รวบยกเซต ทีมคุมงานก่อสร้างคอนโดมรณะ

[itplaza]

โยนผู้รับเหมาเทปูนพลการ ยังไม่ได้ตรวจสอบ-อนุญาต กู้ได้3ศพ-ติดอยู่ใต้ซากอีก5



ผวจ.ปทุมธานีนำทีมกู้ภัยเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู นำรถแบ็กโฮ ขนาดใหญ่ 4 คัน ลุยรื้อซากอาคารคอนโดฯที่ถล่มพังพาบ ล่าสุดพบศพคนงานถูกแท่งปูนทับร่างแหลกเสียชีวิตใต้ซากอาคารอีกรวม 5 ศพ กู้ได้อีก 3 ศพ ขณะที่ รรท.ผบช.ภ.1 คุมตัว ผจก.บริษัทรับเหมา กับภรรยาผู้ขออนุญาตก่อสร้าง วิศวกรผู้ควบคุม และผู้รับเหมาช่วงที่เข้ามอบตัวและจับกุมรวม 4 คนมาแถลง สอบสวนวิศวกรให้การระบุสาเหตุที่ตึกถล่มเกิดจากผู้รับเหมาเทคอนกรีตโดยพลการ ทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจสอบหรืออนุญาตให้ดำเนินการใดๆ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว ตำรวจตั้งข้อหาหนักกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย



จากเหตุสลดใจกรณีอาคารคอนโดมิเนียมสูง 6 ชั้น ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างบริเวณถนนเลียบคลอง 6 หมู่ 2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พังถล่มลงมาทั้งหลังคร่าชีวิตคนงานถูกฝังตายทั้งเป็นสยดสยอง 3 ศพ และบาดเจ็บสิบราย ในจำนวนนี้ประมาณ 5 ราย ถูกฝังใต้ซากปรักหักพังคาดว่าอาจเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ทีมกู้ภัยได้เร่งค้นหากู้ศพอย่างต่อเนื่อง และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนหาสาเหตุการถล่มของตึกมรณะ

ความคืบหน้าการค้นหาร่างเหยื่อที่โดนฝังใต้ซากอาคารตึกถล่มมีรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 13 ส.ค.นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผวจ.ปทุมธานี รุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่ออำนวยการค้นหาร่างคนงานที่ถูกฝัง โดยได้กันพื้นที่โดยรอบตัวอาคารไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ตัวอาคาร เนื่องจากเกรงว่าจะมีการยุบตัว และการเคลื่อนตัวของแผ่นปูนเนื่องจากก่อนหน้านี้เกิดฝนตกหนัก ส่วนการค้นหาเจ้าหน้าที่ได้นำสุนัขตำรวจและสุนัขทหารมาดมกลิ่นตามจุดต่างๆใต้ซากอาคารที่คาดว่าจะมีร่างคนงานที่ถูกฝัง รวมทั้งใช้กล้องส่องดูตามซอกแผ่นปูน และพื้นที่ใต้ซากอาคาร เพื่อตรวจหาร่างคนงานที่อาจยังมีผู้รอดชีวิต

ขณะเดียวกันนายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผวจ.ปทุมธานี ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่และทีมงานกู้ภัยได้ข้อสรุปจะรื้อแท่งลิฟต์ออกก่อนเพื่อความปลอดภัย เพราะเกรงว่าจะโค่นพังทลายลงมา จากนั้นจะใช้เครื่องจักรรื้อซากอาคารที่ถล่ม ส่วนบรรยากาศโดยรอบมีบรรดาญาติๆ ของคนงานที่ถูกฝังใต้ซากอาคาร มารอเฝ้าดูการทำงานค้นหาของทีมกู้ภัยเพื่อรอปาฏิหาริย์อาจมีคนงานบางคนรอดชีวิตแม้จะมีความหวังเพียงริบหรี่ ก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งศูนย์รับแจ้งคนหาย เพื่อตรวจสอบให้ทราบให้แน่ชัดว่ายังมีผู้ติดค้างในซากอาคารจำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากมีญาติๆเข้ามาแจ้งเพิ่มเติม คาดว่าน่าจะมีคนงานติดอยู่เกินกว่า 5 คน

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. นายพงศธรได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารนำรถแบ็กโฮขนาดใหญ่จำนวน 4 คัน เข้ารื้อซากอาคารโดยโค่นแท่งลิฟต์พังทลายเป็นอันดับแรกก่อนใช้รถแบ็กโฮทยอยขุดรื้อซากปรักหักพังของอาคารที่กองทับถมออก จากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูที่เข้าร่วมรื้อซากอาคารได้เข้าไปตรวจสอบใต้ซากอาคาร เบื้องต้นพบศพคนงานถูกทับร่างแหลกเละเสียชีวิตใต้ซากอาคารจำนวน 6 ราย แต่ยังไม่สามารถนำศพออกมาได้

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงการค้นหาร่างคนงานที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่มว่าอาจเสียชีวิตหมดแล้ว เนื่องจากตรวจสอบไม่พบสัญญาณชีพ ขณะเดียวกันได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และเป็นเขตอันตรายห้ามบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าออกโดยเด็ดขาด พร้อมจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ เพื่อเป็นศูนย์กลางช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในส่วนของ ปภ.ได้จัดส่งชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติ (ERT) และเจ้าหน้าที่จำนวน 30 นาย พร้อมเครื่องมือเข้าร่วมค้นหาอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งนำร่างคนงานที่ถูกฝังออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด

วันเดียวกัน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการช่วยชีวิตเหยื่อตึกถล่ม โดย นพ.ณรงค์ ตั้งตรงไพโรจน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ทีมปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากตึกถล่มได้ยุติการค้นหาชั่วคราวเมื่อ 2 ทุ่มคืนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์และจะดำเนินการค้นหาผู้รอดชีวิตต่อไป

ด้านนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกรณีตึกถล่ม ว่าขณะเกิดเหตุมีคนงานทำงาน 33 คน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือนายเชษฐา กำพูชาติ นางอ้วน ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งตั้งท้อง 7 เดือน และลูกชายวัย 4 ขวบ ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 25 ราย นอนรักษาที่โรงพยาบาล 6 ราย ได้แก่ รพ.คลองหลวง 1 ราย คือนายสมัย นิวาท ถูกแผ่นปูนทับมีอาการเจ็บหลัง รพ.ธรรมศาสตร์ฯ 1 ราย คือนายสุวัฒน์ ชมพูจันทร์ กระดูกแขนขวาหัก เส้นเลือดแดงใหญ่แขนขวาขาด ขาขวาหัก ตาขวาเจ็บ ยังอยู่ห้องไอซียู รพ.ปทุมธานี 3 ราย คือ น.ส.สุกัญญา โพธิ์ตะมี ตั้งครรภ์ 4 เดือน กระดูกสะโพกซ้ายแตก ไหปลาร้าขวาหัก ปอดถูกกระแทก ยังอยู่ในห้องไอซียู นายจันทร์ ชาวกัมพูชา กระดูกซี่โครงหัก กระดูกสันหลังแตก มีเลือดออกในปอด และนายกล้าณรงค์ ปราบภัย กระดูกไหปลาร้าขวาหัก กระดูกสะโพกซ้ายแตก ยังอยู่ในห้องไอซียูและ รพ.วิภาราม 1 ราย

นายจีรศักดิ์กล่าวอีกว่า แรงงานที่ประสบเหตุจะได้รับสิทธิกองทุนเงินทดแทนเนื่องจากบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการทำงาน หากเป็นแรงงานไทยและต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้ในระบบ ประกันสังคมจะใช้เงินกองทุนทดแทนช่วยเหลือโดยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แรงงานที่บาดเจ็บตามจริงไม่เกินคนละ 3 แสนบาท ส่วนกรณีเสียชีวิตจ่ายค่าทำศพ 3 หมื่นบาทและได้รับเงินสงเคราะห์โดยทายาทได้รับเงินชดเชยร้อยละ 60 ของค่าจ้างงวดสุดท้ายเป็นเวลา 8 ปี และเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีหยุดงานเพื่อพักรักษาตัว แต่ถ้าเป็นแรงงานไทยและต่างด้าวที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับระบบประกันสังคมตนได้ให้สำนักงานประกันสังคมไปดำเนินการออกคำสั่งให้บริษัทที่เป็นนายจ้างต้องจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำศพ เงินทดแทนการขาดรายได้ตามสิทธิที่ได้รับจากกองทุนเงินทดแทน

นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ แรงงานจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานีได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบข้อเท็จจริงจากนายจ้างชื่อ บริษัทปลูกแปลง จำกัด ถนนรัชดาภิเษก กทม. เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการพิจารณาว่านายจ้างกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายความปลอดภัยในการทำงานเรื่องใดบ้างจากเจ้าของกิจการและผู้รับเหมาเพื่อประกอบการดำเนินการทางกฎหมาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของทางการกัมพูชาได้แจ้งว่ามีแรงงานชาวกัมพูชาสูญหายไป 3 ราย ผวจ.ปทุมธานีได้สั่งการให้ตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบบเบ็ดเสร็จในพื้นที่ประสบเหตุ เพื่อรับลงทะเบียนรวมทั้งตอบข้อซักถามของญาติแรงงานและให้บริการอาหารและเครื่องดื่มโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงานได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานไปร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้บริการประชาชนและผู้ใช้แรงงานในพื้นที่

นายชัยณรงค์ โชไชย รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวถึงบริษัทรับเหมาก่อสร้างคอนโดมิเนียม ยูเพลส ที่ถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ว่า จากการตรวจสอบสถานะของ 3 บริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องประกอบด้วย บริษัท โกลด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทยูเพลส (ต้อม) จำกัด และบริษัท ปลูกแปลง จำกัด พบว่าบริษัท โกลด์ พร็อพเพอร์ตี้ มีสถานะร้าง บริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกรรมใดๆได้อีก ส่วนการที่มีชื่อ เข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการคอนโดมิเนียมยูเพลสนั้น ต้องตรวจสอบว่ามีการดำเนินการในลักษณะของนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา หากกรรมการของบริษัทโกลด์ พร็อพเพอร์ตี้ เข้าไปทำธุรกรรมในลักษณะของบุคคลธรรมดาก็ไม่ถือว่ามีความผิด

"โกลด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 7 ล้านบาท และมีสำนักงานอยู่ที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีสถานะเป็นบริษัทร้าง โดยนายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.ย.53 เพราะไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนบริษัทยูเพลส(ต้อม) จำกัด และบริษัท ปลูกแปลง จำกัด ยังเปิดดำเนินกิจการตามปกติ แต่ขณะนี้กรมฯยังไม่ได้รับการติดต่อขอเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของทั้ง 3 บริษัทดังกล่าว จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ"

ที่ รพ.ปทุมธานี อาคารเฉลิมพระเกียรติ นางมินตรา รัตนนาคินทร์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ ศรีคชา อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และ พ.ต.ท.ประสงค์ สุขเกษม รองอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดปทุมธานี นำกระเช้าไปเยี่ยมและให้กำลังใจนายกล้าณรงค์ ปราบภัย กับ น.ส.สุกัญญา โพธิ์ตะมี คนงานที่ได้รับบาดเจ็บ นางมินตรากล่าวว่า อัยการได้เข้าไปช่วยเหลือในการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิทางด้านคดีอาญาและสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งด้านละเมิด และหากไม่ได้รับความเป็นธรรมทางด้านกฎหมายให้มาปรึกษาทางกฎหมายกับสำนักงานอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดปทุมธานี (สคช.)ได้

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง ทีมโฆษก คสช. กล่าวหลังการประชุม คสช.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้า คสช. ระบุในที่ประชุมขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการช่วยเหลือกรณีอาคารก่อสร้างถล่มทั้งเรื่องการค้นหา การดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อย่างดีที่สุด ส่วนกรณีการรับมือภัยพิบัติขนาดใหญ่ จะต้องใช้ความร่วมมือจากทุกหน่วยงานเข้าบริหารเหตุการณ์ จึงมอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันกำหนดแผนการปฏิบัติในภาพรวม เพื่อบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ ทั้งด้านมาตรฐาน ความพอเพียงของเครื่องมือกู้ภัย อุปกรณ์การช่วยเหลือ และให้พิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้ครอบคลุมทุกด้านเพื่อบริหารจัดการภัยพิบัติขนาดใหญ่ได้มีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์

ในส่วนความคืบหน้าทางคดีเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 13 ส.ค. ที่ บช.ภ.1 พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท. ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี ได้ร่วมกันแถลงผลการดำเนินคดี กรณีอาคารยูเพลสคอนโดมิเนียมถล่ม และศาลจังหวัดธัญบุรี อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย ขณะนี้จับกุมตัวได้แล้ว 3 ราย คือนางเพ็ญศรี กิติไพศาลนนท์ อายุ 49 ปี ผู้ขออนุญาตก่อสร้าง นายศักดิ์สิทธิ์ อินทร์ทอง อายุ 44 ปี วิศวกรผู้ควบคุม และนายเดี่ยว ปราบโจร อายุ 43 ปี ผู้รับเหมาช่วง ส่วนนายบุญยกร หีบทอง อายุ 48 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทยูเพลส จำกัด และเป็นสามีของนางเพ็ญศรี ที่ได้เข้ามอบตัว โดยทั้งหมดได้ถูกดำเนินคดีในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

จากการสอบสวนนายศักดิ์สิทธิ์ อินทร์ทอง วิศวกรผู้ควบคุมให้การว่า สาเหตุเกิดจากที่ผู้รับเหมาเทคอนกรีตโดยพลการ ทางวิศวกรยังไม่มีการเข้าตรวจสอบหรืออนุญาตให้ดำเนินการใดๆ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว ขณะที่นายเดี่ยวผู้รับเหมาช่วง ให้การว่า ทางหัวหน้าบริษัทรับเหมาชื่อ "กบ" ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ได้สั่งให้เทคอนกรีตได้ จึงสั่งคนงานให้เทคอนกรีตและไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการเช่นนี้ขึ้น ด้านนางเพ็ญศรีผู้ขออนุญาตก่อสร้างกล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมที่จะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง

ที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ซอยรามคำแหง 39 กทม. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ นายสิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วสท.นายเอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. ร่วมแถลงกรณีตึกถล่มที่ จ.ปทุมธานี ได้นำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา ลงสำรวจพื้นตรวจสอบและนำแบบแปลนก่อสร้างโครงการมาศึกษาวิเคราะห์ หาสาเหตุที่ทำให้ตึกถล่ม นายเอนกกล่าวว่า การตรวจสอบอาคารที่ถล่มพบโครงสร้างมีเสารองรับตัวอาคาร 4 เสา หรือ 4 มุม เสาทางด้านซ้ายสุดเป็นเสาจุดอ่อนแอไม่แข็งแรง ประกอบกับมีการติดตั้งคอนกรีตพื้นสำเร็จรูปถึงชั้น 6 โดยการวางนั่งร้านเป็นฐานรองรับ แต่ระหว่างติดตั้งคอนกรีตสำเร็จรูปน้ำหนักของตัวคอนกรีตกลับมาอยู่จุดด้านซ้ายของเสาซ้ายสุด ทำให้นั่งร้านค้ำยันการก่อสร้างแผ่นพื้นมีจำนวนไม่เพียงพอ และน้ำหนักของโครงสร้างอาคารถูกดึงมาฝั่งด้านซ้ายจุดที่เสาไม่แข็งแรง เกิดสูญเสียตำแหน่งอย่างมาก จนเกิดการพังทลายลงมา

ด้านนายสิริวัฒน์กล่าวว่า อาคารยูเพลสคอนโดมิเนียมมีการขออนุญาตจากกรมโยธาและผังเมือง จ.ปทุมธานี ในการก่อสร้างตามแบบถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น ความผิดต้องตรวจสอบไปยังผู้ควบคุมงานคือวิศวกรว่ามีการเร่งรัด ใช้วัสดุได้มาตรฐานหรือไม่ ส่วนความรับผิดชอบตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฉบับปี พ.ศ.2522 เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมา และผู้ควบคุมต้องมีจิตสำนึกในความรับผิดชอบของความเสียหาย วิศวกรจะได้รับการไต่สวนจากสภาวิศวกรฯ ซึ่งผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หากก่อความเสียหายขึ้น จะถูกตักเตือน พักใบอนุญาต และเพิกถอนในอนุญาต ตามลำดับความรุนแรงของความ เสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งรื้อซากอาคารที่พังถล่มและสามารถนำศพคนงานที่ถูกฝังใต้ซากอาคารออกมาได้จำนวน 3 ศพ คือนายใกล้รุ่ง ทับครบุรี อายุ 37 ปี และนางเพียบ มงคล อายุ 34 ปี คนงานสองสามีภรรยา โดยร่างของทั้งสองอยู่ในสภาพถูกคานปูนและแผ่นปูนทับร่างนอนคุดคู้เสียชีวิตใกล้กันและนายสิทธิโชค แกมมณี อายุ 18 ปี ที่บริเวณโซน B ของตัวอาคาร นอกจากนี้ ยังพบร่างคนงานถูกฝังอยู่อีกประมาณ 5 ศพ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งกู้ศพขึ้นมา ท่ามกลางสายฝนปรอยๆตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าผู้ที่ถูกออกหมายจับรายที่ 5 คือนายชานัยชนม์ เกิดเทศ อายุ 46 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นบุตรชายของนายชลอ เกิดเทศ อดีตนายตำรวจคนดัง โดยนายชานัยชนม์ ยังไม่ได้ประสานหรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะเข้ามอบตัวเมื่อใด นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าศาลได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 1 ราย คือนายจิระ ขันมั่น อายุ 43 ปี ผู้ควบคุมงาน

ขอบคุณเนื้อหา thairath.co.th
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=38665&page=1

[jomlight]

 
เร่งสวบสวนไวๆนะครับ