ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

Shut down มอยส์!เอโต้แฮตทริกโชว์สิงห์ต้อนผี 3-1

เริ่มโดย itplaza, 11:31 น. 20 ม.ค 57

itplaza



เดวิด มอยส์ยังต้องรับเสียงสาปส่งต่อไปหลังบุกเยือน"สิงห์บลูส์"เชลซีแล้วเจอความเด็ดขาดที่มากกว่าได้ซามูเอล เอโต้เหมาคนเดียวกดแฮตทริกช่วยให้เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไป 3-1 อยู่อันดับ 3 ต่อไปพร้อมไล่หลังทีมหัวแถวเท่าเดิมและเป็นชัยชนะในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 100 ให้โจเซ่ มูรินโญ่ด้วย

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2557

เชลซี 3:1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู : 1-0 เอโต้ น.17, 2-0 เอโต้ น.45, 3-0 เอโต้ น.49, 3-1 เอร์นานเดซ น.78


คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก เชลซี 3-1 แมนยู

เกมนี้เชลซีมาปึ๊กให้อาซาร์, ออสการ์, วิลเลียนเล่นเกมบุกโดยมีเอโต้เป็นกองหน้า ส่วนตรงกลางได้ลุยซ์ยืนตัวรับและแบ็คซ้ายเป็นอัซปิลิกวยต้าอีกครั้ง ฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ดได้โจนส์กลับมาแล้วยืนตรงกลางคู่คาร์ริค ส่วนเกมบุกก็มียังยืนปีกซ้ายและยานาไซจ์ไปเล่นหน้าต่ำหลังเวลเบ็ค

ด้านสถิติของโจเซ่ มูรินโญ่ถือว่าข่มเพราะในการคุมเชลซีเขาไม่เคยแพ้คาบ้านให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาก่อนและก็ลุ้นคว้าชัยชนะนัดนี้ให้เป็นชัยชนะนัดที่ 100 เกมพรีเมียร์ลีกด้วย ส่วนฝั่ง"ปีศาจแดง"มีดีที่สถิติเกมเยือน 7 นัดหลังในลีกพวกเขายังไม่แพ้ใครชนะ 5 เสมอถึง 2 แต่พวกเขาเอาชนะทีมที่อยู่ในท็อปเท็นซีซั่นนี้เพียงแค่ 2 จาก 10 นัดเท่านั้น

ครึ่งแรก

ผีทักทายเสียว!อ.ยังหลุดมายิงไม่ผ่านเซฟเช็ก
ออกสตาร์ทเกมมาแมนฯ ยูไนเต็ดเกือบออกนำตั้งแต่ทีแรกเลยด้วยจังหวะบอลโดนกสัดเข้าทางของคาร์ริคถ่ายออกไปทางซ้ายให้ยังทำชิ่งกับเวลเบ็คหลุดเข้าเขตโทษมาก่อนจะเลือกยิงอัดเสาแรกแต่เช็กยืนรอยังเซฟเอาไว้ได้ก่อน

สิงห์มีเฮง!เอโต้ยิงแฉลบคาร์ริคโด่งเข้าประตูซะงั้น
แล้วนาที 17 กลายเป็น"สิงห์บลูส์"ที่ยังบุกน้อยกว่าแต่มีประตูออกนำไปก่อนเรียบร้อยด้วยจังหวะที่บอลโยนยาวขึ้นหน้ามาแล้วอีแวนส์โหม่งสกัดเข้าทางของเอโต้ก่อนจะโยกหลอกโจนส์เลี้ยงตัดจากขวามาหน้าเขตโทษตามด้วยซัดก่อนจะไปแฉลบคาร์ริคกลายเป็นดีบอลลอยโด่งผ่านมือเด เกอาเข้าไปซุกก้นตาข่ายกลายเป็นเชลซีออกนำไปแล้ว 1-0

สิงห์เริ่มเครื่องติดเหลือจังหวะจบ
หลังจากนั้นกลายเป็นเชลซีเครื่องติดเริ่มทำเกมบุกได้มากขึ้นแม้จะยังไม่มีโอกาสยิงจะๆอีกหนแต่ทำแมนฯ ยูไนเต็ดป่วนได้เหมือนกันจากอาซาร์ที่เลื้อยทางซ้ายทีทางขวาทีแต่จังหวะสุดท้ายยังเชื่อมกันไม่ติดเท่าไหร่

พี่ติ๊กทะลุมาทางซ้ายยิงเข้าข้างตาข่าย
เป๋ไปซักพักแมนฯ ยูไนเต็ดก็กลับมาบุกได้ต่อเนื่องอีกแล้วก่อนจะมามีลุ้นจากเอฟร่าไปตัดบอลได้จากออสการ์ก่อนจะลากขึ้นมาเองทางซ้ายยาวจนถึงหน้าเขตโทษสุดท้ายจัดการสับไกเต็มข้อแต่บอลยังพุ่งเข้าเพียงแค่ข้างตาข่ายเท่านั้น

ออสการ์ลองยิงเองแต่หลุดไปไกล
ผ่านครึ่งชั่วโมงมาเชลซีก็ยังเอาอยู่หยุดเกมรุกแมนฯ ยูไนเต็ดได้พอสมควรและมีโอกาสได้ลุ้นบ้างจากอิวาโนวิชจ่ายให้ออสการ์พาบอลขึ้นมาทางขวาค่อยๆเข้าเขตโทษมีเพื่อนวิ่งอ้อมหลังแต่ไม่จ่ายตัดสินใจยิงเองเลยสุดท้ายบอลหลุดเสาสองไกลโข

ผีเกือบเฮ!แดนนิอุสเก็บตกได้ยิงแต่ตรงตัวเช็ก
นาที 38 โอกาสสำคัญของ"ปีศาจแดง"เลยน่าได้ประตูออกนำจากจังหวะที่เคาะบอลกันไปมาก่อนทางซ้ายที่ยานาไซจ์หลุดมาได้ก่อนจะเปิดเรียดเข้าไปในเขตโทษเหมือนไม่มีอะไรแต่ดันปล่อยผ่านมาหมดหลุดถึงเวลเบ็คยืนรอกลางประตูจับบอลก่อนจะสับไกแต่จังหวะยิงก็มีอัซปิลิกวยต้ามาตามจิ้มด้วยทำให้ยิงไม่ถนัดโดนเช็กเซฟได้

ผลัดกันได้ลองลุ้นคนละดอก
ช่วงท้ายครึ่งแรกผลัดกกันบุกผลัดกันได้ลุ้นคนละทีเริ่มต้นที่แมนฯ ยูไนเต็ดก่อนจากยานาไซจ์ที่วันนี้ตัวแสบน่าดูลองยิงหน้าเขตโทษติดบล็อก ก่อนเชลซีจะสวนกลับอาซาร์ให้กับเอโต้ในเขตโทษพยายามกลับตัวยิงติดบล็อกลอยโด่งมาหน้าประตูออสการ์เลยลังกายิงซะเลยแต่ก็หลุดกรอบไม่ค่อยได้ลุ้น

เอโต้อีกแล้ว!หลังผีเหม่อโดนลูกสองเข้าไป
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเจ้าบ้านได้เฮอีกรอบมีประตูส่งท้ายครึ่งแรกจากเตะมุมสกัดออกมาได้ก่อนรามิเรสเก็ตกตรงกลางก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้กับเคฮิลล์ที่อยู่ทางขวาในเขตโทษหลุดไปแล้วเปิดเรียดไปตรงกลางที่เอโต้ไร้ตัวประกบโล่งเหลือเกินวิ่งมาแปผ่านเด เกอาเข้าไปจนได้ เชลซีปิดด้วยการนำ 2-0

ครึ่งหลัง

แฟนผีปิดไฟ...เอโต้แฮตทริกยืนซ้ำหลาเดียวสิงห์นอนตีพุง
กลับมาครึ่งหลังไม่ทันไร"สิงห์บลูส์"ได้ประตูเพิ่มอีกแล้วด้วยเตะมุมทางขวาเปิดเข้ามาตรงกรอบ 6 หลาเคฮิลล์วิ่งหลบตัวประกบมาโขกเต็มเหน่งยังติดเซฟเด เกอาแต่บอลเจ้ากรรมยังมาตกอยู่ตรงหน้าเอโต้โดนวาเลนเซียกอดแต่ขายังอิสระซ้ำจ่อๆหลาเดียวเข้าไปกลายเป็นแฮตทริกพร้อมส่งเชลซีนำเพิ่มเป็น 3-0

สิงห์ยังได้ลุ้นประปราย
พอโดนลูกสามเหมือนแมนฯ ยูไนเต็ดช็อกไปแล้วกลายเป็นเชลซีได้ลุ้นอีกในนาที 60 จากวิลเลียนเลี้ยงมาทางซ้ายก่อนจะจ่ายเข้าในแล้วไปติดนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดแต่โดนจิ้มมาเข้าทางของรามิเรสขอลองส่องไกลเข้าไปเลยแต่สุดท้ายบอลยังข้ามคาน

วิลเลียนกับอาซาร์ได้ลองส่องยังไม่มีเพิ่ม
แมนฯ ยูไนเต็ดตื้อไปแล้วส่วนเชลซีอีกได้โอกาสลองส่องทีสองทีเริ่มต้นจากวิลเลียนกดหน้าเขตโทษแล้วแฉลบยังตรงตัวเด เกอาอยู่ กับอีกจังหวะอาซาร์มาทางซ้ายลากตัดเข้าในมายิงแฉลบอีกแต่จังหวะนี้โด่งออกหลัง

เช็กทำเสียว!ล็อกหน้าประตูสองหลาหวิดโดนถั่วสไลด์เข้า
นาที 69 ทำเสียวกันทั้งสแตมฟอร์ด บริดจ์เพราะมีจังหวะที่เชลซีหวิดโดนตีไข่แตกไล่มาแล้วจากบอลคืนหลังไปให้กับเช็กแล้วจับยาวไปหน่อยเจอวิ่งบีบมาเร็วโดยชิชาริโต้ยังดีล็อกได้สวยทำชิชาริโต้สไลด์วืดหน้าประตูตัวเองระยะราว 2 หลาเท่านั้นทำเอามูรินโญ่มีแอบใจหายเหมือนกัน

ไข่แตกแล้ว...ถั่วชาร์จเผาขนผีตามมาห่างๆ
เกมเข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายพอมีแรงฮึดขึ้นมาอีกนิดสำหรับ"ปีศาจแดง"ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาแล้วจากเกมขึ้นทางขวาวาเลนเซียจ่ายให้กับเวลเบ็คในเขตโทษแหวกมาสองก่อนตบกลับไปตรงกลางที่โจนส์ไม่ยิงเลือกจ่ายออกไปทางซ้ายให้ชิชาริโต้ระยะไม่ถึง 6 หลาเข้าชาร์จไปจนได้ แมนฯ ยูไนเต็ดไล่มาห่างๆ 3-1

มาติชลงประเดิมสนาม-ตอร์เรสเจ็บช่วงท้ายเล่นต่อไม่ได้
ท้ายเกมแฟนเชลซีจะได้ยลฟอร์มนักเตะใหม่เล็กๆเมื่อเนมันย่า มาติชถูกเปลี่ยนลงสนามมาแทนที่วิลเลียนเรียบร้อยแล้วมาในช่วงที่เกมเงียบลงไปทั้งสองฝั่งไม่ค่อยจะได้ลุ้นอะไรแล้ว

เอาให้พอ!วิดิชโดนแดงทดเจ็บอีกต่างหาก
ทดเจ็บหนักกว่าเดิมอีกเมื่อแมนฯ ยูไนเต็ดมาโดนใบแดงในจังหวะที่อาซาร์เลี้ยงขึ้นมาเรื่อยๆไม่มีอะไรก่อนวิดิชจะมาทิ้งตัวเสียบเข้าไปแล้วฟิล ดาวด์มาโหดแจกใบแดงให้เลยเสียหายหนักกระเทือนถึงเกมต่อไปด้วย

จบเกมเชลซีเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 กลายเป็นชัยชนะในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 100 ของมูรินโญ่พาทีมกลับไปตามหลังแมนฯ ซิตี้กับอาร์เซน่อลเท่าเดิม ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 7 เหมือนเดิมแต่นิวคาสเซิ่ลไล่จี้เหลือคะแดนนเดียว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 7.0, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6.0, แกรี่ เคฮิลล์ 7.0, จอห์น เทอร์รี่ 7.0, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า 7.0, ดาวิด ลุยซ์ 6.0, รามิเรส 7.5, ออสการ์ 6.0 (มิเกล น.68 6.0), เอแด็ง อาซาร์ 6.0, วิลเลียน 7.0 (มาติช น.86 -), ซามูเอล เอโต้ 8.0* (ตอร์เรส น.79 -)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : มาร์ค ชวาร์เซอร์, แอชลี่ย์ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ฆวน มาต้า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เกอา 6.0, ราฟาเอล ดา ซิลวา 5.0, ปาทริช เอฟร่า 6.0 (สมอลลิ่ง น.51 6.0), จอนนี่ อีแวนส์ 5.0, เนมันย่า วิดิช 4.5, ฟิล โจนส์ 5.0, ไมเคิ่ล คาร์ริค 6.0, แอชลี่ย์ ยัง 5.5 (เอร์นานเดซ น.57 7.0), อันโตนิโอ วาเลนเซีย 5.0, อัดนาน ยานาไซจ์ 7.0, แดนนี่ เวลเบ็ค 6.0

สำรองไม่ได้ลงสนาม : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ไรอัน กิ๊กส์, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, ดาร์เรน เฟลตเชอร์, ชินจิ คากาวะ


http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=3&news_id=32624&page=1