หลายหน่วยงานลงพื้นที่ ศูนย์มุฑิตาฯ หลังเกิดคลัสเตอร์ โควิด-19 ติดเชื้อผู้สูงอายุ

[kaidee20]

วันนี้ (15 ส.ค.) พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.เขต 1 จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม นายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภอเมืองนครปฐม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลนครนครปฐม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ที่ศูนย์มุฑิตา เนอสซิ่งโฮม สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ เอกชน ที่ตั้งอยู่บนถนนอุดรวิถี ซอย 6 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม

เพื่อตรวจสอบและให้กำลังใจหลังจากที่ บิณฑ์-เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ พร้อมด้วยทีมส่งต่อลมหายใจ มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำทีมลงมาช่วยเหลือผู้สูงอายุและพี่เลี้ยงด้วยการนำเอาถังออกซิเจนมามอบให้ 2 ถังเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมีการรายงานข้อมูลนำเสนอข่าวว่า ในสถานที่ดังกล่าวมีผู้ติดเชื้อ 20 กว่าคนและมีผู้สูงวัยเสียชีวิตไปแล้ว 6 ราย

โดยจากการเข้าตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวเป็นการจัดการของเอกชน แบ่งเป็น 2 อาคาร ซึ่งได้มีการรับดูแลผู้สูงอายุ โดยมีผู้สูงอายุทั้งสิ้น 37 รายและขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 24 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม 8 รายและรักษาตัวภายในศูนย์มุฑิตาฯ จำนวน 14 รายและมีพี่เลี้ยงที่ติดเชื้อ 12 ราย ผู้สูงอายุที่ยังไม่ติดเชื้อ 13 ราย พี่เลี้ยง 4 ราย โดยได้แยก 2 กลุ่มออกจากกันซึ่งสาเหตุที่มีการติดเชื้อมีผู้สูงอายุรายใหม่เข้ารับการฟอกไตและกลับมาพักในสถานที่ดังกล่าว ซึ่งมีผู้สูงอายุ ที่เสียชีวิตไปแล้วรวมทั้งหมด 5 ราย และเมื่อวานมีการตรวจหาเชื้อก็พบมีติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย
วันนี้ทาง พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.เขต 1 จังหวัดนครปฐม ได้นำอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็น รวมทั้ง หน้ากากอนามัยจำนวน 2,000 ผืน เจล แอลกอฮอล์ ข้าวสารอาหารแห้ง มอบให้เบื้องต้น จากนั้นได้ประสานให้เจ้าหน้าที่หน่วยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อมาพ่นน้ำยาภายในและบริเวณโดยรอบให้ หลังจากทราบว่ามีประชาชนใกล้เคียงมีความวิตกกับสถานการณ์ดังกล่าว

นายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เผยว่าสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นเบื้องต้นได้มีการรับข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลนครปฐมและเทศบาลนครนครปฐม ในการรับผู้ป่วยเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลนครปฐม 8 ราย ส่วนผู้ป่วยที่ได้ให้กลับมารักษาตัวที่ศูนย์มุฑิตาฯ เนื่องจากเป็นผู้ป่วยติดเตียงการรักษาตัวที่ศูนย์ฯ นั้นมีความสะดวกมากกว่าทั้งการควบคุมพื้นที่และการจัดเอ๊กเรย์ปอดเพื่อดูอาการซึ่งได้มีการจัดพยาบาลให้มีการติดตามผลอยู่ต่อเนื่อง

ส่วนเรื่องการจัดการด้านยาก็จัดให้มีการนำยา ฟาวิพิราเวียร์ มาใช้รักษาอาการแล้ว โดยได้ประสานงานกับเทศบาลนครนครปฐมอยู่ตลอดรวมถึงมี อสม.ได้มีการจัดอาหารเข้าให้และวนเวียนมาดูต่อเนื่องซึ่งถือว่า การบริหารจัดการที่นี่ดีมากอยู่แล้ว ส่วนที่ขาดตอนนี้คือจะเพิ่มเติมเครื่องผลิตออกซิเจนสำรองมารองรับไว้ให้ในยามจำเป็นเร่งด่วนแล้ว สำหรับประเด็นความวิตกของประชาชนโดยรอบตอนนี้ในพื้นที่มีการประสานให้เทศบาลนครนครปฐมดำเนินการให้แล้วเช่นกัน

ด้าน พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.เขต 1 จังหวัดนครปฐม เผยว่าหลังทราบข่าวได้สอบถามไปยังเทศบาลนครนครปฐม ทราบว่ามีการดำเนินการในการจัดทีมตรวจโรค ซึ่งเมื่อวานนี้ทราบว่ามีการนำเจ้าหน้าที่มาทำการ Swab หาเชื้อให้แล้วซึ่งก็มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อให้ภายใน ซึ่งวันนี้ทราบว่ามีประชาชนรอบข้างเกิดความวิตกจึงได้ประสานให้มีการนำเจ้าหน้าที่มาฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ โดยรอบด้านหน้าให้อีกและจะมีการดำเนินการให้อย่างต่อเนื่องแน่นอน วันนี้ก็ได้มาให้กำลังใจกับเจ้าของกิจการและทางเจ้าหน้าที่ ที่ลงมาทำงานในการตรวจสอบและให้การช่วยเหลือประสานงาน

โดยขอให้พี่น้องประชาชนอดทนในช่วงนี้เพราะสถานการณ์ตอนนี้รุกลามบานปลายไปเยอะ แต่ก็ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและรัฐบาลโดยเป็นไปได้ขอให้กักตัว หยุดเชื้อเพื่อชาติ โดยตนเองได้ลงพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อนำสิ่งที่จำเป็นไปมอบให้และเฝ้าจับตาสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและพร้อมจะให้การช่วยเหลือทันทีที่ทราบข้อมูล