การเงินไม่มีสะดุด ด้วยการการสมัคร สินเชื่อเงินด่วนส่วนบุคคล

[waanbotan_]

เมื่อเราอวยพรกัน เชื่อว่าเรื่องเงิน เป็นสิ่งที่อยู่ในคำอวยพรอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าใครก็อยากให้ชีวิตการเงินราบรื่น แต่อนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เหตุการณ์ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้เสมอซึ่งบางครั้งก็อาจจะทำให้สะดุดจนขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพของตนเองหรือคนในครอบครัว รถเสีย บ้านต้องซ่อมแซม หรือธุรกิจหมุนเงินไม่ทัน เราจะหาทางออกเรื่องการเงินได้อย่างไรบ้าง
สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นการกู้เงินด่วนที่ที่ต้องใช้ค้ำประกันรวมไปถึงขั้นตอนการ กู้เงิน ที่แสนวุ่นวาย ทำให้หลายคนใช้ช่องทางอื่นเพื่อหมุนเงินมาเสริมสภาพคล่องแทน ปัจจุบันมีเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้การขอสินเชื่อเป็นเรื่องง่าย อนุมัติไว ได้วงเงินสูง และไม่ต้องค้ำประกัน นั่นคือ สินเชื่อส่วนบุคคล

สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นสินเชื่อเงินสดที่เหมาะสำหรับผู้ซึ่งกำลังมองหาแหล่งเงินทุนสำรองไว้ใช้จ่าย ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ ทั้งยังไม่ต้องค้ำประกัน เพียงแค่เตรียมเอกสารส่วนตัวและเอกสารทางการเงินยื่นให้กับธนาคารเพื่อขอใช้บริการสินเชื่อเงินด่วนส่วนบุคคล ซึ่งธนาคารจะใช้เวลา 1 - 2 สัปดาห์ในการพิจารณาอนุมัติ และเมื่อผ่านการอนุมัติเรียบร้อยแล้วธนาคารจะโอนเงินสินเชื่อซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่เข้าบัญชีให้เพื่อนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ โดยผู้กู้ต้องทยอยผ่อนชำระหนี้คืนเป็นงวด ๆ ด้วยจำนวนเงินเท่ากันทุกงวดจนครบตามระยะเวลาที่กำหนดในกรอบเวลาตั้งแต่ 12 - 72 เดือน ตามเงื่อนไขข้อตกลง เนื่องจาก สินเชื่อส่วนบุคคล ไม่ต้องค้ำประกันจึงมีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูงโดยมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 28% ต่อปี และคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันแบบลดต้นลดดอกตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเงินโอนเข้าบัญชี
โดยเราต้องเตรียมเอกสารที่เกี่ยวกับรายได้ซึ่งหากเป็นข้าราชการหรือพนักงานประจำที่มีสลิปเงินเดือนหรือใบรับรองเงินเดือนก็ไม่น่ากังวลใจ หากมีอาชีพอิสระไม่ได้รับเงินเดือนประจำควรเพิ่มเอกสารสัญญาจ้างและหลักฐานการรับเงินค่าจ้างในการยื่นกู้ หากทำธุรกิจส่วนตัวแล้วอยากได้เงินก้อนมาลงทุนเพิ่มหรือช่วยเสริมสภาพคล่องก็สามารถยื่นแผนธุรกิจเพื่อประกอบการพิจารณาได้เพราะหากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มดีจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น ซึ่งธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อกู้เงินด่วนหรือไม่ วงเงินมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับรายได้ทั้งหมด ประวัติการผ่อนชำระ รวมทั้งความสามารถในการชำระหนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

แต่การเป็นหนี้นั้น เป็นสิ่งที่ต้องบริหารจัดการการเงินเป็นอย่างดี และควรควรดูภาวะความจำเป็นที่เกิดขึ้นก่อนตัดสินใจยื่นกู้และเลือกสินเชื่อให้เหมาะสมเพื่อลดปัญหาดอกเบี้ยสูง อย่าลืมเปรียบเทียบเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยจากหลาย ๆ สถาบันการเงิน ที่สำคัญภาระหนี้ไม่ควรมากกว่า 1 ใน 3 ของรายได้ และอย่าลืมชำระหนี้เมื่อมีเงินก้อนเนื่องจากช่วยลดภาระการจ่ายดอกเบี้ยได้