14 ตุลา – เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย !!

[Schopenhauer]

14 ตุลา - เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย, ที่ถูกปลูกไว้
หวังว่า เมื่อเติบใหญ่ จะได้ดอกผล เพื่อ แก้ปัญหาปากท้อง,
ปัญหาความอยุติธรรม, และเขียนรัฐธรรมนูญ ฉบับของประชาชน...
แต่วันนี้ เรายังไม่รู้ว่าเมล็ดพันธุ์นี้ จะเป็นไม้ล้มลุก หรือไม้ยืนต้น ?

แม้ว่าวันเวลา จะผ่านไป นานเท่าไหร่แล้วก็ตาม
ยุคสมัย แห่งการต่อสู้ ก็ยังเป็นอยู่เช่นเดิม
แต่ว่า - ไม่เหมือนเดิม...เพราะทุกอย่าง ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง

เส้นทางเดินที่ทอดยาว - เราจึงต้องย้อนกลับไปมอง ต้นเหตุของปัญหา
แล้วขจัดข้อเท็จจริง ที่ได้รับรู้แล้ว ออกจากตัวปัญหา
แล้วใช้หลักการประชาธิปไตย มาเป็นรากฐาน, เป็นกุญแจ สู่การแก้ปัญหา

เผด็จการ-กลุ่มอนุรักษ์นิยม ในยุค 14 ตุลา มีกระทั่ง "จักรวรรดินิยมหนุนหลัง"
ขบวนการต่อสู้ของฝ่ายเสรีชน ถูกป้ายสี ว่าเป็นพวกฝ่ายซ้าย (คอมมิวนิสต์)

วันนี้ สถานการณ์แบบนั้น มันเปลี่ยนไปแล้ว
ถึงแม้ว่า "ตัวบุคคล" ที่อยู่ร่วมสมัย จะยังไม่เปลี่ยนไปก็ตาม

ถ้าจะมีคำถามง่าย ๆ ถามว่า "แล้วจะเริ่มต้นใหม่ อย่างไร ?"

การเกิดความเคลื่อนไหวทางความคิด ในทุกแขนงวิชา (Enlightenment)
อย่างเช่นที่คณะ "นิติราษฎร์" กำลังทำอยู่ ก็คือ แนวทางหนึ่ง
นั่นคือ ต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ในการต่อสู้ ให้เหมาะสมกับภววิสัย

14 ตุลา – จึงเป็น เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย, ที่ถูกปลูกไว้
ในจิตใจของผู้คน, ในจิตใจของอิสรชน-เสรีชน
รอแต่เพียงว่า – วันใด เมล็ดพันธุ์นี้ จะได้รับ "พลัง"
เพื่อจะได้เติบโต เป็นไม้ใหญ่ยืนต้น !!!
...
ในขณะที่ ด้านหนึ่ง มนุษย์เรา คือสัตว์โลก ที่อ่อนแอ, นุ่มนวล, เชื่องช้า
มนุษย์ จึงเป็นสัตว์โลก "ชนิดสุดท้าย" ที่รอดชีวิตจาก "สังคมป่า"
แต่มนุษย์ กลับเอาชนะสัตว์โลก ที่มีขนาดใหญ่กว่า...แข็งแรงกว่า...เขี้ยวเล็บคมกว่าได้

เพราะมนุษย์เรา ต่างจากสัตว์ ตรงที่ เราเป็นเผ่าพันธุ์ของนักคิด – นักประดิษฐ์

เพราะอะไร – เพราะมนุษย์เรา รู้จักปรับตัว และเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ ในการต่อสู้
เพื่อเอาชีวิตให้รอดอยู่ได้ ในท่ามกลางยุคสมัยแห่งการต่อสู้...นั่นคือ มนุษย์ที่มีพลัง !!!

แต่สำหรับมนุษย์ ที่อ่อนแอ
การเอาชีวิตรอดได้ อาจไม่สำเร็จได้ในพริบตา หรือภายในยุคสมัยหนึ่ง
มันอาจต้องใช้เวลา หลายชั่วอายุคน !!!
...

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

ประชาธิปไตยไทย พูดได้ เขียนได้ แต่รูปร่างที่แท้จริงยังไม่สมบูรณ์นัก

เหมือนพื้นฐานไม่เคยแห้ง ...

[อย่าแอบอ้างประชาธิปไตย]

นักการเมืองชอบอ้างประชาธิปไตยกับอ้างประชาชนมากี่ยุคกี่สมัยแล้ว   ไม่เห็นว่าระบบการเมืองจะพัฒนาไปได้เลย  เจริญแค่เพียงบ้านเมืองและตึกรามบ้านช่องแค่นั้นเอง  คนจน ก็จนเหมือนเดิม คนโง่ ก็โง่เหมือนเดิม  คนอ่านออกเขียนได้  เพิ่มขึ้นเล็กน้อย  แต่นักการเมืองทุกคนไม่เห็นมีใครจนสักคน  รวยๆกันทั่งนั้น  ถ้านักการเมืองดี ไม่โกงกิน เห็นแก่ชาติบ้านเมืองเป็นหลัก  ผมรับรองว่าไม่มีการปฏิวัติแน่นอน