ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

โรงตีเหล็กที่ถนนยะลาสงขลา

เริ่มโดย kaika, 20:56 น. 17 ต.ค 54

kaika

 ส-โห-ใครพอรู้เรื่องบ้างเกี่ยวกับโรงตีเหล็กที่ถนนยะลาสงขลา  ถนนที่ตรงกับหน้าวัดกลางเคยเห็นตอนเด็กๆตอนนี้ไม่เห็นมีแล้ว

ลูกแมวตาดำๆ

อ้างจาก: kaika เมื่อ 20:56 น.  17 ต.ค 54
ส-โห-ใครพอรู้เรื่องบ้างเกี่ยวกับโรงตีเหล็กที่ถนนยะลาสงขลา  ถนนที่ตรงกับหน้าวัดกลางเคยเห็นตอนเด็กๆตอนนี้ไม่เห็นมีแล้ว

ขอบคุณที่ช่วยจุดประเด็นครับ ไม่นานคงมีผู้รู้มาช่วยชี้ชัด ครับ

เขยบ่อยาง

เลิกไปเกือบ20ปีแล้วครับ แรกๆทำกัน3พ่อลูก พ่อเป็นคนตีเหล็กกับพี่ชาย น้องชายเป็นคนดึงลูกสูบเป่าลมใส่่เตา ผมเห็นแล้วเวทนามากๆครับ หน้าตาซีดเซียวทั้ง3คน อยู่กับความร้อนตลอดวัน ไม่เคยได้ยินเขาคุยกันเลย รายได้ก็น้อยเพราะระยะหลังมีเครื่องมือเหล็กสำเร็จรูปทันสมัยกว่าหลากหลายกว่าและราคาถูกกว่ามาขายถึงหน้าบ้าน
สมัยก่อนผมเคยเอาแหนบไปตีเป็นมีดพร้า เลยถือโอกาสศึกษาชีวิตพวกเขาไปในตัว 

Singoraman

ผมเคยเข้าไปคุยเมื่อ 2-3 ปี ที่แล้ว ยังมีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่เคยใช้ตีเหล็กเมื่อครั้งก่อนอยู่อีกหลายชิ้น
ส่วนใหญ่เป็นชิ้นที่ขนย้ายไม่ได้ เช่น ทั่งที่ยึดกับที่ ได้คุยกับพี่ผู้หญิงเจ้าของบ้าน แต่ไม่ได้ตั้งใจเก็บข้อมูล
เพียงติดสอยห้อยตามเพื่อนไปเยี่ยมในฐานะคนเคยอยู่ใกล้กัน
ปี 2526 ผมบวชอยู่วัดกลาง ออกบิณฑบาตถนนยะลา จำได้ว่ายังเปิดกิจการอยู่ ปิดช่วงไหนไม่แน่ใจ
แต่คงเป็นไปตามยุคสมัยของบ้านเมือง
ส่วนเรื่องของ ผลิตภัณฑ์จากเหล็กในสงขลา ผมเองก็สนใจ จำสำนวนที่ว่า "กินเหมือนจอบน้ำน้อย" ได้ แสดงว่าจอบจากน้ำน้อยต้องคุณภาพดีไม่แพ้ "กินเหมือนพร้านาป้อ" เมืองตรัง ที่ปัจจุบันเป็นโอทอปไปแล้ว
เคยเห็นคุณตาผอม ๆ ท่านหนึ่งนำ "มีดฮอ" บ้าง "จอบเซ่อ" บ้าง "พร้าบ้อง" มีดตัดยาง มีดทำครัวที่ผลิตเอง (จากไหนไม่แน่ใจ) มานั่งขายในตลาดนัดวันอาทิตย์ที่บ่อยางหลังถานีรถไฟ โดยนั่งเคาะผลิตภัณฑ์เบาๆ เก๊ง ๆ เรียกลูกค้า
แวะไปหลัง ๆ ไม่เห็นท่านซะแล้ว
คลับคล้ายคลับคลาว่าที่ผลิตภัณฑ์จะตีตราตัวอักษรอะไรสักตัว แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
ใครนึกออกบอกกันบ้างเด้อ

kaika

 ส-ดีใจ รู้สึกดีใจมากๆ ที่ยังพอมีคนจำได้ ที่เปิดประเด็นก็เพราะว่าผมพอจะรู้จักกับพี่ที่เขาตีเหล็กอยู่บ้างพอสมควรไว้มีโอกาสดีๆ จะลองขอสำภาษณ์ย้อนรอยอดีตกับพี่เค้าสักตั้ง  เผื่อจะได้เรื่องราวเก่าๆ ของสงขลาแต่แรกมาลงให้ไว้ประดับความรู้กันบ้างว่าในแถบถนนนางงามก็ยังมีอดีตที่เกือบจะถูกลืมไว้รอให้รื้อพื้นอีกเยอะแยะ? ส.บ๊ายบาย

ลูกแมวตาดำๆ

อ้างจาก: kaika เมื่อ 15:28 น.  22 ต.ค 54
ส-ดีใจ รู้สึกดีใจมากๆ ที่ยังพอมีคนจำได้ ที่เปิดประเด็นก็เพราะว่าผมพอจะรู้จักกับพี่ที่เขาตีเหล็กอยู่บ้างพอสมควรไว้มีโอกาสดีๆ จะลองขอสำภาษณ์ย้อนรอยอดีตกับพี่เค้าสักตั้ง  เผื่อจะได้เรื่องราวเก่าๆ ของสงขลาแต่แรกมาลงให้ไว้ประดับความรู้กันบ้างว่าในแถบถนนนางงามก็ยังมีอดีตที่เกือบจะถูกลืมไว้รอให้รื้อพื้นอีกเยอะแยะ? ส.บ๊ายบาย

ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้

keaw7676

อ้างจาก: Singoraman เมื่อ 13:22 น.  18 ต.ค 54
ผมเคยเข้าไปคุยเมื่อ 2-3 ปี ที่แล้ว ยังมีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่เคยใช้ตีเหล็กเมื่อครั้งก่อนอยู่อีกหลายชิ้น
ส่วนใหญ่เป็นชิ้นที่ขนย้ายไม่ได้ เช่น ทั่งที่ยึดกับที่ ได้คุยกับพี่ผู้หญิงเจ้าของบ้าน แต่ไม่ได้ตั้งใจเก็บข้อมูล
เพียงติดสอยห้อยตามเพื่อนไปเยี่ยมในฐานะคนเคยอยู่ใกล้กัน
ปี 2526 ผมบวชอยู่วัดกลาง ออกบิณฑบาตถนนยะลา จำได้ว่ายังเปิดกิจการอยู่ ปิดช่วงไหนไม่แน่ใจ
แต่คงเป็นไปตามยุคสมัยของบ้านเมือง
ส่วนเรื่องของ ผลิตภัณฑ์จากเหล็กในสงขลา ผมเองก็สนใจ จำสำนวนที่ว่า "กินเหมือนจอบน้ำน้อย" ได้ แสดงว่าจอบจากน้ำน้อยต้องคุณภาพดีไม่แพ้ "กินเหมือนพร้านาป้อ" เมืองตรัง ที่ปัจจุบันเป็นโอทอปไปแล้ว
เคยเห็นคุณตาผอม ๆ ท่านหนึ่งนำ "มีดฮอ" บ้าง "จอบเซ่อ" บ้าง "พร้าบ้อง" มีดตัดยาง มีดทำครัวที่ผลิตเอง (จากไหนไม่แน่ใจ) มานั่งขายในตลาดนัดวันอาทิตย์ที่บ่อยางหลังถานีรถไฟ โดยนั่งเคาะผลิตภัณฑ์เบาๆ เก๊ง ๆ เรียกลูกค้า
แวะไปหลัง ๆ ไม่เห็นท่านซะแล้ว
คลับคล้ายคลับคลาว่าที่ผลิตภัณฑ์จะตีตราตัวอักษรอะไรสักตัว แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
ใครนึกออกบอกกันบ้างเด้อ

ถนนยะลามีโรงตีเหล็กอยู่ 3 โรงครับ... ปจัจุบันเลิกกิจการไปหมดแล้ว
เอาที่จำได้และรู้จักน่ะครับ...
"โรงตีเหล็กนุ้ยอยู่ในตรอกนี้." (อันนี้ชอบมากครับ เสียที่หารูปอะไรไม่ได้เลยครับ).... จะมีตรอกเล็กอยู่ตรอกครับ มีป้ายปักไว้หน้าปากตรอก ถ้ามาจากหน้าวัดกลางข้ามถนนนางงาม ซ้ายมือมีตรอกเล็กๆ ตรอกแรกนั่นแหละครับ คนตีเหล็กชื่อนายนุ้ยครับ จะมีเตาตีเหล็กอยู่สุดตรอกครับ (บ้านผมอยู่ไกล้มากครับห่างแค่เว้นบ้านหลังเดียว หนวกหูมากครับ ป๋องแป๋งทั้งวัน ตอนเด็กไม่ชอบครับ) ผมรู้จักเกือบทั้งบ้านครับเพราะวิ่งเล่นอยู่เป็นประจำ ลูกหลานก็ยังอยู่ถนนยะลาครับ ...

โรงที่สองจะอยู่ปากตรอกที่ว่านั่นแหละครับ ชื่อโรงตีเหล็ก สจ. ครับ โรงนี้ผมก็รู้จัก เพราะเคยวิ่งเล่นกับลูกเจ้าของโรงตีเหล็กครับ ไม่รู้ชื่อแซ่น่ะครับเรียกแกแต่ว่า บั๊ก ครับ ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ต้องตีตรา สจ. ที่ผลงานครับ โรงนี้ผมเคยรับจ้างเดินสูบครับ ปัจจบัน ลูกหลายก็ยังอยู่ถนนยะลาครับ

โรงที่สามโรงไม่รู้จักใครเลย ไม่ทราบรายละเอียดเลยครับ โรงนี้จะอยู่ก่อนถึงปากตรอกโรงตีเหล็กนุ้ยครับ มีที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ โรงนี้ตีเหล็กตรงหน้าบ้านเลยและตรงเตาเผาเหล็ก จะเป็นปล่องสูงๆ ขึ้นไปทะลุหลัง ซึ้งสองโรงไม่เป็นแบบนั้น ครับ

kaika

 ส-ดีใจ-โรงที่สามผมพอรู้จักอยู่บ้างกับลูกชายเขาเดี๋ยวกับจากเมืองชลจะลองทำบทสำภาษณ์ดูเผื่อจะมีเรื่องอะไรดีๆมาลงให้อ่านเล่นกันบ้าง ส.อ่านหลังสือ

keaw7676

อ้างจาก: kaika เมื่อ 17:04 น.  29 ต.ค 54
ส-ดีใจ-โรงที่สามผมพอรู้จักอยู่บ้างกับลูกชายเขาเดี๋ยวกับจากเมืองชลจะลองทำบทสำภาษณ์ดูเผื่อจะมีเรื่องอะไรดีๆมาลงให้อ่านเล่นกันบ้าง ส.อ่านหลังสือ
โรงที่สามนี่ไม่มีข้อมูลเลยครับ...ไม่มีคนที่พอจะรู้ด้วย... ถ้าสองโรงแรกนี่ยังพอได้อยู่ครับ

Singoraman

ขอบคุณ keaw7676ครับ
ออกอาการ "คนแต่แรก" เต็ม ๆ เลยนะครับ

kaika

 ส.อ่านหลังสือ-โรงที่สามตามที่ คุณkeaw7676 ว่ามา ถ้าเป็นโรงตีเหล็กที่ติดริมถนนยะลาผมรู้จักแกดีพอสมควร หลังบ้านผมกับหลังบ้านโรงตีเหล็กอยู่ติดกัน  ถ้าจำไม่ผิดจะใช้น้ำบ่อเดียวกันด้วย  ตอนผมเด็กๆผมจะเรียกแกว่าน้าคี้เล่ง(เสียชีวิตไปแล้ว) ส่วนอีกท่านหนึ่งรูปหล่อร่างกายกำยำเป็นคู่ขาในการตีเหล็ก  ตอนนี้ท่านประกอบอาชีพเป็นหมอดูอยู่ที่ร้านปรีชาภัณฑ์เดิม ท่านนี้แหละที่ผมบอกว่ารู้จักดีพอสมควร 
    ผมเคยนั่งคุยกับเพื่อนเก่าๆ เลยว่าคนที่มาหาแกส่วนใหญ่มีแต่มาถามไถ่กันแต่เรื่องพระเครื่องกับดูดวงไม่ค่อยมีใครถามถึงเรื่องตีเหล็กเลย  เพื่อนบอกว่าแกยังเก็บเครื่องมือตีเหล็กไว้อยู่เลย  ผมเลยบอกกับเพื่อนว่าถ้ามีโอกาสดีๆ ผมจะลองคุยกับแกดู  เพราะผมมีความเชื่ออยู่เต็มเปี่ยมในใจว่าความรู้เรื่องการตีเหล็กแกคงจะถ่ายทอดให้ได้  ถ้ามีคนสนใจไต่ถามหรืออยากจะบันทึกไว้เป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังได้รับรู้  อีกไม่นานเกินรอผมจะนำเสนอในเวปกิมหยง.คอม- ส.อ่านหลังสือ

Singoraman

ผมจะรอด้วยความขอบคุณครับ

keaw7676

อ้างจาก: Singoraman เมื่อ 15:00 น.  03 พ.ย 54
ขอบคุณ keaw7676ครับ
ออกอาการ "คนแต่แรก" เต็ม ๆ เลยนะครับ
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ คุณ Singoraman คือว่าเติบโตจากแถวนั้นครับ... วิ่งเล่นกะลูกชาย และเคยไปเดินสูบที่โรงตีเหล็ก สจ. มาครับ...

อ้างจาก: kaika เมื่อ 09:21 น.  05 พ.ย 54
ส.อ่านหลังสือ-โรงที่สามตามที่ คุณkeaw7676 ว่ามา ถ้าเป็นโรงตีเหล็กที่ติดริมถนนยะลาผมรู้จักแกดีพอสมควร หลังบ้านผมกับหลังบ้านโรงตีเหล็กอยู่ติดกัน  ถ้าจำไม่ผิดจะใช้น้ำบ่อเดียวกันด้วย  ตอนผมเด็กๆผมจะเรียกแกว่าน้าคี้เล่ง(เสียชีวิตไปแล้ว) ส่วนอีกท่านหนึ่งรูปหล่อร่างกายกำยำเป็นคู่ขาในการตีเหล็ก  ตอนนี้ท่านประกอบอาชีพเป็นหมอดูอยู่ที่ร้านปรีชาภัณฑ์เดิม ท่านนี้แหละที่ผมบอกว่ารู้จักดีพอสมควร 
    ผมเคยนั่งคุยกับเพื่อนเก่าๆ เลยว่าคนที่มาหาแกส่วนใหญ่มีแต่มาถามไถ่กันแต่เรื่องพระเครื่องกับดูดวงไม่ค่อยมีใครถามถึงเรื่องตีเหล็กเลย  เพื่อนบอกว่าแกยังเก็บเครื่องมือตีเหล็กไว้อยู่เลย  ผมเลยบอกกับเพื่อนว่าถ้ามีโอกาสดีๆ ผมจะลองคุยกับแกดู  เพราะผมมีความเชื่ออยู่เต็มเปี่ยมในใจว่าความรู้เรื่องการตีเหล็กแกคงจะถ่ายทอดให้ได้  ถ้ามีคนสนใจไต่ถามหรืออยากจะบันทึกไว้เป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังได้รับรู้  อีกไม่นานเกินรอผมจะนำเสนอในเวปกิมหยง.คอม- ส.อ่านหลังสือ
ใช่ครับ ผมนึกออกแหละ... พี่คนนั้นเอง ที่ตีเหล็กมือสอง ที่โรงตีเหล็กนี้ แต่หันมาเอาดีด้านดูหมอ...

มี่เกล็ดเล่านิดนึงครับ... ถ้าผ่านถนนยะลาตัดถนนนางงาม ราวหกโมงครึ่งคงเห็นก๋วยเตียวผัดแบบโซ้ยคร่อง คนยืนมุงคอยก๋วยเตียวอย่างล้นหลามที่เดียว... ลองเข้าไปรถลุนคันที่เป็นที่ผัดก๋วยเตียวดูครับ เป็นเสน่หของถนนนางงามอีกแห่งนึงครับ คือล้อรถลุนคันนี้ ตีโดยช่างตีเหล็กนุ้ยครับ และช่างตีเหล็กนุ้ยนี้เล่ากันว่าแกตีสมอเรือได้ด้วย...

kaika

 ส.บ๊ายบาย  คุณ keaw7676 น่าจะเป็นคนกันเองกับผมนะ เพราะผมก็เติบโตอยู่แถวนั้นเหมือนกัน ร้านหมี่ผัดเสี่ยงโชคนี่ผมกินตั้งแต่เด็กๆ รุ่นพ่อผัดจนถึงรุ่นลูก รู้จักดีกับลูกๆและเคยเป็นเพื่อนเล่นกันสมัยยังเป็นเด็กน้อยๆ  ส.หลกจริง

Singoraman

ขอเชิญพบกับ รายการ "บ้านเกิดและเพื่อนเก่า" ณ บัดนี้

kaika

 ส.บ๊ายบาย  ก็น่าจะจริงนะครับ คุณ singoraman คนรุ่นเราที่เล่น net นี่น้อยคนนะครับ? ถ้ามากกว่านี้ก็คงจะดีเรื่องราวแต่หนหลังยังฝังใจจะไม่ได้หายไปเฉย ๆ ครับ

Singoraman

แบบนี้เขาเรียกเยสสะเต้อร์เดย์วั้นมอร์ครับ

Mr.No

ใครพอจะทราบที่มาที่เป็นของชื่อถนนในสงขลาบ้างมั้ย...ขอรับ  หรือท่าน singoraman จะช่วยบอกก็ได้นะครับ

ผมสงสัยมานานแล้วว่า... ในสงขลา มีสารพัดชื่อถนนเมืองอื่น เช่น ถนนยะลา,ปัตตานี ฯลฯ ที่มาที่ไปเป็นไงหรือครับ? ส.อืม
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Singoraman

กิรดังได้สดับมา
อันว่าชื่อถนนหนทางตำแหน่งแห่งที่ในสงขลานั้น จำแนกการตั้งชื่อได้ดังนี้
๑. ชื่อที่มีมาแต่เดิมส่วนใหญ่จะเป็นชื่อของหย่อมย่านบ้านนั้น เช่น ถ.เก้าห้อง ถ.สวนหมาก ถ.ทะเลหลวง
๒. ชื่อที่แสดงถึงขอบเขต เช่น นครนอก นครใน เทศบาล
๓. ชื่อที่ใช้ชื่อเมืองอันเป็น ๗ หัวเมืองที่เคยขึ้นกับเมืองสงขลา เช่น ปัตตานี ยะลา รามันห์ ยะหริ่ง หนองจิก ไทรบุรี
๔. ชื่อจังหวัด หรือเมืองอื่น ๆ เช่น ฉวาง นาสาร บ้านดอน ไชยา
๕. ชื่อบุคคล เช่น เพชรคีรี วิเชียรชม สุขุม
๖. ชื่อเลียนแบบจากกรุงเทพ คือ ราชดำเนิน
๗. ชื่อที่สะท้อนตำนานหรือประวัติ เช่น อมรนิวาส กำแพงเพชร (ว่าสร้างบนกำแพงเก่า)
๘. ชื่อที่ได้จากการประกวด คือ ชลาทัศน์
๙. อื่น ๆ เช่น สงขลาบุรี
ที่ว่ามาผมนึกเอาเองเพนิ

kaika

 ส.อ่านหลังสือ ขอโทษทีนะครับที่หายไปนานมากเลยมีเรื่องยุ่งๆ ส่วนตัวจนแทบไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องอื่นๆ  พอดีวันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่ที่ตีเหล็กคนนั้น  นั่งคุยกันนานพอดูได้เนื้อหาเกี่ยวกับวิธีตีเหล็กมามากมายพอสมควร จึงขอนำมาเล่าเพื่อเปิดประเด็นให้ได้ติดตามกันอีกครั้ง ตอนแรกที่เริ่มได้คุยกันทำให้รู้ว่าไม่ใช่เป็นของง่ายๆ เลยที่จะได้มีดคมๆ มาใช้สักเล่มหนึ่ง  มีกรรมวิธีในการตีมีดที่ยุ่งยากและซับซ้อนมากมายหลายขั้นตอนเอาเท่าที่พอจะจดจำได้มาเล่าสู่กันฟังพลางๆ ก่อนส่วนรายระเอียดจะสอบถามพี่เขาอีกแล้วจะนำมาบอกในตอนต่อๆไปเพื่อบันทึกไว้เป็นเรื่องราวแต่แรกไว้เล่าขานกันต่อไป  พอดีวันนี้ที่คุยกันนั้นผมไม่ได้บันทึกเสียงพี่เขาเอาเท่าที่จำได้มาเล่าเปิดประเด็นก่อนนะครับ  ตามขั้นตอนคร่าวๆ ข้างล่างนะครับ

   1.ต้องนำเหล็กเหนียวซึ่งเป็นเส้นกลมๆ โตประมาณนิ้วหัวแม่มือยาวประมาณหกนิ้วมาเผาไฟในเตาเผาเหล็กให้ร้อนเป็นสีแดงส้มๆ แล้วตีให้เป็นแผ่นกว้างประมาณสองนิ้ว  แล้วจึงสกัดแบ่งเป็นสี่ส่วน
   2.นำแต่ละส่วนมาผ่าสกัดตรงส่วนที่เป็นความหนาเป็นร่องรูปตัววี ให้ร่องที่ผ่าสกัดมีความลึกประมาณสักเซ็นติเมตรโดยมิให้รอยผ่าขาดจากกัน
   3.นำแท่งเหล็กกล้ายาวประมาณสองนิ้วหนาประมาณหุนหรือสอง  ผมจำไม่ได้แน่นอนมาใส่ไว้ในร่องเหล็กเหนียวที่ผ่าไว้แล้วก่อนหน้านั้นโดยใส่ให้ชิดด้านใดด้านหนึ่ง  ซึ่งต่อไปด้านนี้จะเป็นด้านปลายคมมีดส่วนปลายตัววีจะเป็นสันมีด
   4.นำแผ่นเหล็กในข้อสามมาใส่เตาเผา  เผาให้ร้อนจนเป็นสีส้มจากนั้นจึงตีเหล็กแผ่นนั้นให้แผ่กว้างออกไปจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วตีเหล็กที่ร้อนๆ  จัดให้เป็นรูปมีด(ที่เล่ามานี้เป็นการตีมีดปาดตาลซึงต้องการส่วนปลายมีดคมแข็งและเหนียวทนทาน)

      วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนนะครับเพราะได้คุยกับพี่เขาหลายเรื่องด้วยกันเดี๋ยวจะจำสับสน

  ส.ยกน้ิวให้ ผมก็เพิ่งทราบจากปากพี่เขาเองว่าเมื่อหลายปีก่อน วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ได้เชิญพี่เขาไปเป็นวิทยากรสาธิตเรื่องการตีมีดและได้ถ่ายทำวิดิโอไว้ทุกขั้นตอน  แกยังบอกผมไว้เลยว่าได้ช่วยออกแบบเตาเผาให้แก่วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ซึ่งก่อนที่จะเชิญแกไปเป็นวิทยากรนั้น  วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่มีเตาเผาอยู่แล้วรู้สึกว่าจะเป็นเตาเผาจากเยอรมันด้วยสิ  แต่ใหญ่เทอะทะเกินไป  แล้วไฟในเตาก็ไม่แรงเท่ากับที่แกออกแบบให้  ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าเตาเผาที่แกได้ช่วยแนะนำออกแบบให้ยังได้ใช้สอนเด็กอยู่อีกหรือเปล่า  ใครทราบช่วยบอกด้วย

kaika

 ส.ยกน้ิวให้  อ้อลืมบอกไปว่าพี่แกได้สาธิตการตีมีดให้แก่ วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่และยังตีมีดกับขวานและวิธีชุบแข็งเหล็กสกัดให้เป็นที่ระลึกแด่วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ด้วย ใครเคยอยู่ในเหตุการณ์นี้ช่วยบอกด้วยนะครับ

kaika

 ส.สั่งสอน เฮ้อลืมอีกแล้วในอดีตมีที่ตีจากโรงตีเหล็กของพี่เขาจะตีตราเป็นตราสมอเรือ  ถ้าใครว่างลองค้นหาในครัวดูนะครับเผื่อเจอมีดอีโต้ตราสมอเรือ  หรือมีดปาดตาลตราสมอเรือ  เหน็บอยู่ชายฝาครัวเก่าๆ อยู่ก็ได้