ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปิดใจ 'มาดามแป้ง' นางฟ้าลูกหนัง พร้อมเขียนประวัติศาสตร์บอลไทย

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 13:46 น. 28 มี.ค 58

หาดใหญ่ใหม่

โดย ไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/489455

สำหรับกีฬาฟุตบอล ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก แน่นอนว่าส่วนใหญ่คงคิดว่าผู้ชายคือเพศที่คอยสร้างสรรค์และพัฒนาให้กีฬาประเภทนี้ มีความก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดนิ่ง แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้ว ในวงการฟุตบอลทั่วโลก ต่างก็มีผู้หญิงเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาด้วยเช่นกัน...

[attach=5]
วงการลูกหนังเมืองไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชื่อของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ คือหนึ่งในบุคคลที่ช่วยพัฒนา ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับฟุตบอลไทยอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ที่เข้ามาเป็นผู้บริหารของทีมฟุตบอล ที่มีความเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมื่องไทย อย่าง สโมสรท่าเรือ เอฟซี หรือการท่าเรือแห่งประเทศไทย ทำให้เป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ชนิดเซอร์ไพรส์คนทั้งวงการ และวันนี้ ทีมข่าวกีฬาไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยเปิดใจกับนางฟ้าแห่งวงการฟุตบอลไทย ถึงประเด็นในการทำงานกับทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งจะลุยศึกฟุตบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ประเทศแคนาดา ช่วงกลางปีนี้ พร้อมกับเป้าหมายในการเข้ามารับตำแหน่งบิ๊กบอสของทีมท่าเรือ เอฟซี

สำหรับสาเหตุของการก้าวเข้าไปสัมผัสกับกลิ่นสาบลูกหนังในชีวิตครั้งแรกนั้น มาดามแป้ง เผยว่า เป็นเพราะความประทับใจกีฬาฟุตบอล กระทั่งก้าวเข้ามาสู่วงการฟุตบอลไทยอย่างเต็มตัวครั้งแรกในฐานะแม่ทัพฟุตบอลหญิงไทย

"กีฬาฟุตบอล ถือเป็นกีฬาที่หลายคนชื่นชอบ และตัวเองก็ชอบด้วยเช่นกัน กระทั่งเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว ได้รับการทาบทามจาก คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เชิญให้มารับตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งในตอนแรกทำมาอย่างล้มลุกคลุกคลานมาตลอด เพราะด้วยเราเป็นมือใหม่ด้วย ทำให้ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อยของกีฬาฟุตบอล ขั้นตอนการทำงาน รวมถึงการดูแลทีมชาติไทย ซึ่งถือเป็นน้องๆ ที่น่ารักมาก ในการทำงานครั้งนั้น ทำให้มีความผูกพันและประทับใจอย่างบอกไม่ถูก"

หลังจากเข้ามาทำทีมแม่เนื้ออ่อนทีมชาติไทยอย่างเต็มตัว ทำให้ความสนใจในกีฬาฟุตบอลเริ่มมีมากขึ้น มาดามแป้ง ไม่ปฏิเสธว่าการเข้ามาทำทีมท่าเรือ ก็เป็นเพราะความประทับใจในหลายส่วน โดยเฉพาะความทุ่มเทของกองเชียร์พันธุ์แท้ ที่เป็นมนต์เสน่ห์ให้อยากลองเข้ามาสัมพันธ์กับทีมดังแห่งย่านคลองเตย


เธอเต็มที่ทุกครั้งกับการมีส่วนร่วมในทีมฟุตบอลหญิงไทย
"หลังทำทีมชาติไทยมาสักระยะ ก็ได้มีโอกาสชมเกมไทยพรีเมียร์ลีก ก็เลยมีความคิดว่าอยากทำทีมฟุตบอลชายขึ้นมาสักทีมหนึ่ง โดยความคิดส่วนตัว ไม่คิดว่าจะมีความขัดแย้งกับทีมชาติที่ทำอยู่ เพราะมันเป็นคนละประเภทเลย ประจบเหมาะกับ ทีมท่าเรือ ก็ติดต่อมาด้วย ทำให้ตัดสินใจว่าจะเข้ามาร่วมทีม และรับตำแหน่งประธานสโมสรของทีมการท่าเรือ ซึ่งถือเป็นทีมที่เก่าแก่ ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2510 และเป็นทีมที่ไม่ได้มีแฟนบอลจัดตั้ง แต่เป็นแฟนบอลที่มีความเหนียวแน่นมากในละแวกชุมชนคลองเตย ทำให้การแข่งขันแมตช์ในบ้าน ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ เราทำตั๋วนัดแรกที่เล่นในบ้านประมาณ 4,000 ใบ ก็ไม่พอ 4,500 ก็ไม่พอ เรื่อยมาจนนัดล่าสุด 6,000 ใบก็ยังไม่เพียงพอ เพราะสนามแพท สเตเดียม จุคนได้มากสุดเพียงแค่ 8,000 คน ซึ่งในความเป็นจริง เชื่อว่าน่าจะมีฐานแฟนบอล มากถึงแสนคนเลยก็ว่าได้"

เสน่ห์ที่อยู่คู่กับทีมท่าเรือ คือ กองเชียร์คลองเตย อาร์มี่ แฟนบอลพันธ์ุแท้ที่มีคาแรกเตอร์ในการเชียร์ที่ดุดัน ไม่มีหมดตลอด 90 นาที รวมถึงเหนียวแน่น ทั้งการเชียร์ในบ้านและนอกบ้าน ซึ่งอาจจะดูขัดกับภาพลักษณ์ของผู้เป็นประธานสโมสร แต่ประเด็นนี้ มาดามแป้ง เคลียร์ชัดว่า ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด เพราะหากได้ลองสัมผัสกับแฟนบอลพันธ์ุแท้แล้ว จะพบว่ามีความรักในสโมสรอย่างแท้จริง ไม่มีความรุนแรงอย่างที่หลายคนเข้าใจ



นำแข้งเนื้ออ่อนไปลุยฟุตบอลโลก 2015 ที่ประเทศแคนาดา

"จริงๆ แฟนบอลท่าเรือ อาจมีเชื่อเสียงในเรื่องของความดุดัน ฮาร์ดคอร์ แต่เมื่อได้ลงไปสัมผัสจริงๆ ในช่วง 5 นัดแรกของฤดูกาล ทั้งในและนอกบ้าน ยืนยันได้เลยว่า แฟนบอลท่าเรือมีความน่ารักมาก ทำตัวเรียบร้อย อยู่ในกฎกติกาทุกอย่าง คิดว่าแฟนบอลทุกคนมีความตั้งใจจริงในการเชียร์ เพราะฉะนั้น อะไรที่มีความเสียหายต่อทีม แฟนบอลก็คงไม่อยากทำ ทุกคนมีน้ำใจนักกีฬา แพ้ชนะในเกมเรายอมรับในผลการแข่งขัน"

"แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า แฟนบอลมีความคาดหวังสูงต่อผลงานของทีม เพราะในช่วงแรกที่เข้ามาทำทีม เหมือนกับว่าทีมแตกไปแล้ว และตัวที่เข้ามาเล่นก็เป็นหน้าใหม่เกือบครึ่งทีม มีการรวมตัวที่ใช้เวลาในการเตรียมทีมน้อยมาก ทำให้ในเรื่องทีมเวิร์ก อาจจะไม่ค่อยเพอร์เฟกต์นัก พูดตรงๆ ว่ายังไม่พอใจกับผลการแข่งขันที่ผ่านมานัก แต่เข้าใจว่า ที่ผ่านมาเราเจอกับทีมที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง เป็นอันดับต้นๆ ของลีก ทำให้ต้องรอการเสริมทีมในช่วงที่สอง คือ ตลาดเปิดช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งน่าจะช่วยให้ผลงานของทีมดีขึ้นได้"

ในขณะที่ผลงานของทีมยังไม่เป็นที่พอใจมากนัก ทำให้ภาระหนักไปตกอยู่ที่กุนซือใหญ่ของทีม ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหนีตกชั้นกับทีม "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี แต่กระนั้นก็ยังมีข่าวลืออย่างหนาหูว่า บอร์ดพร้อมปลด "น้าฉ่วย" สมชาย ฉวยบุญชุม ออกจากตำแหน่งเพื่อหาผู้ที่มีความสามารถเข้ามากู้วิกฤติ แต่ประธานทีมท่าเรือคนปัจจุบัน ยืนยันอย่างชัดเจนว่า พร้อมให้โอกาสกุนซือลูกหม้อของทีมในการพิสูจน์ตัวเองและกู้วิกฤติต่อไป โดยไม่มีการปลดจากตำแหน่งแต่อย่างใด

"สำหรับในตอนนี้ เราต้องให้โอกาสกับโค้ชสมชาย ในการทำทีมต่อไป เพราะอย่างที่บอกไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ในช่วงต้นฤดูกาล โปรแกรมของทีมค่อนข้างโหด เพราะต้องพบกับทีมใหญ่หลายทีม ทั้งบุรีรัมย์ หรือแม้แต่สุพรรณบุรี ซึ่งเราก็เป็นรองอยู่แล้วในเรื่องของตัวผู้เล่น ดังนั้น คงต้องให้เวลาในการพิสูจน์ศักยภาพของทีมอีกต่อไป และขอยืนยันว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะถึงช่วงเปิดตลาดรอบสอง ในเดือนสิงหาคมนี้"


ขอฝากผลงานไว้กับวงการลูกหนังไทย
ส่วนเป้าหมายในระยะยาวของนางฟ้าแห่งแพท สเดเตี้ยม ที่คาดหวังต่อทีมการท่าเรือ เอฟซีนั้น คุณนวลพรรณ ล่ำซำ เผยว่า ต้องการพัฒนาให้ทีมศักยภาพและความเป็นมืออาชีพในทุกด้าน และเพื่อช่วงสนับสนุนทีมชาติให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นไปอีก รวมทั้งสถาปนาทีมดังแห่งย่านคลองเตยให้ขึ้นไปอยู่ในท็อปไฟว์ของไทยอย่างเต็มภาคภูมิ

"คือจริงๆ มองว่า ท่าเรือเป็นทีมที่เก่าแก่มาก อาจจะเก่าแก่ที่สุดในไทยพรีเมียร์ลีกในปัจจุบันเลยด้วยซ้ำ เป้าหมายระยะยาวอยากจะเป็นท็อปไฟว์ของเมืองไทย พร้อมกับนำสโมสรก้าวขึ้นมาเป็นทีมในระดับมืออาชีพ รวมถึงตัวนักฟุตบอลเอง ก็อยากจะสร้างความเป็นมืออาชีพให้กับเขาจริงๆ เพราะถ้าหากพื้นฐานของฟุตบอลในลีกมีความแข็งแรง จะส่งผลโดยตรงกับทีมชาติไทยของเรา ให้มีความแข็งแกร่งไปด้วยพร้อมกัน รวมถึงในส่วนของแฟนบอล เราก็มีโครงการในระยะยาวที่จะเข้าไปร่วมทำกิจกรรมกับเขาให้มากขึ้น เข้าถึงชุมชนท่าเรือคลองเคยให้มากขึ้นด้วย"

ส่วนอีกหนึ่งหน้าที่ที่ทำมาเป็นอย่างดีตลอด 6 ปีที่ผ่านมา คือ การดูแลทีมฟุตบอลทีมชาติหญิงของไทย ให้มีพัฒนาการที่รุดหน้า เพื่อก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับหัวแถวของเอเชีย เทียบเท่ากับญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และจีน โดยล่าสุด ได้ส่งทีมแม่เนื้ออ่อนไปเก็บตัวที่เนเธอร์แลนด์ เป็นเวลาถึง 1 เดือนเต็ม เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ก่อนลุยศึกฟุตบอลโลกหญิงที่แคนาดา

"ต้องยอมรับว่าการไปเก็บตัวที่เนเธอร์แลนด์เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม นักเตะของเราได้รับประสบการณ์ที่ดีมาก ในการลงเล่นกับทีมในทวีปยุโรป ซึ่งมีความแข็งแกร่ง ทั้งระบบการเล่นและรูปร่าง ดังนั้น ในฟุตบอลโลกที่แคนาดา เราต้องเจอกับทั้งทีมชาติเยอร์มนีและอีกหลายทีม คิดว่าเราพร้อมแล้วที่จะต่อกรกับทีมเหล่านั้นอย่างไม่ต้องเกรงกลัว เพราะเราเจอกับบททดสอบมาแล้วทุกรูปแบบ และเชื่อมั่นว่าทีมชาติไทยจะทำผลงานได้อย่างเต็มภาคภูมิแน่นอน เพื่อเป้าหมายในการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ได้"

"และก่อนที่จะเดินทางไป แคนาดา ได้หารือกับทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อจัดศึก 4 เส้า เตรียมความพร้อมอีกครั้ง โดยเป้าหมายอยากให้ลูกทีมพบกับทีมจากยุโรป เพื่อให้เคยชินกับการเล่นกับนักเตะที่มีรูปร่างใหญ่ และสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะมีการสรุปอีกครั้งว่าจะมีทีมใดบ้างมาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้" 

นอกจากการเตรียมตัวที่ดีแล้ว การวางแผนที่ยอดเยี่ยม ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ซึ่งทีมหญิงไทยชุดนี้ มีการเก็บตัวที่ต่อเนื่อง ยาวนานกว่า 9 เดือน เพื่อรับศึกกับการแข่งขันที่อาจมีช่วงคาบเกี่ยวกันอย่างไม่มีปัญหา

"ตอนนี้เราเก็บตัวนักเตะไว้ในทีมถึง 32 คน เพราะฉะนั้น ในช่วงกลางปีนี้ นอกจากฟุตบอลโลกหญิงซึ่งถือเป็นเป้าหมายอันดับแรกแล้ว ก็ยังมีการแข่งขัน เอเอฟเอฟ วีเมน แชมเปียนชิพ 2015 ที่นครโฮจิมินห์ ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ขึ้นมาทดแทนการแข่งขันฟุตบอลหญิงในกีฬาซีเกมส์ และทีมเราก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว สามารถแบ่งออกเป็น 2 ทีมได้อย่างไม่มีปัญหา รวมถึงเป้าหมายคือการตอกย้ำการเป็นเจ้าอาเซียน ด้วยการคว้าแชมป์มาให้ได้สถานเดียวเท่านั้น"

นางฟ้าแห่งวงการลูกหนังไทย ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงวงการฟุตบอลไทย ที่อยากจะเห็นความเป็นนำ้หนึ่งใจเดียวกัน และสปิริตที่ดีทั้งในและนอกสนาม โดยได้ย้ำกับลูกทีมทุกคน โดยเฉพาะนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ที่ต้องทุ่มเทอย่างสุดพลัง เพื่อชื่อเสียงของชาวไทยทั้งประเทศ

"กีฬาฟุตบอล แน่นอนว่าเรื่องของสปิริตคือสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะในทีมชาติ หรือสโมสร จึงคิดว่าการแข่งขันในระดับชาติ ได้มีการเน้นย้ำกับน้องๆ ในทีมว่า ต้องเล่นอย่างสุดฝีมือ เล่นอย่างมีจิตสำนักที่ดี เงินไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ทุกคนตั้งใจที่จะนำเกียรติยศชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศไทย ดังนั้น ก่อนแข่งขันจะมีการร้องเพลงสดุดีมหาราชา เป็นการรวมแรงใจ เพื่อทำหน้าที่ตัวแทนของทีมทั้งชาติ ส่วนผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไร ก็ต้องยอมรับ"

"ส่วนนอกสนามคู่แข่งก็คือ เพื่อน คือมิตรของเรา สปิริตคือสิ่งที่สำคัญและเน้นย้ำอยู่ตลอด ซึ่งนี่คือความฝันที่อยากจะเห็นวงการฟุตบอลไทย เต็มไปด้วยมิตรภาพและสปิริตอันดี"

ทั้งหมดคือ บางเสี้ยวบางตอนของนางฟ้าแห่งวงการฟุตบอล ตลอด 6 ปี ที่คลุกคลีอยู่ในวงการลูกหนัง ที่ช่วยผลักดันให้แม่เนื้ออ่อนสาวไทย ได้ก้าวไปเทียบชั้นในระดับโลกแล้วในปัจจุบัน และกำลังช่วยเขียนหน้าประวัติศาสตร์ของทีมลูกหนังเก่าแก่อย่างทีมท่าเรือ เอฟซี ให้กลับมาผงาดในลีกสูงสุดของเมืองไทยให้ได้อีกครั้ง
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน

w_2005