มธ.ไล่ออก"สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล"เหตุขาดราชการเกิน 15 วัน

[หาดใหญ่ใหม่]

ที่มา http://news.thaipbs.or.th

มธ.มีคำสั่งไล่ออกนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ เหตุกระทำผิดวินัยร้ายแรงกรณีขาดราชการเกิน 15 วันและมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ

วันนี้ (25 ก.พ.2558)  สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพเอกสารคำสั่งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เรื่องลงโทษไล่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกจากราชการ ซึ่ง "ไทยพีบีเอส" ได้รับคำยืนยันจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริง และนายสมศักดิ์รับทราบคำสั่งแล้ว

เนื้อหาคำสั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่่ 356/2558 เรื่อง ลงโทษไล่ออกจากราชการ ระบุว่านายสมศักดิ์ได้ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 2557 จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง

คำสั่งระบุว่าระหว่างที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นั้น นายสมศักดิ์ไม่ได้ยื่นขอลาหยุดแต่อย่างใด นอกจากการยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการโดยขอให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2557

"พฤติการณ์การกระทำของอาจารย์ ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ดังกล่าวถือเป็นการจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามระเบียบแบบแผนขอทางราชการในเรื่องการลาและการปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมาย ทำให้มหาวิทยาลัยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง"

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงลงโทษไล่นายสมศักดิ์ ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 2557 ซึ่งเป็นวันที่ละทิ้งหน้าที่ราชการ

คำสั่งดังกล่าวลงนามโดยนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงวันที่ 23 ก.พ.2558

ไทยพีบีเอสได้พยายามติดต่อผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คือนายสมคิด และนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี แต่ทั้ง 2 คนไม่สามารถติดต่อได้

หลังจากมีการเผยแพร่คำสั่งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสมศักดิ์ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค Somsak Jeamteerasakul โดยระบุว่าข้อความที่โพสต์เป็นเอกสารชี้แจงที่ตนส่งให้ทางมหาวิทยาลัยเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์2558 เมื่อทราบว่ามีการตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบสวนทางวินัย  คำชี้แจงของนายสมศักดิ์กล่าวถึงสถานการณ์ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ที่ตนถูกเรียกไปรายงานตัว แต่เมื่อไม่ได้ไปรายงานก็มีบุคคลไปข่มขู่ตนและสมาชิกในครอบครัว จึงไม่สามารถอยู่ปฏิบัติหน้าที่ได้เพราะอาจถูกจับกุมอย่างไม่ชอบธรรม นอกจากนี้ในวันที่ 16 ก.ค.2557 ยังได้มีการออกหมายจับในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจากการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กอีกด้วย

นายสมศักดิ์ระบุว่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ตนไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปฏิบัติต่ออย่างยุติธรรมตามหลักกฎหมาย จึงมีความจำเป็นและมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะรักษาชีวิต ร่างกาย และอิสรภาพด้วยการไม่ยินยอมให้จับกุมและทำร้ายด้วยข้ออ้างใดๆ

นายสมศักดิ์ยืนยันด้วยว่าตลอดเวลา 20 ปีที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้พยายามปฏิบัติงานอย่างสุดความสามารถตามหน้าที่โดยไม่ละเว้น ทั้งยังได้พยายามปฏิบัติตนในฐานะพลเมืองที่ดีของประเทศ และสมาชิกที่ดีของประชาคมธรรมศาสตร์ แต่หลังจากการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ตนถือว่าเป็นทั้งสิทธิและหน้าที่ที่จะไม่ปฏิบัติตามและปฏิเสธการพยายามจับกุมคุมขัง

ทั้งนี้ภายหลังการรัฐประหาร นายสมศักดิ์ได้หยุดโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กและไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะชนเลย ก่อนจะกลับมาเขียนข้อความบนเฟซบุ๊กอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2557 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 6 เดือนของการทำรัฐประหาร โดยมีรายงานว่านายสมศักดิ์ได้พำนักอยู่ในประเทศหนึ่งในยุโรป

23.30 น. นายสมศักดิ์โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งโดยระบุว่า นับตั้งแต่ตนกลับมาโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอีกครั้งก็ทราบดีว่าเพิ่มความเสี่ยงที่จะถูกไล่ออก แต่ก็ยอมรับความเสี่ยงนั้น อย่างไรก็ตาม การที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเลือกที่จะ "ไล่ออก" แทนทางเลือกอื่น เช่น ให้ลาโดยปลอดการสอนชั่วคราว ให้ลาออกเองหรือให้ออกนั้นส่งผลต่อการดำรงชีพเพราะผู้ที่ถูกไล่ออกจะไม่ได้รับเงินบำเหน็จ

"ผมก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เงินสะสมก็ไม่ได้มากมาย ที่สำคัญก็เห็นว่า ในเมื่อผมทำงานมากว่า 20 ปี อย่างน้อยถ้าบอกว่าต้องลงโทษที่ตอนนี้ไปทำงานไม่ได้ ก็เป็นเรื่องความผิดที่เพิ่งเกิดขึ้น ไม่ควรกระทบไปถึงบำเหน็จที่เป็นการตอบแทนการทำงานสะสมที่ผ่านมา" นายสมศักดิ์แสดงความเห็น