ลดบ้านร้อนด้วยฉนวนกันความร้อนได้ผลมากว่าที่คุณคิด

[sirao2015]

บ้านเรือนสมัยใหม่ในสมัยนี้ต่างมีวิธีลดความร้อนด้านในตัวบ้านเรือนอยู่หลายวิธี การติดตั้งฉนวนกันความร้อนก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ได้ผลเป็นอย่างสูง แต่ก่อนอื่นเราควรต้องมาทำความรู้จักกับฉนวนกันความร้อนดีกว่ามีอะไรบ้างและมีข้อดี-ข้อเสียอะไร

            ฉนวนกันความร้อนคืออะไร ?
ฉนวนกันความร้อนนั้นจะติดตั้งอยู่บริเวณใต้หลังคาเพื่อช่วยลดความร้อนที่จะแผ่มาจากหลังคาลงมาสู่ตัวที่อยู่ เพราะถึงแม้ตัวที่อยู่อาศัยเราจะบุฝาและติดแอร์คอนดิชันทำความเย็นเป็นอย่างดีเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนภายในบ้านช่อง แต่ถ้าภายในตัวที่อยู่มีความร้อนที่สูงมาก  เครื่องปรับอากาศก็ยิ่งทำงานหนักทำให้อายุการใช้งานน้อยลง และราคาค่าไฟฟ้าก็จะถีบตัวขึ้นสูงมากมายชนิดสาหัสเลยทีเดียว โดยเฉพาะในยุคสมัยที่ความร้อนขึ้นสูงขนาดนี้การทำที่อาศัยในแบบธรรมดาไม่เพียงพออีกแล้ว
จากทฤษฎีที่ความร้อนจะเลื่อนจากที่ที่อุณหภูมิสูงลงมายังที่ที่อุณหภูมิต่ำเสมอ ฉนวนกันความร้อนจึงจะทำหน้าที่คุ้มกันมิให้ความร้อนจากแดดที่ส่องลงบนหลังคาส่งความร้อนผ่านลงมายังตัวบ้านให้น้อยที่สุด ซึ่งวัสดุของฉนวนกันความร้อนนั้นก็มีอยู่หลายประเภทให้เลือกใช้ทั้งอะลูมิเนียมฟอยล์, โฟม, ใยแก้ว และใยหิน

เรามาเริ่มทำความเข้าใจกันดีกว่าว่าฉนวนกันความร้อนมีชนิดอะไรบ้าง ?
ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium Foil)
ความมันวาวของผิวแผ่นฟอยล์จะมีคุณสมบัติในการสะท้อนกลับความร้อน และทนความชุ่มชื้น ไม่ติดไฟ ไม่ลามไฟ และไม่ฉีกขาดง่าย  อีกทั้งจะเคลือบอะลูมิเนียมหนาเพื่อศักยภาพในการป้องกันรังสี UV และวัสดุและความขุ่นของแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์โดยธรรมชาตินั้นจะป้องกันการถูกทำลายจากรังสี UV อีกด้วย และการเคลือบฟิล์มส่งผลไปทำให้ไอน้ำจะซึมผ่านเข้าไปได้เบาบางการเกิดเชื้อราจึงไม่มี ฉนวนกันความร้อนแบบอะลูมิเนียมฟอลย์มีความเหนียวทำให้สามารถทำการติดตั้งได้ง่าย สามารถดึงหรือลากได้อย่างสะดวก และง่ายต่อการติดตั้งกับพื้นผิวที่มีสภาพพื้นบางเรียบ
         
ฉนวนกันความร้อนแบบโฟม
ฉนวนกันความร้อนแบบโฟมจะมีข้อดีคือจะคงสภาพเดิมแม้โดนน้ำหรือความชื้น และจะแข็งแรงต่อกรดและด่าง ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบ คือ

• ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่นโฟมโพลีเอทิลีน (Polyethylene) จะผลิตจากพลาสติกสังเคราะห์โพลีเอทิลิน (Polyethylene) ชนิดความหนาแน่นต่ำ LDPE (Low Density Polyethylene) ทนความร้อนสูง และสามารถสะท้อนความร้อน อายุการใช้งานเป็นเวลายาวนาน มีโครงสร้างเป็นเซลล์ปิด (Close Cell) ภายในโฟมมีฟองอากาศขนาดเล็กจำนวนมากอยู่ภายในเนื้อฉนวนเกาะตัวกันเหนียวแน่น ซึ่งฟองอากาศที่อยู่ภายในเหล่านี้จะเป็นตัวป้องกันความร้อนผ่านไปได้อย่างดี ซึ่งจะทนต่อสารเคมี กรด, ด่าง และแอลกอฮอล์ จะเหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม, โกดังสินค้า, ที่อยู่อาศัยทั่วไป และสามารถป้องกันไอระเหยจากกระบวนการผลิตสารเคมีไปกระทบกับแผ่นหลังคาไม่ให้เกิดความเสียหาย และเก็บเสียงได้ดี
  
  
  
  
• ฉนวนกันความร้อนแบบฉีดโฟมโพลียูริเทน (Polyurethane) สามารถลดการแผ่รังสี UV และการนำความร้อนได้มากกว่า 90% ที่ค่าการนำความร้อนที่ต่ำที่สุดรองจากสุญญากาศ คงสภาพการเป็นฉนวนที่อุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส และต่ำสุดถึง -118 องศาเซลเซียส มีโครงสร้างของเนื้อโฟมแบบ SEMI-CLOSED CELLS จึงสามารถดูดเสียง ป้องกันเสียงรบกวน เสียงกังวาน ที่จะทะลุผ่านมาจากข้างในสู่ภายนอกหรือจากภายนอกสู่ภายในได้ดี ทนต่อกรดและด่าง ไม่นำไฟ มีความเบา คงทน สามารถรับแรงกดได้ดี สามารถเกาะติดแน่นผิวหลังคาเหล็ก ไม่ให้เกิดที่ว่าง หรือ โพรงอากาศ กันการรั่วซึม และการเกิดสนิม ป้องกันการเกิดการกลั่นตัว หรือ การควบแน่นของอากาศจนรวมตัวกันเป็นหยดน้ำที่เกิดจากการแปรเปลี่ยนของภูมิอากาศ นอกจากนี้ ไม่เสื่อมสภาพตลอดอายุใช้งาน ไม่มีการหลุดล่อน ไม่มีรอยเชื่อม ติดกันเป็นเนื้อเดียวตลอด กำหนดความหนาได้ ไม่เป็นอันตรายจากมด มอด ปลวก หรือแมลงต่างๆ และสมารถฉีดติดสำเร็จรูปมากับตัว Metal Sheet เลยทำให้ติดตั้งง่าย ประหยัดเวลา และค่าติดตั้ง
  
  
  ฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้ว (Microfiber)
  จะมีลักษณะเป็นโพรงอากาศเล็กจำนวนมาก ซึ่งจะแทรกอยู่ระหว่างเส้นใยแก้ว ทำหน้ากักความร้อน และทำการลดการส่งถ่ายความร้อนจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งได้ดี และมีคุณลักษณะในการดูดซับเสียง สามารถอ่อนตัวและคืนตัวดี มีความทนไฟได้ประมาณ 300 องศาเซลเซียส ข้อบกพร่องคือไม่คงทนต่อความเปียกชื้น เมื่อเรานำฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้วมาจากโรงงานจะถูกขึ้นรูปเป็นแบบม้วน ตัวฉนวนมีความหนาแน่นสม่ำเสมอ ปิดผิวหน้าด้วยแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์เพื่อสะท้อนความร้อน พร้อมทั้งกันความชื้นชนิดเสริมแรง
  
              ฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้วมีให้เลือกอยู่หลายชนิด ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของและสถาปนิก เช่น ชนิดที่ปิดผิวหน้าด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ 1 ด้าน 2 ด้าน หรือหุ้มห่อตลอดทั้งม้วน และฉนวนกันความร้อนแบบชนิดติดด้วยฟอยล์ขาวและฟอยล์ดำ เป็นต้น ซึ่งฉนวนกันความร้อนแบบนี้จะออกแบบมาสำหรับงานหลังคาและผนังของอาคาร สำนักงาน โรงงาน และบ้านเรือน ใช้กับหลังคาแบบเหล็กรีดลอน หรือหลังคากระเบื้อง หลังคาคอนกรีต ฯลฯ มีความยืดหยุ่นดีเมื่อถูกกดทับจะสามารถคืนตัวได้เร็ว มีความหนาสม่ำเสมอเสมอ มีน้ำหนักเบา ทนต่อแรงกดแรงดึง ไม่ฉีกขาดง่าย สะดวกต่อการติดตั้ง ไม่เป็นอาหารและที่อยู่ของสัตว์ แมลง และเชื้อรา จึงคงความเป็นฉนวนได้ยาวนาน
  
  ฉนวนกันความร้อนแบบใยหิน
  ฉนวนกันความร้อนชนิดนี้มีคุณลักษณะกันความร้อน ดูดซับเสียง ทนไฟได้ดีกว่าฉนวนใยแก้ว แต่ไม่ทนทานต่อความเปียกชื้น ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติที่ไม่มีสารประกอบของแอสเบสตอส (Asbestos) จึงปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัย
  
  
  
  
  เหล่านี้คือฉนวนกันความร้อนที่มีอยู่ในท้องตลาดที่เราสามารถหามาติดตั้งเพื่อช่วยให้ที่อยู่อาศัยของเราน่าอยู่ และประหยัดพลังงานมากขึ้นอีกมาก ซึ่งหากใครใครต้องการที่จะติดตั้งก็ควรจะศึกษาดูว่าอาคารบ้านเรือนของเราควรจะติดตั้งฉนวนกันความร้อนแบบไหนที่เหมาะกับเงินงบประมาณของเราด้วยนะคะ
  
  ที่มา : http://www.scgexperience.co.th/tag/%E0%B8%89%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99
  
  Tags : ฉนวนกันความร้อน,ฉนวนป้องกันความร้อน,ฉนวนกันความร้อนหลังคา