนี้ : -

              ๑. ข่าว นสพ. "ตำรวจจับ ๒ หนุ่มสาว ควงคาร์บิน – เอ็ม ๖๗ ชิง จยย.- สร้อยทอง อ้างอาวุธสงครามได้จากการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ" เหตุเกิดเมื่อ ๕ มิ.ย. ๕๓ ที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศีธรรมราช

              ๒. ข่าว นสพ. "จับเพิ่ม ๓ นปช. ฆ่าหลาน "บัญญัติ" รับปล้นหาเงินลงสู้ใต้ดิน" เหตุเกิดเมื่อ ๒๙ พ.ค. ๕๓

              ๓. เอเชียไทม์เปิดโปงชายชุดดำ คือ นักรบ "โรนิน" กลุ่มเสื้อแดง เว็บไซต์ เอเชียไทม์ โดย ๒ ผู้สื่อข่าวเสนอเรื่องนี้พร้อมภาพ โดยอ้างว่านักรบกลุ่มนี้ใช้สวนลุมพินีเป็นที่ตั้ง และผู้สื่อข่าวทั้ง ๒ คน เข้าไปอยู่ในที่ตั้งดังกล่าวด้วย (เหตุการณ์หลัง เสธ.แดง ถูกยิงเสียชีวิต ๒ วัน)

              ๔. นสพ. หนุ่มแมสเซ็นเจอร์ชะตาขาด โดนระเบิดดับคาห้องพัก เพื่อนเจ็บอีก ๓ (เหตุเกิด ๑ มิ.ย. ๕๓) นายอัครพลฯ น้องชายให้การว่า ครั้งสุดท้ายที่เจอพี่ชายเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พี่ชายนำภาพถ่ายคู่กับผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้ามาอวด ก่อนหน้านี้ พี่ชายได้เอากระเป๋ามาฝากไว้ที่ห้อง ขอให้ตำรวจไปตรวจด้วยเพราะกลัวว่ายังมีระเบิดเหลืออยู่อีก

ฯลฯ

        ข้อเท็จจริงเหล่านี้ ยังมีอีกมากครับ เช่น มัดเงินนับหลายหมื่นที่ตกอยู่ใน สตช., ของจากร้านค้าในเซ็นทรัลเวิลด์ ที่มาอยู่ในรถของผู้ชุมนุม ฯลฯ ซึ่งจะชี้ให้เห็นได้ว่า "การกล่าวหาของคุณสุเทพฯ ไม่ได้เลื่อนลอย" และมีบางเรื่องที่คงจะต้องนำไปพูดในระดับของศาล

        ลำนำเพลงของ "จางเสี้ยวเสียง" บรรยายถึงราชวงศ์ซ้องที่ประคองตัวอยู่ได้ทางตอนใต้อย่างลำบาก เสียทีมีคมศาสตรา แต่ปล่อยให้ละอองฝุ่นจับเกรอะกรัง ชั่วลัดนิ้วมือเดียว โอกาสพ้นผ่าน คงได้แต่สะอื้นรำพัน มีความตอนหนึ่งว่า

        "หวนรำลึกเรื่องหนหลัง เป็นชะตาฟ้า สุดกอบแก้ไข  ชลเนตรไหลรินหลั่ง" (เทพมารสะท้านภพ เล่ม ๖)

        ความจริงในวันนี้ ไม่ใช่เป็นชะตาฟ้า สุดกอบแก้ไขแต่เป็นเพราะพรรค ปชป. เป็นพรรคที่มีคนดีมากเกินไป มากเกินไปจริงๆ ครับ จึงมีท่าทีว่าจะพ่ายแพ้ ทั้งๆ ที่มี "คมศาสตรา" อยู่เต็มมือ

        พวกเราจะออกไปช่วย "พรรคที่มีคนดีมากเกินไป" หรือเปล่า ในวันอาทิตย์ที่ ๓ กรกฎา นี้ ถ้าจะไปช่วยก็ต้องพากันไปมากๆ ทั้งครอบครัว ถ้าไปคนเดียวคงไม่ไหวครับ

๒๔ มิ.ย.๕๔  สระแก้ว ๑๖.๐๐ น


nono


คอการเมือง

จริงอย่างที่ท่านว่า ปชป.มีคนดีมากเกินไป(มีคนชั่วบ้างประปราย) มองโลกในแง่ดีเกินไป ประเมินคนชั่วว่าจะต้องกลับมาดีได้ จึงให้โอกาสมาตลอด ช่วงเผาบ้านเผาเมืองไม่ยอมสั่ง"จัดการ"ทั้งที่มีอำนาจ,ยอมลดตัวเจรจาด้วย,จนกระทั่งประกาศยุบสภาเพื่อหวังให้ทุกคนเล่นตามกติกา แต่แล้วทุกสิ่งที่ปรารถนาดีกลายเป็นสูญเปล่ายังถูกเย้ยหยันอีกต่างหาก

ปชปหัวก้าวหน้า

อ้างจาก: คอการเมือง เมื่อ 08:18 น.  26 มิ.ย 54
จริงอย่างที่ท่านว่า ปชป.มีคนดีมากเกินไป(มีคนชั่วบ้างประปราย) มองโลกในแง่ดีเกินไป ประเมินคนชั่วว่าจะต้องกลับมาดีได้ จึงให้โอกาสมาตลอด ช่วงเผาบ้านเผาเมืองไม่ยอมสั่ง"จัดการ"ทั้งที่มีอำนาจ,ยอมลดตัวเจรจาด้วย,จนกระทั่งประกาศยุบสภาเพื่อหวังให้ทุกคนเล่นตามกติกา แต่แล้วทุกสิ่งที่ปรารถนาดีกลายเป็นสูญเปล่ายังถูกเย้ยหยันอีกต่างหาก

เอกสารลับ ยุทธการกระชับวงล้อม 14-19 พ.ค.53 ( ตอน 1) "มาร์ค"สั่งกระชับวงล้อมเพื่อ"ยุติ"ไม่ใช่"เจรจา"


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1308932303&grpid=&catid=02&subcatid=0202

อยากเห็นหาดใหญ่ดีขึ้น

อ้างจาก: คอการเมือง เมื่อ 08:18 น.  26 มิ.ย 54
จริงอย่างที่ท่านว่า ปชป.มีคนดีมากเกินไป(มีคนชั่วบ้างประปราย) มองโลกในแง่ดีเกินไป ประเมินคนชั่วว่าจะต้องกลับมาดีได้ จึงให้โอกาสมาตลอด ช่วงเผาบ้านเผาเมืองไม่ยอมสั่ง"จัดการ"ทั้งที่มีอำนาจ,ยอมลดตัวเจรจาด้วย,จนกระทั่งประกาศยุบสภาเพื่อหวังให้ทุกคนเล่นตามกติกา แต่แล้วทุกสิ่งที่ปรารถนาดีกลายเป็นสูญเปล่ายังถูกเย้ยหยันอีกต่างหาก

ผมว่านั่งกินคอหมูย่างแกล้งกาแฟ มากไปหรือเปล่า อะไรคือเจรจา ลูกปืนมาจากไหนเป็นพันนัดมีการตรวจสอบการเบิกใช้ในช่วงการฆ่าสังหารหมู่ผู้ชุมนุมแล้ว ถัาคุณสมัครจะกระชับพื้นที่กับพวกผีตองเหลือง กุ้ยเถื่อนทางการเมืองข้างถนนแบบนี้บ้าง พวกคุณจะว่ายังไง ส.โกรธ ส.โกรธ ส.โกรธ

อยากเห็นหาดใหญ่ดีขึ้น

แปลกนะ ถ้าผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้ายอย่างที่รัฐบาลที่จัดตั้งในค่ายทหารโดยมีอำนาจพิเศษกำกับไว้ ทำไมจำนวนคนที่เห็นแตกต่างตรงข้ามกับรัฐบาลกลับมีมากขึ้นทุกๆวัน แนวร่วมคนเสื้อแดงเพิ่มมากขึ้นในทุกๆภาคแม้แต่ภาคใต้เอง ความชั่วมันปิดกันไม่มิดหรอก เดี๋ยวนี้ข่าวสารสื่อกันได้ทั่วโลกคนที่ฟังข่าวสารจากทุกๆด้าน ย่อมเห็นความต่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย อย่าคิดเอามือเปลื้อนเลือดปกปิดความชั่วที่ก่อขึ้น กรรมกำลังเริ่มคืนสนองแล้ว

ปชปหัวก้าวหน้า

อ้างจาก: ล ลิง เมื่อ 20:01 น.  25 มิ.ย 54
บทวิเคราะห์โดย :
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีต ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.)
ประชาธิปัตย์ : เพื่อไทย สูสีกันมาก จะแพ้ชนะกันมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับภูมิใจไทย จะยันเพื่อไทยได้มากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญที่สุด "ประชาชนจะออกมาลงคะแนนมากแค่ไหน"
        การหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ได้วางแผนดึงพรรค ปชป. ให้ตามแก้เกมส์เรื่องคุณยิ่งลักษณ์ฯ และนโยบายต่างๆ ที่เกินความเป็นจริง เพื่อปกปิดข้อเท็จจริงอันเป็นจุดด้อยของพรรคเพื่อไทยซึ่งมีอยู่อย่างมากมาย จนเป็นผลสำเร็จ เพราะตลอดระยะเวลา ๑ เดือนที่ผ่านมา พรรค ปชป. ตามแก้เกมส์ทั้ง ๒ เรื่องของพรรคเพื่อไทยมาตลอด แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะเริ่มได้ผล เพราะกระแสของคุณยิ่งลักษณ์ฯ เริ่มตกลง และประชาชนเริ่มเห็นว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย ๓ - ๔ เรื่องใหญ่ๆ เป็นไปไม่ได้ เพราะมูลค่าของมันเกือบเท่างบประมาณแผ่นดิน

        พรรค ปชป. ที่หลงทางมาระยะหนึ่ง เพิ่งตื่นตัวกลับมาพูดถึงจุดด้อยของพรรคเพื่อไทยเอาเมื่อวันที่ ๒๓ มิ.ย. ๕๔ นี้ ที่สี่แยกราชประสงค์ แม้จะพูดได้ดีทุกคน มีกระแสการตอบรับจากประชาชนอย่างท่วมท้น (ประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน) ท่ามกลางข่าวลือเรื่องระเบิดและสายฝนที่ตกลงมาก่อนเปิดการอภิปราย (ตอนคุณสุเทพฯ พูดอยู่ก็ยังตกปรอยๆ) แต่ก็ช้าเกินไปครับที่จะทำให้ประชาชนทั้งประเทศนึกถึงเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาได้เป็นส่วนใหญ่

        นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องที่ควรนำมาพูดอีกหลายเรื่อง เพื่อประกอบชี้ให้ เห็นว่า การเผาบ้านเผาเมืองที่เกิดขึ้นนั้น มีการวางแผนกันมาก่อนเป็นอย่างดี แต่ไม่มีใครพูดถึง หรือคุณสุเทพฯ จะรอเก็บไว้พูดในวันที่ ๑ กรกฎา ๕๔ ซึ่งเป็นการปราศรัยหาเสียงใหญ่ครั้งสุดท้าย  แม้พรรค ปชป. จะพลาดไปตอนต้น แต่คะแนนนิยมของพรรค ปชป. ในปัจจุบันนั้นไล่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันมาก โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ จุดที่ ปชป. จะแพ้นั้น ไม่ใช่เรื่องความนิยมของพรรค แต่เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่ส่งลงสมัครมากกว่า เพราะผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ทำงานในพื้นที่มานานกว่านั่นเอง ในปัจจุบันจึงเหลือปัญหาอยู่ ๒ กรณีเท่านั้น ที่จะช่วยพรรค ปชป. ได้ คือ (๑) ถ้าพรรคภูมิใจไทยของคุณเนวินฯ สามารถยันพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคอีสานได้แล้ว ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสานก็จะลดลง  จำนวน ส.ส.ทั้งหมดก็จะตกอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ ปชป. เมื่อรวมถึงเสียง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อแล้ว พรรค ปชป. ก็อาจมีสิทธิ์ชนะได้ แต่ถ้าพรรคภูมิใจไทยยันพรรคเพื่อไทยไม่ได้ พรรค ปชป. ก็แพ้ครับ แพ้มากหรือแพ้น้อยขึ้นอยู่กับพรรคภูมิใจไทยจะแพ้แค่ไหน  แต่ถ้าเราเชื่อว่า คุณเนวินฯ ร้ายจริงตามข่าวลือ สู้คน ลูกเล่นมาก ทันคนแล้วละก็     ยังพอสบายใจได้ระดับหนึ่งครับ  (๒) กรณีที่ ๒ ขึ้นอยู่กับจำนวนประชาชนที่ออกมาเลือกตั้ง ถ้ามากก็จะมาชดเชยเสียงที่ ปชป. เสียไปจาก VOTE NO, ปุระชัยฯ และชูวิทย์ฯ ได้สบายมาก

        ผมไม่เคยคิดว่าในชีวิตผมจะต้องมาเชียร์คุณเนวินฯ ในเรื่องทางการเมือง (เรื่องฟุตบอลยังเชียร์อยู่) แต่ก็ต้องเชียร์แล้วครับ ตัดเรื่องอคติส่วนตัวออกไป เอาบ้านเอาเมืองไว้ก่อน เพราะถึงคุณเนวินฯ จะร้ายอย่างไร ก็ไม่ร้ายถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง หรือเข้ามาพูดจาพาดพิงกระทบต่อสถาบันฯ ครับ

        ที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้เพราะมีหลายพื้นที่เลือกตั้งที่ ปชป., เพื่อไทย และภูมิใจไทยแข่งขันกัน แน่นอนครับ ปชป. กับภูมิใจไทย ต้องแย่งคะแนนกันอยู่แล้ว จะยอมซูเอี๋ยกันก็ไม่ได้ เพราะมีเสียง ส.ส.บัญชีรายชื่อผูกพันอยู่ด้วย พื้นที่เหล่านี้ พรรคเพื่อไทยจะได้เปรียบเช่นเดียวกับกรุงเทพฯ เพราะฐานคะแนนเสียงไม่มีใครมาแย่ง ดังนั้นทั้งพรรค ปชป. และภูมิใจไทยต้องขยันมากขึ้นแม้จะเหลือเวลาอยู่ไม่มากแล้วก็ตาม

        ตู้ฟู่ (กวียุคเดียวกับหลี่ไป ราชวงศ์ถัง) เคยแต่งกลอนเก้าบทของ "กวีเจ็ดคำสะท้อนความรู้สึก" ถึงการลาจากของฤดูฝนไว้ว่า "สิ้นสุดธารวสันต์ ใจจะขาด หยุดยั้งยืนหยัดริมสันดอน หลิวย้อยปุยนุ่นพัดปลิวตามลม ดอกท้อลอยล่อง   ตามสายชล" (ภูผามหานทีเล่ม ๑) สะท้อนถึงความไม่แน่แท้ของจิตใจผู้คนและธรรมชาติ
        "วันเวลาผ่าน ผู้คนก็จากไป สิ่งที่รักและสงสัย จมลึกในใจดวงเดียวกัน" (ผมแต่งกลอนนี้บอกลานายทหารจีนคนหนึ่งที่มาเรียน วปอ. รุ่น ๕๑)

        ไม่มีใครเคยลืมเรื่องที่เป็นจุดอ่อนหลายๆ เรื่องของพรรคเพื่อไทยได้หรอกครับ เพียงแต่มันจมลึกอยู่ในหัวใจ กาลเวลายิ่งช่วยซ้ำเติมให้จุดอ่อนเหล่านี้ดูไร้ความสำคัญมากขึ้น เช่นเดียวกับความรักของมนุษย์ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง และถูกฝังจมลึกอยู่ในหัวใจ เมื่อพรรค ปชป. ไม่ได้ขุดค้นขึ้นมา เพื่อเตือนประชาชน, ไม่ได้ตอบข้อสงสัยที่เกิดขึ้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว, ไม่ได้รวบรวมข้อเท็จจริงที่เกิดอยู่ในช่วงที่มีการชุมนุมหลายสิบเรื่อง ที่สามารถยืนยันได้ว่า ในที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ในตอนนั้น มีกลุ่มบุคคลที่ใช้อาวุธสงครามเข้าไปอยู่ เข้าไปปะปนรวมอยู่ด้วย โดยที่แกนนำไม่ได้ออกมาท้วงติง แต่อย่างใด, ไม่ได้เปิดเผยว่าหมู่บ้านเสื้อแดงจริงๆ มีสภาพอย่างไร ฯลฯ

        ข้อเท็จจริงเหล่านี้ จะเป็นข้อมูลที่ทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าพูดบ่อยๆ มันจะย้อนกลับเข้ามาปลุกสำนึกของประชาชนได้ในระดับหนึ่ง จากการพูดที่ราชประสงค์ "ดีมาก" แต่ไม่สามารถแพร่กระจายออกไปสู่พื้นที่ชนบทได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้พรรค ปชป. ยังเสียเปรียบมากขึ้นในพื้นที่ชนบท หรือแม้แต่พื้นที่ชายขอบในกรุงเทพฯ เอง

        เรื่องนักรบชุดดำและการสะสมอาวุธ เป็นเรื่องที่มีการพูดถึง มีการโต้ เถียงกันอย่างต่อเนื่องมาตลอด ระหว่างรัฐบาล, ทหาร กับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม จนกลายมาเป็นหัวข้อวิวาทะต่อมา ในกลุ่มประชาชนทั่วๆ ไป และแพร่กระจายออกไปมากขึ้น โดยไม่มีใครมาพูดหรือแสดงข้อเท็จจริงอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ข้อโต้เถียงนี้ยุติลงหรือลดน้อยลง ซึ่งถ้าปล่อยไว้ ผลเสียต่อประเทศชาติจะทวีคูณขึ้นมาเรื่อยๆ ดังนั้นแม้จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเจ็บ ปวดกับเรื่องเหล่านี้ ก็จะต้องทน ทนเพื่อชาติ เพราะในปัจจุบันนี้ ใครผิดใครถูกดูจะไม่มีความสำคัญแล้ว เราจะต้องก้าวข้ามเรื่องนักรบชุดดำและเรื่องการสะสมอาวุธสงครามไปให้ได้ โดยพูดกันให้ชัดเจนเสียในวันนี้ เสียใจ เจ็บใจ ดีใจกันให้มันยุติไปโดยเร็ว อย่าให้เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาที่ยังไม่ชัดเจน จนกระทั่งอีก ๒-๓ ปีข้างหน้า ก็ยังพูดยังถกเถียงกันอยู่ต่อไปอีก ถ้าก้าวข้ามเรื่องนี้ไม่ได้ การปรองดองก็จะเกิดขึ้นได้ยาก ผมขอเขียนย่อๆ เฉพาะข้อมูลในทางเปิดที่ปรากฏขึ้นในสื่อมวลชน, อินเตอร์เน็ต มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน (ยังไม่รวมข้อมูลจากการสืบสวนของทางราชการ) ข้อมูลเหล่านี้ เมื่อนำมาสนธิกรรมตามระบบงานข่าวกรองแล้ว ได้ข้อสรุปว่า นักรบชุดดำที่อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. หรือการสะสมอาวุธสงครามนั้นน่าจะมีอยู่จริง โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังนี้ : -

              ๑. ข่าว นสพ. "ตำรวจจับ ๒ หนุ่มสาว ควงคาร์บิน – เอ็ม ๖๗ ชิง จยย.- สร้อยทอง อ้างอาวุธสงครามได้จากการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ" เหตุเกิดเมื่อ ๕ มิ.ย. ๕๓ ที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศีธรรมราช

              ๒. ข่าว นสพ. "จับเพิ่ม ๓ นปช. ฆ่าหลาน "บัญญัติ" รับปล้นหาเงินลงสู้ใต้ดิน" เหตุเกิดเมื่อ ๒๙ พ.ค. ๕๓

              ๓. เอเชียไทม์เปิดโปงชายชุดดำ คือ นักรบ "โรนิน" กลุ่มเสื้อแดง เว็บไซต์ เอเชียไทม์ โดย ๒ ผู้สื่อข่าวเสนอเรื่องนี้พร้อมภาพ โดยอ้างว่านักรบกลุ่มนี้ใช้สวนลุมพินีเป็นที่ตั้ง และผู้สื่อข่าวทั้ง ๒ คน เข้าไปอยู่ในที่ตั้งดังกล่าวด้วย (เหตุการณ์หลัง เสธ.แดง ถูกยิงเสียชีวิต ๒ วัน)

              ๔. นสพ. หนุ่มแมสเซ็นเจอร์ชะตาขาด โดนระเบิดดับคาห้องพัก เพื่อนเจ็บอีก ๓ (เหตุเกิด ๑ มิ.ย. ๕๓) นายอัครพลฯ น้องชายให้การว่า ครั้งสุดท้ายที่เจอพี่ชายเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พี่ชายนำภาพถ่ายคู่กับผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้ามาอวด ก่อนหน้านี้ พี่ชายได้เอากระเป๋ามาฝากไว้ที่ห้อง ขอให้ตำรวจไปตรวจด้วยเพราะกลัวว่ายังมีระเบิดเหลืออยู่อีก

ฯลฯ

        ข้อเท็จจริงเหล่านี้ ยังมีอีกมากครับ เช่น มัดเงินนับหลายหมื่นที่ตกอยู่ใน สตช., ของจากร้านค้าในเซ็นทรัลเวิลด์ ที่มาอยู่ในรถของผู้ชุมนุม ฯลฯ ซึ่งจะชี้ให้เห็นได้ว่า "การกล่าวหาของคุณสุเทพฯ ไม่ได้เลื่อนลอย" และมีบางเรื่องที่คงจะต้องนำไปพูดในระดับของศาล

        ลำนำเพลงของ "จางเสี้ยวเสียง" บรรยายถึงราชวงศ์ซ้องที่ประคองตัวอยู่ได้ทางตอนใต้อย่างลำบาก เสียทีมีคมศาสตรา แต่ปล่อยให้ละอองฝุ่นจับเกรอะกรัง ชั่วลัดนิ้วมือเดียว โอกาสพ้นผ่าน คงได้แต่สะอื้นรำพัน มีความตอนหนึ่งว่า

        "หวนรำลึกเรื่องหนหลัง เป็นชะตาฟ้า สุดกอบแก้ไข  ชลเนตรไหลรินหลั่ง" (เทพมารสะท้านภพ เล่ม ๖)

        ความจริงในวันนี้ ไม่ใช่เป็นชะตาฟ้า สุดกอบแก้ไขแต่เป็นเพราะพรรค ปชป. เป็นพรรคที่มีคนดีมากเกินไป มากเกินไปจริงๆ ครับ จึงมีท่าทีว่าจะพ่ายแพ้ ทั้งๆ ที่มี "คมศาสตรา" อยู่เต็มมือ

        พวกเราจะออกไปช่วย "พรรคที่มีคนดีมากเกินไป" หรือเปล่า ในวันอาทิตย์ที่ ๓ กรกฎา นี้ ถ้าจะไปช่วยก็ต้องพากันไปมากๆ ทั้งครอบครัว ถ้าไปคนเดียวคงไม่ไหวครับ

๒๔ มิ.ย.๕๔  สระแก้ว ๑๖.๐๐ น
ถึงตอนนี้ ยังฝันกลางวันอยู่อีก ส่วนใหญ่ฟันธงกันหมดแล้ว 300 บวก(ลบ) 20 ครับ ชัวครับ

ปชปหัวก้าวหน้า

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีต ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) คือใคร?

อ่านนี่

กลุ่มสยามสามัคคี
ประกอบด้วย

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)และอดีตสนช.
พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ข้าราชการทหารบำนาญ
นายสมชาย แสวงการ
นายประสาร มฤคพิทักษ์
นายวรินทร์ เทียมจรัส
นายคำนูณ สิทธิสมาน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน
นายสาย กังกะเวคิน
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์
พญ.พรพันธุ์ บุณยรัตนพันธุ์
ดร.นิลวรรณ เพชระบูรณิร ส.ว.
ดร.สุจิตรา ธนานันท์ นักวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
นายทวี สุรฤทธิกุล
นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นพ.สมบูรณ์ ทศบวร แนวร่วมแพทย์ พยาบาลเพื่อประชาธิปไตย
นายปริญญา ศิริสารการ นักวิชาการอิสระ
นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นักสื่อสารมวลชน
นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ อดีตนายกสมาคมธุรกิจแห่งประเทศไทย

ก็อพวกสาย คมช.เ่่ก่าทั้งนั้น

คนหลังวัด

อ้างจาก: ปชปหัวก้าวหน้า เมื่อ 12:24 น.  29 มิ.ย 54
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีต ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) คือใคร?

อ่านนี่

กลุ่มสยามสามัคคี
ประกอบด้วย

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)และอดีตสนช.
พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ข้าราชการทหารบำนาญ
นายสมชาย แสวงการ
นายประสาร มฤคพิทักษ์
นายวรินทร์ เทียมจรัส
นายคำนูณ สิทธิสมาน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน
นายสาย กังกะเวคิน
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์
พญ.พรพันธุ์ บุณยรัตนพันธุ์
ดร.นิลวรรณ เพชระบูรณิร ส.ว.
ดร.สุจิตรา ธนานันท์ นักวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
นายทวี สุรฤทธิกุล
นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นพ.สมบูรณ์ ทศบวร แนวร่วมแพทย์ พยาบาลเพื่อประชาธิปไตย
นายปริญญา ศิริสารการ นักวิชาการอิสระ
นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นักสื่อสารมวลชน
นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ อดีตนายกสมาคมธุรกิจแห่งประเทศไทย

ก็อพวกสาย คมช.เ่่ก่าทั้งนั้น


            นี่แหละรู้จริง  หลายคนตามรายชือเดินแจกใบปลิว ด้วยตัวเองแล้วว่า อย่าเลือกพวกตรงข้าม
         พวกเผาบ้านเผาเมือง เหมือนจะรู้ว่า ไม่เลือกเรา(ตู)ตายแน่  เวร  กรรม

คนหลังวัด

   หลังเลือกตั้ง น่าจะโดนลูก ศอกกลับ กันหลายคน  นั่งวานไม่ติดพื้นแล้ว 5 5 5 6 6 6

อยากเห็นหาดใหญ่ดีขึ้น

สูสี หรือ แถไถล ไปเรื่อยๆครับ แล้วไอที่ไปพล่ามตรงแยกราชประสงค์พวกคุณ(ปชป.)คิดว่า ปชช.เค้ามาฟังเำพราะเลื่อมใสในพรรคของคุณเหรอ ที่แน่ๆพวกเขาต้องการมาฟังว่าพวกคุณ(ปชป.)จะแถ ตอแหล อะไรอีก พวกเขาจะมาจับโกหกชุดใหญ่ ทำไม เพราะอะไรถึงเพิ่งจะมาพูดเรื่องราวในตอนก่อนเลือกตั้ง เหตุการณ์ผ่านมาสองปีแล้วถึงเพิ่งมาพูด นี่เหรอคนจริง เพิ่งจะมาร้องไห้ตอแหลประชาชน เรียกน้ำตาคะแนนสงสารแบบนังเรยา หมดมุขหาเสียงแล้วใช่มั้ย พวกคุณมันโจรในคราบนักการเมืองที่ปล้นเอาอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศไปจากมือประชาชน โดยใช้นักเลงอันธพาลในเครื่องแบบช่วยเหลือให้ได้เป็นรับบาล  ตามคำสั่งของคนที่ไม่รู้จักคำว่าพอ ที่เอ่ยชื่อไม่ได้อย่างที่คุณจุมพล พูดกับผู้สื่อข่าวเอาไว้ ส.โกรธ

ปชปหัวก้าวหน้า



กรุงเทพโพลชี้ คนกรุงเลือกเพื่อไทย นำ ประชาธิปัตย์ ด้านอภิสิทธิ์ ไม่เชื่อ เพราะโพลระบุคะแนนพรรคไม่ดีมา 2 ปีแล้ว

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพล) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพจำนวน 3,338 คน โดยได้สำรวจเมื่อวันที่ 16-22 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่า...

การเลือกตั้ง ส.ส. ในระบบแบ่งเขต

ร้อยละ 37.9 เลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย

ร้อยละ 22.2 เลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์

ร้อยละ 1.2 เลือกผู้สมัครของพรรครักษ์สันติ

ร้อยละ 5.1 ไม่ระบุเลือกผู้สมัครของพรรคใด ๆ

ร้อยละ 22.1 ยังไม่ได้ติดสนใจเลือกผู้สมัครของพรรคใด ๆ

ร้อยละ 7.6 ไม่ประสงค์ที่จะตอบ

การเลือกตั้ง ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ

ร้อยละ 38.3 เลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย

ร้อยละ 21.6 เลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์

ร้อยละ 3.4 เลือกผู้สมัครของพรรครักประเทศไทย

ร้อยละ 1.6 เลือกผู้สมัครของพรรครักษ์สันติ

ร้อยละ 4.7 ไม่ระบุเลือกผู้สมัครของพรรคใด ๆ

ร้อยละ 20.6 ยังไม่ได้ติดสนใจเลือกผู้สมัครของพรรคใด ๆ

ร้อยละ 7.8 ไม่ประสงค์ที่จะตอบ

อยากได้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากที่สุด

ร้อยละ 47.2 อยากได้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะอยากให้โอกาสคนใหม่ ๆ มาทำงาน และอยากให้มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง ซึ่งมีประสบการณ์บริหารธุรกิจ

ร้อยละ 28.0 อยากได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะอยากให้สานงานต่อ งานจะได้ต่อเนื่อง พรรคมีนโยบายที่ดี

ร้อยละ 5.1 อยากได้ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ ทำงานจริง

ร้อยละ 3.9 อยากได้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เพราะเป็นคนกล้าพูด พูดตรง เปิดเผยจริงใจ


ความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในการควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภา​พ และโปร่งใสยุติธรรม

ร้อยละ 57.1 ไม่ค่อยเชื่อมั่นถึงไม่เชื่อมั่นเลย

ร้อยละ 42.9 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงเชื่อมั่นมาก

การติดต่อซื้อเสียงจากคนในพื้นที่

ร้อยละ 69.9 ระบุว่า ไม่มีการซื้อเสียง

ร้อยละ 6.9 ระบุว่า มีการซื้อเสียง

ร้อยละ 23.2 ระบุว่า ไม่ทราบ

ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงผลสำรวจของกรุงเทพโพล ว่า ตนไม่อยากพูดถึงโพ ดังกล่าว เพราะกรุงเทพโพลสำรวจมา คะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดีมา 2 ปีแล้ว แต่ในส่วนของเอแบคโพล และดุสิตโพลนั้น ได้บ่งบอกอะไรหลาย ๆ อย่าง อย่างไรก็ตาม ทางพรรคมั่นใจว่า ประชาชนจะเห็นความแตกต่างระหว่างนโยบาย เช่น การประกันรายได้กับการจำนำพืชผลเกษตร การศึกษา และเรื่องข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับปัญหานิรโทษกรรมล้างความผิด และการจะคืนเงิน 4.6 หมื่นล้าน ซึ่งจะทำให้ประชาชนตัดสินใจง่ายขึ้น

คนผ่านมา

น้องปูมาแน่ มาแน่ อ่านจากหนังสือมติชน ฉบับเดือนมิถุนายน  อันดับหนึ่ง

คนเขต 2 หาดใหญ่

เขต 2 สงขลา เลือกภูมิใจไทย เพราะผิดหวังการทำงานผู้แทนที่ ปชป. ส่งมา คร๊าบ