..แฉทุนมะกันหนุนหลังแก๊งล้มเจ้า-หวังยึดไทย

[POLITICH]

ขออภัย..สำหรับเรื่องเก่ามาเล่อกันใหม่...
"สนธิ"เปิดแผนทุนอเมริกันหวังยึดครองประเทศไทย สูบความมั่งคั่งจากเอเชียแปซิฟีก หลังตะวันออกกลาง-ยุโรปหมดความน่าสนใจ แต่มีในหลวงที่ทรงสอนเศรษฐกิจพอเพียง เป็นอุปสรรค จึงเดินแผนใต้ดินหนุนขบวนการล้มเจ้า เผยบางคนในกลุ่มนิติราษฎร์ –เว็บประชาไท ได้เงินสนับสนุนจาก CFR และ NED ที่กลุ่มทุนขนาดยักษ์อยู่เบื้องหลัง ซัด "เพื่อไทย"มีเอี่ยว เพิ่งมาค้านทีหลัง ย้ำทางรอดประเทศไทย ต้องปกป้องสถาบันกษัตริย์ ยึดมั่นชาตินิยม พร้อมยอมตายเพื่อในหลวงเมื่อถึงเวลา

ข้อ มูลโดยละเอียด..http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000012553

[virus T]

มั่วสุด ๆ มั่วได้ใจจริง ๆ

[บุญญศักดิ์ by JJ_Sathon]

 

วันก่อน(27 ม.ค. 55) สนธิ ลิ้มทองกุลจัดรายการคนเคาะข่าว
แล้วพูดถึงเรื่องเงินสนับสนุนการล้มเจ้าในไทยอยู่ช่วงหนึ่ง
ที่มา"สนธิ"แฉทุนมะกันหนุนหลังแก๊งล้มเจ้า-หวังยึดไทยสานฝันครองเอเชียแปซิฟิก
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000012553

ในฐานะที่รู้จักทุน NED และทำงาน NGO พอได้อ่านสิ่งที่สนธิพูดมาก็อดขำไม่ค่อยได้
เลยคิดว่าน่าจะเขียนอะไรถึงซักหน่อย...
เรามาดูกันดีกว่าว่า NED ให้ทุนใครบ้าง ให้ทุนแดงล้มเจ้าจริงมั้ย?
จากหน้าเวบที่สนธิอ้างถึง http://ned.org/where-we-work/asia/thailand
เรื่องการให้ทุนของ NED (ทุนของ NED เป็นทุนที่ตรวจสอบได้
เพราะอย่างที่สนธิพูดนั่นแหละว่าเป็นทุนที่ได้เงินผ่านมาทางสภาคองเกรสของสหรัฐ
แล้ว NED จะเป็นคนพิจารณาว่าจะให้ทุนกับโครงการไหน
ที่เขียน proposal เข้าไปส่ง – ถ้าอยากได้ลองเขียนไปขอก็ได้นะ)
เราจะพบว่าองค์กรที่รับทุนของ NED ในประเทศไทยมีทั้งหมดดังนี้



มาดูกันทีละองค์กรดีกว่าว่ามีใครบ้าง:

องค์กรแรก Campaign Committee for Human Rights
http://mhonism.com/2012/01/29/นิทานหลอกเด็ก/ (CCHR)
หรือชื่อไทยคือ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนไทย(ครส.)
ที่มีเรื่องราวโด่งดังในปี 2009 ในประเด็น
เรื่อง Sexual Harassment http://www.thaingo.org/story/humanrights_2.pdf
ในองค์กร โดย NED ให้เงินครส.เพื่อทำเรื่อง Human Rights Defender
หรือนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในทุกภาคส่วน
สำหรับใครที่สงสัยความแดงขององค์กรนี้
ดูชื่อที่ปรึกษาอย่างปรีดา เตียสุวรรณ์
http://www.tcijthai.com/interview-piece/828
น่าจะการันตีความแดงได้ ครส.ได้เงินจาก NED ทั้งสิ้น 50,000 เหรียญสหรัฐ

องค์กรต่อมา Center for International Private Enterprise
http://www.cipe.org/index.php (CIPE)
องค์กรนี้เป็นองค์กรระหว่างประเทศ ทำงานด้านการต่อต้านคอรัปชั่น
โดยพาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกันในไทยคือ
Thai Institute of Directors http://www.thai-iod.com/th/aboutIOD.asp (IOD)
หรือชื่อไทยคือ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
ก่อตั้งขึ้นโดยการสนับสนุนของหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน คือ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย มูลนิธิกองทุนพัฒนาระบบตลาดทุน
รวมทั้งองค์การระหว่างประเทศคือธนาคารโลก (World Bank)
สำหรับโครงการที่ CIPE ได้มาทำในประเทศไทย ได้เงินจาก NED 149,041 เหรียญสหรัฐ
ซึ่งเป็นโครงการที่เรื่องความตื่นตัวของภาคธุรกิจเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น

องค์กรที่ 3 คือ Cross Cultural Foundation
http://www.crcf.or.th/th/about.php (CRCF) หรือ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
มีสมชาย หอมลออ http://www.kittipongforjustice.com/2011-10-06-14-43-05/92--qq-.html
(อีกข่าว http://www.dreampoem.com/forum/index.php?topic=7904.25;wap2 )
ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น คอป.
ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ เป็นประธานมูลนิธิฯ นี่ก็น่าจะช่วยรับประกันความแดงขององค์กรได้
CRCF ได้ทุนจาก NED 50,000 เหรียญสหรัฐ

องค์กรที่4 Environmental Litigation and Advocacy for the Wants
http://www.enlawthai.org/ (ENLAW)
โครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม ทำเรื่องคดีสิ่งแวดล้อมระหว่างรัฐ/นายทุนกับชุมชน
ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ได้เงินไป 40,000 เหรียญสหรัฐ

องค์กรที่5 Foundation for Community Educational Media
http://prachatai.com/about
มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน ได้ไป 50,000 เหรียญสหรัฐ
เพื่อจัดทำเวบข่าวประชาไท(อันนี้คงไม่ต้องพูดมาก เพราะสนธิน่าจะพูดไปหมดแล้ว)

องค์กรต่อมา National Democratic Institute for International Affairs (NDI หรือ NDIIA)
ได้เงินไปถึง 500,000 เหรียญสหรัฐ
เดี๋ยวมาดูกันทีหลังว่าองค์กรนี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงได้เงินเยอะขนาดนี้

องค์กรสุดท้ายตามลิสท์ที่ NED ประกาศไว้
Thai Volunteer Service http://thaivolunteer.org/myweb/index.php  (TVS)
หรือ มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม(มอส.) ที่สำนักงานตั้งอยู่ที่เดียวกับประชาไท
และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.)
ที่คุณสุภิญญา กลางณรงค์เคยทำอยู่
(และในอดีตก็ตั้งอยู่ที่เดียวกับ ครป. ที่สุริยะใส กตะศิลาเคยทำอยู่)
ได้ไป 50,000 เหรียญสหรัฐเช่นกัน

จากลิสท์รายชื่อที่มีอยู่ในเวบไซท์ก็น่าจะพอบอกแนวทางบางอย่างได้บ้าง
แต่เรามาดูกันดีกว่าว่าองค์กรที่ได้เงินทุนถึง 500,000 เหรียญสหรัฐ
ที่นายสนธิบอกว่า "...มีอยู่ก้อนให้ไป 500,000 เหรียญสหรัฐ เท่ากับ 15 ล้านบาท
เอาไปให้จัดสัมมนากับผู้นำท้องถิ่นเพื่อให้เข้าใจบทบาท ส.ส.มากขึ้น
แล้ววันนี้ผู้นำท้องถิ่นที่ให้เงินจัดสัมมนาคือผู้นำอะไร
ผู้นำท้องถิ่นที่ใส่เสื้อแดง เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัด" นั้นคือใคร

National Democratic Institute for International Affairs
http://www.ndi.org/ หรือ NDI เป็นองค์กรที่เบสที่วอชิงตัน ดี.ซี.
ทำงานด้านการพัฒนาประชาธิปไตยในหลายประเทศทั่วโลก 
http://www.ndi.org/wherewework
ซึ่ง mandate ของ NDI ก็ถือว่าตรงกับเป้าประสงค์ของ NED อยู่มากทีเดียว
เมื่อลองมาโฟกัสดูในส่วนของประเทศไทย
ซึ่งนายสนธิได้บอกว่าเงิน 500,000 เหรียญสหรัฐนั้น
ถูกใช้ไปจัดสัมมนากับผู้นำท้องถิ่นที่เป็นเสื้อแดง(หรือบ่มเพาะให้เป็นเสื้อแดง)
ในส่วนของประเทศไทย NDI ได้แจ้งไว้ในหน้า http://www.ndi.org/thailand
ว่าทางองค์กรมีกิจกรรมโครงการใดบ้างในประเทศ
โดยย่อหน้าที่สำคัญควรอ่านคือ Current NDI Programs ซึ่งเขียนว่า

Current NDI Programs
Since 2007, the Institute has worked on programs to restore
democratic institutions, strengthen and promote political
party development and increase dialogue between elected
officials and constituents.

NDI's current National Endowment for Democracy-funded
program promotes citizen participation in political processes
and strengthens the relationship between citizens and newly
elected representatives. Together with the King Prajadhipok
Institute and the Political Development Council, constituency
dialogues aimed at increasing citizen participation are being
coordinated to address concerns in 12 target provinces.

โครงการล่าสุดของ NDI ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจาก NED คือ
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการทางการเมือง
แค่เสริมศักยภาพ/ความเข้มแข็งของความสัมพันธ์
ระหว่างประชาชนและส.ส.ที่ได้รับเลือกมา และที่สำคัญคือ...
โครงการนี้ NDI ไม่ได้ทำโดยลำพัง
แต่หากเป็นความร่วมมือกับ the King Prajadhipok Institute
http://www.kpi.ac.th/ (KPI) หรือสถาบันพระปกเกล้า
และ Political Development Council http://www.pdc.go.th/th/ สภาพัฒนาการเมือง

เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้เราก็พลันร้องเหยดดดด ขึ้นมาในใจ
นี่แปลว่าสถาบันพระปกเกล้าและสภาพัฒนาการเมืองสนับสนุนเสื้อแดง(ล้มเจ้า)อย่างนั้นหรือ?
หรือจริงๆ แล้ว เรื่อง NED สนับสนุนแดงล้มเจ้า
เป็นเพียงแค่ทฤษฎีสมคบคิดโลกเก่าที่ว่าอเมริกาจะครองโลก
(ผู้นำความคิดนี้ ณ เวลานี้คือบลอกเกอร์ชื่อดัง(?)
ที่ใช้นามแฝงว่า Land Destroyer https://twitter.com/#!/LandDestroyer
- สนธิเองก็ใช้ภาพจากหน้าบลอกของ Land Destroyer ในรายการด้วย)
เรื่องนี้ผู้อ่านก็น่าจะสามารถพิจารณาเองได้ไม่ยากนัก

แต่จริงๆ แล้วนายสนธิไม่ควรลืมกรณีปฏิญญาฟินแลนด์
http://prachatai.com/journal/2009/03/20477
ว่าผลของการจับแพะชนแกะนั้นเป็นอย่างไร...นี่เตือนกันด้วยความเป็นหวังดี
เพราะถ้าวันดีคืนดีเกิด NED ประชาไท NDI
สถาบันพระปกเกล้า สภาพัฒนาการเมือง ลุกขึ้นมาฟ้องร้อง
ในกรณีการหมิ่นประมาทขึ้นมาท่าทางจะดูไม่จืดเลยทีเดียว

ไว้ถ้าว่างๆ อีกเมื่อไหร่ จะลองหาเวลามาเขียนเพิ่มเรื่อง
ทำไมอเมริกาถึงไม่น่าจะคิดล้มล้างสถาบันกษัตริย์ของไทย
แต่ต้องว่างจริงๆ และอ่านหนังสือให้จบก่อน

หมายเหตุ:สำนักข่าว ASTV ควรพิจารณาการเขียนข่าวของคนเขียนสรุป
รายการคนเคาะข่าวตามลิงค์ที่ให้ไว้ข้างบนได้แล้ว
เพราะสรุปความผิดไปหลายกิโลเมตร จากที่ว่าองค์กรหนึ่ง
(ซึ่งก็คือ NDI) ได้เงินจาก NED มา 5แสนเหรียญ ไปเป็น
"โดยเฉพาะเว็บไซต์ประชาไท
ซึ่งผู้อำนวยการเว็บไซต์ถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ได้มาก้อนหนึ่ง 5 แสนเหรียญ หรือ 15 ล้านบาท ไปอบรมผู้นำท้องถิ่น
ให้เข้าใจเรื่องบทบาท ส.ส. ซึ่งก็เป็นผู้นำท้องถิ่นที่ใส่เสื้อแดงนั่นเอง"
ถ้านี่ไม่ใช่ความตั้งใจของ ASTV ที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(โดยฉวยโอกาสจากความเป็นคนขี้เกียจอ่านหนังสือของคนไทย)
ก็แปลว่าคนที่เขียนข่าวนี้ไม่มีความสามารถในการเขียนมากพอที่จะเป็นนักข่าวได้

ขอขอบคุณ

http://mhonism.com/2012/01/29/นิทานหลอกเด็ก/
http://www.go6tv.com/2012/01/ned.html

บางเรื่องยิ่งทำข่าวยิ่งสร้างแนวร่วมมุมกลับ
แล้วบางเรื่องอาจไม่จำเป็นต้องใช้คนจ้างด้วยซ้ำ
เช่นที่แซวกันในบอร์ดการเมืองเมื่อนานมาแล้วตอนที่ หัวขาวเอย ลิ้มเอย พูดอ้างว่ามีการลงขันจ้างคนฆ่าพวกเขา
แล้วก็มีคนตอบแบบเจ็บแสบว่ากับพวกเอ็งนี่ฆ่าให้ฟรีไม่คิดเงินก็ยังได้

[Mr.No]

ช้าก่อน บุญญศักดิ์...

อยากให้ลองดู.... แผนภูมิที่ ASTV นำเสนอตั้งแต่เมื่อปี 2551 อีกทีซิว่าวันนี้ มีอะไรผิดไปจากที่เค้าวิเคราะห์ไว้หรือไม่

อย่างน้อยที่สุดเราจะเห็นได้ว่า กระบวนการล้มเจ้า นั้นมีอยู่จริง...ความพยายามกระทำการผ่านสื่อต่าง ๆ ตามแผนภูมิ เช่น youtube, facebook, website,blog ,วิทยุชุมชนบางแห่ง ฯลฯ ล้วนยังมีอยู่และทำงานอยูอย่างต่อเนื่อง

หรือบุญญศักดิ์จะบอกว่า ไม่่จริ๊ง...ไม่จริง ใน youtube, facebook ไม่มีใครโพสดูหมิ่นสถาบันเลยแม้แต่น้อย   

หรือจะบอกว่า การที่นิติราษฎร์  ดันสาระแน ถึงขนาดอาจหาญ บอกว่า ต้องห้ามพระมหากษัตริย์แสดงพระราชดำรัส (ห้ามพูด) ฯลฯ ไม่ใช่เรื่องจริง...

หรือจะบอกว่า รัฐบาลนี้ มี รมช.ที่จงรักภักดีแทบทุกคน!

ทุกวันนี้ผมยังไม่เห็นว่า ไอ้รัฐบาลสังกะบ๊วยชุดนี้ ทำอะไรทีเป็นโล้เป็นพายให้แก่บ้านเมืองบ้าง นอกจากสร้างปัญหา,สูบทรัพยากรให้ต่างชาติ,แสวงหาแต่เงิน หรืองบประมาณ และการเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจพลังงานให้แก่ญาติโก โหติกา แทบทั้งสิ้น

ผลพวงจากน้ำท่วมเละเทะ..ทำให้ ภาคธุรกิจโดยเฉพาะรายย่อยป่นปี้...รวมทั้งความเจ็บปวดของคนระดับล่างที่ไม่มีหลักประกันในการสร้างชีวิตเพราะเครดิตกู้หนี้ไม่มี จะอยู่กันอย่างไร

ธุรกิจญี่ปุ่นที่มันโดนน้ำท่วม...รัฐบาลเฮงซวยดันเอาอกเอาใจ ทั้ง ๆ ที่พวกนี้ไม่ได้เสียหายเลย เพราะมันมีทั้งประกันภัยทรัพย์สินและรายได้ครอบคลุมหมด

แต่แม่ค้าขายแกงรถเข็น ..ที่หมดเนื้อประดาตัว...รัฐบาลนี้เคยเห็นบ้างมั้ย

ทั้ง LPG ก็ขึ้น...ล่าสุดบอกจะขึ้นภาคครัวเรือนด้วย...สุดท้าย แม่ค้าขายกระเพราไก่บอก ถ้าจะให้คุมจานละ 25 บาท ก็จะผัดให้แต่กระเพราะและเศษหนังไก่ 2 ชิ้น!

NGV ก็ขึ้น...  กลายเป็นโง่ทั้งคนติด (ถูกหลอก) เพราะกว่าจะได้คิวเติม ก็(โง่) เต็มที แถมยังขึ้นราคา...สุดท้าย จะถอดถังโยนทัิ้ง ก็กลืนน้ำลาย เพราะน้ำมัน มันก็ขึ้นอีก

สุดท้าย...... ตายหยังเขียด!


โลกนับแต่นี้ต่อไปจะอยู่ภายใต้นัยยะที่เรียกกว่า  New world order อย่างแท้จริง....
อิหร่าน จะเป็นเป้าสำคัญต่อไป แต่ที่น่าสนใจก็คือ  อิหร่านคือ หนึ่งในคำทำนายที่บอกว่าสงครามโลกครั้งทีสามจะเกิดขึ้น!

เพราะอิหร่านนั้น ไม่ใช่แขกขี้ ๆ ...แถมมีนิวเคลียร์ด้วย...(ไม่ใช่กำลังพัฒนา)


การรุกคืบเพื่อทำให้ประเทศต่าง ๆ กลายเป็นหนึ่งเดียวแบบที่อเมริกันสร้างต้นแบบไว้ ดูจะมีความจริงไม่น้อย
การเดินหน้าเพื่อหาหลักประกันในแหล่งพลังงาน  และที่สำคัญที่สุดคือ แหล่งอาหารนั้น ไม่ใช่เรื่องเล่นอีกต่อไป

จีน..เดินหน้ารุกคืบเพื่อหาดินแดนปลูกข้าวเพิ่ม...เหมือนกับที่กลุ่มอาหรับก็ต้องกินข้าว  ...ไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือเป้าหมายที่สำคัญ

แหล่งพลังงานอย่างพวกน้ำมันที่มีมากมายในอ่าวไทย,หรือในพม่า เป็นที่ชัดแล้วว่า  คนไทยไม่ได้อะไรแม้แต่น้อย นอกจาก เชพรอน อเมริกัน และปตท.ที่มีหุ้นฝรั่งและนักการเมืองเฮงซวยรวยบานตะไท ...

ความพยายามในการล้มสถาบันที่เป็นเสาหลักแห่งแผ่นดิน จะทำให้ ทุกอย่างง่ายขึ้นที่สามฝ่ายจะจับมือกัน (แดก) ไม่ว่าจะเป็น นายทุน(ไทย,ฝรั่งและแขก),นักการเมืองสกปรก  และข้าราชการ (ซึ่งต่อไปจะกลายเป็นเพียง "เจ้าหน้าที่รัฐ")

แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และทฎษฎีเกษตรพอเพียง กลายเป็นอันตรายสำหรับกลุ่มทุนและนักการเมือง เพราะถ้าสองหลักนี้มั่นคงในเมืองไทย (ซึ่งเริ่มเห็นแล้วว่า หลายคนนำไปใช้และมีความสุข) โอกาสในการครอบครองและแสวงหาประโยชน์ เช่นการไล่ซื้อที่ผืนใหญ่,การล้างสมองให้คนใช้สินค้าฟุ่มเฟือย ฯลฯ จะยากขึ้นทุกที

ดังนั้น...การทำลายล้าง หลักแห่งความศรัทธาของแผ่นดิน จึงมีอยู่จริง........

อย่างที่ปากีสถานประกาศว่า....   ถ้าเลือกคบกับจีน,อินเดียไว้เป็นพันธมิตร  โลกจะรอด!
แต่ถ้ายอมอเมริกัน.... สุดท้าย โลกทั้งใบจะเหลือแค่ 5 ประเทศ คือ ประเทศอเมริกา, จีน, อินเดีย และประเทศยุโรป (สหภาพ) ประเทศกลุ่มสหภาพแอฟริกัน

ถ้าจะกลัวไว้ก่อนและรักชาติ,สร้างชาติและเอกลักษณ์ของเราเอง.... คลั่งชาติ ไม่ได้เลวร้ายครับ..

แต่คลั่ง ทักษิณและพวกเสื้อแดงล้มเจ้า นี่......    ไม่รู้จะเปรียบอะไรดีแฮะ.

[คนจับปลา]

เยี่ยม ข้อมูลดีๆอย่างนี้ คนธรรมดาๆ ควรติดตามให้ทันเหตุการณ์ อย่ามัวโง่ใส่ใจแต่ตาแก่ปลาบู่ ที่เขาสร้างข่าวเพื่อกลบข่าว ลูกไม้เดิมๆ

[คุณหลวง]

ยังไม่มีเวลาตอบมาก แต่นี่คือสิ่งที่ผมประทับใจ และผมก็ขอบอกเช่นเดียวกันว่า
"ศีรษะนี้เพื่อพระเจ้าแผ่นดิน"

http://youtu.be/-DRIlz1rMuM

[ชาย9]

mr.no......ผมรักคุณ!!!    พร้อมเสมอเพื่อปกป้องแผ่นดินสยาม!!!

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

"แผ่นดินนี้ของกู  เพื่อลูกหลานในภายภาคหน้า
ใครคิดแบ่ง แยก หรือทำลาย   กูจะตามฆ่าล้างโคตร"

.......สมเด็จพระนเรศวรมหาราช........

[คนท่าข้าม]

Mr.no สุดยอด

[คนท่าข้าม]

mr.no เราร่วมกันต่อสู้เพื่อมหาราชของเรา

[puiey]

เรารักพระเจ้าอยู่หัว

[คุณหลวง]

น่าแปลกใจที่ว่า คนที่ใกล้ชิดข่าวสารมากๆกลับไม่รู้ึความเป็นไป หรือไม่เห็นทางไปทางมาของมหาอำนาจตนนี้

สหรัฐอเมริกา มีประชากร 300 ล้านคนโดยประมาณ คนทั้งโลกนอกนั้นยังมีอีกประมาณ 6,000 ล้านคน แต่ปริมาณการใช้พลังงานนั้น คนอเมริกาใช้ประมาณ 1 ใน 3 ของพลังงานที่ขุด นำ แปรรูปมาใช้ทั้งโลก ยกตัวอย่้าง น้ำมันในโลกนี้ผลิตมา 100 ลิตร คนอเมริกาใช้ 30 กว่าลิตร คนทั้งโลกใช้ 60 กว่าลิตรที่เหลือ ดูปริมาณน้ำมันคนทั้งโลกใช้มากกว่าอเมริกาประมาณ 1 เท่าตัว แต่คนทั้งโลกมีมากกว่าอเมริกากี่เท่าครับ???

นั่นเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่อเมริกาต้องค้นหา แสวงหา กักตุนพลังงานและทรัพยากรอย่างมโหฬาร จนแม้กระทั่งวิธีสกปรก เช่น การตัดต่อพันธุกรรมข้าวหอมมะลิไทย และจดทะเบียนเป็นของตน เมื่อก่อนไทยใช้ชื่อ JUSMINE RICE เมื่ออเมริกาตัดต่อพันธุกรรมก็ใช้ชื่อว่า JUSMIN RICE จนประเทศไทยต้องเปลี่ยนชื่อส่งออกเป็น HOM MALI ในที่สุด

อย่างการบุกอิรักของอเมริกา อเมริกาสร้างความชอบธรรมด้วยการอ้างว่าอิรักเป็นภัยคุกคามต่อโลก มีการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ มีห้องแล็บติดล้อพัฒนาอาวุธ มีห้องลับใต้ดิน มี....หลัีงการถล่มอย่างราบคาบ ฆ่าผู้นำซัดดัมเรียบร้อย ผ่านมากี่ปีแล้ว สิ่งที่อเมริกาอ้างว่ามี อเมริกาก็ไม่เคยเอาออกมาให้ชาวโลกเห็นได้เลย แต่สอง
บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ได้เข้าไปร่วมฟื้นฟูอิรักเป็นอันดับแรกๆคือ CALTEX และ SHELL เข้าใจอะไรบ้างไหมครับ

จนศิลปินร็อคไอรอน ไมเด็น(IRON MAIDEN) ออกเพลงที่ด่าอเมริกาอย่างเจ็บแสบ และสร้างมิวสิคประชดว่า คนอเมริกาเลี้ยงลูกด้วยน้ำมัน ศิลปินวงนี้เป็นชาวอเมริกันครับ

สิ่งหนึ่งที่อเมริกาใช้เป็นอาวุธในการครอบงำทำลายประเ้ทศต่างๆเพื่อการสูบทรัพยากรของชาตินั้นๆคือการยุยงชาตินั้นๆให้แตกแยก การหนุนหลังผู้นำในประเทศนั้นๆให้มีระบบเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการแสวงหาประโยชน์ตน และการทำลายความแข็งแกร่งทางวัฒนธรรมประเพณี อย่างหลายปีก่อนจีนออกมาเปิดเผยแผนทำลายประเทศจีนของอเมริกาให้ชาวโลกได้เห็นกัน(ลองค้นจากเปิดฟ้า ส่องโลก ของนิติภูมิ นวรัตน์ น่าจะง่ายกว่าจากที่อื่น)

ผมไม่ทราบว่าอเมริกาจะทำอย่างนั้นจริงหรือไม่แค่ไหนกับประเทศไทย แต่ประเทศไทยเป็นเป้าหมายอย่างยิ่งของชาติต่างๆที่จะเข้ามาสูบทรัพยากรเราไป อย่างซาอุดิอาระเบีย เข้ามาเช่าที่ดินในประเทศไทยเป็นจำนวนมากอันดับต้นๆ

หลายปีก่อนเราจำประเทศที่ล้มละลายทางเศรษฐกิจอย่างอาร์เจนติน่า และประเทศอะไรนะที่มีชื่อเสียงฟุตบอลด้วยน่ะ รวมไปถึงเวเนซูเอล่า สาเหตุหลักมาจากอะไรครับ ก็นโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั่นล่ะครับ น้ำ ไฟฟ้า ประปา สาธารณูปโภคต่างๆของประเทศถูกแปรรูปเป็นบริษัท ไอ้พวกนี้ก็เข้าไปซื้อหุ้น ถือหุ้น ทั้งในนามตน และนอมินี เชื่อไหมครับ คนอาร์เจนติน่า ซื้อน้ำดื่มที่เกิดขึ้นในประเทศตัวเอง ผลิตในประเทศตัวเอง แต่เป็นน้ำของคนอื่น เงินไหลออกมากกว่าเหลืออยู่ในประเทศ

ผมไม่เชื่อว่าทักษิณจะเลวสุดขั้วทั้งหมด แต่สิ่งที่ทักษิณดำเนินนโยบายขณะนั้นเป็นไปตามแนวทางที่เป็นเหตุให้อาร์เจนติน่าและอีกสองประเทศล้มละลายทางเศรษฐกิจ ดูอย่างปตท.สิครับ ตอนนี้เป็นของใครบ้าง ผมไม่ทราบและไม่มีข้อมูลแต่เคยมีคนพูดให้ฟังคร่าวๆแล้วเช่นกัน ลองค้นดูครับ จะมีนอมินีให้ต่างชาติไหม ก็ลองศึกษาดูครับ

ระบบเศรษฐกิจพอเพียงจึงกลายเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง เพราะสร้างความเข้มแข็ง ความอยู่ได้ดีมีสุขของประชาชนในภาวะธรรมดาๆ การจะเข้าครอบงำเป็นไปได้ยาก เพราะชาวบ้านมีภูมิคุ้มกันจิตใจตัวเอง ไม่ฟุ้งเฟ้อทะเยอทะยานอย่างโง่เขลา มีความสุขชนิดที่มาร์ติน วิลเลอร์ต้องร้องออกมาว่า "โผ่มรักพระเจ่าอยุ่หั่ว"(สำเนียงฝรั่งพูดไทย) ที่ทำให้เขาค้นพบความสุขแท้จริงในแบบไทยๆ

การดำเนินนโยบายเพื่อละลายความเข้มแข็งจึงเกิดขึ้น(จะด้วยเจตนาใดก็ตาม) การโยนเงินไปให้ชาวบ้านเป็นหนี้ พอใจกับการเป็นหนี้ มีชีวิตฟุ้งเฟ้อ เอาเงินมาใช้ก่อนอย่างบ้าคลั่ง ไม่พึ่งพาตนเอง แต่อาศัยรัฐดูแล ยื่นหนี้ให้ ยืดหนี้ให้ ผ่อนปรนภาระหนี้ให้ สร้างหนี้ใหม่ให้  อะไรต่างๆนานา ชาวบ้านกลายเป็นคนที่ร้องขอความฟุ้งเฟ้อจากรัฐ กลายเป็นคนอ่อนแอ คนอ่อนแอ ชุมชนอ่อนแอ ประเทศชาติอ่อนแอในที่สุด

อันตรายของบริโภคนิยมอยู่ที่นี่ครับ ดังนั้น ผมจึงไม่เห็นด้วยกับนโยบายแบบนี้อย่างเด็ดขาด เรามีศึกรอบด้าน หากเรายังตามหลังเขาไปเรื่อยๆก็เป็นแค่หมาที่รอเขาโยนกระดูกให้เท่านั้น หรือเราจะเป็นใหญ่ในตัวเอง มีความมั่นคง หยัดยืนได้ด้วยตัวเอง อิ่มเองโดยไม่ต้องเลียกระดูก ก็เลือกเอาครับ

ป.ล. หลายปีก่อน ตอนที่หลวงปู่ฤาษีลิงดำบอกว่าประเทศไทยมีพลังงานมากมาย ทั้งน้ำมัน และก๊าส ในอ่าวไทย และอีกบางพื้นที่ มีคนหัวเราะมากมายครับ แต่ทุกวันนี้สัญญาบางฉบับทำให้เราเสียพลังงานเหล่านั้นของเราแก่บางประเทศไปแล้วเกือบทั้งหมดที่ผลิตได้(ฮา)

[Number of the beast]

ขอแย้งข้างบนนิดนึงครับ
Iron Maiden เป็นวงที่มาจากอังกฤษครับ

[คุณหลวง]

ขอแย้งข้างบนนิดนึงครับ
Iron Maiden เป็นวงที่มาจากอังกฤษครับ

แห่ะๆๆ จำสับสนกระมัง ขอบคุณครับ 

วันนี้ กระแสสงครามเริ่มมาอีกแล้วครับ ผมไม่แน่ใจว่า โอบามา จะเป็นการเมืองอเมริกาเต็มที่หรือเคยเปลี่ยนแล้วอย่างที่โฆษณา กระแสตกลงอย่างน่าใจหาย ความนิยมอ่อนเต็มที

ทางเดียวที่โอบามาจะสามารถนั่งถึงสมัยที่สองได้คือ ทำสงครามแบบที่บุชเคยทำ พร้อมกับประโยชน์ที่อเมริกาจะได้แอบแฝง

และกระแสนี้มีความน่าจะเป็นได้แค่ไหน อยู่ที่โอบามากล้าไหม เพราะอิหร่านต่างจากอิรักมากมายนัก
ติดตามดูกันต่อไป

[เพลบอย]

ประชาธิปไตยหรือระบบ ทุนนิยม ใครหรือองกรไหนมีทุนมากก็สามารถควบคุมระบบได้ ประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยได้ไง ในเมื่อประชาชนส่วนใหญ่ยังจน ยังอยู่ภายใต้พวกนายทุนต่างๆ  ไอ้อเมริกานักเลงโลกมันพยายามล้มระบบการปกครองต่างๆ เพื่อมันจะเอาระบบทุนนิยมเข้าไปยึดครองประเทศนั้นๆ เหมือนที่มันทำตอนต้มยำกุ้ง แค่มันให้นักลงทุนถอนทุนออกจากตลาดหลักทรัพย์ ประเทศไทยก็แย่แล้วยังดีที่ประเทศไทยเป็นลูกที่ดีของสหรัฐเลยไปกู้ยืมไอเอ็มเอฟเลยเป็นหนี้เป็นสินต่อไป ไทยเลยกลายเป็นเบี้ยล่างอเมกาเสมอ  ไม่เหมือนมาเลโดนพิษเศรฐกิจแทนที่จะทำตามเมกาที่ให้ปล่อยค่าเงินลอยตัว กลับดื้อปิดประเทศไม่ลอยตัวค่าเงิน โดนเมกาด่า แต่มาเลกลับฟื้นเร็วกว่าไทย ไปได้สวย  หากบ้านเราปิดประเทศแล้วจัดการตัวเองให้พร้อมก่อนแล้วถึงจะออกไปแข่งขันกับประเทศที่เค้ามีความมั่นใจ เข็มแข็ง ผมว่าต่อไปพม่าจะก้าวหน้ากว่าไทย ตอนนี้เมกาก็เริ่มสนใจพม่าแล้ว ทั้งที่ปิดประเทศ ดื้อต่อต้านเมกามาตลอด

[แมน2]

ไม่รู้ได้หรอกว่า แผนภูมิมันจริง หรือไม่จริง  มั่วมา หรือ ไม่มั่วมา  แต่สามารถดูได้ตามเนื้อผ้าของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตอนนี้ 
เรารู้ว่าพวกล้มเจ้า  ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ มันมีอยู่จริง และเอาจริงมากขึ้นในพักหลังนี้  (ไม่ว่าจะเป็นเพราะอุดมการณ์ หรือความอิจฉาริษยาก็ตาม)
เรารู้ว่าประชาชนจำนวนมาก (ส่วนใหญ่หรือไม่ไม่รู้)  ต้องการให้ระบบกษัตริย์ยังคงอยู่ และยังคงดำรงค์ความสูงสุดในเรื่องการให้ความเคารพ
เรารู้ว่านักการเมืองส่วนใหญ่ และข้าราชการบางส่วน ไม่ได้จริงใจ  จริงจังในการแก้ไขปัญหาของประชาชน และไม่ได้คิดถึงการพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง
....แค่นี้พอ ยังมีอีกเยอะที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ผมเคยบอกอยู่เรื่อยๆในบอร์ดนี้ ว่า "พวกต่างประเทศ" อย่าง อเมริกา  อังกฤษ  หรือนานาอารยประเทศ (อย่างที่พวกชอบอ้างอ่ะ)  อย่าไปเชื่อมันมากนัก  ประเทศพวกนี้มันเห็นแก่ตัวทั้งนั้นแหล่ะ  แสวงหาผลประโยชน์เข้าหาประเทศตน (ซึ่งมันก็ถูกนะ  ที่เค้ารักประเทศของเค้า)  แต่เจ้าของประเทศที่มันจะมาแสวงผลประโยชน์นี่ซิ  จะทำตัวอย่างไร  .....

เห็นได้ชัดมาก  เรื่องการต้องการแสดงอำนาจของประเทศพวกนี้  เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง  จากเหตุการณ์ในประเทศฝั่งตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นไปแล้ว  .....  และตรงๆเลยในช่วงนี้ ก็คือการต้องการเจาะประเทศจีนอยู่ (ในขณะนี้) พวกนี้มันดำเนินการหลายรูปแบบ  มีตั้งแต่การเจรจาค้าขาย  การต่อรองเงินตรา  ซึ่งดูเหมือนหวังดี  รวมไปถึงการดำเนินการด้านมืด  เช่น การสร้างความเกลียดชังกับประชาชนให้มีความเกลียดชังผู้นำ ตัวอย่าง เช่น คลิปวีดีโอเรื่องเสียๆหายๆ  โจมตีประเทศจีน ตอนนี้เยอะมาก....ต่อมาคือการใส่ชุดความคิดเรื่องประชาธิปไตย โดยสร้างความแตกแยกภายใน(ตามแบบที่กำลังทำกับประเทศไทยในขณะนี้) 

พวกนี้มันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าแสดงความหวังดี  แต่แฝงด้วยผลประโยชน์ทั้งนั้น  ซึ่งเหตุผลที่รองรับเรื่องการต้องการรุกล้ำ  แผ่ขยายอำนาจมาทางตะวันออกมากขึ้นก็คือ  ประเทศฝั่งเราๆ  ไทย จีน อินโด พม่า ลาว เวียดนาม  มาเลย์เซีย  กัมพูชา  ตลอดจนอินเดีย  ล้วนเป็นประเทศที่เป็นอู่ข้าว อู่น้ำของโลกเลยก็ว่าได้  รวมถึงทรัพยากรของประเทศเราๆ ยังมีอยู่เยอะมากเมื่อเทียบกับของเค้า  ...คิดดูดีๆ ถ้าอเมริกาสามารถเป็นต้นหัวความคิด หรือมีอิทธิพล  หรือมีอำนาจต่อรองทางการค้ากับประเทศจีนได้  จะทำให้อเมริกัน มีข้าวกินในราคาถูก  มีทรัพยากรที่จะรองรับชาวอเมริกันอย่างเหลือๆได้เป็นร้อยปีเลยทีเดียว  มีแรงงานราคาถูก  มีความร่ำรวยจากการค้าขายมากขนาดไหน  เหมือนกัน  ถ้าอเมริกาสามารถมีอำนาจ  อิทธิพลกับไทยเรามากถึงระดับหนึ่งแล้ว  เชื่อได้เลยว่า  ชาวนาไทยจะต้องปลูกข้าวให้อเมริกันกินอย่างแน่นอน

ไม่ใช่ว่าผมไม่นิยมประชาธิปไตยนะ  เพียงแต่จะทำอย่างไรโดยที่ประเทศเราไม่เสียเปรียบเค้า  มีประชาธิปไตยได้แต่ต้องไม่ทำให้ขัด  หรือทำลายรากเง้าของตน  ความเป็นตัวตนของคนไทย  ผมว่าตรงนี้น่าคิดนะ  แทนที่จะเอาแบบอย่างแบบก๊อปปี้เค้ามา  แล้วมาวางเฉยๆ  จะทำการประยุกต์อย่างไรให้ไม่ขัดกับความรู้สึกคนไทย  ถ้าทำได้อย่างนี้  ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้า  เร็วกว่าในตอนนี้ประมาณ 3 เท่าแน่นอน

"ความเป็นชาตินิยม"  ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะครับ  ต่างชาติอย่างอังกฤษ ตอนนี้เค้าก็มีความเป็นชาตินิยมของเค้าอยู่ครับ  รวมไปถึงประเทศจีน  แน่นอนความเป็นชาตินิยมสูงเลยทีเดียว  ตัวอย่างง่ายๆ  ชาตินิยมของอังกฤษ เช่น เรื่องสำเนียงของภาษาอังกฤษ,  เรื่องกีฬาฟุตบอล,  เรื่องดนตรี และอีกหลายๆเรื่องครับ  แน่นอนสิ่งพวกนี้เป็นสิ่งบ่งบอกถึงความเป็นอังกฤษอย่างชัดเจน   .....  เหมือนกัน ประเทศจีน  เรื่องภาษา,  วัฒนธรรม,  การดำรงค์ชีวิตครับ  มันบ่งบอกถึงความเป็นประชาชนชาวจีนได้เป็นอย่างดี  ถ้าคนที่ใกล้ชิดชาวจีนอยู่  ลองดูครับแปลกมั้ยที่  คนจีนเกือบทุกคน  สามารถรำไทเก็กได้(เก่งไม่เก่งไม่ว่า)   เขียนอักษรกับพูกันได้(เก่งไม่เก่งไม่ว่า)  แต่งตัวแบบจีนได้อย่างไม่อาย  สามารถเต้นรำแบบจีนได้อย่างมีแบบแผน(เก่งไม่เก่งไม่ว่า)  วัฒนธรรมของเค้าแข็งแรงมากๆครับ...... แต่เมื่อมาเปรียบเทียบกับไทยเรา  ต่างกันนะครับ  ลองใช้ความรู้สึกเปรียบเทียบดู  เด็กไทยเราน้อยมากที่สามารถรำได้อย่างมีแบบแผน  อยากแต่งตัวแบบไทยๆได้แบบไม่อาย  รู้ประวัติศาสตร์ของประเทศน้อยมากนะครับ  วัฒนธรรมดนตรีไทยแทบจะนับคนที่เก่งๆได้

ต่อมาเรื่องความโอนเอนตามต่างชาติ  เป็นกันมากกับประเทศเรา  ต้องรู้เลยนะครับว่าขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นกฏหมายพื้นฐาน,  การเปลี่ยนแปลง เลือนหายของวัฒนธรรม,  การทำตัวเองให้เป็นเหมือนชนชั้นสอง  ทั้งที่อยู่ในประเทศตัวเอง,  การบูชาอำนาจเงิน ...... คนอื่นเป็นมั้ย  ผมไม่รู้นะ  แต่สำหรับผม  บอกได้ตรงๆว่า  "เจ็บใจมากๆครับ"  เมื่อพบเห็นเหตุการณ์ตามเนื้อหาข้างต้น  ถามตัวเองว่าทำไมเราต้องซูฮก  ยกย่องพวกต่างชาติมากถึงขนาดนี้....  ตัวอย่างเลยละกันนะครับ..... เห็นได้ชัดอย่างแรก  (เรื่องนี้ผมไม่มีข้อมูลด้านกฏหมายรองรับนะ  เป็นแค่เพียงความรู้สึกครับ)  ในหาดใหญ่ขณะนี้... รถยนต์ที่ติดป้ายมาเลย์เซีย สามารถวิ่งได้ทั้งวันทั้งคืน  วิ่งจนกลายเป็นรถของไทยไปแล้ว.... ซึ่งผมมองว่าแปลกนะ  ทำไมถึงยอมให้เค้าทำแบบนี้ได้... คนไทยจะเข้ามาเลย์เซียทีต้องตรวจแล้วตรวจอีก  รถยนต์เข้าไปวิ่งก็ต้องกลับเป็นวันๆไป  ยกเว้นว่าทำเรื่องตามขั้นตอน  ... แล้วยังมีอีกหลายๆเรื่อง ที่ให้อภิสิทธ์กับต่างชาติมากกว่าคนในประเทศด้วยซ้ำไป  หรือง่ายๆเลย  ร้านขายของ,ให้บริการ  บางร้านคนไทยเดินเข้าไป  ไม่มีการดูแลหรือหนักหน่อยก็ไม่ให้คนไทยเข้าใช้บริการ...  ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้  ทั้งที่อยู่ในประเทศไทย ....ลองคิดดูครับ แปลกนะ  ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้  ถ้าไม่เพราะความนิยมทุน  บูชาเงินตรา 

เขียนซะยาว  บอกสามคำครับว่า  ผมจะ "เสียใจมาก"  เมื่อเวลานั้นมาถึง  เวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงจากประเทศไทย  กลายเป็นอย่างอื่น  มีรูปลักษณ์  รูปแบบการปกครอง  วัฒนธรรม  เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด  ซึ่งบอกตรงๆว่า  "มันสายไปแล้วจริงๆ ณ ขณะนี้"  ที่จะทำให้ประเทศไทยไม่มีความเปลี่ยนแปลง  แต่เราจะทำอย่างไรให้เกิดความเปลี่ยนแปลงโดยที่ส่งผลกระทบกับคนไทย  รากเง้าความเป็นไทย  และวัฒนธรรมไทย  ให้น้อยที่สุด 

เราทุกคนที่ติดตามการเมือง  การปกครอง  เหตุการณ์บ้านเมือง  จะรู้เลยในความรู้สึกลึกๆ  ว่า  จะต้องเกิดความเปลี่ยนแปลงกับประเทศไทยขึ้นในไม่นานนี้(ไม่เกิน 10-30 ปี อย่างแน่นอน)  และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงจนถึงการนองเลือดก็เป็นไปได้  แต่อย่างว่า  เราจะทำอย่างไรให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด  ประยุกต์อย่างไรให้มันกลมกลืนกับความเป็นประเทศเรามากที่สุด  ผมหวังว่าจะได้เห็นวันนั้นโดยที่คนไทยจะเป็นประชาชนชั้นหนึ่ง  สามารถดำรงค์ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีในประเทศของตนเองได้  มีวัฒนธรรมที่แข็งแรง  ถ้าเราทำได้  ต่างชาติจะเกรงและให้ความเคารพเรามากขึ้นครับ

เคยคิดเหมือนกัน  ถ้าไทยเราปฏิวัติ  ปิดประเทศ  ปกครองแบบเผด็จการสัก 5 ปีนะ  แ้ล้วเปิดประเทศอีกทีนะ  ไทยเราจะมีพื้นฐานความคิด  การดูแลพัฒนาประเทศ  จะทำได้ดีกว่านี้มากเลยล่ะ  ยังคิดอยู่เลยว่าไทยเรา  มีประชาธิปไตยเร็วเกินไปรึป่าว  มันถึงได้กลายเป็นแบบนี้

คิดแล้วน่าเศร้านะ  ที่เราเกิดมาในช่วงนี้  ต้องมาเห็นความเปลี่ยนแปลง  ความแตกแยกของคนในชาติได้ถึงขนาดนี้ 

[Mr.No]

ไม่รู้ได้หรอกว่า แผนภูมิมันจริง หรือไม่จริง  มั่วมา หรือ ไม่มั่วมา  แต่สามารถดูได้ตามเนื้อผ้าของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตอนนี้ 
เรารู้ว่าพวกล้มเจ้า  ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ มันมีอยู่จริง และเอาจริงมากขึ้นในพักหลังนี้  (ไม่ว่าจะเป็นเพราะอุดมการณ์ หรือความอิจฉาริษยาก็ตาม)
เรารู้ว่าประชาชนจำนวนมาก (ส่วนใหญ่หรือไม่ไม่รู้)  ต้องการให้ระบบกษัตริย์ยังคงอยู่ และยังคงดำรงค์ความสูงสุดในเรื่องการให้ความเคารพ
เรารู้ว่านักการเมืองส่วนใหญ่ และข้าราชการบางส่วน ไม่ได้จริงใจ  จริงจังในการแก้ไขปัญหาของประชาชน และไม่ได้คิดถึงการพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง
....แค่นี้พอ ยังมีอีกเยอะที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ผมเคยบอกอยู่เรื่อยๆในบอร์ดนี้ ว่า "พวกต่างประเทศ" อย่าง อเมริกา  อังกฤษ  หรือนานาอารยประเทศ (อย่างที่พวกชอบอ้างอ่ะ)  อย่าไปเชื่อมันมากนัก  ประเทศพวกนี้มันเห็นแก่ตัวทั้งนั้นแหล่ะ  แสวงหาผลประโยชน์เข้าหาประเทศตน (ซึ่งมันก็ถูกนะ  ที่เค้ารักประเทศของเค้า)  แต่เจ้าของประเทศที่มันจะมาแสวงผลประโยชน์นี่ซิ  จะทำตัวอย่างไร  .....

เห็นได้ชัดมาก  เรื่องการต้องการแสดงอำนาจของประเทศพวกนี้  เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง  จากเหตุการณ์ในประเทศฝั่งตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นไปแล้ว  .....  และตรงๆเลยในช่วงนี้ ก็คือการต้องการเจาะประเทศจีนอยู่ (ในขณะนี้) พวกนี้มันดำเนินการหลายรูปแบบ  มีตั้งแต่การเจรจาค้าขาย  การต่อรองเงินตรา  ซึ่งดูเหมือนหวังดี  รวมไปถึงการดำเนินการด้านมืด  เช่น การสร้างความเกลียดชังกับประชาชนให้มีความเกลียดชังผู้นำ ตัวอย่าง เช่น คลิปวีดีโอเรื่องเสียๆหายๆ  โจมตีประเทศจีน ตอนนี้เยอะมาก....ต่อมาคือการใส่ชุดความคิดเรื่องประชาธิปไตย โดยสร้างความแตกแยกภายใน(ตามแบบที่กำลังทำกับประเทศไทยในขณะนี้) 

พวกนี้มันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าแสดงความหวังดี  แต่แฝงด้วยผลประโยชน์ทั้งนั้น  ซึ่งเหตุผลที่รองรับเรื่องการต้องการรุกล้ำ  แผ่ขยายอำนาจมาทางตะวันออกมากขึ้นก็คือ  ประเทศฝั่งเราๆ  ไทย จีน อินโด พม่า ลาว เวียดนาม  มาเลย์เซีย  กัมพูชา  ตลอดจนอินเดีย  ล้วนเป็นประเทศที่เป็นอู่ข้าว อู่น้ำของโลกเลยก็ว่าได้  รวมถึงทรัพยากรของประเทศเราๆ ยังมีอยู่เยอะมากเมื่อเทียบกับของเค้า  ...คิดดูดีๆ ถ้าอเมริกาสามารถเป็นต้นหัวความคิด หรือมีอิทธิพล  หรือมีอำนาจต่อรองทางการค้ากับประเทศจีนได้  จะทำให้อเมริกัน มีข้าวกินในราคาถูก  มีทรัพยากรที่จะรองรับชาวอเมริกันอย่างเหลือๆได้เป็นร้อยปีเลยทีเดียว  มีแรงงานราคาถูก  มีความร่ำรวยจากการค้าขายมากขนาดไหน  เหมือนกัน  ถ้าอเมริกาสามารถมีอำนาจ  อิทธิพลกับไทยเรามากถึงระดับหนึ่งแล้ว  เชื่อได้เลยว่า  ชาวนาไทยจะต้องปลูกข้าวให้อเมริกันกินอย่างแน่นอน

ไม่ใช่ว่าผมไม่นิยมประชาธิปไตยนะ  เพียงแต่จะทำอย่างไรโดยที่ประเทศเราไม่เสียเปรียบเค้า  มีประชาธิปไตยได้แต่ต้องไม่ทำให้ขัด  หรือทำลายรากเง้าของตน  ความเป็นตัวตนของคนไทย  ผมว่าตรงนี้น่าคิดนะ  แทนที่จะเอาแบบอย่างแบบก๊อปปี้เค้ามา  แล้วมาวางเฉยๆ  จะทำการประยุกต์อย่างไรให้ไม่ขัดกับความรู้สึกคนไทย  ถ้าทำได้อย่างนี้  ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้า  เร็วกว่าในตอนนี้ประมาณ 3 เท่าแน่นอน

"ความเป็นชาตินิยม"  ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะครับ  ต่างชาติอย่างอังกฤษ ตอนนี้เค้าก็มีความเป็นชาตินิยมของเค้าอยู่ครับ  รวมไปถึงประเทศจีน  แน่นอนความเป็นชาตินิยมสูงเลยทีเดียว  ตัวอย่างง่ายๆ  ชาตินิยมของอังกฤษ เช่น เรื่องสำเนียงของภาษาอังกฤษ,  เรื่องกีฬาฟุตบอล,  เรื่องดนตรี และอีกหลายๆเรื่องครับ  แน่นอนสิ่งพวกนี้เป็นสิ่งบ่งบอกถึงความเป็นอังกฤษอย่างชัดเจน   .....  เหมือนกัน ประเทศจีน  เรื่องภาษา,  วัฒนธรรม,  การดำรงค์ชีวิตครับ  มันบ่งบอกถึงความเป็นประชาชนชาวจีนได้เป็นอย่างดี  ถ้าคนที่ใกล้ชิดชาวจีนอยู่  ลองดูครับแปลกมั้ยที่  คนจีนเกือบทุกคน  สามารถรำไทเก็กได้(เก่งไม่เก่งไม่ว่า)   เขียนอักษรกับพูกันได้(เก่งไม่เก่งไม่ว่า)  แต่งตัวแบบจีนได้อย่างไม่อาย  สามารถเต้นรำแบบจีนได้อย่างมีแบบแผน(เก่งไม่เก่งไม่ว่า)  วัฒนธรรมของเค้าแข็งแรงมากๆครับ...... แต่เมื่อมาเปรียบเทียบกับไทยเรา  ต่างกันนะครับ  ลองใช้ความรู้สึกเปรียบเทียบดู  เด็กไทยเราน้อยมากที่สามารถรำได้อย่างมีแบบแผน  อยากแต่งตัวแบบไทยๆได้แบบไม่อาย  รู้ประวัติศาสตร์ของประเทศน้อยมากนะครับ  วัฒนธรรมดนตรีไทยแทบจะนับคนที่เก่งๆได้

ต่อมาเรื่องความโอนเอนตามต่างชาติ  เป็นกันมากกับประเทศเรา  ต้องรู้เลยนะครับว่าขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นกฏหมายพื้นฐาน,  การเปลี่ยนแปลง เลือนหายของวัฒนธรรม,  การทำตัวเองให้เป็นเหมือนชนชั้นสอง  ทั้งที่อยู่ในประเทศตัวเอง,  การบูชาอำนาจเงิน ...... คนอื่นเป็นมั้ย  ผมไม่รู้นะ  แต่สำหรับผม  บอกได้ตรงๆว่า  "เจ็บใจมากๆครับ"  เมื่อพบเห็นเหตุการณ์ตามเนื้อหาข้างต้น  ถามตัวเองว่าทำไมเราต้องซูฮก  ยกย่องพวกต่างชาติมากถึงขนาดนี้....  ตัวอย่างเลยละกันนะครับ..... เห็นได้ชัดอย่างแรก  (เรื่องนี้ผมไม่มีข้อมูลด้านกฏหมายรองรับนะ  เป็นแค่เพียงความรู้สึกครับ)  ในหาดใหญ่ขณะนี้... รถยนต์ที่ติดป้ายมาเลย์เซีย สามารถวิ่งได้ทั้งวันทั้งคืน  วิ่งจนกลายเป็นรถของไทยไปแล้ว.... ซึ่งผมมองว่าแปลกนะ  ทำไมถึงยอมให้เค้าทำแบบนี้ได้... คนไทยจะเข้ามาเลย์เซียทีต้องตรวจแล้วตรวจอีก  รถยนต์เข้าไปวิ่งก็ต้องกลับเป็นวันๆไป  ยกเว้นว่าทำเรื่องตามขั้นตอน  ... แล้วยังมีอีกหลายๆเรื่อง ที่ให้อภิสิทธ์กับต่างชาติมากกว่าคนในประเทศด้วยซ้ำไป  หรือง่ายๆเลย  ร้านขายของ,ให้บริการ  บางร้านคนไทยเดินเข้าไป  ไม่มีการดูแลหรือหนักหน่อยก็ไม่ให้คนไทยเข้าใช้บริการ...  ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้  ทั้งที่อยู่ในประเทศไทย ....ลองคิดดูครับ แปลกนะ  ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้  ถ้าไม่เพราะความนิยมทุน  บูชาเงินตรา 

เขียนซะยาว  บอกสามคำครับว่า  ผมจะ "เสียใจมาก"  เมื่อเวลานั้นมาถึง  เวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงจากประเทศไทย  กลายเป็นอย่างอื่น  มีรูปลักษณ์  รูปแบบการปกครอง  วัฒนธรรม  เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด  ซึ่งบอกตรงๆว่า  "มันสายไปแล้วจริงๆ ณ ขณะนี้"  ที่จะทำให้ประเทศไทยไม่มีความเปลี่ยนแปลง  แต่เราจะทำอย่างไรให้เกิดความเปลี่ยนแปลงโดยที่ส่งผลกระทบกับคนไทย  รากเง้าความเป็นไทย  และวัฒนธรรมไทย  ให้น้อยที่สุด 

เราทุกคนที่ติดตามการเมือง  การปกครอง  เหตุการณ์บ้านเมือง  จะรู้เลยในความรู้สึกลึกๆ  ว่า  จะต้องเกิดความเปลี่ยนแปลงกับประเทศไทยขึ้นในไม่นานนี้(ไม่เกิน 10-30 ปี อย่างแน่นอน)  และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงจนถึงการนองเลือดก็เป็นไปได้  แต่อย่างว่า  เราจะทำอย่างไรให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด  ประยุกต์อย่างไรให้มันกลมกลืนกับความเป็นประเทศเรามากที่สุด  ผมหวังว่าจะได้เห็นวันนั้นโดยที่คนไทยจะเป็นประชาชนชั้นหนึ่ง  สามารถดำรงค์ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีในประเทศของตนเองได้  มีวัฒนธรรมที่แข็งแรง  ถ้าเราทำได้  ต่างชาติจะเกรงและให้ความเคารพเรามากขึ้นครับ

เคยคิดเหมือนกัน  ถ้าไทยเราปฏิวัติ  ปิดประเทศ  ปกครองแบบเผด็จการสัก 5 ปีนะ  แ้ล้วเปิดประเทศอีกทีนะ  ไทยเราจะมีพื้นฐานความคิด  การดูแลพัฒนาประเทศ  จะทำได้ดีกว่านี้มากเลยล่ะ  ยังคิดอยู่เลยว่าไทยเรา  มีประชาธิปไตยเร็วเกินไปรึป่าว  มันถึงได้กลายเป็นแบบนี้

คิดแล้วน่าเศร้านะ  ที่เราเกิดมาในช่วงนี้  ต้องมาเห็นความเปลี่ยนแปลง  ความแตกแยกของคนในชาติได้ถึงขนาดนี้ 

ผมชอบความเห็นคุณนะ.... 

[ไม่สน]

มั่วฉิบ ยังดูASTV อีกหรือ หัดดูโลกภายนอกบ้างก็ดี ถ้าไม่ดีจริงคนเขาไม่เพิ่มทุกวันหรอก พวกคุณตายังมัว ไปหลงเชื่อไอ้ ปชป. มันเป็นรัฐบาลมีอะไรดีบ้างในบ้านเรา

[แมน2]

มั่วฉิบ ยังดูASTV อีกหรือ หัดดูโลกภายนอกบ้างก็ดี ถ้าไม่ดีจริงคนเขาไม่เพิ่มทุกวันหรอก พวกคุณตายังมัว ไปหลงเชื่อไอ้ ปชป. มันเป็นรัฐบาลมีอะไรดีบ้างในบ้านเรา

ไหนรบกวนช่วยให้คำจำกัดความหน่อยครับ กับคำว่าโลกภายนอกที่คุณหมายถึงมันคืออะไร เอาแบบมีเหตุมีผลนะ ถ้าแบบ
ตรรกที่ว่า" ถ้าไม่ดีจริงคนเขาไม่เพิ่มทุกวัน" แบบนี้ไม่เอานะ
ถ้าถามผม ดูหมดนะ astv nation tnn voice news หรือพวกฟรีทีวี แต่จะเลือกดูเป็นบางรายการเท่านั้น น่ะ