ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

รัฐบาลเพื่อไทย กดปุ่มดีเดย์แจกแท็บเลตนักเรียน ป.1 ทั่วประเทศ

เริ่มโดย Probass, 20:28 น. 26 ก.ค 54

Probass

ดีเดย์พ.ค.55เอาใจนักเรียนป.1

รัฐบาล เพื่อไทย กดปุ่มดีเดย์แจกแท็บเลตนักเรียน ป.1 ทั่วประเทศ 800,000 เครื่อง ปีการศึกษาหน้า พฤษภาคม 55 พร้อมเปิดกว้างผู้ผลิตอินเดีย จีน รวมทั้งไทย นำเสนอเทคโนโลยี วางสเปกคุณภาพดีราคาไม่แพง ขณะที่ไอดีซี เชื่อช่วยกระตุ้นตลาดแท็บเลต ปรับตัวเลขคาดการณ์ยอดซื้อขายปีนี้ 250,000 เครื่อง จากเดิม 150,000-200,000 เครื่อง


นาย คณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษารายละเอียดการดำเนินโครงการคอมพิวเตอร์พกพาขนาด เล็ก หรือแท็บเลต สำหรับนักเรียน (One Tablet per Child) โดยยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตามมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการดำเนินการให้ทันปีการศึกษาหน้า หรือประมาณเดือนพฤษภาคม 2555


ส่วนแนวทางการจัดหานั้นขณะนี้ก็มีหลากหลายรูปแบบให้พิจารณา ซึ่งรูปแบบแท็บเลต สำหรับเด็กนักเรียนของอินเดีย ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ก็น่าสนใจ เช่นเดียวกับแท็บเลตจากจีนที่มีให้เลือกหลากหลาย ส่วนแท็บเลตของไทยนั้นก็เปิดกว้างให้มีการนำเทคโนโลยีมาเสนอ ถ้าสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดี ราคาไม่แพง ซึ่งแนวทางของเราก็ต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรมไอซีทีของประเทศอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามอาจต้องรอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยก่อน


ส่วนที่หลายฝ่ายให้ความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของเครื่องแท็บเลตที่จะนำมาแจก ให้เด็กไปใช้งานนั้นนอกจากราคาแล้ว เราก็ดูในเรื่องของความคงทน และความมีเสถียรภาพ ซึ่งอย่างน้อยสุดก็มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยในส่วนของฮาร์ดแวร์ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไร เนื่องจากขณะนี้มีฮาร์ดแวร์ให้เลือกหลากหลาย ที่สำคัญคือ เนื้อหา หรือ คอนเทนต์ ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมกับการพัฒนาการศึกษาของเด็กไทย ซึ่งสิ่งที่จะต้องควบคู่กันไประหว่างการจัดหาฮาร์ดแวร์ คือการพัฒนาคอนเทนต์ ขณะที่ในส่วนของฮาร์ดแวร์นั้นที่สุดแล้วก็จะต้องมีการทดสอบคุณภาพมาตรฐานตาม ที่กำหนด


"ตอนนี้เราก็พิจารณาแท็บเลตอยู่หลายโมเดล ถ้าซื้อถูกไปคุณภาพไม่ดี เราก็โดนด่า ถ้าซื้อแพงไป ก็โดนด่าอีก ดังนั้นคงต้องเลือกที่คุณภาพเหมาะสมกับราคา ซึ่งหากเป็นหน่วย ประมวลผล (ซีพียู) ความเร็ว 1 กิกะไบต์ เครื่องก็อาจจะแพง ดังนั้นซีพียูอาจต้องต่ำกว่า 1 กิกะไบต์ หน่วยความจำ 256 เมกะไบต์อาจต่ำไป ซึ่งไม่ควรต่ำกว่า 512 เมกะไบต์ ขณะที่ระบบเซ็นเซอร์สั่งการหน้าจอแบบทัชสกรีนจะต้องมีความแม่นยำ ที่เราให้ความสำคัญสุด คือ ซอฟต์แวร์ หรือ แอพพลิเคชัน จะต้องทำงานได้ดีกับตัวเครื่องฮาร์ดแวร์"


ทั้งนี้ไอดีซี บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยตลาด มีการประเมินแนวโน้มอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของตลาดอุปกรณ์ประเภทมีเดียแท็บเลตในช่วง 5 ปีข้างหน้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นนั้น โดยระบุว่าอาจมีตัวเลขการเติบโตขึ้นไปแตะถึงระดับ 54% ซึ่งหมายความว่ายอดจำหน่ายอุปกรณ์ชนิดนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 21 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าจากยอดจำหน่ายของปี 2553 ที่มีเพียง 2 ล้านเครื่องเท่านั้น โดยไอดีซีเชื่อว่าจะมีผู้บริโภคที่ใช้มีเดียแท็บเลตในการเล่นเกม เข้าชมเว็บไซต์ และเชื่อมต่อเครือข่ายสังคมออนไลน์แบบทุกที่ทุกเวลามากขึ้น


ด้าน นายอรรถพล สาธิตคณิตกุล ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท ไอดีซี ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่าทิศทางของตลาดแท็บเลตในไทยเป็นไปตามแนวโน้มการเติบโตของตลาดภูมิภาค โดยคาดว่าจะมีตัวเลขการซื้อขายประมาณ 250,000 เครื่อง จากเดิมประเมินไว้ 150,000-200,000 เครื่อง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่นับรวมโครงการคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก สำหรับนักเรียน (One Tablet per Child) ที่รัฐบาลใหม่ซื้อแจกให้เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศ 800,000 เครื่อง โดยเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการใช้งานแท็บเลตใน ประเทศ และสร้างให้เกิดระบบนิเวศ หรือ อี-โคซิสเต็มส์ ทั้งซอฟต์แวร์ , เนื้อหา หรือคอนเทนต์ และบริการขึ้นมา อย่างไรก็ตามอาจต้องรอดูความชัดเจนนโยบายของรัฐบาลใหม่ก่อน

เครดิต หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับ 24-27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554



ส.หัว ส.หัว ส.หัว  คอยดูยอดขายชินคอร์ปจะโตกี่%  ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ

===>
TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

Scania


นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด
นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชา
นักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา
นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรธรรม
นักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ
.........นักการเมืองยุให้รำฯ ในหลวงย้ำให้ทำดี
นักการเมืองมักแบ่งขั้ว องค์เหนือหัวไม่แบ่งสี
นักการเมืองทำสี่ปี องค์ภูมีทำทุกวัน
นักการเมืองชอบแบ่งเสียง พ่อพอเพียงชอบแบ่งปัน
นักการเมืองคิดสั้น องค์ราชันย์คิดยาว

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

ผมสอนลูกสอนหลานว่า หน้าที่นักเรียนคืออะไร
นักเรียนยุคนี้ กับยุคเราๆเป็นยังไง ต่างกันตรงไหน

แจกกล่องเหล็กให้ฟรีๆ มันจะมีประโยชน์อะไร วันๆเอาแต่จิ้มๆๆๆ
สมาธิเด็กจะไปอยู่ที่ไหน  ไม่แปลกใจเลยหากเด็กไทยโตขึ้นจะเห็นแก่ตัวและโง่ขึ้น
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

Man in wide

เรื่องโกงไม่ห่วงเพราะโกงอยู่แล้ว เป็นห่วงเรื่องสายตาเด็ก ร้านแว่นคงดีใจ

คนสุราษ

ป 1 ยังอ่านหนังสือไม่ได้มากที  ถ้าเด้กได้จริง ต้องมานั่งสอนการใช้อีกเหอะิ เราว่าให้น้องๆอ่านหนังสือเองดีแล้วเพราะนอกจากจะได้เรียนรู้อักขระในการเขียนที่ถูกต้องแล้ว น้องๆยังเห็นรูปภาพ มากมาย ฝึกการเขียน การอ่าูนที่ถูกต้องตามหลักภาษาไทย บ้านเรายังไม่เหมาะสมในการเรียนแบบนี้ 

ปชปหัวก้าวหน้า

......... ตอนนี้ มี บริษัทฯ ต่างชาติ(แขก)ที่มีคนไทย(แขก) มี ออฟฟิต ที่ พันทิพ ชั้น 3 ชื้อร้านแบบ ไทยๆ...... เตรียมเข้าพบ คุณ ยิ่งลักษณ์ เสนอ ตั้งโรงงานประกอบในไทย ...... ราคาไม่เกิน 2 พันบาท......
......... ตอนนี้ ที่พันทิพ มี เครื่องจีน ราคา 2.5 พันบาทขายอยู่ ใช้ แอนดรอย...... แต่ผมไปลองพบว่าคุณภาพยังไม่ดีพอ......
......... ส่วน ไวไฟ AIS น่าจะลงทุนได้ ฟรี ครับ ...... เพราะตอนนี้ ทรู เก็บอยู่เดือนละ 100 บาท
......... นี่คือ อีกเรื่อง ที่ ผม ทึ่งในสายตาอันยาวไกล ของ ท่านทักษิณ ...... ที่ควาย ไม่มีความสามารถจะคิดได้ .......ครับ

ปชปหัวก้าวหน้า

อินเดียส่งแท็บเล็ตสุดถูก Sakshat Tablet ราคาเริ่มต้นที่ 1,050 บาท

Sakshat บริษัท IT ของประเทศอินเดีย สร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกแล้ว โดยได้ออกแท็บเล็ตเพื่อประชาชนออกมา ซึ่งมีราคาสุดถูก อยู่ที่ $35 เท่านั้น คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,050 บาท โดยเจ้าแท็บเล็ตเครื่องนี้มีชื่อว่า Sakshat Tablet มาพร้อมหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการ Android
Sakshat ได้ประกาศวางจำหน่ายแท็บเล็ตของตนเอง โดยมีราคาเริ่มต้นสุดถูก คืออยู่ที่ประมาณ 1,050 บาทเท่านั้น และยังใช้ระบบปฏิบัติการสุดฮิต Android อีกด้วย โดยตอนนี้ได้วางจำหน่ายแล้วถึง 10,000 เครื่องด้วยกัน โดยที่ราคานั้นจากที่ตอนแรกตั้งไว้ที่ $35 และเมื่อรวมค่าอื่นๆ เข้าไปอีก จะอยู่ที่ $49 แต่รัฐบาลของอินเดียช่วยอุ้มอีกครึ่งราคา ทำให้ราคาจะเหลือแค่ $25 หรือ 750 บาทเท่านั้น เนื่องจากวัสดุ อุปกรณ์ของ Sakshat Tablet นั้นค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตเครื่องอื่นๆ

โดยสเปคของ Sakshat Tablet จะมาพร้อมแรมแบบ 2GB มีกล่องหน้า และมีหน่วยความจำภายใน 32GB แบบ HDD ซึ่งทางรัฐบาลอินเดียตั้งเป้าไว้ว่า จะให้แท็บเล็ตเครื่องนี้เป็นแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา และสามารถใช้เป็น e-book ได้ด้วย

คุณสมบัติ แบบนี้ ใส่หนังสือเรียน ได้ ตั้งแต่ ป.1 ยันมหาวิทยาลัย ครับ

Kindle ของอเมซอน Ebookยอดฮิต หน่วยความจำภายใน 32GB

ใส่หนังสือ เล่มหนาๆ ได้ สองแสนเล่ม ครับ ขายหกพัน อินเดียผลิดได้

เก้าร้อย ไทยทำให้ดีขึ้นอีกนิด สองพัน สบาย..

หน้าที่ของกระทรวงศึกษา คือ นั่งทำตำราเรียน เป็น ไฟล ที่เปิดอ่านได้

ใน Ebook ก็ ดังแข่งกับเกาหลี ที่คิดทำปีนี้เช่นกัน

ล ลิง

แท็บเลต = Tools = เครื่องมือ
คำถามง่าย ๆ คือ วัตถุประสงค์ของการแจกเด็ก ป.1คืออะไร ทำไมต้อง ป.1 ??

ปัจจุบันนี้มีมหาวิทยาลัยเอกชนบางแห่งก็ใช้แท็บเลตเป็นเครื่องมือสำหรับใช้ในการเรียนแล้วเช่นกัน
คำถามคือ ทำไมต้อง ป.1 ??  ชั้นอื่น ๆ ไม่เหมาะสมหรืออย่างไร ??

ผมเองมองว่าการส่งเสริมให้คนใช้เครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อความรู้ ทันสมัย เท่าทันโลกเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว
คำถามคือ ทำไมต้อง ป.1 ?? เหมาะสมแล้วหรือ ??

นโยบายนี้เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่เหวี่ยงแห ไม่พอเพียง มองหาประโยชน์สูงสุดไม่เจอ !!!
ทำให้หวนนึกถึงในอดีตซักสิบกว่าปีที่แล้ว สมัยนั้นคอมพิวเตอร์มาใหม่ ๆ รมต.ศึกษาท่านนึง
เคยมีนโยบายแจกคอมพิวเตอร์ทุกโรงเรียนทั่วประเทศ ... สิ่งที่เกิดขึ้นคือ บางโรงเรียน
ยังไม่มีห้องคอมฯ ต้องจัดงบฯสร้าง ที่หนักสุด ๆ คือมีบางโรงเรียนได้รับคอมพิวเตอร์แล้ว
แต่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เห็นแล้วขำไม่ออกจริง ๆ ....

ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมนึกไม่ออกจริง ๆ ว่า แท็บเลตจะอยู่บนมือของเด็ก ป.1 ได้ซักกี่วัน ???
เด็กวัย 6-7 ขวบบางคนล้างก้นตัวเองยังไม่ได้เลยนับประสาอะไรกับการดูแลรักษาของเล่น
ตัวเองก็เช่นกัน...อย่าว่าแต่ แท็บเลตเลย ตก 2-3 ทีก็คงสูญเสียงบประมาณซะเปล่า !!!
นี้ยังไม่ได้นึกถึงว่าจะให้เด็ก ป.1 ไว้ดู อ่านอะไรนะ !!!

"คนอย่างแม้ว ผิดไม่ได้แพ้ไม่เป็น ผิดไม่เป็นแพ้ไม่ได้" (บัญญัติ บรรทัดฐาน : รายการลงเอยอย่างไร?)

Probass

ต่อไปซากแบตเตอรี่ ที่เป็นขยะอันตราย จะเต็มประเทศไทย

ทำไมต้อง ป.1 ??

ผมคิดว่า เด็กป.1 จะอยู่รวมกับเด็กป.อื่น ในโรงเรียนเดียวกัน อย่างน้อยก็อีก 5 ชั้น (ป.2-ป.5)
ถ้า ป.1มี(อ่อนหัดสุดๆเสือกได้) แต่ชั้นอื่นๆไม่มี เด็กบางคนอยากได้ ไปรบเร้าพ่อแม่ เดือดร้อนต้องไปหาซื้อ

ถ้าบางครอบครัวลูกป.1 ได้มาแล้ว ใช้ไม่เป็น แต่เด็กโตข้างบ้านไม่ได้รับแจก แม่เดินมาถาม  ลูกเธอยังใช้ไม่เป็น ขายชั้นเอามั๊ย ขอซื้อต่อ.....

ทำให้นักธุรกิจบางกลุ่ม ได้ผลประโยชน์   นโยบายทั้งหลายแหล่ สร้างให้คนเป็นหนี้ทั้งเพ
TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

ปชปหัวก้าวหน้า

แจก แท็บเล็ต ก็เหมือนกับแจก กระดานชนวน สมัยผมเข้า ป. 1 นั่นแหละ อุปกรณ์เรียน

เห็นบางกลุ่มบางคนออกมาคัดค้านการแจก แท็บเล็ต ของรัฐบาลคุณปู ผมรู้สึกงง ว่าจะค้านไปทำไม ในเมื่อมันก็คืออุปกรณ์การเรียนชนิดหนึ่ง ที่รัฐบาลแจกให้กับเด็กนักเรียน เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ในการเรียน

สมัยผมอยู่ชั้น ป. 1 รัฐบาลสมัยนั้นเขาก็แจก กระดานชนวน ให้กับเด็กที่เข้า ป. 1 ทุกคน ผมก็ยังได้มาเลย ได้ใช้หัดเขียน ก ข ค และทดเลขในสมัยนั้น แต่กระดานชนวน มันก็ล้าสมัยไป เพราะมีดินสอ และกระดาษ กับดินสอเข้ามาแทนเข้ามาแทน ดินสอทันสมัยยุคนั้นคือ ดินอะพอลโล่ ที่ไส้เป็นท่อนๆ ใส่ดันกันเข้าไปได้ ไม่ต้องเหลาให้ลำบาก

ยุคนั้นเป็นยุคโบราณ อนาล็อก ก็ต้องแจกกระดานชนวน ให้เด็กหัดเขียน หัดทดเลข

ยุคนี้เป็นยุค ดิจิตอล ทักษะพื้นฐานของเด็กยุคนี้ นอกจากการเขียนหนังสือแล้ว "ทักษะการพิมพ์ดีด" ก็มีความสำคัญพอๆ กัน ไม่อย่างนั้น ก็พิมพ์คอมพิวเตอร์แบบสัมผัสไม่ได้ กลายเป็นปัญหาอีก ดังนั้น การแจก แท็บเล็ต ก็เหมาะสมแล้ว เพราะเด็กต้องใช้ในการฝึกทักษะพื้นฐาน ในการเข้าสู่ยุคดิจิตอล

อย่าเอาจิตใจยุคอนาล็อก มาประเมินผล สภาพของยุคดิจิตอล

เด็กยุคหน้า หากพิมพ์ไม่ไว ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น เข้าอินเตอร์เน็ดไม่เป็น ก็เหมือนกัน "คนป่า" นั่นแหละ ไม่อาจเข้าสู่ระบบการศึกษาสมัยใหม่ได้

ไม่เริ่ม ป. 1 แล้วมันจะเริ่มตรงไหนครับ โรงเรียนไม่สอนการใช้คอมพิวเตอร์ จะให้ไปเรียนกันเอง แบบยุคผมหรือครับ

มันเป็นทักษะพื้นฐาน ก็ต้องใช้

ไม่แจกปีนี้ มันก็ต้องแจกในปีใดปีหนึ่งในอนาคต เพราะมันเป็นของจำเป็นในโลกยุคใหม่

เริ่มปีนี้ ย่อมได้เปรียบเพราะเด็กไทยจะได้ทันสมัย

ครูที่ใช้ไม่เป็น สอนไม่เป็นก็ต้องขวนขวาย เรียนรู้สอนเด็กให้ได้ กว่าเด็ก ป. 1 ปีนี้ จะเรียนจบมหาวิทยาลัย ก็ อีก 16 ปีข้างหน้า คือ พ.ศ. 2570 หรือ ค.ศ. 2027

ไม่ให้เขาเรียนคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปีนี้ไปเลย จะให้เขาไปเริ่มเรียนปีไหนครับ ยุคปี 2027 โลกเป็นดิจิตอลไปหมดแล้ว

รัฐบาลมีเงินแจก มีงบประมาณ นายกฯ หาเงินมาซื้อให้เด็ก ไปค้าไปขายต่างประเทศให้เศรษฐกิจโต มันก็ไม่เห็นต้องมีปัญหาอะไร
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

หากค้านว่ามีการคอรัปชั่น ในการซื้อ แท็บเล็ต มีหลักฐานชัดเจนว่ารัฐมนตรีโกง นี่ผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่มันเป็นนโยบายกำลังเริ่มต้น

จะค้านว่ายังไม่ถึงเวลาที่นักเรียนไทยต้องเรียนคอมพิวเตอร์ แล้วมันจะถึงเวลาปีไหนละครับ

ปีนี้มันปี 2011 แล้วนะครับยุค สหัสวรรษที่ 3 แล้ว ไม่ใช่ปี 1950 นะครับ

เวลาเหมาะสมมันปี 2020 หรือ 2030 อย่างนั้นหรือ มันไม่สายไปหรือ ประเทศไทยจะแข่งกับโลกเขาได้อย่างไร

ตอนนี้ ธนาคารโลก ไม่ได้จัดประเทศไทยเป็นประเทศยากจนแล้วนะครับ แต่จัดเป็นประเทศ รายได้ระดับกลางค่อนข้างสูงแล้วนะครับ ดังนั้น ใครที่คิดว่าเรายังจนอยู่ ไม่ควรแจก  แท็บเล็ต ให้เด็กนักเรียน ควรคิดใหม่ได้แล้วนะครับ

บทความจาก ลูกชาวนาไทย

ปูเน่า

ซือ้ให้ลูก 4 เครื่องแล้ว เครื่องที่ 1 ทำตก เสีย ซ่อมไม่ได้ เครื่องที่ 2 หล่นน้ำ เสีย ซ่อมไม่ได้ เครื่องที่ 3 ทำหาย เครื่องที่ 4 โดนขโมย

เซ็งจริง ๆ นี่ถ้าได้รับแจกเป็นเครื่องที่ 5 ก็คงเหมือนเดิมอีก

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

อุปกรณ์สำหรับการเรียนการศึกษา หากใช้ได้ถูกที่ถูกทาง ก็ก่อให้เกิดประโยชน์ที่ดีได้

แต่ ผมคิดว่า แจก ป.1 นั้นยังเร็วไป
จริงครับ ยุคนี้มันต้องทันโลก การเรียนการสอนต้องพัฒนา นั่นคือด้านบวก
แต่ เด็ก ป.1 (หรือ ป.2 3 4 5 6)นั้น สมองเขาเปิดแค่ไหน การรับรู้ ความรู้สึกคิดรับผิดชอบได้แค่ไหน แม้เด็กจะรู้จักคอมฯ รู้จักไอที ได้เร็วกว่ายุคเราๆก็ตาม
ผมเห็นว่า หากจะใช้อุปกรณ์นี้ให้เกิดประโยชน์กับนักเรียนจริงๆ น่าจะเริ่มจาก ม.1 เพราะวัยนี้น่าจะคิดเป็น และอยากเรียนรู้อย่างจริงจัง   แต่ แจกเด็ก ป.1 ตอนนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ครู โรงเรียน มีสอนพื้นฐาน แนะนำให้เด็กๆได้ดีแค่ไหนผมว่าคงไม่ต้องเรียนต้องสอนกันแล้วล่ะครับ  เพราะต้องคอยอธิบายให้เด็กเข้าใจ  ดีไม่ดี ครูอาจารย์ก็ใช่ว่าจะพร้อมไปทุกอย่าง นะครับ
ต้องดูเหตุผลอื่นๆประกอบด้วย อุปกรณ์นี้ถือเป็นเทคฌนโลยีใหม่ ต้องเรียนรู้อีกหลายอย่าง

น่าจะใช้เด็ก ม.1 นำร่องไปก่อน 
การลักขโมย  แย่งกับเพื่อน เด็ก ป.1 ยังอ่อนไหวในเรื่องนี้  วันๆคิดถึงแต่อุปกรณ์ชิ้นนี้ แล้วไม่สนใจสิ่งรอบข้าง อาจเกิดอันตรายกับเด็กๆได้เช่นกัน

ผมแนะนำนะ  ควรให้เด็ก ม.1 นำร่อง  ครับ
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

ปชปหัวก้าวหน้า

ถึงบางอ้อ ทำไมต้อง ป.1 ก่อน

หลังจาก พท ได้ตัว ว่าที่ รมต ศึกษา  รายละเอียดนโยบายนี้ ก็มีมากขึ้น
ที่พอสรุปได้ว่า เริ่มแจกที่ ป.1 ก่อน และ มหาวิทยาลัย จะเป็นผู้เตรียมความพร้อมให้ โรงเรียนในเครือข่าย โรงไหนพร้อมก็เริ่มก่อน

เพียงแค่นี้ คำวิพากษ์เชิงคำถาม จากสังคม ก็ พรั่งพรูออกมาอย่างมากมายผ่านสื่อ ทั้งเพื่อดิสเครดิต และถามด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่เข้าใจ

โดยส่วนตัว ผม ก็ไม่ต่าง เพราะมีคำถามมุมลบเช่นกัน เช่น เพราะไม่มีเงินหรือ เลยแจกไม่ได้ อย่างนี้ถือว่าผิดสัญญาใช่ไหม เป็นต้น

แต่เมือ่ มีโอกาส ได้ดูรายการ คม ชัด ลึก ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ได้เชิญ คนที่อยู่ในแวดวง เข้ามาวิพากษ์ถึงความเป็นไปได้ของนโยบาย

ใครที่ได้ชมรายการ ทั้ง 2 วัน ผมเชื่อว่า คงมีผู้ชมไม่น้อย ที่จะตกอยู่ในสภาพ เดียวกันกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย
ก็อย่างที่กล่าวไว้แต่ต้น ว่าตอนก่อนดูรายการ ผมมีความรู้สึกสงสัย ข้องใจ กับวิธีการดำเนินนโยบายเช่นกัน

แต่ปรากฏว่า ระหว่างที่ฟังผู้รู้ ผมกับเกิดความรู้สึกใหม่

ผมรู้สึกว่า ผู้รู้เหล่านี้ อยู่ในภาวะวิตกจริต ตลอดรายการ อยากจะสรุปว่าทุกท่าน จะพูดย้ำอยู่กับความรู้สึกว่า รัฐบาล ได้เตรียมนั่นเตรียมนี่ หรือยัง รัฐบาลกำลังเพ้อฝันไป เพราะแต่ละเรื่องเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ต้องใช้เวลาและเงินมหาศาลเพื่อให้เกิดสิ่งที่ผู้รู้กล่าว เพื่อให้เกิดเป็นระบบสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพแบบในฝัน

มันเป็นความแปลก ในขณะที่ผู้ดำเนินรายการ กำลังเน้นให้ผู้ชมเห็นความไม่พร้อม ในการแจก แท็บเล็ด ป.1 และกำลังจะเป็นความสูญเปล่าของงบประมาณเพื่อการหาเสียงเท่านั้น  ผมกับเกิดความรู้สึกเชื่อมั่นการดำเนินนโยบายของรัฐบาลโดยฉับพลัน

ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมรัฐบาลจึงประกาศเช่นนั้น มันไม่ใช่เหตุผลเรื่องเงิน อย่างเดียวที่ผมเข้าใจ

ในรายการ ผู้รู้ ยกประเด็นหลักๆ ที่ผมพอสรุปได้ดังนี้
1. การจัดหา เครื่องเป็น แสนๆ เครื่องในเวลาอันสั้นไม่ใช่เรื่องง่าย (เพราะจะเริ่มปีการศีกษาหน้า)
    มีการคิดหรือยังว่า spec  เครื่องสำหรับ ป.1 กับมัธยมควรต่างกันอย่างไร
2. บุคคลากร ในทุกเรื่อง ไม่ว่าครู  หรือส่วนอื่นๆที่ต้องเกี่ยวข้อง พร้อมหรือยัง
3. ระบบ infrstructure ที่จะรองรับทันไหม
4. content จะพร้อมไหม ไม่นั้นก็จะกลายเป็นแจกเครื่องเล่นเกม

ในประเด็นทั้งหมดที่ผู้รู้ลงรายละเอียด ได้พยายามบอกผู้ชมว่า ประเทศไทยปัจจุบันล้วนยังอยู่ห่างความพร้อมทั้งสิ้น
ซึ่งผมเห็นด้วยว่าเป็นความจริงทุกประการ แต่ผมคิดว่าสิ่งหนึ่งที่วิทยากรเหล่านั้นลืมไป คือ การ implement อะไร ที่มันใหญ่โต และรายละเอียด มากอย่างนั้น มันต้องเริ่มจากตัว A แล้วค่อยๆพัฒนาไปสู่ตัว Z

แน่นอนว่า ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ของงบที่ลงไป ณ. วันนี้คงไม่ใช่อยู่ที่จุดสูงสุด แต่เราคงรอพัฒนาให้ทุกอย่างพร้อมจนถึงตัว  z ก่อน แล้วค่อยลงมือแจกแท็บเล็ด ก็คงไม่ใช่วิธีที่ฉลาด เพราะจะเป็นการสูญเสียโอกาสของคนไทยอย่างมหาศาล เพราะความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี่มันเร็วมาก ถ้าจะรอพร้อม เราคงไม่รู้ว่าต้องรอกันอีกกี่ปี
เหมือนถ้าเรารอ 3G ก่อนค่อยซื้อโทรศัพท์ใช้ เราก็คงเสียโอกาสอะไรมากมายในการสื่อสาร ถ้าเราไม่ยอมใช้ 2G ไปก่อน

การเริ่มต้นที่ ป. 1 กลับโรงเรียนที่พร้อม จึงคือการตอบโจทย์ ของทุกคำถามที่กังวล
คำตอบคือ
เพราะ ปัจจุบัน ทุก มหาลัย มี ระบบ wifi ที่พร้อม จะสามารถเผื่อแผ่ ไปยัง โรงเรียนใกล้เคียงได้  มหาลัย มีประสบการณ์และบุคคลากร ที่เข้าช่วยสนับสนุน และเตรียมความพร้อมเรื่องต่างให้กับ โรงเรียนได้ ส่วนเรื่อง content ป.1 เป็นชั้นเรียน ที่หลักสูตร วิชายังมีไม่มาก ด้วยเวลาที่สั้น ก็จะสามารถ สร้าง content ได้เพียงพอที่จะเริ่มต้น  และยังเป็นการแก้ปัญหา ที่จะต้องหาจำนวนเครื่อง และ spec ที่เหมาะสม ในเวลาอันสั้นไปด้วย รวมทั้งเรื่องเงินที่สำหรับจัดหาด้วย

ส่วน การที่มีการสอบถามเด็ก 10 คน และเด็ก ร้อยละร้อย ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่จะได้แท็บเล็ต เพื่อเล่นเกมนั้น ที่ผลเป็นเช่นนี้ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก  เพราะ ในสมองของเด็กนั้นว่างเปล่า เด็กเหล่านี้ ไม่มีประสบการณือื่น นอกจากการเรียนรู้ จากการมองเห็นว่าเพื่อนๆเขาใช้เล่นเกมกัน และยากเล่นบ้าง เด็กไม่รู้ว่า มันใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้  และเด็กก็ไม่มีเป้าหมายในการใช้

การเริ่มที่ ป.1 จึงเป็นโอกาส ในการสร้างความคิดและทัศนคติใหม่ในสมอง ให้กับเด็กรุ่นใหม่ (ซึ่งสร้างง่ายกว่าเด็กโต) โดยการสร้าง ผ่าน content ที่สนุก แต่มีสาระ เกิดความรู้ การมอบหมายงานของครูที่เหมาะสม จะทำให้เด็กมีเป้าหมายในการใช้งาน และเรียนรู้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ มันมีคุณค่ามากกว่าการดูหนังและเล่นเกม หรือไว้ chat เหมือนเด็กโต ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้

ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่อระบบใกล้สมบูรณ์ เด็กทุกคนมีแท็บเล็ต ประเทศเราก็จะมี เด็กอย่างน้อย 3 รุ่นแล้ว ที่มีทัศนะคติใหม่ อย่างน้อยเด็ก 3 รุ่นนี้ ก็อาจจะไม่เป็นปัญหาให้สังคมมาแก้ เรื่องเด็กติดเกม

การเริ่มต้นจากส่วนน้อย ก็จะได้เรียนรู้ปัญหาและมีเวลาแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อพัฒนาขึ้นเป็นระบบใหญ่ ความผิดพลาดจากส่วนย่อยนี้ ย่อมเสียหายน้อยกว่า การทำำระบบใหญ่ทีเดียวแล้วเกิดปัญหา

วันนี้ ผมจึงถึงบางอ้อ แล้วว่า ทำไม ต้อง ป.1 ก่อน

บทความจาก สุรชัย khonthai52 ไทยฟรีนิวส์

sidesticky

 ส.อ่านหลังสือ
ป.1 เล่น tablet                       ต้องร้องขอให้แม่ซื้อมือถือให้(ปัจจุบันเด็กป.1บางคนก็มีใช้ไปแล้ว)
ป.2 ไม่ได้เล่นแล้ว                     ต้องร้องขอให้แม่ซื้อ tablet ให้เล่น
ป.3 เริ่มเล่นเป็นแล้วก็เริ่มพัง          ต้องร้องขอให้แม่ซื้อ tablet ตัวใหม่ ให้เล่น ถ้าแม่ไม่ซื้อให้ก็ขโมยคนอื่น
ป.4 มีtabletใช้  แต่มือถือก๊อกแก๊ก   ต้องร้องขอให้แม่ซื้อมือถือเทพกว่านี้ให้ใช้  ถ้าแม่ไม่ซื้อให้ก็ขโมยอีก
ป.5 มี tablet ใช้  มือถือเทพ         ต้องร้องขอให้แม่ซื้อมอไซค์ให้คัน ไว้รับสาว
ป.6 เตรียมเข้า ม.1 มี tablet ใช้ มือถือเทพ  มีมอไซค์   เล่นเกมกันไม่อ่านหนังสือ(แม่ด่า)โทรหาเพื่อนออกมาแว๊น(ตำรวจจับแม่ด่าอีก)  เริ่มอยากออกจากบ้าน
ม.1 มีมือถือเทพ มีมอไซค์ แต่tabletเริ่มก๊อกแก๊ก ต้องร้องขอให้แม่ซื้อtabletใหม่ให้ แม่ไม่ซื้อให้ก็ขโมย/พนัน/แม่ด่า
ม.2 มอไซค์มี  มือถือเริ่มก๊อกแก๊กแต่ยังทนใช้ๆไป แม่บ่น   โทรชวนเพื่อนออกไปแว๊นเพราะน้ำมันถูกมากกก
ม.3 มอไซค์มี  มือถือก๊อกแก๊ก  tabletมีใช้  แม่บ่น เบื่อบ้าน   โทรชวนเพื่อนแว๊น  นอนหอเพื่อน  เริ่มดูดบุหรี่กินเหล้า
ม.4 มอไซค์มี  มือถือเทพ(ได้เรียนม.4 แม่ซื้อมือถือใหม่ให้เป็นของขวัญ)  มี tabletใช้   ขับมอไซค์ให้สาวซ้อนท้าย
ม.5 มอไซค์มี  มือถือเทพ มีtablet มีสาวนั่งท้าย   ออกแว๊นกลับดึก  นอนหอสาว  ทำสาวท้อง(แม่ด่า)  ดูดกัญชา
ม.6 มอไซค์มี  มือถือก๊อกแก๊ก tabletปาทิ้งเพราะทะเลาะกับแฟน  โทรชวนเพื่อนกินเหล้าย้อมใจ  ออกแว๊น(เกิดอุบัติเหตุ/ตำรวจจับ แม่ประกัน)
admission  ไม่ติด ขอตังค์แม่เรียนที่อื่นค่าแพง สังคมฟู่ฟ่า  ขอแม่ซื้อรถยนต์  ซื้อมือถือเทพ ซื้อtabletเทพ

แบบฝึกหัด
1.เจ้าของร้านขายมือถือ tablet จะได้ยอดขายเท่าไหร่
2.พ่อแม่จะเจ็บช้ำน้ำใจ  กี่ปี
3.ท่านคิดว่า  พ่อแม่  ไม่อยากพูดประโยคไหน
ก.(เวลาขอซื้อของ)  แม่ซื้อให้ใช้แล้ว ก็อ่านหนังสือบ้างนะลูก
ข.(เวลาประกันตัว)  คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะลูก  ขยันเรียนปีหน้าจะได้สอบติด
ค.(เวลาลูกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ)(ตาย)ตื่นลูก  คุยกับแม่สิ  แม่อยู่นี่ ตื่นๆๆ ลูกชั้น ช่วยลูกชั้นด้วย (บาดเจ็บ)เนี่ยะ ว่าจะให้มันบวชสักพรรษา เผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น

ป.ลิง  เหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นเป็นเพียงเหตุการณ์สมมติจากสภาวะการณ์จริง


แม่เด็ก

ต่อไปเด็กเขียนหนังสือไม่เป็น  ขนาดให้ใช้สมุดจดบันทึก ลายมือยังอ่านไม่ออก  สุ จิ ปุ ลิ ยังมีความสำคัญ

ผู้เฒ่าเต่า

   ผมว่าเขาแจกมาก็รับไว้เถอะครับหรือว่ามีใครแจ้งความประสงค์ว่าไม่รับ จะดีหรือไม่ดีนั้นก็แล้วแต่การมองของแต่ละคน วันเวลาต้องเดินไปข้างหน้าครับมีสิ่งใหม่ที่ดีกว่าก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้มันให้เป็นประโยชน์ ส่วนที่ว่าจะมีการโกงกินหรือไม่นั้นก็ให้ฝ่ายตรวจสอบเขาทำงานกันเถอะ ประโยชน์นะอยู่กัยผู้ใช้มากกว่าถ้าใช้ให้เป็น

   เอาคลิปไปดูครับเด็ก 2 ขวบนิด ๆ ใช้คอมละ ดู youtobe ก็เลือกเองว่าจะดูอันไหนเสียอย่างเดียวยังพิมพ์ไม่เป็น

http://www.youtube.com/watch?v=UQ-SefwkPfg
อย่าใช้ภาษาผิด ๆ สะกดผิด ๆ เดี๋ยวภาษาที่ ปู่ ย่า ตา ยาย ใช้กันมานมนานจะวิบัติไปกันหมด   
              พลังคลื่นเต่า..........ปู๊ด !!!!!!




ศรีธันยา

ผมว่าน่าจะ ป.5 ป.6 ม.1 น่าจะเหมาะสมกว่าเพราะเด็กโตขึ้นมาหน่อย
ถ้า ป.1 ผมว่าปัญหาตามมาหลายอย่าง
ผมว่าแจกเด็กป.1เป็นหลักการขายมากกว่าเพราะเด็กป.2ขึ้นไปก็ต้องขอให้พ่อแม่ซื้อให้แน่นอนแล้วคอยดูประโยชน์ตกที่กลุ่มไหน
จากบทความจาก ลูกชาวนาไทย ของคห.ปชปหัวก้าวหน้า
ยุคคุณแจกกระดานชนวนแล้วต้องไปหาที่เรียนคอมฯอีก สงสัยคงเรียนนานมากๆกว่าจะจบเพราะมันต่างยุคกันเหลือเกิน COPPY ข้อความที่น่าเชื่อถือหน่อยครับ

เฟล สเทท

.


...ดฟรสำก หะฟะำ failed state''


..........ล้มเหลวไปทุกเรื่อง................ ส.โกรธอย่างแรง ส.บ่น ส-ดีใจ ส-เหอเหอ

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

คงเล่น อั๊กลี่ เบิร์ด กันหมด

เด็กสมัยนี้เรียนรู้ได้เร็วจริงๆ
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป