น้ำมันไทย..ขายนอกถูก..คนไทยแพง...เจ็บปวดนะ

[ทวงคืน ปตท. กลับมาด่วน]

โสภณ สุภาพงษ์ คือผู้พลิกฟื้นบางจากจริงหรือ?
   

http://pantip.com/topic/31948882

ช่วงนี้ชื่อของคุณโสภณ สุภาพงษ์ ผ่านเข้ามาให้ผมได้เห็นค่อนข้างบ่อยครับ นับตั้งแต่แกขึ้นเวที กปปส เพื่อพูดเรื่องพลังงาน ก็เลยทำให้ผมสนใจอยากหาประวัติแกมาอ่านสักหน่อย ง่ายที่สุดคือ search จากอินเตอร์เน็ตนี่ล่ะครับ แต่ผมพบว่าประวัติของแกที่มีนั้นส่วนใหญ่เป็นประวัติที่ก็อปกันมา เรียกว่าเชิดชูความเป็นคนดีของแกเหมือนกันหมดเลย มีบ้างที่มีรายละเอียดปลีกย่อย และข้อเท็จจริงบางส่วนแตกต่างออกไป ผมอ่านเกือบทั้งหมดแล้ว เลยขอนำแง่มุมเกี่ยวกับคุณโสภณ สุภาพงษ์ตามมุมมองของผมมาสรุปให้อ่านกันตามนี้นะครับ

ประวัติโสภณ สุภาพงษ์ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมัน
ปี 2512    เข้าทำงานด้านน้ำมันครั้งแรกที่บริษัทเอสโซ่ แสตนดาร์ด ประเทศ ไทย จำกัด

ปี 2525    ทำงานที่การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จนได้เป็นรองผู้ว่าการ ปตท.

ปี 2528    ได้เข้าทำงานที่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด โดยคำเชิญชวนของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ นายก รัฐมนตรีในสมัยนั้น ให้มาบริหารบางจากฯ ซึ่งกำลังประสบภาวะขาดทุนกว่า 4 พันล้านบาท

ลองมาดูกันครับว่าทำไมก่อนหน้านี้โรงกลั่นบางจากถึงขาดทุนสะสมระดับ 4 พันล้านบาท ผมขอเล่าเรื่องโรงกลั่นบางจากให้ฟังอีกครั้งแล้วกัน เนื่องจากน้ำมันถือเป็นยุทธปัจจัยทางทหาร กองทัพไทยจึงสร้างโรงกลั่นขึ้นมาในประเทศ เป็นโรงกลั่นบางจาก น้ำมันที่เหลือใช้ในราชการก็นำมาขายแข่งกับเอกชน ใช้ชื่อน้ำมันสามทหาร แต่การดำเนินการไม่สามารถแข่งกับโรงกลั่นของเอกชนได้ โรงกลั่นขาดทุน จึงให้สัมปทานเอกชนไปดำเนินการ เปลื่ยนเป็น บริษัท ซัมมิท อินดัสเตรียล คอร์ปอเรชั่น (ปานามา) ต่อมามีการเดินขบวนประท้วงเรียกร้องให้นำโรงกลั่นของชาติกลับมา รัฐบาลจึงเลิกสัปทานกับเอกชน ให้กรมการพลังงานทหารเข้าไปดำเนินการแทน โรงกลั่นบางจากขาดทุนหนัก รัฐบาลพลเอกเปรม ตัดสินใจเปลื่ยนโครงสร้างโรงกลั่นบางจากจากหน่วยงานของรัฐเป็นรัฐวิสาหกิจ จะเห็นได้ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ก่อนหน้านี้โรงกลั่นบางจากขาดทุนสะสมคือระบบการบริหารงานแบบราชการนั่นเอง ทีนี้พอปรับโครงสร้างให้การบริหารงานมันดีขึ้น โดยการใช้หนี้กว่า 4 พันล้านบาทนั้นก็หาใช่มาจากการบริหารงานโดยคุณโสภณไม่แต่เป็นการกู้เงินมาใช้หนี้เดิม 145 ล้านเหรียญ โดยให้รัฐบาลค้ำประกันและใช้แทน หาเงินมาเป็นทุนเรือนหุ้นที่เรียกเพิ่มคือราว 1,253 ล้านบาท ตามส่วนที่ปตท.ถืออยู่ 75% พร้อมทั้งโอนคนของโรงกลั่นที่มีอยู่กว่า 500 คน มาอยู่กับปตท. และให้บางจากฯ เลือกสรรไปก่อนเท่าที่จำเป็น พร้อมทั้งกำหนดฤกษ์โอนงานในวันที่ 1 มกราคม 2528 จะเห็นว่าหลังจากนี้ก็ไม่ยากที่ผลประกอบการจะกลับมามีกำไรได้

ปี 2530    ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด ภายในห้าปีโสภณสามารถทำให้บางจากฟื้นตัวได้กำไรคืนมา 500-800 ล้านบาทต่อปี พร้อมกับการสร้างจุดยืนในด้านสิ่งแวดล้อม สนับสนุนวิถีผลิตแบบชุมชน เศรษฐกิจพอเพียง และเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการ

ตรงจุดนี้ล่ะครับที่เป็นประเด็นสำคัญที่คลาดเคลื่อนไปเพราะตามประวัติที่ผม search เจอนั้นพยายามจะบอกกันว่าคุณโสภณแกบริหารบางจากจนมีกำไร แต่ผมกลับพบว่าการนำงบไปทุ่มเทกับการสร้างภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมวิถีชุมชนอะไรของแกนั้นถือเป็นการดำเนินงานทางธุรกิจที่ผิดพลาดครับ คือแทนที่จะลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตของโรงกลั่นให้มีความสามารถทัดเทียมกับโรงกลั่นอื่นๆเขา กล่าวคือ ลงทุนเพื่อสร้างโรง cracker แต่กลับเอาเงินไปหว่านกับสหกรณ์และโครงการโปรโมทตัวเอง รวมถึงการพีอาร์ต่างๆ สุดท้ายก็ไปไม่รอดเพราะโรงกลั่นอื่นมี cracker หมด บางจากไม่มี กลั่นออกมามีแต่น้ำมันเตาราคาถูกเต็มไปหมด ขณะที่คนอื่นกลั่นได้เบนซินดีเซล ไหนจะเจอพิษเศรษฐกิจเข้าไปอีก ยิ่งทำให้บางจากภายใต้การบริหารของแกในช่วงปลายทรุดหนักเข้าไปใหญ่

ปี 2537 จดทะเบียนกับ ตลท. เป็น บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

ปี 2540    รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ส่งผลให้โรงกลั่นในประเทศไทยขาดทุนอัตราแลกเปลื่ยนอย่างหนัก ความต้องการน้ำมันในประเทศก็ลดลง โรงกลั่นทุกโรงในประเทศไทย ขาดทุน ซึ่งแน่นอนโรงกลั่นบางจากภายใต้การบริหารงานของคุณโสภณ สุภาพงษ์ก็เป็นหนึ่งในโรงกลั่นที่อาการโคม่าจากพิษเศรษฐกิจดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ปี 2542    ในวันที่ 14 มิถุนายน นายโสภณ สุภาพงษ์ลาออกจากบางจากเพราะผลักดันนโยบายการขายหุ้นตามแนวความคิดของตนไม่สำเร็จ โดยพยายามผลักดันเสนอขายหุ้นบางจากให้กับประชาชนในสัดส่วน 32 % ปรากฏว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ผู้บริหารระดับสูงทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำมีความเห็นหุ้นบางจากควรขายให้กับนักลงทุนต่างชาติ เพราะจะได้ประโยชน์เป็นเม็ดเงินจำนวนมากกว่าการขายให้กับคนไทย หลังจากผลักดันนโยบายนี้มาตลอดเวลาหนึ่งปีไม่สำเร็จ


ตรงจุดนี้มันมีประเด็นซ่อนเร้นครับ คือ ให้ย้อนกลับไปดูที่ความผิดพลาดเรื่องการใช้งบประมาณไปในการทำการตลาดและสร้างภาพลักษณ์แทนที่จะลงทุนสร้างโรง cracker เพื่อให้สามารถแข่งขันกับโรงกลั่นอื่นๆได้ พอเขาจะกระจายหุ้นเพิ่มเพื่อหาเงินล้างหนี้ คุณโสภณก็ไปจับกลุ่มกับพวกชมรมคนรักบางจากต่อต้าน บอกจะให้บางจากเป็นของคนไทย คนไทยจะซื้อเอง พอไปไม่รอดสุดท้ายก็ต้องให้ ปตท เข้ามาช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ ผมอาจจะมองโลกในแง่ร้ายไปนิดนึงก็ได้นะครับ คือผมกลับมองว่าการลาออกของคุณโสภณในปี 42 นั้นเรื่องข้ออ้างการกระจายหุ้นอะไรของแกนั่นเป็นแค่ข้ออ้างหล่อๆของแกเพื่อหาทางลงและกลบเกลื่อนการบริหารงานบางจากที่ผิดพลาดของแกก็เท่านั้นเอง

ปี 2551    วันที่ 27 พฤษภาคม นายโสภณ สุภาพงษ์ได้ไปให้สัมภาษณ์ใน "รายการตาสว่าง" ที่ดำเนินรายการโดยคุณดู๋ สัญญา คุณากร เพื่อให้ข้อมูลด้านพลังงานของไทยอันเป็นที่มาของ forward mail รายการ "สัญญา คุณากร" คุยเรื่องน้ำมันในประเทศไทย อันลือลั่น ซึ่งข้อมูลที่ขาดตกบกพร่อง หรือถูกบิดเบือนไปนั้นผมลอง search ดูก็เห็นว่ามีคนเขาอธิบายไว้ละเอียดแล้วในกระทู้นี้  ประเด็นถาม-ตอบ ในรายการ สัญญา คุณากร เกี่ยวกับเรื่องน้ำมัน ประเด็นถาม-ตอบ ในรายการ สัญญา คุณากร เกี่ยวกับเรื่องน้ำมัน

ปี 2557    ขึ้นปราศรัยบนเวที กปปส เรื่องพลังงานด้วยข้อมูลพื้นฐานที่ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างคุณโสภณจะไม่รู้เรื่อง ผมเองก็แอบสงสัยนะครับว่าตกลงแล้ว การออกมาให้ข้อมูลด้านพลังงานของคุณโสภณในครั้งนี้ ลึกๆแล้วแกต้องการอะไรกันแน่


tawatchoo

ขอบคุณที่มาของข้อมูล
ประวัติโสภณ สุภาพงษ์ http://www.oknation.net/blog/Freedomheart/2011/12/06/entry-1
โสภณ สุภาพงษ์ เหมาะมากกับบางจาก http://info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=8053
ควบบางจากเข้ากับ ปตท ข้ามศพโสภณไปก่อน http://info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=9046
ปตท. กับ โสภณ สุภาพงษ์ http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2006/10/I4768226/I4768226.html

   

[Mr.No]

โธ่..กรรมเวร  อุตส่าห์ไปลากข้อมูลมามากมาย...แต่ดันไม่ตอบซักนิดว่า

   1. ทำไมถึงตั้งราคาโดยใช้ราคา หน้าโรงกลั่นสิงค์โปร์  ?
   2. ตอบหน่อยแค่นั้นว่า ทำไมถึงส่งขายคนอื่นถูกแต่ของเราขายแพง

ตอบแค่ 2 ข้อพอ ไม่ต้องไปลากประวัติคุณโสภณ มาโจมตีเค้าหรอก

ถ้าแสดงข้อมูลได้ว่า ขายคนอ่ื่นไม่ได้แพงกว่าที่ขายในไทย...ก็เป็นอันจบ


แล้วไม่ต้องมาตอบว่า การค้าเสรี เพราะถ้าเสรีแบบ คนไทยใช้แพง..แต่ดันขายคนอื่นถูกกว่า อ้างว่าต้องรักษาตลาด ฯลฯ  ผมว่า ใครพยักหน้าเห็นด้วยก็บ้าเต็มที 

นี่มัน รัฐวิสาหกิจนะเฟ้ย... ถ้าบอกว่า  ต้องการกำไร โดยไม่สนว่า คนไทยจะใช้แพงกว่า แบบนี้...เอ็งจะแปรรูปไปทำไม ก็ไม่ต่างกับที่เค้ากล่าวหาตรง ๆ ซิว่า    แปรรูปเพราะอยากได้เงินเข้ากระเป๋าตัวและพวกพ้อง!!!1

เค้าตั้งประเด็นสุตรหน้าปั้ม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า..ไม่ได้โง่หรอกว่า  มันมีกองทุน,มีภาษีมีสารพัด  ก็เพราะนี่ไงถึงได้มาตั้งประเด็นไง


ถามซ้ายตอบขวา....งู ๆ ปลา ๆ ลากข้อมูลกรมพลังงาน, ข้อมูล ปตท.  ปุดโธ่  ก็เค้ากำลังกล่าวหาทั้ง รัฐ ทั้ง ปตท. แต่ไม่ยอมเอาข้อมุลสำคัญที่เค้าต้องการมาตอบ

ถ้าเจ๋ง ...เอามาเลย  แสดงรายการต้นทุนการผลิต ให้ดูหน่อยซิว่า

ซื้อน้ำมันดิบจากที่ไหน...ซื้อแบบไหน CIF FOB (ถ้าไม่เข้าใจว่า ผมยกมาทำไมก็ไม่หาข้อมูลศึกษา เพราะมันเกี่ยวกับต้นทุนด้วย) 

แจงมาเลยว่า 

1. นี่.... ต้นทุนน้ำมันดิบ บาร์เรลเท่านี้...เช่นเมื่อหักราคาต่อลิตรแล้วเหลือ 24 บาท ที่เหลือเป็นค่ากลั่นอีกเท่าไหร่ ฯลฯ  ขายหน้าปั้มเท่าไหร่

2.ส่วนส่งออก(สำเร็จรูป) แจงมาเลยว่า ผลิตแล้วส่งขายที่ไหน..ต่อลิตรเท่าไหร่ 

เอามาแสดงให้เห็นเลยซิ...เพราะ ปตท. เป็น มหาชนมิใช่หรือ เรื่องพวกนี้ ควรจะเอามาแสดงให้ประชาชนเห็นเลย


อุตส่าห์เขียนมาตั้งนาน...ดันตอบว่า ที่ต้องขายราคานี้ เพราะต้องมี กองทุนมีภาษีสารพัน...กรรมเวร!!!

[ทวงคืน ปตท. กลับมาด่วน]

ตราบใดที่ใจคุณคิดแต่ ปตท.มีเล่ห์เหลี่ยม ทำกลไกน้ำมันราคาแพงอะไรของคุณนั่น ผมถามแล้วก็ไม่รู้กีรอบต่อกี่รอบว่า เล่ห์เหลี่ยมเขาเป็นอย่างไร คุณก็ไม่สามารถตอบมาได้ กลับให้ผมไปเอาตัวเลขอะไรสารพัดมาให้คุณ ซึ่งผมว่ามันตลก

คุณกล่าวหาป้ายสีแต่ว่าคุณไม่มีแหล่งข้อมูลยืนยันที่ไปที่มาอะไรสักอย่าง มโนล้วนๆ

อย่างน้ำมัน sweet ของคุณ ผมขอแหล่งที่มาข้อมูล ป่านนี้ก็ยังไม่มีให้ ถามคุณกลับว่า ไทยส่งออกน้ำมัน sweet นี่มันเท่าไหร่คุณจะหามาให้ผมได้ไหมครับ ที่ตลกก็ไปเจอจากฟอร์เวิร์ดเมล์ คุณไปเอาฟอร์เวิร์ดเมล์มาคุยกับผมหรือปล่าว ?

เอาทีนี้มาตอบแค่คำถามสองข้อของคุณ ส่วนคำตอบข้ออื่นเรื่องตัวเลขเยอะแยะผมบอกแล้วว่าผมจนปัญญา ถ้าคุณมี คุณก็เอามาแชร์กันบ้างสิ แล้วก็จะได้แจกแจงกันให้ชัดเจนว่า มันฟันกำไรกันยังไง อย่าสักแต่กล่าวหาเลื่อนลอยเหมือนสังคมที่ไร้สติ เอาข้อมูลมายันให้ผมหน้าหงายไปเลย (ข้อมูลฟอร์เวิร์ดเมล์ไม่ต้องเอามานะครับ)


จากคำถามของคุณ

1. ทำไมถึงตั้งราคาโดยใช้ราคา หน้าโรงกลั่นสิงค์โปร์ 

คำว่า "ราคาสิงคโปร์" นั้นไม่ใช่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ประกาศโดยรัฐบาลหรือโรงกลั่นของประเทศสิงคโปร์หรือราคาขายปลีกในประเทศสิงคโปร์นะครับ  แต่เป็นราคาซื้อขายน้ำมันระหว่างผู้ค้าน้ำมันมากกว่า 300 รายในภูมิภาคเอเชียที่ตกลงกันผ่านตลาดกลางฯที่ประเทศสิงคโปร์เป็นปริมาณมหาศาล

ประเทศไทยอยู่ในภูมิภาคเอเชียและตั้งอยู่ใกล้กับประเทศสิงคโปร์ จึงเลือกที่จะอ้างอิงราคาน้ำมันสำเร็จรูปจากตลาดสิงคโปร์ ซึ่งสะท้อนระดับราคาที่สมดุลกับกลไกระบบการค้าเสรีของตลาดในภูมิภาคนี้ ซึ่งยากต่อการปั่นราคา อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงของราคาก็สอดคล้องอย่างเป็นสากลกับตลาดซื้อขายน้ำมันอื่นๆทั่วโลก

ถ้าคุณมีโรงกลั่นที่นำน้ำมันดิบมากลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปได้น้ำมันสำเร็จรูปนี้ คุณควรตั้งราคาขายไว้ที่เท่าไร?
คุณก็จะคิดว่า ก็ต้องคิดราคาถูกๆสิ ไปอ้างอิงราคาน้ำมันจากตลาดกลางสิงคโปร์ทำไม ต้องคิดราคาที่เป็นธรรมาภิบาล


อธิบายได้ว่า สำหรับน้ำมันก็เหมือนกับสินค้าอุปโภคชนิดอื่น ที่มีความต้องการใช้สูง มีการซื้อขายตลอดเวลาเป็นจำนวนมากทั่วโลกเป็นสินค้าสากล ซึ่งสะท้อนถึง อุปสงค์และอุปทาน ที่รวมต้นทุนน้ำมันดิบที่แท้จริงของภูมิภาคนั้นด้วย ดังนั้น ราคาที่เหมาะสมหรือราคาที่เป็นธรรมต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องตั้งราคาที่อ้างอิงมาจากตลาดกลางที่ซื้อขายน้ำมันในแต่ละภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยอ้างอิงราคาน้ำมันจากราคาตลาดกลางสิงคโปร์

(นายโสภณนั่นอ้างว่าเป็นราคาสมมุติ เวรกรรมของประเทศไทยที่คุณไปเชื่อนายคนนี้ ผมถามคุณ ราคาที่คุณว่าสมมุตินี่เป็นราคาที่คนส่วนใหญ่ในโลกเค้ายอมรับไหม เช่นราคาทองคำที่ขึ้นๆ ลงๆ มันเป็นราคาสมมุติไหม แม้ราคาจะขึ้นจะลง ก็ยังมีคนซื้อมีคนขาย เพราะราคากลางก็คือราคาที่คนเขายอมรับได้ก็เท่านั้นเอง)

ต่อ.. ถ้าคุณจะไม่ตั้งตามราคาอ้างอิงจากตลาดกลางสิงคโปร์ จะมีผลดังนี้

- ถ้าคุณขายน้ำมันหน้าโรงกลั่นแพงกว่าในตลาดกลางสิงคโปร์

ผู้ประกอบการขายปลีกน้ำมัน ก็จะนำเข้าน้ำมันจากตลาดกลางสิงคโปร์ที่มีราคาถูกกว่าแทนการซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นในประเทศ และก็จะมีผู้ค้าน้ำมันนำน้ำมันสำเร็จรูปเข้ามาขายแข่งเพิ่มขึ้น

- ถ้าราคาขายน้ำมันหน้าโรงกลั่นถูกกว่า ในตลาดกลางสิงคโปร์

ประเทศไทยเป็นประเทศที่เปิดตลาดเสรี ผู้ประกอบการโรงกลั่นก็จะสามารถนำน้ำมันส่งออกไปขายต่างประเทศที่ได้ราคาดีกว่าทันที ทำให้ในประเทศขาดแคลนน้ำมัน ผู้บริโภคในประเทศก็จะไม่ได้ใช้น้ำมัน ยิ่งทำให้ราคาขายปลีกในประเทศเพิ่มสูงขึ้นหนักเพราะ อุปทาน น้อยกว่า อุปสงค์  หรืออาจจะทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันก็จะประสบภาวะขาดทุน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างวงกว้าง เพราะขาดแคลนพลังงาน

- ถ้าบังคับให้โรงกลั่นขายน้ำมันหน้าโรงกลั่นถูกกว่าในตลาดกลางสิงคโปร์

ผู้ประกอบการโรงกลั่นจะขาดแรงจูงใจในการลงทุนเพราะลงทุนสร้างโรงกลั่นหรือค่าซ่อมบำรุงค่าดำเนินการโรงกลั่นในประเทศไทยมีต้นทุนที่สูง ผลตอบแทนมันต่ำ

เคลียร์ไหมครับ


2. ตอบหน่อยแค่นั้นว่า ทำไมถึงส่งขายคนอื่นถูกแต่ของเราขายแพง

ผมไม่รู้ว่าคุณสับสนหรือว่าคุณเป็นพวกชอบสร้างความสับสนให้แก่ผู้อื่น เวลาคุย คุณคุยราคาน้ำมันที่ใส่ภาษีใส่กองทุนค่าการตลาดให้ของเราดูแพง แต่เวลาส่งออกคุณเอาราคาที่ไม่มีเรื่องภาษีกองทุนใส่เข้าไปมาคุย

ถ้าถอดภาษีกองทุนค่าการตลาดออกแล้ว เหลือแต่ค่าตัวเนื้อน้ำมันล้วนๆ นี่ เราส่งออกถูกขนาดขายให้คนไทย 40 กว่าบาท ส่งออกนอก 20 กว่าบาทจะได้ไหมครับ

ถ้าถอดออกแล้วราคามันก็จะชนกันที่ 20 หน่อยๆ เหมือนกัน ของเราแพงกว่าแต่ก็ไม่ใช่กว่าแพงกว่าเท่าตัวนึงอย่างที่คุณสับสนนะครับ ผมจำได้ครับคุณบอกว่าราคาน้ำมันไทยควรจะ(สมมุติตัวเลข) 25-27 บาท ปัจจุบันโครงสร้างมันก็ราคาเท่านี้อยู่แล้วนี่ครับ(ไม่รวมภาษีกองทุน) อาจจะส่งออกไปมาเลย์ 20 บาทอย่างที่คุณว่า ถามว่าคุณพอใจไหมครับ

ที่เหลือที่ถามว่าทำไมขายคนอื่นถูกเราแพง จนปัญญาครับแพงกว่าเท่าไหร่ครับรบกวนคุณช่วยบอกหน่อย ถ้าแพงกว่ามากสัก 40-50% นี่ผมคงหาคำตอบมาให้คุณได้ แต่ถ้าแพงกว่า 1-2-3% ผมก็คงจนปัญญาหามาอธิบาย จริงๆ มีเยอะที่เค้าอธิบายนะ แต่ผมขี้เกียจครับ อิอิ

[ขอแทรก]

ตอบหน่อยทำไม ปตท.ถึงกำไรเป็นแสนล้าน ถ้าราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ยังไงกำไรก็ไม่ถึงขนาดนี้ และอย่าบอกนะว่า ปตท.มีหลายธุรกิจ ปล.ผมไม่เคยเติมน้ำมัน ปตท. ยกเว้นไปขี้

[Mr.No]

ตอบหน่อยทำไม ปตท.ถึงกำไรเป็นแสนล้าน ถ้าราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ยังไงกำไรก็ไม่ถึงขนาดนี้ และอย่าบอกนะว่า ปตท.มีหลายธุรกิจ ปล.ผมไม่เคยเติมน้ำมัน ปตท. ยกเว้นไปขี้

แหม...ผมชอบคุณจัง... เพราะแค่สั้น ๆ แต่ชัด โดยเฉพาะคำว่า "สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง" นี่คือ หลักธรรมภิบาลเลยละ

ผมขี้เกียจไปตอบนายคนนั้น เพราะวนเวียนแต่เรื่องเดิม คือ น้ำมันแพงเพราะกองทุน,ภาษี, เพราะมันไม่ตรงกับที่เราตั้งประเด็นว่าเหตุใด จึงส่งออกแพงแต่คนไทยกลับขายแพง คำตอบที่ได้เค้าตอบผมว่า

ต่อ.. ถ้าคุณจะไม่ตั้งตามราคาอ้างอิงจากตลาดกลางสิงคโปร์ จะมีผลดังนี้

- ถ้าคุณขายน้ำมันหน้าโรงกลั่นแพงกว่าในตลาดกลางสิงคโปร์

ผู้ประกอบการขายปลีกน้ำมัน ก็จะนำเข้าน้ำมันจากตลาดกลางสิงคโปร์ที่มีราคาถูกกว่าแทนการซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นในประเทศ และก็จะมีผู้ค้าน้ำมันนำน้ำมันสำเร็จรูปเข้ามาขายแข่งเพิ่มขึ้น

- ถ้าราคาขายน้ำมันหน้าโรงกลั่นถูกกว่า ในตลาดกลางสิงคโปร์

ประเทศไทยเป็นประเทศที่เปิดตลาดเสรี ผู้ประกอบการโรงกลั่นก็จะสามารถนำน้ำมันส่งออกไปขายต่างประเทศที่ได้ราคาดีกว่าทันที ทำให้ในประเทศขาดแคลนน้ำมัน ผู้บริโภคในประเทศก็จะไม่ได้ใช้น้ำมัน ยิ่งทำให้ราคาขายปลีกในประเทศเพิ่มสูงขึ้นหนักเพราะ อุปทาน น้อยกว่า อุปสงค์  หรืออาจจะทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันก็จะประสบภาวะขาดทุน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างวงกว้าง เพราะขาดแคลนพลังงาน

- ถ้าบังคับให้โรงกลั่นขายน้ำมันหน้าโรงกลั่นถูกกว่าในตลาดกลางสิงคโปร์

ผู้ประกอบการโรงกลั่นจะขาดแรงจูงใจในการลงทุนเพราะลงทุนสร้างโรงกลั่นหรือค่าซ่อมบำรุงค่าดำเนินการโรงกลั่นในประเทศไทยมีต้นทุนที่สูง ผลตอบแทนมันต่ำ

อ่านแล้วตลกมั้ย.....   

ตกลงว่า ..เค้าคิดว่า ปตท.นี่ต้องทำกำไรอย่างเดียวโดยไม่สนคนไทยหรือไง?  แล้วเอ็งจะแปรรูปทรัพยากรของชาติที่มีไว้เพื่อประชาชนทั้งประเทศไปทำไม?

ภาพข้างล่างนี่ ..ไม่ใช่ของผมทำเอง แต่เป็นข้อมูลวิจัยท่ี่ฝรั่งทำ ไปดูเอาเองว่า คุณภาพน้ำมันที่ผลิตในเอเซียของเราเป็นเกรดไหน?

Light & Sweet ถือเป็นน้ำมันเกรดดีเทียบเคียงน้ำมันทะเลเหนือ เพราะ เบาและกำมะถันต่ำ

อเมริกันใช้น้ำมันชนิดนี้เพราะไม่สร้างมลภาวะให้คนในประเทศเค้า....

[attach=1]

ผมเสริมนิดนึงก็คือ  ...มันเป็นข้อมุลที่ตลกมากเพราะ  น้ำมันที่เราน้ำเข้ามากลั่น ถือเป็นน้ำมันห่วย ราคาใช้ ตาม Dubai

มาเลย์ฯ เค้าส่งออกไปขายใช้ราคาอ้างอิงสิงค์โปร์ เพราะมันแพงและคุณภาพของเค้าถือว่าเป็นเกรดดี (ใช้ราคาแหล่ง Tapis)

มีอีกหลายเรื่องทีเป็นเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล.... จะทะยอยนำมาลง

ส่วนถ้าจะมีใครเถี่ยงว่า....ไม่จริง เราแพงเพราะเหตุผลตามที่นาย "ทวงคน ปตท.กลับมาด่วน" นั่นตอบ  ก็ว่ากันไป...

[ทวงคืน ปตท. กลับมาด่วน]

อ่านแล้วตลกมั้ย.....   

ตกลงว่า ..เค้าคิดว่า ปตท.นี่ต้องทำกำไรอย่างเดียวโดยไม่สนคนไทยหรือไง?  แล้วเอ็งจะแปรรูปทรัพยากรของชาติที่มีไว้เพื่อประชาชนทั้งประเทศไปทำไม?

ภาพข้างล่างนี่ ..ไม่ใช่ของผมทำเอง แต่เป็นข้อมูลวิจัยท่ี่ฝรั่งทำ ไปดูเอาเองว่า คุณภาพน้ำมันที่ผลิตในเอเซียของเราเป็นเกรดไหน?

Light & Sweet ถือเป็นน้ำมันเกรดดีเทียบเคียงน้ำมันทะเลเหนือ เพราะ เบาและกำมะถันต่ำ

อเมริกันใช้น้ำมันชนิดนี้เพราะไม่สร้างมลภาวะให้คนในประเทศเค้า....

[attach=1]

ผมเสริมนิดนึงก็คือ  ...มันเป็นข้อมุลที่ตลกมากเพราะ  น้ำมันที่เราน้ำเข้ามากลั่น ถือเป็นน้ำมันห่วย ราคาใช้ ตาม Dubai

มาเลย์ฯ เค้าส่งออกไปขายใช้ราคาอ้างอิงสิงค์โปร์ เพราะมันแพงและคุณภาพของเค้าถือว่าเป็นเกรดดี (ใช้ราคาแหล่ง Tapis)

มีอีกหลายเรื่องทีเป็นเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล.... จะทะยอยนำมาลง

ส่วนถ้าจะมีใครเถี่ยงว่า....ไม่จริง เราแพงเพราะเหตุผลตามที่นาย "ทวงคน ปตท.กลับมาด่วน" นั่นตอบ  ก็ว่ากันไป...

ปตท.มีกำไรแล้วผิดยังไงครับ ?

อันนี้ผมสงสัยมาก ว่าปตท.มีกำไร แล้วคุณจะไปโกรธแค้นทำไม คุณชอบแบบรัฐวิสาหกิจต้องขาดทุนแบบรฟท.ใช่มั้ยครับถึงจะชอบ หรือคุณชอบเพราะก่อนมันแปรรูปมันโกงกินกันมันส์ดี เช่นได้ตั๋วน้ำมันมาเติมก็เติมสักครึ่ง อีกครึ่งก็เอาไปขาย หรือทุจริตงบเลี้ยงพวกต่างชาติ (สองตัวอย่างนี้ผมยกมาจากบนเวที กปปส. พวกคุณสาวไส้กันเอง)

พอ ปตทเก่าขาดทุนก็ต้องให้รัฐเอาเงินภาษีไปโปะ ไปสนับสนุน อยู่ด้วยตัวเองไม่ได้แบบนั้นหรือครับถึงจะเรียกว่าดี ถามจริงคุณเคยเห็น ปตท เก่าไหมครับ แถวเส้นเอเชียมีอยู่สามเจ้า อย่างกับปั๊มผีสิง สกปรกมอมแมม คุณชอบอย่างนั้นใช่ไหมครับ

คุณทราบไหมครับว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของปตท.ก็คือ "กระทรวงการคลัง" นั่นก็คือรัฐ หมายความว่าเงินจากกำไรนั้นก็จะกลับไปเป็นรายได้ของรัฐนั่นเอง เมื่อมีกำไรบริษัทก็จะ "ปันผล" จากกำไรนั้นเป็นตัวเงินกลับมาสู่ผู้ถือหุ้นซึ่งกระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ 51.15%  จากการประกาศล่าสุดปตท.จะจ่ายปันผลหุ้นละ 8 บาท หมายความว่าจากผลดำเนินงานปีที่แล้ว ปตท.จ่ายเงินคืนรัฐไปหนึ่งหมื่นล้าน(กว่า)บาท พอใจหรือยังครับ?

อย่าขัดว่า แล้วพวกผู้ถือหุ้นที่เป็นคนร่ำรวยเป็นพวกต่างชาติอื่นๆล่ะ พวกนี้ก็ได้ประโยชน์ด้วยสิ... ก็ใช่ครับ แต่ต้องย้อนกลับไปทำความเข้าใว่า ปตท.เมื่อครั้งแปรรูปเข้าตลาดนั้น ได้มีการระดมทุนด้วยการออกขายหุ้นสามัญแก่บุคคลทั่วไป และทุนที่ได้นั้นก็นำไปลงทุนขยายกิจการต่างๆ พูดในเชิงธุรกิจก็คือ เอาเงินนั้นไปแปรเป็น "สินทรัพย์" แล้วสินทรัพย์ก็จะเป็นตัวสร้างรายได้ต่อไป  พูดอีกนัยหนึ่งคือถ้าไม่มีเงินทุนเมื่อครั้งนั้น ปตท.ก็จะไม่มีขนาดกิจการที่ใหญ่โตมีรายได้มากเช่นทุกวันนี้ ดังนั้นแล้วคุณก็ต้องเอากำไรนั้นจ่ายคืนผู้ถือหุ้น ซึ่งก็ถือเป็น "เจ้าของทุน" ที่ปตท.เอามาลงทุนนั่นเอง



ตามที่คุณและคุณขอแทรกคิดคือ

ปตท.มีกำไรมากเพราะขายน้ำมันแพงๆให้ประชาชน? อันนี้เป็นข้อโจมตีหลักเลย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่สับสนมาก อย่างแรกเลยคุณลองเปิดดูโครงสร้างรายได้และกำไรของปตท. จะพบว่าปตท.มีรายได้จากหลายธุรกิจย่อย ได้แก่ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจสำรวจและผลิต ธุรกิจโรงกลั่น ธุรกิจปิโตรเคมี ทั้งนี้ก็เพราะปตท.มีสถานะส่วนหนึ่งเป็น Holding company คือเป็นบ.แม่ที่ไปถือหุ้นในบริษัทลูกที่ทำธุรกิจย่อย และสัดส่วนรายได้ในธุรกิจการค้าปลีกน้ำมันเนี่ยมันน้อยมาก เมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมดของปตท. มีคนเคยคิดไว้ว่าประมาณ 23% เท่านั้นเอง  และถ้าไปดูเอารายได้มาเทียบกับต้นทุนขายจะพบว่า profit margin ของธุรกิจนี้มันต่ำมาก อย่างปี 53 รายได้ตรงนี้ประมาณ 480,000 ล้าน ต้นทุนขายอยู่ที่ 460,000 คิดแล้วได้ margin ประมาณ 4% มีคนที่ใช้ข้อมูลปี 54 คิดไว้ได้แค่ 2% ด้วยซ้ำ เล่ห์เหลี่ยมมันอยู่ตรงไหน คุณช่วยบอกผมหน่อย


ผมจะตอบครั้งสุดท้ายว่าทำไมคนไทยใช้ำน้ำมันแพง

เพราะคุณสับสนไม่เลิกจริงๆ เมื่อไหร่คุณจะเก็ตสักทีว่าเราต้องนำน้ำมันดิบจากนอกเข้ามากลั่น ไม่ใช่เรามีน้ำมันดิบเหลือเฝือ คุณยังคิดว่าเราไม่มีต้นทุนอย่าง อย่างความคิดที่คุณคิดว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวก็ของคุณลูกชิ้นก็ของคุณ ท่องๆจำๆ ไว้สักหน่อยครับ

ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันไงครับ เราต้องนำเข้าน้ำมัน แล้วราคาน้ำมันก็ผันผวนตามตลาดโลก ซึ่งไอ้น้ำมันเนี่ย มันเป็นคอมโมดิตี้อย่างหนึ่ง มันก็อยู่ในวัฐจักรของการเก็งกำไรเหมือนกัน ถ้าราคาในตลาดโลกมันขึ้น น้ำมันในประเทศก็ต้องขึ้นตาม อย่างตอนที่มีประเด็นอิหร่าน น้ำมันก็วิ่งกันสนุกสนาน ราคาในประเทศก็ต้องขยับขึ้นตามไปด้วย ไม่เห็นมีอะไรแปลก

ทีนี้ก็จะมีคนบางคนที่ชอบบอกว่า ทำไมพอราคาน้ำมันลงแล้วน้ำมันในประเทศไม่เห็นลงตามบ้าง ปตท.มันฉวยโอกาส ต้องบอกให้ทราบครับ ว่าราคาน้ำมันสำเร็จของเราอิงตามตลาดสิงคโปร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบจะอิงกับตลาด Dubai ไม่ใช่ตลาดWTI หรือ Brent แล้วราคาในประเทศกับราคาตลาดสิงคโปร์ที่ขึ้นๆ-ลงๆนั้น "สอดคล้องกัน" มันจึงไม่ใช่ว่าปตท.จะกำหนดราคาได้มั่วๆเพื่อฟันกำไรตามใจชอบอย่างที่คุณคิด

และท้ายสุดอีกครั้งตรงนี้คือที่คุณชอบทำมึน หรือลืมก็ไม่ทราบว่าเรามี "ภาษีสรรพสามิตรน้ำมัน" กับ "เงินสมทบกองทุนน้ำมัน" ซึ่งเรียกเก็บจากค่าน้ำมันที่ขายปลีกอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งเงินพวกนี้โดยเฉพาะเงินกองทุนฯ ก็เอาไปอุดหนุนพลังงานรูปแบบอื่นไงครับ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมเราซื้อน้ำมันแพง เพราะเรากำลังจ่ายเงินให้คนอื่นใช้ก๊าซได้ถูกอยู่

[เดินผ่านมา]

แจ่มแจ้งเลยฮะ ท่านทวงคืน ปตท. ผมว่าผมอ่านการแย้งของท่านก็ฟังดูมีเหตุมีผล  ผิดกับMr.No ที่แถสีข้างถลอกแล้วฮะ 

[Mr.No]

แจ่มแจ้งเลยฮะ ท่านทวงคืน ปตท. ผมว่าผมอ่านการแย้งของท่านก็ฟังดูมีเหตุมีผล  ผิดกับMr.No ที่แถสีข้างถลอกแล้วฮะ 

อย่าเดินผ่านมาบ่อยนักล่ะ..

[Mr.No]

ข่าวดังในสิงค์โปร์...มีความสุขเพราะได้แหล่งน้ำมันไทยไปอีกแหล่ง (แถวปัตตานี) บ.คริสเอนเนจี้ (Kris Energy) ได้สัดส่วนน้ำมัน + ก๊าซ ไทยไป 30 เปอร์เซนต์จากการอนุมัติของรัฐบาลไทย 

http://www.businesstimes.com.sg/breaking-news/singapore/krisenergy-gains-first-operatorship-gulf-thailand-20140507

[ทวงคืน ปตท. กลับมาด่วน]

ข่าวดังในสิงค์โปร์...มีความสุขเพราะได้แหล่งน้ำมันไทยไปอีกแหล่ง (แถวปัตตานี) บ.คริสเอนเนจี้ (Kris Energy) ได้สัดส่วนน้ำมัน + ก๊าซ ไทยไป 30 เปอร์เซนต์จากการอนุมัติของรัฐบาลไทย 

http://www.businesstimes.com.sg/breaking-news/singapore/krisenergy-gains-first-operatorship-gulf-thailand-20140507

อืมมม....มันมีปัญหาอะไร ผิดกฎหมายตรงไหนครับ แล้วคุณต้องการสื่ออะไร คุณต้องการสื่อเพื่อโจมตี รบ.ยิ่งลักษณ์ว่าเธอแอบไปลักหลับเซ็น ขายชาติใช่ไหม

ถ้าอย่างนั้นช่วยกันด่าครับ รบ.เลวที่อนุมัติ การขอโอนสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 4/2550/80 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G6/48





เลิกบ้าได้แล้วครับ  ไปจับเอาข่าวนั่งมโน ว่าต้องอย่างโน้นอย่างนี้  โดยไม่คิดจะหาข้อมูลเลยว่ามันเป็นมายังไง  สี่ห้าเดือนก่อน ก็มีพวกบ้าไปเห็นข่าวรัฐบาลอนุมัตผลิตสัมปทานแปลงนงเยาว์ ตอนปลายปี 55 แล้วเอามาโยงว่ามูบาดาลาที่ได้รับสัมปทานเป็นของเพื่อนทักษิณทีนึงแล้ว  จนคนเขาต้องมาบอกว่าไอ้แปลงนี้หน่ะ มันอนุมัติสมัยรัฐบาล คมช. แล้วไอ้แปลงที่ว่าหน่ะ  มันก็มี Kris energy ถือหุ้นอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนั้นอาจจะยังไม่รู้จักเลยไม่มีปัญญาโยงไปถึง

การเข้ามาลงทุนปิโตรเลียมในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทสัญชาติไหน ไม่ว่าจะอเมริกา จีน แคนาดา สิงคโปร์ หรือไทยอย่าง ปตท.สผ.  หรือบริษัทลูกของทีพีไอ เขาก็ต้องปฏิบัติตาม พรบ.ปิโตรเลียมเหมือนกันทั้งนั้น  ไม่ว่าจะตั้งแต่การยื่นขอ การจ่ายค่าตอบแทนให้รัฐ ไม่ได้ต่างกัน  และการเข้ามาลงทุนในไทย มันไม่ใช่การจ้างผลิตหรือ out source อย่างที่เข้าใจ แต่มันเป็นการเปิดให้บริษัทพวกนี้เข้ามารับสัมปทานพื้นที่ผลิต เพื่อลงทุน  ซึ่งบริษัทพวกนี้ต้องรับความเสี่ยงเองในกรณีที่ลงทุนแล้วไม่พบอะไร แต่ถ้าพบและผลิตได้ ก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้รัฐในรูปของค่าสัมทานและ ภาษีเงินได้เหมือนกันทั้งนั้น  ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ว่าใครจะได้สัมปทานรัฐก็ได้ค่าตอบแทนเหมือนกัน 

ไม่สงสัยเลยว่าทำไมประเทศมันถึงฉิบหายอย่างทุกวันนี้ เพราะมีพวกขาดวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ตกเป็นเหยื่อพวกชั่วหน้าด้านที่หวังผลประโยชน์ทางการเมือง

[Mr.No]

 ถ้าไม่เข้าใจคำว่า "ผลประโยชน์ทับซ้อน" ก็จงนั่งภูิมิใจใน ปตท. ของคุณต่อไป..อันนี้เป็นสิทธิของคุณ

  เพราะคำนี้ คนที่สนับสนุนรัฐบาลหรือกลุ่มเื้สื้อแดงก็มีหลักคิดคล้าย ๆ กัน เพราะไม่เข้าใจความหมายของคำนี้

นี่จึงไ่ม่แปลกที่กรณี "เมียซื้อที่ดินผัวเซ็นชื่อยินยอม" จึงเป็น กรณีตัวอย่างของความไม่เข้าใจความหมายนี้

  คุณอาจรวย..มีฐานะ ใช้น้ำมันได้สบาย..อันนี้ก็ตามสะดวก
  แต่ผม..แม้นจะพอใช้น้ำมันราคาแพงได้.... แต่ถ้ามันไม่แฟร์ และออกจะดูถูกประชาชนว่า "โง่" อันนี้ผมไม่ค่อยยอม

ถ้าคิดว่า...สื่อทีคุณเสพ มันฉลาดกว่าก็ยินดีด้วย และจงเสพมันต่อไป

อ้อ..ว่าง ๆ ลองไปหาข้อมูลดุนะว่า ไอ้แปลงที่ผมยกมาในข่าวนั่นน่ะ แหล่งน้ำมัน+ก๊าซ มันไหล่ทวีปเดียวกันกับมาเลย์มั้ย ..ถ้าใช่ เราคิดค่าภาคหลวง กับ มาเลย์คิดแบบ product sharing  ใครโง่กว่ากัน   

http://www.youtube.com/watch?v=BaqsU_wwOkg

ลองฟังคลิปข้างบนอย่างช้า ๆ ว่าตกลงที่เค้ากล่าวหาเมื่อ พ.ย 2556 นั่นน่ะ ตกลง ตอนนี้มันใช่มั้ย..จะได้รู้ว่า ที่เค้ากล่าวหาน่ะ...มันไม่ได้ มโน เอาเอง

[ทวงคืน ปตท. กลับมาด่วน]

ข่าวดังในสิงค์โปร์...มีความสุขเพราะได้แหล่งน้ำมันไทยไปอีกแหล่ง (แถวปัตตานี) บ.คริสเอนเนจี้ (Kris Energy) ได้สัดส่วนน้ำมัน + ก๊าซ ไทยไป 30 เปอร์เซนต์จากการอนุมัติของรัฐบาลไทย 

http://www.businesstimes.com.sg/breaking-news/singapore/krisenergy-gains-first-operatorship-gulf-thailand-20140507

ตอบเอาชัดๆ ตรงนี้ก่อนว่า รัฐบาลไหนอนุมัติ แล้วถ้ารัฐบาลที่อนุมัตินั้นมาแล้วจะทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างไร อย่าสักกล่าวหาลอยๆ เหมือนสั่งน้ำมูก รับผิดชอบด้วยเวลาจะพิมพ์อะไรสื่อออกมาสู่สาธารณะ

เล่นแถหลอกให้ไปฟังคลิปแมงสาปเรื่องพื้นที่ทางทะเลกัมพูชา ฟังได้เพียง 5 นาทีก็คนละเรื่อง เอาเรื่องนี้ก่อนที่กล่าวหามา

สัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 4/2550/80 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G6/48

ใครอนุมัติ แล้วทักษิณได้ประโยชน์อย่างไร

[กูขำ]

ปชป เพิ่มภาษีน้ำมันเป็น10บาท ถ้าลดภาษีตรงนี้ได้น่าจะช่วยได้เยอะ

[sasaza]

ลองฟังแถลงหน่อยมั้ย ท่าน  ก็มีทั้งมูลความจริงและเท็จ  รอข้อพิสูจน์ต่อไป http://bit.ly/1hgAvqR

[`°•P!®°on°•`™]

น้ำมันมีเกรดน่ะครับอย่ามองว่าขุดได้วันละกี่บาเรล ที่ขุดขึ้นมานั้นมีั้ทั้งทรายน้ำ โรงงานกลั่นเราไม่มีราคาแพงเลยต้องส่งออกน้ำมันดิบไปกลั่นแล้วตีกลับบางส่วนมาในประเทศส่วนต่างเหลือกะนำเข้ามาครับ ยืนยันอีกเสียงว่าจำนวนผลิตไม่พอเพียงครับ บ่อน้ำมันในไทยมีมากมายครับบนบกแท่นขุดก็มีมากในหลายจังหวัด แต่สัมประทานต่างชาติเพราะไม่คุ้มค่าที่จ่ะเสี่ยงขุดเองครับ เหมือนทิชชู่เปียกน้ำครับส่วนที่เป็นทรายจ่ะมากกว่า อย่ามองว่าบ่อมีเยอะให้มองว่าทรายทั้งเพครับ