ก้าน แก้วสุพรรณ 73 ปียังแจ๋ว ดาวค้างฟ้าที่ศิลปินต้องเอาอย่าง

[โสรยา...]

ที่ม สยามดารา http://www.siamdara.com/Entertain.asp?eid=2074

25 ธันวาคม 2011 10:15 น.  View : 68  Post : 0

[attach=1]
ก้าน แก้วสุพรรณ

    แต่การที่จะมาอยู่ที่นี่ได้เขาจะต้องบวชเป็นสามเณรเสียก่อน ดังนั้นในวัย 10 กว่าขวบ ก้าน แก้วสุพรรณ จึงได้บวชเป็นสามเณร และศึกษาพระธรรมจนจบนักธรรมตรี เมื่ออายุ 17 จากนั้นก็ถูกส่งมาสอบนักธรรมโทที่กรุงเทพฯ โดยมาอยู่ที่วัดปรินายก
     
    หลังบวชอยู่ได้ไม่นาน เขาต้องการออกหางานทำเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว จึงสึกออกมา และมาทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์บริษัท รสพ. ประจำอยู่ที่อู่ศรีนคร แต่ก็ทำได้ไม่นาน เพราะทนกับการถูกรังแกของอันธพาลไม่ไหว จึงตัดสินใจกลับบ้านที่สุพรรณบุรี แต่หลังจากที่อยู่บ้านไม่นานเขาก็ตัดสินใจกลับเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้ง โดยคราวนี้เข้ามาทำงานเป็นนักมวยตระเวนชกตามงานต่างๆ
     
    ในยุคนั้นใกล้ๆ กับสังเวียนมวยที่เขาไปตระเวนขึ้นชก มักมีเวทีให้ประชันน้ำเสียงด้วย หลังชกมวยเสร็จ ก้าน แก้วสุพรรณ และเพื่อนก็มักมาเที่ยวตามเวทีประกวดร้องเพลง และเขาก็มักถูกเพื่อนๆ ผลักดันให้ขึ้นประกวดแบบจำใจ เมื่อเพื่อนๆ แอบมาลงชื่อสมัครไว้ก่อนแล้ว เมื่อถูกโฆษกเรียกก็ต้องขึ้นไป แต่เขาก็สามารถคว้าชัยชนะและรางวัลมาครองได้หลายครั้ง และเมื่อเห็นว่าการร้องเพลงดีกว่าการชกมวย ที่ไม่ต้องเหนื่อยและเจ็บตัว ก้าน แก้วสุพรรณ ก็จึงตระเวนร้องเพลงประกวดไปเรื่อย จนถูกกรรมการขอร้องไม่ให้เข้าประกวด เขาจึงถูกแมวมองมาทาบทามให้ไปเป็นนักร้องบันทึกแผ่น
     
    แต่หลังจากที่ถูกพาไปพบกับ บังเละ วงค์อาบู และ คำรณ สัมบุญนานนท์ และถูกปฏิเสธกลับมา ก้าน แก้วสุพรรณ เริ่มสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง จากนั้นไม่นานเขาได้ทราบข่าวว่า ครู ป. ชื่นประโยชน์ เปิดโรงเรียนสอนดนตรีและขับร้อง เขาจึงไปลองสมัครดู งานนี้ผู้ที่มาสมัครต้องมีการเทสต์เสียงด้วย ถ้าคนไหนเสียงเข้าขั้นก็จะถูกเรียกตัวมาในภายหลัง งานนี้ ก้าน แก้วสุพรรณไม่ผิดหวังเมื่อถูกเรียกตัว และเมื่อมาเป็นนักเรียนร้องเพลง เขาก็สร้างความประทับใจให้กับครู ด้วยการอาสาช่วยงานสารพัดทั้งเก็บกวาดปัดถู จน ครู ป. เห็นใจ และได้เป็นศิษย์เอก และบุตรบุญธรรม ตอนมีงานแสดงก็มักถูกเรียกตัวไปร่วมในวงด้วย
     
    เมื่ออยู่ที่นี่ ก้าน แก้วสุพรรณ หัดสีไวโอลิน และแซ็กโซโฟน แต่ครูเห็นว่าเขาน่าจะเอาดีได้ทางกลอง จึงให้ฝึกกลอง แต่ครูก็สอนโน้ตดนตรีและการร้องให้ ในที่สุดก็แต่งเพลงให้เพลงหนึ่งชื่อ ''คนชาวนา'' พร้อมกับพาไปบันทึกเสียง และเปลี่ยนชื่อเป็น ก้าน แก้วสุพรรณ จากนั้นก็ได้บันทึกเสียงอีก 2 เพลง แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่แฟนเพลง เขามาเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงจากเพลง '' ท  ิลงกรุง'' ซึ่งแต่งโดย ต่อชัย ภู่ชมภู แต่เสียชีวิตก่อนที่จะแต่งเสร็จ ครู ป. จึงนำมาแต่งต่อ เขาจึงได้เข้ามาเป็นนักร้องแนวหน้าของวงร่วมกับ สุรพล สมบัติเจริญ, ผ่องศรี วรนุช ก่อนที่จะตอกย้ำความดังด้วยเพลงแก่งคอย
     
    นี่คือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย สำหรับ ''ก้าน แก้วสุพรรณ'' เพชรเม็ดงามที่ผ่านการเจียระไน ยืนยงคงกระพันเพราะเป็นคนดี ทุกวันนี้เพลงเขานั้นยังคงอมตะอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงตลอดกาล ปัจจุบันวัยก็เข้า 73 ปีแล้ว แต่ใครจะเชื่อว่ายังสามารถขับรถคนเดียวจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ได้ โดยไม่มีการเปลี่ยนมือขับ ทั้งนิยมความเร็ว ห้อรถเบนซ์คู่ใจ เหยียบเกือบ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทุกเรื่องที่กล่าวมา มีคำตอบตรงหน้ากระดาษนี้?
     
    ได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับท่าน พร้อมนำเรื่องราวมาอัพเดตให้กับแฟนเพลงได้ทราบ ว่านักร้องรุ่นลายครามผู้นี้มีเคล็ดลับอย่างไรในการดูแลคุณภาพเสียง สุภาพร่างกาย เพราะอายุก็ย่างจะเลข 8 อยู่แล้ว แต่ยังดูเนี้ยบ และแข็งแรงอยู่ เทียบรุ่นเดียวกัน เทียบกันไม่ได้ ส่วนจะยังเตะปี๊บดังหรือไม่ (อันนี้ต้องถามเอาเอง)...ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า!!


     เผยเคล็ดไม่ (ลับ) ทำอย่างไรถึงสุขภาพแข็งแรง?
     ''ผมก็มีวิธีง่ายๆ คือไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เครียด ว่างก็จะออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะร่างกายเมื่อสึกหรอแล้วยากที่จะกู้คืนกลับมาได้ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์เสียก็มีอะไหล่ซ่อมได้ แค่นี้ก็เอาอยู่ ชะลอความแก่ได้ ทุกวันนี้ก็อายุ 73 ปีแล้ว แต่ผมก็ยังแข็งแรงเหมือนหนุ่มๆ เพราะไม่เคยยุ่งกับอบายมุข นี่แหละครับคือเคล็ดที่ไม่ลับของผม'' 

     
    ทราบมาว่าชอบความเร็วขับรถไปเชียงใหม่คนเดียวไม่ต้องมีคนช่วย?
     ''เรื่องจริงครับ ผมจะไปเชียงใหม่บ่อย ส่วนมากจะขับรถไปคนเดียว พอถนนว่างๆคันเท้าทุกที ต้องเหยียบคันเร่งแทบทะลุเก พอเหลือกเห็นหน้าปัดรถลมแทบใส่ เพราะบางทีวิ่ง 180 เกือบถึง 200 กม. แต่ก็ไม่เคยประมาทจะระมัดระวังตัวตลอด เพราะถ้าพลาดก็หมายถึงชีวิต อันนี้ก็ประสบการณ์ใครประสบการณ์มันนะ แต่ก็ต้องเตือนสำหรับพวกเมาแล้วขับ เพราะขืนทำเหมือนผม จองเมรุได้เลย (หัวเราะ)''

     
    มองลูกทุ่งทุกวันนี้เกิดง่ายเทียบเมื่อก่อนไม่ได้?
     ''มันเทียบกันไม่ได้เลยกับสมัยผม เพราะทุกวันนี้สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ถนนหนทางก็ไม่ลำบากเหมือนตอนผมเป็นศิลปิน ยกตัวอย่างตอนที่อยู่กับเฒ่าแก่ ครูสุรพล สมบัติเจริญ อย่างไปแสดงที่ตะกั่วป่า จ.พังงา เดินทางอย่างน้อย 2 วัน ถนนดินลูกรังทั้งเส้น ต้องเลาะเข้าป่า เหวก็เยอะ รถก็ไม่ติดแอร์ ลงมาทีเหมือนคลุกแป้งฝุ่น ทั้งโจรก็เยอะ บางทีเกือบตายก็มี หลงทางก็มี ทุกวันนี้ศิลปินรุ่นใหม่ครบเครื่อง มีคนขับรถให้ไปรับไปส่งกันถึงที่ นายห้างมีเงินก็จบ ดังได้ข้ามชั่วคืน สมัยผมยากกว่าจะดัง เพราะไม่มีเงิน ส่วนมากมาจากครอบครัวยากจน''

     
    ยก ''ต่าย อรทัย'' ศิลปินน่าเอาอย่าง เพราะรู้จักครูบาอาจารย์?
     ''สมัยผมเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง ครูบาอาจารย์สำคัญมากๆ จะใช้เขาหยิบน้ำสักแก้วก็ไม่กล้า ส่วนครูบาอาจารย์เจอก็ต้องยกมือไหว้ ก้มกราบท่านตลอด ผิดกับสมัยนี้ไม่ค่อยมีวัฒนธรรม เหล่านี้ที่น่ายกย่องก็ ต่าย อรทัย ที่เขารู้เรื่องนี้ เขาเลยดังค้างฟ้า มีข่าวด้านลบน้อย ส่วนมากจะดีหมด ก็เพราะเขารู้ว่าใครครู ใครพี่ ใครน้อง อย่างศิลปินบางคนดังแล้วลืมครู ดังแล้วลืมพี่น้อง ผมก็เคยเจอมากับตัวเอง แต่ก็ไม่เคยโกรธเขา เพราะเขาก็คือศิษย์เราวันยังค่ำ''

     
    เผยยังไม่รวยใช้ชีวิตแบบพอเพียง?
     ''ยังไม่รวยเลย ยังติดหนี้เขาเป็นล้าน ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ตามพระราชดำรัสของพ่อหลวง ให้กินอิ่ม นอนหลับ ก็สบายใจแล้ว เงินที่ติดเขาก็ยืมมาให้ลูกได้เรียนกัน ตอนนี้ก็หนักหน่อย เพราะลูกสาวเรียนหมอใช้เงินเยอะ แต่ก็ใกล้จบแล้ว ไม่เคยท้อ เพราะลูกผมทุกคนเขากตัญญู และเชื่อว่าจะสบายตอนแก่ ทุกวันนี้ที่ยังร้องเพลงเพราะทิ้งมันไม่ได้ มันคือเพื่อนสนิทมิตรสหายที่ผมจะห่างกันก็ตอนตายโน่นแหละ ส่วนงานอื่นก็มีหมอทำขวัญนาค เหลืออยู่คนเดียวแล้วในประเทศไทย ถือเป็นงานที่รัก แต่จะยึดถือว่าจะถ่ายทอดให้ใครต้องไม่ดื่มเหล้า เพราะเดี๋ยวนี้หมอทำขวัญส่วนมากต้องกึ๊บก่อน ถึงจะร่ายมนตร์ได้ เลยทำให้วงการหมอทำขวัญเสื่อม เจ้าภาพเขาเลยไม่อยากจ้าง''

     
    มีคาถาพาดัง ''สู้'' เท่านั้นจะถึงฝั่ง?
     ''ผมสู้มาตลอดทั้งชีวิตก็ว่าได้ ไม่เคยยอมแพ้ให้กับโชคชะตา เกิดมาจนแทบกินเกลือก็เคยมาแล้ว เป็นคนหิ้วเครื่องดนตรี นักมวย ก็ทำมาหมด ทุกวันนี้แขนยังเสียอยู่ข้าง ก็ตอนชกมวยนั่นแหละ คิดดูจะสีไวโอลินยังทำไม่ได้ ก็เลยอยากสะกิดเตือนรุ่นใหม่ๆ ว่าให้ตั้งใจ อย่ายอมแพ้ ขอให้ท่องในใจไว้เสมอว่า สู้ สู้ สู้ รับรองถึงวันที่เราฝันแน่นอน เพราะเส้นทางของทุกคนไม่ใช่โรยด้วยกลีบกุหลาบ''

     
    ฝากถึงลูกๆ หลานๆ ที่อยากเข้าสู่วงการลูกทุ่งต้องประพฤติตัว?
     ''ทุกวันนี้วงการลูกทุ่งเปิดกว้าง มีศิลปินเกิดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่ที่มีคุณภาพก็ไม่กี่คน บางคนร้องไม่ดีแต่นิสัยดีก็ไปได้ศิลปินถ้าทำตัวไม่ดี ก็เหมือนระเบิดเวลา วันหนึ่งต้องพลาด ทั้งอย่ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นอันขาด เพราะมันทำลายทั้งร่ายกายและประเทศ เราต้องทำตัวเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชน เชื่อว่าคนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แค่นี้ก็สามารถนำพาเราไปถึงฝั่งแน่นอน ก็ขอฝากไว้ และสวัสดีปีใหม่ ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดก็ขอให้สมหวังทุกประการครับ''

[mix99]

สุดยอดของท่านนี้คิอ
แอบมอง  แก่งคอย  รอยไถแปร ฟังที่ไหนไม่ได้ก็ 4Share โหลดฟรีเลย

[southkingkong]

วันก่อนช่วงน้ำท่วม กทม น้าก้านยังมาช่วยหาเงินช่วยน้ำท่วมที่หาดใหญ่ เสียงยังดีมาก สุขภาพก็แข็งแรง ขับรถลงมาเองเลย น่าชื่นชมมากครับ ผมเลย อุดหนุนแผ่นซีดีไว้ 4 ชุด น้าก้านเซ็นชื่อไว้ให้เรียบร้อย

[southkingkong]

อีกเพลง ที่สร้างชื่อให้ น้าก้าน แก้วสุพรรณ คือ เพลง น้ำตาล ก้นแก้วครับ

[หนุ่มเหลือน้อย]

 

[หนุ่มเหลือน้อย]

     โสนน้อยเรือนงาม    สาส์นสีโศรก   ดาวจรัสแสง     
ตอนนั้นจะดังพร้อมๆ กับ ทูล  ทองใจ ครับ   เพลงไพเราะ  เนื้อเพลงมีความหมาย อมตะ  กินใจ

[ข้าแผ่นดิน]

http://youtu.be/GBawDoO4Ego