ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ผู้เเทนพระราชินีเยี่ยมเหยื่อคาร์บอมโรงเเรมลีกร์เด้นส์

เริ่มโดย JaY_SoniC, 18:18 น. 03 เม.ย 55

JaY_SoniC

ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มอบสิ่งของพระราชทาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

วันที่ 3 เม.ย. 55 เวลา 13.30 น. ที่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในการมอบสิ่งของพระราชทานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา จำนวน 52 ชุด โดยมอบให้กับผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จำนวน 13 ชุด , โรงพยาบาลกรุงเทพ-หาดใหญ่ จำนวน 5 ชุด , โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี จำนวน 12 ชุด , โรงพยาบาลหาดใหญ่ จำนวน 10 ชุด และโรงพยาบาลศิครินทร์ จำนวน 12 ชุด

นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์ฯ กล่าวกับผู้ได้รับบาดเจ็บว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงมีความห่วงใยราษฎรที่ประสบเหตุระเบิดเป็นอย่างยิ่ง จึงได้มีพระกระแสรับสั่งให้นำสิ่งของพระราชทานมามอบให้ในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ทุกคนหายในเร็ววัน

ด้าน นายอุย ฟุกฉวน(Mr.Oui Fook Chuan) อายุ 33 ปี ชาวมาเลเซียหนึ่งในผู้บาดเจ็บที่ได้รับสิ่งของพระราชทานในวันนี้(3เม.ย.55) กล่าวถึงความรู้สึกว่า ตนเองปลาบปลื้มและซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงห่วงใยและมอบสิ่งของพระราชทานให้ในครั้งนี้ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงหลังจากนั้นเลขาธิการสภากาชาดไทยได้เดินทางไปเยี่ยมและมอบสิ่งของพระราชทานแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-หาดใหญ่  , โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี , โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลศิครินทร์               
เด็กวัยสองเดือนปลอดภัย

สำหรับจำนวนผู้บาดเจ็บขณะนี้เหลือที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่างแค่54 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยหนัก19 ราย ส่วนอาการของ ด.ช.กันต์ณภัทตร์ อินทรสุวรรณ อายุ 2 เดือน ล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้วและแพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออกแต่ยังมีอาการปอดติดเชื้อมีเสมหะหลอดลมบวมคาดว่าอีก1 สัปดาห์จะออกจากโรงพยาบาลแต่ต้องระวังเรื่องปอติดเชื้อซ้ำซ้อนและผู้แทนพระองค์ยังได้นำกระเช้ามามอบให้ด้วย ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงห่วงใยผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน

เคลียร์พื้นที่โรงแรมให้รับรถคืน

ส่วนบรรยากาศที่หน้าโรงแรมลีการ์เดนท์พลาซ่าเจ้าหน้าที่เปิดพื้นถนนบริเวณรอบโรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่ากลับมาสัญจรได้ตามปกติแล้ว ขณะเดียวกันทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ประกาศให้เจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่นำเข้าไปจอดไว้ในลานจอดรถใต้ดินชั้นบี 1-บี 5 ของโรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินและนำรถออกมาได้แล้ว ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดีเคลียร์พื้นที่ลานจอดรถแล้วเสร็จ โดยมีประชาชนเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาเฝ้ารอรับรถหลายร้อยคนตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

แต่ในวันนี้อนุญาตให้เฉพาะนำรถจักรยานยนต์ออกเท่านั้น ส่วนรถยนต์นั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้นำรถออกมาจากลานจอดรถชั้นใต้ดินได้ เนื่องจากมีหลายคันที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และเพื่อความเป็นระเบียบ แต่เจ้าของรถยนต์สามารถลงไปดูสภาพรถ และตรวจสอบทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถได้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้มีเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ต่างทยอยมารับรถและตรวจสอบทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถกันอย่างต่อเนื่อง

วิศวกรรมสถานส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจโครงสร้างอาคาร

ขณะที่นายสุกิจ วัฒนาวงศ์  ผู้อำนวยการสำนักการช่างเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธามาร่วมตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรมอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะบริเวณชั้นใต้ดินที่เกิดเหตุระเบิดว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่หรือต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างส่วนใดบ้างเพื่อความปลอดภัย

อาจต้องทุบบี 2 และ บี 3

ด้าน นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนคร (ทน.) หาดใหญ่ เปิดเผยว่า ที่ได้เชิญวิศวกรจากคณะวิศวกรรมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(มอ.)เข้าไปตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรมลีการ์เดนส์แล้ว โครงสร้างยังแข็งแรง มีเฉพาะชั้นบี 2และบี 3 ที่ได้รับแรงระเบิดอาจจะต้องทุบทิ้ง แต่จะต้องรอวิศวกรชุดใหญ่ที่มีเครื่องมือพร้อม เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งในเร็วๆนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจ

จัดงานทำบุญใหญ่ 5 เม.ย. นี้

นายไพรเปิดเผยว่ารัฐบาลจะส่งตำรวจชุดเฉพาะกิจจากส่วนกลาง มาวางแผนร่วมกับตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองในท้องถิ่นเพื่อรักษาความปลอดภัยและรักษาความสงบ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์  ส่วนผลกระทบในระยะสั้นและ ระยะยาวเสียโอกาสในการลงทุนนั้นมีแน่นอนแต่ประมาณค่าไม่ได้   จึงต้องเร่งฟื้นฟูหาดใหญ่ให้เร็วที่สุดเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา ในวันที่ 5 จะมีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป  อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ และเดินหน้าจัดงานมิดไนท์สงกรานต์
ทราบชนิดระเบิดแล้ว

ด้าน พล.ต.อ.วีรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและติดตามความคืบหน้าของคดีโดยระบุว่า จากการตรวจวัตถุพยานในที่เกิดเหตุพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ชนิดเอ็มโฟ ใช้สารแอมโมเนียในเตรทผสมน้ำมันบรรจุถังแก๊สขนาด15 กิโลกรัม จำนวน 2 ถัง ส่วนการสืบสวนเกี่ยวกับคนร้ายนั้นเจ้าหน้าที่กำลังหาเบาะแสของผู้ต้องสงสัยจากภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพไว้ได้โดยทั้งสองคนเป็นแนวร่วมที่มีประวัติอยู่แล้ว จากนั้นจึงเดินทางไปประชุมชุดสืบสวนสอบสวนที่สภ.หาดใหญ่เพื่อดูความคืบหน้าของคดี

รู้ตัว 2 มือบึ้ม

อย่างไรก็ตามมีรายงานจากชุดสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจภูธร จ.สงขลา ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวสองคนร้ายที่ขับรถคาร์บอมแล้วจากเบาะแสของกล้องวงจรปิดโดยทั้งสองคนมีความเชี่ยวชาญในการก่อวินาศกรรมและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากประเทศที่สาม และลักษณะของคาร์บอมต้องการที่จะให้เกิดความสูญเสียมากที่สุด เนื่องจากจุดที่คนร้ายขับรถลงไปจอดบริเวณชั้นบี3 นั้นเป็นจุดกึ่งกลางบริเวณลานจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดินทั้ง5 ชั้น โดยต้องการที่จะให้แรงระเบิดกระจายในลักษณะของโดมิโน่ลุกลามไปติดรถยนต์คันอื่นๆที่มีน้ำมันเบนซิหรือติดแก๊ส ซึ่งจะทำให้ไฟไหม้รุนแรงมากขึ้น

เก๋งคาร์บอมประกอบจากรือเสาะ

สำหรับรถเก๋งที่ใช้ก่อเหตุนั้นเจ้าหน้าที่เผยว่า ประกอบระเบิดคาร์บอมในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมๆกับรถยนต์กระบะอีกคันที่เตรียมนำไปก่อเหตุที่ว่าการอำเภอแว้ง จ.นราธิวาส แต่เกิดประสบอุบัติเหตุระหว่างทางเนื่องจากลักษณะการประกอบระเบิดใกล้เคียงกันสำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมส์ที่อ.หาดใหญ่ นั้นมีอย่างน้อย5 คน โดยในจำนวนนี้ที่เจ้าหน้าที่ทราบชื่อแล้วคือ นายสบาเฮ นายิง ชาวอ.สะบ้าย้อย และนายเจะมะ หรือไคโร หรือมาค่อม ยานิ  ชาวอ.จะนะ ซึ่งมีหมายจับคดีลอบยิง นายสุนันท์  แก้วละเอียด นายช่างชลประทานลางา ในพื้นที่ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา

ผู้ว่าตั้งค่าหัวคนร้าย 1 ล้าน

ด้าน นายกฤษฎา บุญราช  ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งสองคนๆคนละ5 แสนบาท ขณะเดียวกันได้เรียกประชุมหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จ.สงขลา เพื่อเดินหน้าฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่และหามาตรการรักษาความปลอดภัย โดยได้ขอให้ห้างร้านต่างๆปรับปรุงทางเข้าออกให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งจะง่ายต่อการควบคุม และจัดเจ้าหน้าที่มาอบรม รปภ.เกี่ยวกับการตรวจสอบยานพาหนะ  และกิจกรรมต่างๆที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้เช่นเทศกาลสงกรานต์ก็ยังคงมีเหมือนเดิม

ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่

ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตนั้นจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามมติของ ครม. เมื่อปี 48 โดยผู้เสียชีวิตหรือเป็นข้าราชการรายละ5 แสนบาท ส่วนประชาชนรายละ1 แสนบาท ผู้บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวเกิน20 วันจ่าย 5 หมื่นบาท หากน้อยกว่า20 วัน ก่อนจะลดหลั่นกันไป
โดยในเบื้องต้นทางจังหวัดได้ช่วยเหลือให้กับผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้ง 337 คน ไปแล้วรายละ14,000บาท ส่วนกรณีของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียก็จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน ส่วนทรัพย์สินของประชาชนที่เสียหายนั้นจะจ่ายให้ตามความเป็นจริงโดยสามารถแจ้งได้ที่กองอำนวยการหน้าห้างลีการ์เด้นส์พลาซ่าหรือหากเกิน 7 วัน ให้ไปแจ้งที่อำเภอ

เผาศพนักท่องเที่ยวมาเลเซีย

และในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ที่วัดศรีสว่างวงศ์ หรือ วัดเกาะเสือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายโล เกียง โฮ ชาวมาเลเซียที่เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่า ซึ่งเสียชีวิตพร้อมกับ นางยุพิน  พุทธิมา ภรรยาชาวไทย ซึ่งได้นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหลักเขต เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา โดยในพิธีฌาปกิจได้มีพี่ชายและญาติเดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย โดยประสงค์ที่จะให้มีการฌาปณกิจที่ อ.หาดใหญ่ และนำอัฐิกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อที่บ้านเกิดในรัฐเคดาห์ประเทศมาเลเซีย ขณะเดียวกันตัวแทนของทางโรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่าได้มอบเงินจำนวน1 แสน5 หมื่นบาทช่วยเหลือครอบครัวของนายโลเกียงโฮด้วย สำหรับ นายโลเกียงโฮ นั้นทำธุรกิจส่วนตัวรับเหมาก่อสร้าง

ผอ.ศอ.บต. ปัดไม่ได้คุยกับแกนนำบีอาร์เอ็น

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยถึงเรื่องที่มีการเสนอข่าวว่า ตนเองไปเจรจากับแกนนำบีอาร์เอ็น ว่า เรื่องที่มีการนำเสนอข่าวเป็นเรื่องที่ไม่มีความเป็นจริง ที่ผ่านมาตนเดินทางไปพบ กลุ่มคนหลายฝ่าย ทั้งในประเทศและในประเทศมาเลเซีย แต่ไม่ใช่แกนนำของ บีอาร์เอ็นฯ อย่างที่เป็นข่าว ที่มาเลเซียตนไปพบกลุ่ม "ต้มยำกุ้ง" ซึ่งเป็นคนใน 3 จังหวัด ที่ไปประกอบอาชีพเปิดร้านอาหารในมาเลเซีย เพื่อช่วยเหลือ ให้ทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย เพราะมีจำนวนมากที่เข้าไปอยู่ไม่ถูกต้อง ส่วนในพื้นที่ มีการพบปะพูดคุยกับ ผู้นำกลุ่มต่างๆ เพื่อทราบปัญหา ที่จะต้องแก้ไข แต่ไม่มีการพูดคุยกับ แกนนำ ของ บีอาร์เอ็นฯ และที่มีข่าวว่า มีการตั้งนายนัจมุดดีน อูมา อดีต สส.พรรคเพื่อไทยเป็นที่ปรึกษา ก็ไม่เป็นความจริง ตั้งแต่มารับตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. ยังไม่มีการแต่งตั้งใครเป็นที่ปรึกษาแม้แต่คนเดียว ส่วนการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นยอมรับว่ามี เพราะถือว่าทุกคนมีส่วนในการร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
/////

puiey

โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวที่สอง:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง