ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ผู้ต้องหาคดีโรฮิงเข้ามอบตัว 1 คน ขณะที่การตรวจสอบเเคมป์ใกล้กันไม่พบศพเเต่อย่างใด

เริ่มโดย JaY_SoniC, 20:29 น. 05 พ.ค 58

JaY_SoniC

ความคืบหน้าการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีโรงฮิงญาที่ จ.สงขลา ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 5 พ.ค. 58 พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์วงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้นำกำลังเข้าตรวจในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ จำนวน 3 จุด เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 4 คน แต่ไม่พบตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานบางส่วนไปตรวจสอบ

ต่อมา นายยาหลี เขร็ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยมี พล.ต.อ.เอก เอกอังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาทำการสอบสวน พร้อมแถลงในรายละเอียด แต่ในเบื้องต้น นายยาหลี ยังให้การปฏิเสธ โดยเผยว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแคมป์และศพของชาวโรฮิงญาแต่อย่างใด

โดยหลังเข้ามอบตัวเจ้าหน้าได้ควบคุมตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ขอเปิดเผยว่า นายยาหลี เกี่ยวข้องกับแคมป์โรฮิงญาในเรื่องใด ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่ถูกออกหมายจับ และยังหลบหนี คือ นายประสิทธิ์ เหล็มเหล๊ะ รองนายกเทศมนตรีปาดังเบซาร์  นายพรรคพล เบ็ญล่าเต๊ะ และ นายเจริญ ทองแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุม รวมถึงสืบสวนขยายผลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

พล.ต.อ.เอก เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีโรฮิงญาที่ สภ.ปาดังเบซาร์ ถึงมาตรการแก้ปัญหาโรฮิงญาว่า หลังจากนี้จะปิดพื้นที่ปลายทางที่เป็นแหล่งพักพิงในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งหมด รวมถึงพื้นที่ต้นทางใน จ.สตูล เพื่อไม่ให้มีการค้ามนุษย์โรฮิงญาเกิดขึ้นอีกในพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 9 รวมทั้งเจ้าหน้าที่จะปูพรมตรวจค้นพื้นที่ชายแดนทั้งหมดว่ายังมีแคมป์หรือชาวโรฮิงญาหลบหนีอยู่อีกหรือไม่ ส่วนกรณีตำรวจที่ถูกสั่งย้ายทั้ง 13 นาย นั้นทางจเรตำรวจจะสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เพื่อดำเนินการทางวินัยควบคู่ไปกับการสอบสวนทางคดี สำหรับคดีนี้จะมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจขึ้นที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อบูรณาการทุกฝ่ายมาคลี่คลายคดี

ด้าน นางคอลีเยาะ ล่าเมาะ ภรรยาของ นายอาหลี ล่าเม๊าะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ พร้อมญาติ และ ลูกๆ ได้ร้องขอความเป็นธรรมให้กับสามี พร้อมกับนำสมุดบัญชีธนาคารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อความบริสุทธิ์ใจว่าสามีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเผยทั้งน้ำตาว่า สามีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้าโรฮิงญา โดยครอบครัวมีอาชีพทำสวนยางพาราบริเวณเชิงเขาแก้ว ส่วนบัญชีทางการเงินนั้น ก็เป็นเงินที่กู้จากทางธนาคาร และยังเป็นหนี้ เพื่อนำมาประกอบอาชีพ ไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติ ทั้งนี้หลังสามีถูกจับกุมครอบครัวตนกลายเป็นจำเลยสังคม และถูกมองในแง่ลบ จึงต้องการขอความเป็นธรรมให้กับสามี เนื่องจากครอบครัวได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งตนยังเป็นโรคหัวใจ และมีลูกอีก 3 คน ที่กำลังเรียนหนังสือ

ส่วนความคืบหน้าการตรวจพิสูจน์หลุมฝังศพแห่งใหม่ในพื้นที่เทือกเขาแก้วนั้น หลังจากที่ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้สนธิกำลังทหาร ตำรวจ ตชด. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และ หน่วยกู้ภัย ขึ้นไปตรวจพิสูจน์บริเวณควนหมาถด เทือกเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งอยู่ห่างจากแคมป์แรกออกไปประมาณ 500 เมตร ปรากฏว่า พบหลุม 2 หลุม แต่หลังจากขุดพิสูจน์ไม่พบศพถูกฝังเอาไว้แต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังมีการสร้างเป็นแคมป์กักตัวโรฮิงญา ซึ่งเพิ่งสร้างใหม่ โดยมีโรงเรือน 8 หลัง ทั้งโรงนอน โรงครัว และ ห้องน้ำ และยังพบกระดาษจดหมายเลขโทรศัพท์ 3 เบอร์ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับหลักฐานอื่นๆที่พบภายในแคมป์ เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ และคาดว่าแคมป์แห่งนี้น่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกับแคมป์เก่าที่พบบนยอดเขาแก้ว นอกจากนี้ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นพบชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นเด็ก 2 คน และ ผู้หญิง 1 คน ลงมาจากเขาในสภาพที่อิดโรย และเข้าของความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งคาดว่าน่าจะอาศัยอยู่ในแคมป์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ ก่อนที่จะทำการสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง
/////

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวที่สอง:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง