ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

“กองปราบ” บุกทลายบ่อนเมืองลุง เด้งทันที 6 นายตำรวจ เผยยังมีอีกเกลื่อน

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 12:21 น. 05 ก.พ 58

หาดใหญ่ใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์        http://manager.co.th/South

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจกองปราบล่องใต้ บุกรวบนักพนันบ่อนโปปั่น จ.พัทลุง ผู้การฯ พัทลุง พร้อมตำรวจอีก 5 ถูกเด้งสังเวย ระบุภาคใต้บ่อนเกลื่อนเมือง บางพื้นที่เสียค่าใช้จ่ายให้แก่บุคคลหลายกลุ่ม ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 9 ล้านบาท
       
       วันนี้ (4 ก.พ.) พ.ต.อ.สมพงศ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมกลุ่มนักเล่นการพนันโปปั่นในสวนยางพาราหมู่ 6 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งต่อมา ได้ย้ายวงการพนันโปปั่นมาเล่นพนันในบ้านเลขที่ 37 หมู่ 6 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.ควนเนียง จ.สงขลา กับพื้นที่ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง
       
       เมื่อกำลังตำรวจชุดดังกล่าวมาถึงบ้านเกิดเหตุ ได้จับกุมตัว นายเอกชัย หนูชัยแก้ว อายุ 30 ปี พร้อมด้วยวิทยุยี่ห้อยาอิซุ จำนวน 1 เครื่อง ก่อนที่จะเข้าไปรวบตัวกลุ่มนักพนัน จำนวน 32 ราย พร้อมของกลางเงินสดจำนวนหนึ่ง อุปกรณ์การเล่นโปปั่น 1 ชุด อาวุธปืนขนาด.357 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด ซึ่งในการจับกุมมี นายเสริม ซ้ายขวัญ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 3 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง รับเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้
       
       ส่วนอาวุธปืน กระสุนปืน เป็นของ นายสมปอง ณ สุยสกุล อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 4 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง จึงได้นำกลุ่มนักพนันโปปั่นทั้ง 33 ราย ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานจากเหตุที่ตำรวจกองปราบปรามบุกเข้าจับกุมบ่อนพนันโปปั่น ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.ควนเนียง จ.สงขลา กับ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ในครั้งนี้ ในเบื้องต้นทาง พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันท์ ผบช.ภ. 9 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล ผบก.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.สมปอง ช่อคง ผกก.สภ.ปากพะยูน พ.ต.ท.สำเริง เสริมศรี รอง ผกก.ป. (เพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งประมาณกลางเดือนมกราคม 2558) พ.ต.ท.ประสิทธิ์ จารุภาสกร สวป. และ พ.ต.ท.ประเสริฐ ไชยเดช สว.สส. ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจ ภ. 9 ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.58 เป็นต้นไป
       
       ส่วน พ.ต.ท.พฤกษ์ กุลประสิทธิ์ รอง ผกก.สส อยู่ในระหว่างการอบรมหลักสูตร ผกก.ในกรุงเทพฯ จึงพลาดโดนหางเลขไปในครั้งนี้ ส่วนผู้ที่จะเดินทางมารักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.พัทลุงนั้น คาดว่าน่าจะเป็น พล.ต.ต.วีระสิทธิ์ เพ็ชรคล้าย รอง ผบช.ภ.9
       
       ทางด้าน พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล ผบก.ภ.จว.พัทลุง เปิดเผยว่า ได้เน้นย้ำในการป้องกันปราบปรามการก่อคดีอาชญากรรม การลักลอบเปิดบ่อนการพนัน การปราบปรามอาวุธปืนสงคราม วัตถุระเบิด และอื่นๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 4, 6 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.ควนเนียง จ.สงขลา ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าย รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ลงพื้นที่ไปกำกับดูแลการลักลอบเล่นการพนันอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง
       
       และล่าสุด ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เอนก พร้อมกำลังทหารช่าง ช.402 ค่ายอภัยบริรักษ์ จ.พัทลุง ใช้กฎอัยการศึกเข้าตรวจค้นบ้านพักนายนายสมปอง ณ สุยสกุล อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 4 ต.ดอนทราย อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งถูกจับกุมในข้อหาลักลอบเล่นการพนัน และมีอาวุธปืน และกระสุนไว้ในครอบครอง แต่ไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด
       
       พล.ต.ต.ดำรัส กล่าวอีกว่า เมื่อเสาร์ที่ 31 มกราคม 2558 ก็ได้เชิญนายตำรวจระดับสารวัตรขึ้นไป รวมทั้งหัวหน้าตู้ยาม จุดตรวจ/ด่านตรวจ มาประชุมเพื่อมอบนโยบายในการป้องกันปราบปรามการก่อคดีอาชญากรรม การลักลอบเล่นการพนัน การปราบปรามอาวุธปืน อาวุธปืนสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด โดยเน้นย้ำให้นายตำรวจทุกคนได้ถือปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
       
       พร้อมกันนั้น ก็ได้ถ่ายทำวิอีโอเพื่อแจกจ่ายให้หัวหน้าสถานีตำรวจ 16 สถานี และหัวหน้าตู้ยาม จุดตรวจ/ด่านตรวจทั้ง 86 นายด้วย แต่ก็เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นในที่สุด สำหรับตนนั้นพร้อมน้อมรับคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจับกุมบ่อนโปปั่นในครั้งนี้ มีพฤติกรรมที่น่าสงสัยอยู่หลายประการ โดยเฉพาะกลุ่มนักพนันทั้ง 33 รายนั้น เป็นชาว จ.สงขลา มากถึง 18 ราย ส่วนชาวพัทลุง มีเพียง 10 ราย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ อ.ปากพะยูน มากถึง 7 ราย นอกจากนั้น เป็นชาว จ.สตูล 4 ราย และชาว จ.เพชรบูรณ์ 1 รายส่วนเงินของกลางก็มีแค่ 15,491 บาท และสถานที่เล่นการพนันก็เป็นบ้านชั้นเดียวตั้งอยู่ริมถนนในหมู่บ้าน
       
       ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นรอยต่อระหว่าง จ.พัทลุง และจ.สงขลา ซึ่งตำรวจน่าจะมีการวางแผนการจับกุมล่วงหน้ามาอย่างดี และการจับกุมในครั้งนี้จึงน่ามีเงื่อนงำน่าสงสัย โดยเฉพาะอยู่ในช่วงการพิจารณาโยกย้ายแต่งตั้งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่
       
       แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ทางการข่าว เปิดเผยว่า ในพื้นที่ภาคใต้ยังมีอีกหลายจังหวัดที่ยังลักลอบเปิดบ่อนการพนัน และบางจังหวัดยังได้เร่งปฏิบัติการปิดบ่อนการพนันล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เพราะมีการรับทราบล่วงหน้า
       
       "บ่อนการพนันบางจังหวัดมีถึง 9 บ่อน โดยแต่ละแห่งมีบุคคลหลายกลุ่มได้รับผลประโยชน์ โดยเสียค่าใช้จ่ายบ่อนละ 9 ล้านบาทต่อเดือน ยังไม่นับถึงบ่อนการพนันรับแทงโต๊ะฟุตบอล แต่ละโต๊ะมีบุคคลผู้มารับผลประโยชน์เดือนละ 100,000 บาท" แหล่งข่าวระบุ
         
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน

เขยบ่อยาง

หายสงสัยแล้วว่าทำไมประเทศไทยจึงย่ำอยู่กับที่ เป็นประเทศด้อยพัฒนา แต่หลายๆคนพยายามสะเออะใช้คำว่ากำลังพัฒนานะ ถ้ากำลังพัฒนาเราต้องเห็นสิ่งสำคัญหลายๆอย่างมันดีขึ้น เช่นเศรษฐกิจ การศึกษา สังคมและอีกหลายๆอย่าง แต่นี่ยังไม่เป็นเช่นนั้นเลย รายได้ก็ยังต่ำไม่พอใช้ ไม่เหลือเก็บ การเรียนการสอนเด็กๆยังล้าหลังรั้งท้ายในอาเซียน คดีอาชญากรรมมีแต่เพิ่มขึ้น คนที่รวยก็รวยมากขึ้น คนที่จนก็ยิ่งจน...จนต้องไปค้ายา ไปทำสิ่งผิดกฏหมาย ดูได้จากนักโทษล้นคุก ไม่มีที่พอจะคุมขังถึงขนาดคิดการณ์ไกลให้เอกชนสร้างคุก เอาเข้าไป
ว่ากันเรื่องการพนันเรื่องเดียว จับได้จับดี จับยังไงก็ไม่หมดซะที รู้ทั้งรู้ว่าห้ามไม่ได้ เป็นแบบนี้มานับร้อยปี จับตรงนี้มันหนีไปเปิดตรงโน้น การพนันกับมนุษย์แยกกันไม่ออกใครๆก็รู้ เช่นเดียวกับห้ามไม่ให้คนกินเหล้า ห้ามสูบบุหรี่ ฯลฯ ยังไงก็ห้ามไม่ได้ ต่อให้ออกกฏใครสูบบุหรี่ต้องติดคุก ก็ยังมีคนส่วนหนึ่งกล้าท้าทาย
ในเมื่อห้ามคนเล่นการพนันไม่ได้ หาทางเปิดให้เล่นแล้วควบคุมให้อยู่ในกรอบไม่ดีกว่าหรือ? ตัวอย่างประเทศมาเลเซียที่ประกาศว่าเป็นประเทศมุสลิม เคร่งครัดกว่าชาวพุทธเทียบกันไม่ได้ เขายังมีการพนันให้เล่นแทบจะทุกวัน ล็อตเตอรี่ หวย 3ตัว 4ตัว หวยม้า ล็อตโต้ สนามม้าแข่ง แทงบอลถูกกฏหมาย จนถึงบ่อนคาสิโนที่ลงทุนเป็นพันๆล้าน ทุกอย่างมีกฏเหล็ก"ห้ามคนมุสลิมเข้าไปเกี่ยวข้อง โทษหนักจำคุกอย่างเดียว"แล้วเขาก็ดำเนินกิจการได้อย่างราบรื่น(มีแต่จะขยาย)ภายใต้กฏหมายควบคุมอย่างรัดกุม เป็นธรรม รัฐบาลรับรายได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปแบมือขอส่วนบุญส่วนแบ่ง และเป็นแหล่งทำเงินจากการท่องเที่ยวได้มหาศาล
มาเลเซียทำสำเร็จมานานแล้ว ว่างๆรัฐบาลไทยน่าจะส่งคนไปศึกษา ไปกินนอนสัก 1เดือน น่าจะได้ความคิดดีๆกลับมา

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวแรก:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง