ใช่หรือ? ที่คุณสามารถลากสายเน็ตเวิร์กได้เกิน 100 เมตร

[kaidee20]

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทาง Fluke เคยเขียนบล็อกด้านสายเคเบิลที่เกี่ยวกับข้อยกเว้นของกฎที่นิยามยาวของแชนแนลรับส่งข้อมูลอยู่ที่ 100 เมตร พร้อมกับข้อเท็จจริงที่ว่าคุณไม่สามารถลากสายเต็มความยาวที่จำกัดนี้ได้เนื่องจากว่ามีต้นสายปลายเหตุอื่นมาเกี่ยวพันอาทิเช่นการเพิ่มของอุณหภูมิ ขนาดลวดตัวนำ แล้วก็ค่าการสูญเสียสัญญาณข้างในสาย ค่าความต้านทาน DC ที่เกี่ยวข้อง แต่ว่าทราบหรือไม่ว่าคุณก็สามารถลากให้ยาว "เกินกว่า" 100. เมตรได้ด้วยเช่นกัน? มาดูกันว่ามีกรณีไหนบ้าง

สาเหตุที่ควรตื่นตระหนก
หนึ่งในปริศนาที่พบมากจากแผนกซัพพอร์ตด้านเทคนิคของ Fluke ก็คือ ทำไมการทดสอบความยาวสาย (Length) ไม่ขึ้นว่าไม่ผ่านในกรณีที่ลิงค์ถาวรยาวเกิน 90 เมตร หรือตลอดทั้งแชนแนลส่งสัญญาณนั้นกินระยะเกินกว่า 100 เมตร

ถ้าเกิดคุณมองผลของการทดลองลิงค์ถาวรในตัวอย่างด้านล่าง ก็จะเห็นได้ว่ามีค่าความยาวที่วัดได้ต่างกันอยู่ 4 ค่าสำหรับทั้งยัง 4 คู่สาย ซึ่งเป็นที่รู้เรื่องกันได้เนื่องมาจากแต่ละคู่สายโทรศัพท์ต่างมีอัตราการเข้าบิดเกลียวแตกต่างกัน ถ้าเกิดนำออกาคลายเกลียวออกแล้วยืดสายให้ตึงสุด ความยาวที่วัดได้ก็ย่อมต่างกันอยู่แล้ว ตามมาตรฐานนั้นจะวัดว่าผ่านไหมผ่านจากค่าความยาวเส้นที่สั้นที่สุด ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเครื่องทดลองนี้ถึงดูแค่คู่สายโทรศัพท์ที่วัดความยาวได้ 90.8 เมตร แล้วปิดบังข้อมูลของคู่สายอื่นออก

แต่ว่าถ้าหากจะคิดว่าค่าความยาวคู่สายที่สั้นที่สุดที่ 90.8 เมตรนี้ก็ยังนับว่ามากยิ่งกว่าค่าลิมิตของลิงค์ถาวรที่อยู่ที่ 90 เมตร แล้วเพราะอะไรถึงไม่ขึ้นผลว่าไม่ผ่าน?

เรื่องของ กฎ 10%
ในมาตรฐาน ANSI/TIA-1152 ในหัวข้อเกณฑ์ของเครื่องไม้เครื่องมือทดลองหน้างาน และการตรวจวัดระบบสายเคเบิลแบบบิดเกลียวคู่ที่สมดุลนั้น ค่าขีดจำกัดของความยาวลิงค์ถาวรจะคิดจากค่าลิมิตที่ตั้งไว้รวมกับค่าความไม่เที่ยงหรือ NVP ที่คิดอยู่ 10% โดย NVP นี้ย่อมาจากค่า Nominal Velocity of Propagation ที่ระบุในรูปของเปอร์เซ็นต์ บอกถึงลักษณะความเร็วสำหรับในการส่งต่อสัญญาณบนสายเคเบิลคิดเป็นสัดส่วนต่อความเร็วแสงในสุญญากาศ ที่เป็นกลไกของเครื่องทดลองที่ใช้คำนวณความยาวของสายเคเบิลนั่นเอง

ด้วยเหตุว่าความเร็วแสงสว่างในสุญญากาศถือเป็นความเร็วเยอะที่สุดซึ่งสามารถทำเป็น ทำให้ค่า NVP จำเป็นจะต้องต่ำกว่า 100% อยู่เสมอ เราควรจะตั้งค่าใช้สเปก NVP ที่ผู้ผลิตสายเคเบิลกำหนดให้ ซึ่งเป็นได้ตั้งแต่ 56 ถึง 78% แล้วแต่การออกแบบของสายเคเบิลนั้นๆโดยอุปกรณ์ที่ทำฉนวนสายเคเบิลแต่ละแบบก็มีค่า NVP เป็นของตนเอง ทำให้เป็นค่าที่ค่อนข้างจะกว้าง จึงมักตั้งค่า NVP ได้ไม่ค่อยถูกต้อง และเป็นที่มาว่าเพราะอะไรมาตรฐาน ANSI/TIA-1152 ถึงเปิดทางเผื่อค่าความไม่เที่ยงของ NVP อยู่ที่ 10% ถ้ายังคิดภาพตามไม่ออกว่า NVP ส่งผลต่อเครื่องทดลองอย่างไร ทดลองนึกว่ารายงานที่ใช้ค่า NVP ที่ 60% สำหรับลิงค์ถาวรยาว 80 เมตรนั้น ถ้าหากเปลี่ยนแปลงมาใช้ค่า NVP ที่ 78% ก็จะมีผลให้รายงานค่าความยาวสายกลายเป็น 98.7 เมตรอย่างยิ่งจริงๆ

การที่มาตรฐาน ANSI/TIA-1152 กำหนดมาตรฐานความยาวสูงที่สุดพอๆกับค่าข้อจำกัดธรรมดารวมกับค่าถัวเฉลี่ยความไม่แน่นอนของค่า NVP ที่ 10% ด้วยเหตุนี้ค่าความยาวของลิงค์ถาวรจะไม่ทำให้ผลของการทดลองไม่ผ่านจนกระทั่งจะเกิน 90 เมตรรวมกับอีก 10% หรืออีกแง่หนึ่งคือ ค่าความยาวของลิงค์ถาวรจำเป็นที่จะต้องยาวเกินกว่า 99 เมตรถึงจะขึ้นว่าไม่ผ่าน แล้วก็ทำให้ค่าระยะของตลอดแชนแนลก็จำเป็นจะต้องยาวเกิน 110 เมตรตามไปด้วยถึงทำให้ผลการทดสอบล้มเหลว



อย่ายึดติดกับความยาวสายมากเกินไป
ผู้จัดตั้งบางรายออกจะวิตกกังวลกับใจความสำคัญความยาวสายนี้ แม้กระนั้นข้อเท็จจริงนั้นการตั้งค่า NVP กระทบกับแค่การวัดความยาวสายเพียงแค่นั้น "ไม่เกี่ยว" กับค่าพารามิเตอร์อื่นทดสอบได้ แล้วก็ตัวเครื่องใช้ไม้สอยที่ใช้งานสายเคเบิลก็ไม่มานั่งสนใจเรื่องความยาวสายด้วย พึงพอใจแค่ค่าพารามิเตอร์ด้านคุณภาพการใช้แรงงานที่เรื่องความยาวสายอาจมีผลเพียงแค่นั้น เช่นค่าการสูญเสียพลังงานข้างในสาย (Insertion Loss) และค่าดีเลย์ในการส่งต่อสัญญาณ (Propagation Delay)

ดังนั้นถ้าเกิดค่าเหล่านี้ผ่านการทดสอบแล้ว จะมัวกลุ้มใจเกี่ยวกับความยาวลิงค์ถาวรที่เกิน 90 เมตรกันอีกหรือ? จริงๆแล้ว มาตรฐาน ISO/IEC ก็ไม่ได้ระบุความผ่าน/ไม่ผ่านจากความยาวสายแต่อย่างเดียว ถึงแม้แน่นอนเราไม่ควรหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองมาเปิดทางให้ลากสายได้ยาวถึง 99 เมตร แต่ด้านเทคนิครวมทั้งยังนับว่ายอมรับได้จนกว่าค่าพารามิเตอร์ด้านประสิทธิภาพยังผ่านการทดสอบ ซึ่งเป็นค่าหลักในการวินิจฉัยว่าลิงค์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วรองรับรูปแบบของการนำไปใช้งานที่อยากได้ได้ไหม แต่ถ้าหากคุณลองพยายามลากลิงค์ถาวรให้เต็มที่ถึง 99 เมตรแล้ว ก็มีลัษณะทิศทางสูงที่ผลของการทดลองค่าพารามิเตอร์ด้านสมรรถนะที่เกี่ยวโยงกับความยาวสายจะไม่ผ่านตามไปด้วย ซึ่งเครื่องไม้เครื่องมืออย่าง Fluke Networks' DSX CableAnalyzer™ จะบอกหัวข้อนี้ให้คุณเอง