ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปิดมันสมองของ"ประยุทธ์"

เริ่มโดย ฟ้าเปลี่ยนสี, 10:06 น. 07 มิ.ย 57

ฟ้าเปลี่ยนสี

เปิดมันสมองของ"ประยุทธ์"

โดย..ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
06 มิถุนายน 2557 เวลา 09:54 น.

[attach=1]

ทิศทางลมทางการเมืองดูเหมือนจะสงบนิ่งมากขึ้น หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดวางโครงสร้างการทำงาน

น่าสนใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกและหัวหน้า คสช. ได้เลือกใช้ใครเป็นฝ่าย เสธ.ในการวางแผนบริหารประเทศ และเลือกใช้ใครเข้าไปนั่งเป็นตัวจริงในการสั่งการหน่วยงานราชการ

เพราะนอกจากผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 4 เหล่าทัพ จะนั่งดำรงตำแหน่งในฐานะรองหัวหน้า คสช.แล้ว ยังมี 5 นายพลสำคัญอยู่ข้างกาย พล.อ.ประยุทธ์ เปรียบได้กับมันสมองสำคัญในการกำหนดบทบาทขับเคลื่อนประเทศ

1.พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร (บิ๊กโด่ง) รอง ผบ.ทบ.และเลขาธิการ คสช. จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 14 รุ่นเดียวกับ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 และฝ่ายตรงข้ามอย่าง พล.อ.นิพัทธิ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รวมถึง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ตท.14 จะเป็นผู้ค้ำบัลลังก์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ที่ผ่านมา พล.อ.อุดมเดชเคยเป็น ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ "ทหารเสือราชินี" เติบโตในสายบูรพาพยัคฆ์ และยังเคยเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 รวมถึงเสนาธิการทหารบก ขณะเดียวกัน ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พล.อ.อุดมเดช ยังได้รับการแต่งตั้งเป็น กรรมการ บริษัท ไออาร์พีซี อีกด้วย

พล.อ.อุดมเดช ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เลขาธิการ คสช. โดยทำหน้าที่เสมือน "แม่บ้าน" ตรวจสอบการทำงานของ คสช.ทั้งหมด และในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช เป็นประธานการประชุมกับฝ่ายต่างๆ ของ คสช. รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการแทน นอกจากนี้ พล.อ.อุดมเดช ยังมีชื่อเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ.คนต่อไป หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยอมเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.

2.พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา (บิ๊กต๊อก) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย คสช. หัวหน้าส่วนงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 15 รุ่นเดียวกับ พล.ท.วลิต โรจนภักดี พล.อ.ไพบูลย์เคยเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และเติบโตมาในสาย "วงศ์เทวัญ"

พล.อ.ไพบูลย์ ถือเป็นอีกหนึ่งแคนดิเดต ผบ.ทบ. ที่ขับเคี่ยวกับ พล.อ.อุดมเดช อย่างไรก็ตาม เขาถูกโจมตีจากคนเสื้อแดงมาโดยตลอดว่าอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธสงครามลอบสังหาร ขวัญชัย ไพรพนา แกนนำชมรมคนรักอุดร รวมถึงถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องว่าเป็นคนวางแผนยึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่สุดท้าย กลับเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ลูกพี่ที่รักของ พล.อ.ไพบูลย์ ยึดอำนาจเอง

สำหรับฝ่ายกฎหมายของ พล.อ.ไพบูลย์ ดูแลเรื่องโครงสร้างสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูป โดยมีมือไม้คนสำคัญได้แก่ วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คสช. และบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าฯ นอกจากนี้ พล.อ.ไพบูลย์ ยังเป็นผู้กล่าวปัจฉิมนิเทศเพื่อปล่อยตัวผู้ที่ถูก คสช. เรียกตัวไปกักบริเวณ 7 วัน ซึ่งจากข้อมูลของ ธนาพล อิ๋วสกุล บก.นิตยสารฟ้าเดียวกัน บอกว่า พล.อ.ไพบูลย์พูดในพิธีปล่อยตัวว่า หากผู้ที่ถูกเรียกทุกคนยังทำเหมือนเดิม หลังจากนี้ ทหารก็จำเป็นต้องใช้ "ยาแรง" ในการจัดการ

3.พล.ท.ธีรชัย นาควานิช (บิ๊กหมู) แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย คสช. จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 14โตในสายบูรพาพยัคฆ์ เคยเป็นผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก และรองเสนาธิการทหารบก

ความรับผิดชอบของ พล.ท.ธีรชัย เป็นหน้าที่ของฝ่ายบู๊ ต่างจากของ พล.อ.อุดมเดช และ พล.อ.ไพบูลย์ ซึ่งทำหน้าที่ฝ่ายบุ๋นชัดเจน โดยตอนนี้ พล.ท.ธีรชัย กลายเป็นหัวหน้าใหญ่ของแม่ทัพภาคที่ 14 ดูแลการจับกุมอาวุธสงครามทั่วประเทศ

4.พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ (บิ๊กเต่า) รองปลัดกระทรวงกลาโหม รักษาการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม จบเตรียมทหารรุ่นที่ 12 เพื่อน พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.สุรศักดิ์ เคยเป็นหัวหน้าสำนักงาน ผบ.ทบ. และเคยเป็นผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายกิจการพลเรือน รวมถึงรองเสนาธิการทหารบก

หลังจากรัฐประหารได้ 2 วัน พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้ย้าย พล.อ.นิพัทธิ์ออกจากตำแหน่ง และให้ พล.อ.สุรศักดิ์ นั่งเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมแทนทันที โดย พล.อ.สุรศักดิ์ได้รับมอบหมายจากหัวหน้า คสช. ให้ดูแลเรื่องการปฏิรูปประเทศ นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหม เป็นกลไกหลักในการจัดการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน

5.พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ (บิ๊กโชย) ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ และผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป จบเตรียมทหารรุ่นที่ 16 เช่นเดียวกับ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ พล.ท.กัมปนาท เติบโตในกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ เคยเป็นผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เพื่อแก้ไขปัญหาภาคใต้ขณะเดียวกันก็เป็น พล.ท.กัมปนาท ที่คุมกำลังทหารเข้า "กระชับพื้นที่" คนเสื้อแดง เมื่อเดือน เม.ย.พ.ค. 2553

ที่ผ่านมามีความถนัดงานด้านมวลชนสัมพันธ์ รวมถึงถนัดด้านการคุมกำลังรบอีกด้วย ทำให้เติบโตในสายการบังคับบัญชาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากครบเครื่องทั้งบู๊และบุ๋น

ทั้งหมดนี้คือ 5 นายพลหลัก ที่อยู่รอบกาย พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าจะสามารถขับเคลื่อนงานของ คสช. ให้ลุล่วงไปด้วยดีหรือไม่
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยรองตัวสุดท้าย:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง