ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับน้ำผึ้ง

[Finslot]

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำประมาณรู้อยละ 20 และน้ำตาล ชนิดต่างๆ เช่นกลูโคสฟรุกโตส และลีวูโลส ประมาณร้อยละ 79 โดยมีปริมาณน้ำตาล "ฟรุกโตส" มากกว่าน้ำตาล "กลูโคส" เล็กน้อย ทำให้น้ำผึ้งไม่ตกผลึก กรดชนิดต่างๆ ประมาณ ร้อยละ 0.5 ทำให้น้ำผึ้งมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย โดยกรุดที่ พบมาก คือ กรดกลูโคนิก วิตามิน เอนไซม์ และแร่ธาตุ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ประมาณ ร้อยละ 0.5 โดยน้ำผึ้งที่มีสีเข้มจะมีปริมาณแร่ธาตุสูงกว่าน้ำผึ้ง ที่มีสีอ่อน น้ำผึ้ง 100 กรัม จะให้พลังงาน 303 แคลอรี
ประโยชน์สารพันจากน้ำผึ้ง
ความหวานจากธรรมชาติ น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางยา คือ สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ต่างๆได้เพราะมีความข้มขันของน้ำตาลสูงช่วยกำจัดปริมาณน้ำ ที่แบคทีเรียใช้ในการเจริญเติบโต รวมถึงน้ำผึ้งมีความเป็นกรดสูง และมีปริมาณโปรตีนต่ำ จึงทำให้แบคที่เรียไม่ได้รับไนโตรเจนที่ จำเป็น นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังมีสารไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และ สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต ของแบคทีเรีย และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งด้วย ดังนั้น เมื่อเราใช้น้ำผึ้งทาบาดแผลจึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ และ ทำให้แผลไม่เกิดการอักเสบ ปัจจุบันได้มีการพิสูจน์และใช้กัน อย่างกว้างขวาง ทั้งในวงการแพทย์อเมริกาและยุโรป รวมทั้ง เป็นหนึ่งในกระสายยาสำคัญในหลายประเทศของเอเชีย ทั้งจีน ญี่ปุ่น และประเทศไทย
         น้ำผึ้งมีความหวานที่ขึ้นชื่อว่าได้มาจากธรรมชาติและไม่ ผ่านกระบวนการทางเคมีล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายแทบทั้งสิ้น ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นยาบำรุงร่างกายและ ยังเป็นตัวช่วยเสริมความงาม แต่การที่จะเลือกใช้น้ำผึ้ง เพื่อให้ เกิดคุณค่าที่แท้จริงกับร่างกายเรานั้น จะต้องมีการเรียนรู้และ วิธีการเลือกน้ำผึ้งให้ถูกหลักเช่นกัน


วิธีการเลือกน้ำผึ้งที่ดี
เพื่อให้ได้น้ำผึ้งแท้และได้รับประโยชน์จากน้ำผึ้งมาก ที่สุด มีวิธีดังนี้ 1.ชิมน้ำผึ้ง ถ้าออกรสขมหรือมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวแปลกๆ แสดงว่าน้ำผึ้งนั้นมีการเก็บไว้นานเกินไป เพราะน้ำผึ้งที่ดีจะต้อง มีกลิ่นหอม รสชาติหวานจากเกสรดอกไม้ 2.ลองเขย่าขวดถ้าเป็นน้ำผึ้งชนิดที่ดีจะมีลักษณะข้นเป็น เนื้อเดียวกันหรือไม่ให้สังเกตลักษณะน้ำผึ้งเวลาเทออกจากขวด ถ้าเป็นน้ำผึ้งดี เวลาเกจะมีความหนืดเหนียวและมีการไหลช้า แสดงว่าไม่เน่าเสียแน่นอน 3. อย่าเลือกซื้อน้ำผึ้งที่ตกผลึกกั้นขวดเด็ดขาด เพราะ นั่นหมายถึงน้ำผึ้งขวดนั้น ได้ถูกเก็บมานานเกินไป

การทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
เพราะน้ำผึ้งแท้นั้นจัดเป็นของหายากและมีความต้องการ มากกว่าการผลิตได้ตามธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุให้มี การปลอมปนน้ำผึ้งกัน โดยน้ำผึ้งปลอมจะถูกปนน้ำตาล แบะแซ น้ำตาลทรายเดี่ยวหรือคาราเมล ลงไปในน้ำผึ้งแท้ การตรวจสอบน้ำผึ้งว่าเป็นน้ำผึ้งแท้หรือไม่นั้น สามารถ ทำได้ด้วยวิธีดังนี้
1. เขย่าขวดคูฟองอากาศและการแยกชั้น โดยน้ำผึ้งแท้ จะมีฟองอากาศใหญ่ ลอยตัวเร็ว ไม่เห็นการแยกชั้นของน้ำผึ้ง ส่วนน้ำผึ้งปลอมจะมีฟองอากาศมาก ลอยตัวช้า มองเห็นการ แยกตัวเป็นชั้น (การทดสอบการไม่เข้ากันของน้ำตาล)
2. การหยดน้ำผึ้งลงบนกระดาษทิชชูเพื่อตรวจดูการซึม ผ่าน โดยที่น้ำผึ้งแท้นั้นจะซึมผ่านช้ามาก แต่น้ำผึ้งปลอมจะซึม ผ่านเร็วหรือทำให้กระดาษทิชชูขาดทะลุเนื่องจากมีปริมาณของ น้ำเจือปนมาก (การทดสอบการเจือปนปริมาณน้ำในน้ำผึ้งแต่ อาจไม่สามารถใช้จำแนกน้ำผึ้งที่ปูนแบะแซหรือคาราเมลได้
3. เอาหัวไม้ขีดไฟมาจุ่มน้ำผึ้ง แล้วนำไปจุดติดไฟที่ข้างกลัก โดยน้ำผึ้งแท้ไม้ขีดนั้นจะสามารถจุดไฟติด ส่วนน้ำผึ้งปลอมจะ จุดไฟไม่ติด
4. การเอาน้ำผึ้งหยุดลงในแก้วใส่น้ำเย็นโดยน้ำผึ้งแท้จะ รวมเป็นก้อนจมลงก้นแก้วและค่อยๆ ละลาย ส่วนน้ำผึ้งปลอมเมื่อหยดลงน้ำจะกระจายตัวทันที เนื่องจากมีการยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อยกว่าน้ำผึ้งแท้
5. การทิ้งให้ตกผลึกทั้งน้ำผึ้งแท้และน้ำผึ้งปลอมตกผลึกได้ แต่รูปแบบของผลึกที่เกิดขึ้นนั้นจะมีความแตกต่างกัน เช่น นำ ผึ้งแท้จะมีรูปของผลึกเป็นเหลี่ยมเป็นแท่งที่แหลมคม ส่วนผลึกของน้ำผึ้งปลอมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลทราย หรือคาราเมล (น้ำตาลเดี่ยว) จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู แต่ต้องดู ด้วยกล้องจุลทัศน์จึงจะมองเห็นส่วนน้ำผึ้งปลอมที่เกิดจากแบะ แชจะไม่มีการตกผลึก สนับสนุนบทความสาระความรู้โดย https://www.finslot.com/
เว็บ สล็อตออนไลน์ https://www.finslot.com/[/b]]https://www.finslot.com/


วิธีการเก็บรักษา ไม่ควรจะเก็บน้ำผึ้งไว้นานเกิน 2 ปี สามารถเก็บไว้ใน อุณหภูมิห้องปกติ ไม่จำเป็นต้องเข้าตู้เย็นให้เสียวลา แต่ข้อห้าม ไม่ควรโดนแสงแดด เพราะจะเกิดปฏิกิริยาทำให้น้ำผึ้งเสียคุณค่า ทางอาหารก่อนที่เราจะได้รับประทานเข้าไป

[Finslot]

สนับสนุนบทความสาระความรู้โดย https://www.finslot.com/
เว็บ สล็อตออนไลน์ Finslot