'กกล.รส.' โชว์อาวุธสงคราม หลัง คสช.สั่งกวาดล้าง

[ฟ้าเปลี่ยนสี]

'กกล.รส.' โชว์อาวุธสงคราม หลัง คสช.สั่งกวาดล้าง

โดย ไทยรัฐออนไลน์
29 มิ.ย. 2557 14:05

[attach=1]

กกล.รส. เปิดคลังแสงตรวจยึดอาวุธสงครามทั่ว ปท. รอบ 1 เดือน โชว์ผู้ช่วยทูตต่างประเทศ ตั้งเป้ากวาดล้างให้สิ้นซาก เชื่อยังระบาดอีกหลายพื้นที่

วันที่ 29 มิ.ย. ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ (ผบ.กกล.รส.) ได้จัดแถลงข่าวผลการจับกุมอาวุธสงคราม, เครื่องกระสุน, และยุทธภัณฑ์ ในห้วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค ถึงวันที่ 25 มิ.ย. โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.

นอกจากนี้ ยังได้เชิญผู้ช่วยทูตทหารประจำประเทศไทย มาร่วมเป็นสักขีพยานในการแถลงข่าว จำนวน 11 ประเทศ โดยมี พ.อ.วินธัย สุวารี พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมงานโฆษกคสช. พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รอง ผกก.น.1 ร่วมแถงข่าว พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ภายหลังจากที่ คสช.ได้ควบคุมอำนาจบริหารการปกครองประเทศ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา

สาเหตุหนึ่งเนื่องจากผลกระทบต่อความมั่นคงอันเป็นความอันตรายต่อประเทศ ทำให้สังคมทะเลาะ เกิดความเกลียดชัง แบ่งฝ่าย และแตกความสามัคคีอย่างรุนแรง จนถึงขนาดนำเอาอาวุธมาทำร้ายต่อกันจนมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทำให้เห็นว่าประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะมีการใช้อาวุธในเขตชุมชนเมือง ซึ่งทุกๆ ประเทศจะต้องไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้

ดังนั้น จึงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ คสช.ต้องรีบเข้ามาดำเนินการทั้งการบังคับใช้กฎหมาย ติดตาม จับกุม ตรวจค้น แหล่งซุกซ่อนอาวุธ รวมถึงมาตรการขอความร่วมมือตามประกาศของ คสช. ให้ผู้ที่มีอาวุธสงครามอยู่ในการครอบครองนำมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า สำหรับผลการติดตามจับกุมตรวจยึดอาวุธสงครามในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส. ภาค 1-4) ประกอบด้วย ปืนเล็กยาว และปืนกลชนิดต่างๆ จำนวน 144 กระบอก ปืนยาว ปืนลูกซอง จำนวน 258 กระบอก ปืนพก ชนิดต่างๆ จำนวน 2490 กระบอกก เครื่องยิงลูกระเบิด แบบ M-79 จำนวน 23 เครื่องยิง เครื่องยิงจรวด RPG จำนวน 9 เครื่องยิง ลูกระเบิดขว้างชนิดต่างๆ จำนวน 330 ลูก และวัตถุระเบิดชนิดต่างๆ เช่น ระเบิด TNT 134 รายการ

[attach=2]

ส่วนของเครื่องกระสุน ประกอบไปด้วย กระสุนปืนเล็กยาว และปืนกลชนิดต่างๆ จำนวน 20,999 นัด กระสุนปืนยาว และปืนลูกซอง จำนวน 557 นัด กระสุนปืนพกชนิดต่างๆ จำนวน 33,200 นัด กระสุนระเบิด M-79 จำนวน 166 นัด ลูกจรวด RPG จำนวน 57 ลูก และยุทธภัณฑ์อื่นๆ เช่น เสื้อเกราะ จำนวน 426 รายการ สำหรับอาวุธ กระสุน และยุทธภัณฑ์ ที่นำมาแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นเพียงการปฏิบัติการของ กกล.รส. กองทัพภาคที่ 1 และบางส่วนของ กกล.รส. กองทัพภาคที่ 2 (ขอนแก่นโมเดล)

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า หลักฐานทั้งหมดที่นำมาแสดงในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าสังคมไทยอยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติพอสมควร และเป็นสิ่งที่น่ากลัว หากอาวุธพวกนี้ถูกนำไปใช้ทำลายประชาชนในพื้นที่ใดก็ตามก็จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ทั้งนี้ จึงถือว่าเป็นอุทาหรณ์ และเป็นเครื่องเตือนสติอย่างดีว่าคนไทยด้วยกันที่มีแนวความคิดจะทำร้ายคนไทยด้วยกันเองในชาติ และหวังว่าในอนาคตต่อไปพฤติกรรมเหล่านี้จะหายไปจากประเทศ พร้อมทั้งอยากให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของ คสช. ที่มีการทำงานอย่างบูรณาการ กับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตั้งแต่กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และฝ่ายปกครอง

พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า อาวุธสงครามทั้งหมดที่จับได้มีลักษณะคละเคล้ากันไป บางส่วนก็มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ปี 2553 บางส่วนก็เป็นของใหม่ ทั้งนี้ จะต้องมีการตรวจสอบประวัติว่า เคยมีการก่อเหตุหรือมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในปีใดบ้าง อีกทั้งอยากให้ผลการสืบสวนมีความสมบูรณ์มากกว่านี้

ด้าน พ.ต.อ. ทรงพล กล่าวว่า ทาง สตช. ได้ร่วมกับทหารในการจับกุมทุกคดี เราได้เก็บหลักฐานจากดีเอ็นเอ จากของกลางที่ตรวจยึดได้ เพื่อนำไปพิสูจน์ สอบสวน และขยายผล ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม คดีทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับคดีที่เกิดขึ้นในปีใดนั้นก็อยู่ในระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องฝ่ายความมั่นคง และได้มีการตั้งทีมในการดำเนินการสืบสวนเพื่อขยายผลการจับกุม

"พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาการ ผบ.ตร. ได้กำชับให้ตำรวจภูธร และนครบาลเร่งรัดจับกุม อาวุธสงครามทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะจากรายงานข่าวแจ้งว่ายังมีอาวุธสงครามหลงเหลืออยู่ ซึ่งท่านมีความเป็นห่วงว่าจะมีการนำเอาอาวุธดังกล่าวมาทำร้ายประชาชนที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ" พ.ต.อ.ทรงพล กล่าว

พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวต่อว่า ในส่วนของ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่่ศาลทหารจังหวัดสระบุรีออกหมายจับจากการสืบสวนจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสะสมอาวุธสงครามจากที่ผู้ที่ถูกจับกุมได้ โดยให้การซัดทอดว่า นายจักรภพเป็นหนึ่งใน 8 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่ม กปปส. และ กลุ่ม นปช. ก็ขึ้นอยู่กับการพิสูจน์หลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากแถลงข่าวเสร็จ พล.ท.ธีรชัย กล่าวว่า อาวุธสงครามทั้งหมดที่จับได้เพียง 3 ใน 4 ส่วนในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 และบางส่วนของกองทัพภาคที่ 2 เท่านั้น ยังเหลือในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3, 4 ที่ยังไม่ได้นำมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่มีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุความไม่สงบทางการเมือง รวมถึง ขอนแก่นโมเดล และบางส่วนก็มีการนำมาทิ้งไว้ ผลการดำเนินการทั้งหมดนี้ เป็นเพราะโดนเจ้าหน้าที่กดดัน อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกพอใจในระดับหนึ่ง โดยตั้งเป้าจะกวาดล้างให้หมดทุกพื้นที่ ทั้งนี้ หน่วยข่าวแจ้งว่าในหลายพื้นที่ยังมีอาวุธสงครามอยู่

พล.ท.ธีรชัย กล่าวอีกว่า ในวันนี้ทาง กกล.รส.ได้เชิญผู้ช่วยทหารที่ประจำอยู่ในประเทศไทย เข้าร่วมการแถลงข่าวเพื่อเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย เพราะเขามีความสนใจ โดยเราได้แจ้งให้ผู้ช่วยทูตทหารทราบเบื้องต้นว่า เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทหารและตำรวจ

[นายไข่นุ้ย]

    โอ้ มากมายแบบนี้เลยหรือ