ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เนวินฮุบแอ๊ดบาว? เมื่อควายเพื่อชีวิตถูกพิชิตโดยภูมิใจห้อย

เริ่มโดย wachi29, 10:32 น. 11 ธ.ค 53

wachi29

เนวินฮุบแอ๊ดบาว? เมื่อควายเพื่อชีวิตถูกพิชิตโดยภูมิใจห้อย

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน   10 ธันวาคม 2553 22:44 น.

   
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เรียกว่า สร้างความฮือฮาและกลายเป็นประเด็นฮอตไปทั่วบ้านทั่วเมืองทันทีกับข่าว "ปาฏิหาริย์รักต่างพันธุ์" หรือ "การผสมพันธุ์" กันระหว่างวงดนตรีเพลงเพื่อชีวิตชื่อดังอย่าง "คาราวบาว" ซึ่งมี "นายยืนยง โอภากุล" หรือ "แอ๊ด คาราบาว" เป็นหัวหน้าวงในฐานะนักร้องนำกับนักการเมืองชื่อพม่า หน้าลาว เว้าเขมรอย่าง "นายเนวิน ชิดชอบ" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตัวจริงเสียงจริง
       
       อย่างไรก็ตาม ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะสังคมในระยะหลังได้รับรู้ถึงตัวจริงของ "แอ๊ดบาว" มาบ้างแล้วว่า การให้นิยามกับวงดนตรีวงนี้ว่า เป็นดนตรีเพื่อชีวิตดูเหมือนจะใช้ไม่ได้เสียแล้ว หลังจากที่พฤติกรรมต่างๆ ฟ้องให้เห็นชัดว่า แท้ที่จริงแล้ว พวกเขาเป็นวงดนตรีเพื่อชีวิตตัวเอง มิใช่เพื่อชีวิตประชาชน
       
       เพียงแต่การที่คาราบาวผสมพันธุ์กับนักการเมืองสายพันธุ์ยี้ห้อยนั้นดูจะเกินเลยไปจากความหวังของสังคมหนักเข้าไปอีก เพราะการที่คาราบาวซึ่งเคยแต่งเพลงชื่อดังก่นด่ารัฐมนตรีเฮงซวยผู้คิดแต่กอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองมากกว่าอาสาเข้ามารับใช้ประชาชนอย่าง "เพลง รมต.เต้าหู้ยี้" นั้น ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์คาราบาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวแอ๊ด คาราบาวเองติดลบจนไม่สามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้ว่า คำนึงถึงเรื่อง "เงิน" เป็นที่ตั้ง
       
       จริงอยู่ แม้การเซ็นสัญญากับบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ซึ่งมี "นายวินิจ เลิศรัตนชัย" อดีตนักรายการชื่อดัง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท มิได้มีชื่อของนายเนวินปรากฎอยู่ แต่สังคมก็รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่า ในปัจจุบันนั้น เสี่ยวินิจคือมือไม้ในการทำงานคนสำคัญของนายเนวิน เป็นสมุนมือขวาของนายเนวินในการจัดอีเว้นท์ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่พรรคภูมิใจไทยได้เถลิงอำนาจเป็นรัฐบาล
       
       โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม ทั้งเมื่อปี 2552 และ 2553 ที่นายเนวินได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการจัดงาน เสี่ยวินิจก็คือผู้จัดงานให้กับนายเนวิน
       
       ดังนั้น การเคลื่อนไหวของเสี่ยวินิจจึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับนายเนวินอย่างแยกไม่ออก
       
       แต่จะอย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้แม้เสี่ยวินิจปฏิเสธอย่างแข็งขันว่า ดีลครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ฯพณฯเนวิน แต่จากพยานแวดล้อม รวมทั้งเมื่อดูจากข้อสัญญา และคำให้สัมภาษณ์ที่ออกมาจากปากของเสี่ยวินิจ ก็ทำให้สังคมยังมิวางใจเสียทีเดียวว่าจะไม่เป็นไปตามนั้น เพราะเป็นเรื่องที่รับรู้กันว่า เรื่องทำนองนี้ ไม่มีใครเปิดเผยอย่างเป็นทางการ
       
       กล่าวคือ แม้เสี่ยวินิจระบุชัดเจนว่า "ยืนยันว่าไม่ใช่ครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องคุณเนวิน หรือ กระทรวงมหาดไทยทั้งสิ้น เป็นการทำงานระหว่างบริษัทเฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ของผม และทางบริษัท วอร์นเนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด และวงดนตรีคาราบาวครับ เป็นการเซ็นสัญญาร่วมกัน ถามว่าทางคุณเนวินติดต่อมาเพื่อขอเซ็นสัญญาตามที่เป็นข่าวรึเปล่าไม่มีครับ เป็นข่าวเท็จร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ" แต่ด้วยสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น ในท้ายที่สุดแล้วอาจจะมีความเกี่ยวข้องกันในทางใดทางหนึ่ง
       
       ทั้งนี้ เนื่องเพราะเฟรชแอร์ฯ ของเสี่ยวินิจจะได้รับสิทธิในการบริหารโชว์คอนเสิร์ตของคาราบาวในปี 2554 ทั้งหมด 100 โชว์ด้วยกัน รวมทั้งยังได้สิทธิในการบริหารจัดการเรื่องลิขสิทธิ์ 30 ปีคาราบาวแต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลาถึง 1 ปีเต็มๆ ซึ่งเสี่ยวินิจยอมรับเองว่า ต้องใช้งบประมาณในการจัดทำคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ของวงคาราบาวถึงกว่า 200 ล้าน โดยขณะนี้เป็นช่วงที่กำลังเจรจาหาสปอนเซอร์ที่จะเข้าร่วมการจัดงาน ซึ่งสังคมคงไม่แปลกใจว่า หนึ่งในสปอนเซอร์รายสำคัญในอนาคตอาจจะมีเครือข่ายของเนวินกรุ๊ปเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย
       
       ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรมที่เครือข่ายเนวินกรุ๊ปรับผิดชอบ หรือธุรกิจการค้าที่อยู่ในเครือข่ายของนายเนวิน
       
       แน่นอน คำถามสำคัญที่ตามมามีอยู่ 2 คำถาม
       
       คำถามแรกคือ นายเนวินมีเป้าประสงค์อะไร ถ้าการผสมพันธุ์ครั้งนี้เป็นไปตามสมมติฐานข้างต้นจริงๆ
       
       สำหรับคำถามแรกเรื่องเป้าประสงค์ในการผสมพันธุ์นั้น มิอาจมองเป็นอย่างอื่นได้ว่า มีจุดมุ่งหมาย "ทางการเมือง" เป็นสำคัญ เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ในปี 2554 จะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่เกิดขึ้นในประเทศไทย การออกเดินสายไปโชว์คอนเสิร์ตมากถึง 100 โชว์ตามจังหวัดต่างๆ จึงย่อมถูกตั้งข้อสังเกตว่า ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งแปลความหมายได้ว่า เนวินกรุ๊ปอาจต้องการใช้ฐานแฟนคลับของคาราบาวมาเป็นส่วนหนึ่งของฐานเสียงให้กับพรรคภูมิใจไทยก็เป็นได้
       
       ขณะเดียวกันก็เป็นไปได้ว่า เพลงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในครั้งหน้าของพรรคภูมิใจไทยก็อาจใช้บริการจากฝีไม้ลายมือของแอ๊ด คาราบาวอีกเช่นกัน
       
       ส่วนคำถามที่สองว่า ทำไมจุดยืนของคาราบาวจึงเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ ก็มีคำตอบที่ชัดเจนเช่นกันจากการแถลงข่าวของเสี่ยวินิจเองว่า เพื่อสามารถดำเนินงานคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ และการจัดการลิขสิทธิ์ที่มีปัญหามานาน รวมทั้งสามารถกำหนดรายได้ที่ชัดเจนมากขึ้นจากส่วนแบ่งคอนเสิร์ต ซึ่งจะทำให้คาราบาวสามารถลดจำนวนคอนเสิร์ตตามสถานบันเทิงเฉกเช่นผับบาร์ให้น้อยลงอีกด้วย
       
       หรือพูดง่ายๆ คือ คาราบาวจะมีรายได้มากขึ้นโดยไม่ต้องไปลุ้นจัดคอนเสิร์ตตามสถานบันเทิงที่มีความไม่แน่นอนอีกต่อไป
       
       ขณะเดียวกันในระยะหลังตัวตนของคาราบาว โดยเฉพาะ "แอ๊ด คาราบาว" ก็เริ่มเด่นชัดขึ้นว่า คิดคำนึงถึงเรื่องธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากก่อนหน้านี้ที่นายยืนยง ในฐานะหัวหน้าวงคาราบาวได้เซ็นสัญญากับบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะ Brand Ambassador ให้กับผลิตภัณฑ์ข้าวสารยี่ห้อหนึ่ง และเมล็ดพันธุ์ในปี 2553 เนื่องจากนายยืนยงมีสายสัมพันธ์กับนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะที่ชื่นชอบกีฬาไก่ชน และเป็นลูกค้าเมล็ดพันธุ์สำหรับเป็นอาหารไก่ชนมาโดยตลอด
       
       ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากภายในบริษัทระบุว่า นายยืนยงได้แต่งเพลงเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าออกมา 2 เพลง รวมทั้งจัดแสดงคอนเสิร์ตตลอดทั้งปีรวม 12 ครั้ง แต่ได้งดจัดแสดงสองครั้ง เนื่องจากปัญหาทางการเมือง ก่อนที่จะหมดสัญญาในปีนี้
           
       ...ไม่เพียงแค่นี้
       
       สำหรับแอ๊ด คาราบาวนั้น ถ้าจะว่าไปแล้ว ที่ผ่านมาตัวตนที่แท้จริงของเขากับจิติญญาณของเพลงเพื่อชีวิตมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง กล่าวคือ ในขณะที่คาราบาวประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับการออกอัลบั้มชุดที่ 5 ชื่อ "เมด อิน ไทยแลนด์" เมื่อปี 2527 ซึ่งเนื้อหาของเพลงรณรงค์ให้คนกลับมาใช้ของไทย หันกลับมาสร้างค่านิยมไทยและภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย แต่แอ๊ด คาราบาวกลับไม่ทำในสิ่งที่ร้อง
       
      จากนั้น แอ๊ด คาราบาวก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอีกครั้ง ในปลายปี พ.ศ. 2545 เมื่อตัดสินใจเข้าเป็นหุ้นส่วนสำคัญคนหนึ่งของเครื่องดื่มชูกำลัง ยี่ห้อ "คาราบาวแดง" โดยใช้ชื่อวงดนตรีของตัวเองมาเป็นจุดขาย ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างในสังคมว่า สมควรหรือไม่ กับผู้ที่เคยสู้เพื่ออุดมการณ์มาตลอด มาเป็นนายทุนเสียเอง ในปัจจุบันประชาชนหลายคนก็ยังเคลือบแคลงในจุดยืนของเขา
       
       เพราะครั้งหนึ่งแอ๊ด คาราบาว เคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสารฉบับหนึ่งต่อคำถามที่ว่า "คาราบาว ผูกพันกับจิตวิญญาณของชนชั้นล่าง ทุกวันนี้คุณแอ๊ดเห็นตัวตนของชนชั้นล่างไหมค่ะ ว่าเป็นอย่างไร ?" ซึ่งแอ๊ด คาราบาวตอบเอาไว้อย่างชัดเจนว่า "ก็ยังลำบาก โดนเอาเปรียบทุกทาง มันเป็นธรรมดาที่บ้านเมืองปกครองด้วยระบอบนี้ ระบอบที่คนชั้นล่างเป็นเหยื่อ ตัวอย่างง่ายๆ คนที่เป็นกรรมกร วันหนึ่งต้องดูดบุหรี่ ต้องกินกระทิงแดง ทั้งๆ ที่ไม่มีประโยชน์เลย ถูกหลอกจนต้องติด ไม่มีใครให้การศึกษาเขาเลยว่า สิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ แล้วทำไมยังปล่อยให้ขายได้ขนาดนี้"

       
       รวมทั้งในทางการเมือง หลังจากเคยมีบทบาทในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535 แต่วิกฤตการเมืองจากการบริหารประเทศโดยขาดความชอบธรรมของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา แอ๊ด คาราบาวกลับมีท่าทีที่นิ่งเฉยไม่แสดงออก นอกจากแต่งเพลงออกมาอย่างเงียบๆ
       
       ด้วยเหตุดังกล่าวจึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่แอ๊ด คาราบาวจะไปซบนายเนวินจริงๆ เพราะที่ผ่านมาใช่ว่าแอ๊ด คาราบาวจะไม่เคยรับงานเพลงให้นักการเมือง พรรคการเมือง หรืออีเวนท์ทางการเมืองเลย ยกตัวอย่างเช่นเพลง "ยืนหยัด ชัดเจน" ที่แต่งให้กับพรรคชาติไทย หรือจะย้อนกลับไปสมัยรัฐบาล นช.ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยแต่งเพลงสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์, โคล้านตัว, ไข้หวัดนก เป็นต้น
       
       ขณะที่สำหรับนายเนวินเอง ก่อนหน้านี้ แอ๊ด คาราบาว ก็เคยแต่งเพลง "นักรบปราสาทสายฟ้า" ให้กับสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ซึ่งก็มีนายเนวินเป็นประธานสโมสรด้วย
       
       ดังนั้น คงต้องจับตากันต่อไป ว่าท้ายที่สุดแล้ว ดีลครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้จะออกมาอย่างไร

ฅนสองเล


มาแจม

ถามว่าเชื่อข่าวนี้มั้ย?เชื่อครับ ไม่ต้องบรรยายมาก ชอบผลงานเพลง แต่ไม่ชอบพฤติกรรมส่วนตัว ดูมันสวนทางกับเนื้อเพลงเหลือเกิน
ถ้า"เพื่อชีวิต"จริงๆต้องน้าหงา คาราวาน ไม่ได้ฟุ้งเฟ้อเฟอะฟะจนน่าเกลียด
นอกนั้นเกือบทั้งหมด"เพื่อชีวิต(กู)"

คนค้นคน

อย่าลืมพี่หมูพงษ์เทพผมด้วยหล๊ะ เพื่อชีวิ๖ตัวจริงเสียงจริง และวงซูซูนั้นก็ด้วย ฝากไว้ให้คิดครับพี่น้อง ส.เดี๋ยวโดน

สมชาย เข็มหมุด

พูดไม่ถูกใจล่ะสิ ลบกระทู้กรูซะงั้น ช่างเมิงเหอะ

wachi29

อ้างจาก: สมชาย เข็มหมุด เมื่อ 11:27 น.  14 ธ.ค 53
พูดไม่ถูกใจล่ะสิ ลบกระทู้กรูซะงั้น ช่างเมิงเหอะ

ที่ผมลบกระทู้ไม่ใช่ว่าไม่ชอบกับสิ่งที่คุณกล่าว เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับผม ข่าวนี้ผมก็อิงมาจาก เว็บผู้จัดการ แค่เอามาให้อ่าน ใครจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกัน จะชอบหรือไม่ชอบก็แสดงความคิดเห็นกันไป เพราะข่าวนี้ผมไม่ได้เขียนเอง ผมจะไปโกรธหรือดีใจทำไม แต่ที่ต้องลบ comment ออกเพราะวาจาที่คุณแสดงมันหยาบคาย ที่นี่เป็นบอร์ดสาธารณะ ก่อนหน้านี้ คุณสายข่าวบ้านเรา ก็โพสเกือบทุกหมวด ว่าห้ามใช้คำหยาบคาย แต่คนอย่างคุณก็หาใส่ใจไม่ จนมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่สำนึก ยังแสดงสันดาน (คำนี้ไม่ได้หยาบคายน่ะครับ ลองไปหาอ่านดู) ต่ำออกมาอยู่ดี ผมก็คงไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดที่ลบ comment คุณไป และอีกอย่าง คุณไม่จำเป็นต้องเลี่ยงคำหรอกครับ ต่อให้คุณพิมพ์คำเดิม มันก็โพสติด เค้าดูที่เจตนาครับ แต่เท่าที่สังเกตุ รู้สึกคุณจะรู้วิธีหลบเลี่ยงคำ เสมือนกับว่าทำนิสัยอย่างนี้บ่อยในเว็บฯ อื่นใช่ไหมครับ

บังดีน

ความผิดพลาดครั้งใหญ่สุดคือการไม่ได้ลงมือทำ
ยา้เส้นโคกเมาปี2012
http://gimyong.com/talung/index.php/topic,62913.new.html#new