ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

คู่มือคำนวณสินเชื่อรถยนต์: รู้ก่อนขอ กู้แบบสบายใจ

เริ่มโดย sirawat@yangdee.co, 14:40 น. 07 มี.ค 68

sirawat@yangdee.co

อยากซื้อรถใหม่แต่ยังไม่แน่ใจเรื่องสินเชื่อ?
การขอสินเชื่อรถยนต์เป็นทางเลือกยอดนิยมที่ช่วยให้คุณสามารถมีรถเป็นของตัวเองได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินสดก้อนใหญ่ในครั้งเดียว แต่การขอสินเชื่อที่ดีไม่ได้หมายถึงแค่การได้รับอนุมัติเท่านั้น คุณจำเป็นต้องเข้าใจการคำนวณสินเชื่อรถยนต์ให้ถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าเงื่อนไขนั้นเหมาะสมกับคุณและไม่สร้างภาระทางการเงินในอนาคต

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดู วิธีคำนวณสินเชื่อรถยนต์ อย่างละเอียด ตั้งแต่ คำนวณค่างวด ดอกเบี้ย เงินดาวน์ ระยะเวลาผ่อน และยังมีเทคนิคต่างๆ ที่ช่วยให้คุณเลือกสินเชื่อที่ดีที่สุดสำหรับคุณอีกด้วย!

🚘 สินเชื่อรถยนต์คืออะไร?
สินเชื่อรถยนต์คือเงินกู้ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินปล่อยให้ผู้ซื้อรถยนต์ โดยจะใช้ตัวรถเป็นหลักประกันในการกู้เงิน คุณสามารถเลือกซื้อได้ทั้ง รถใหม่ และ รถมือสอง ซึ่งสินเชื่อแต่ละแบบจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

ประเภทของสินเชื่อรถยนต์
✔️ สินเชื่อรถยนต์ใหม่ – วงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 100% ของราคารถ ดอกเบี้ยต่ำกว่ารถมือสอง
✔️ สินเชื่อรถยนต์มือสอง – มักต้องดาวน์มากกว่ารถใหม่ และอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นเล็กน้อย
✔️ สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ – สำหรับคนที่ต้องการลดภาระค่างวดหรือขยายระยะเวลาผ่อน

📊 วิธีคำนวณค่างวดสินเชื่อรถยนต์
ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ คุณควรรู้ว่าแต่ละเดือนต้องจ่ายค่างวดเท่าไหร่ โดยใช้สูตรคำนวณดังนี้:

𝐶
=
𝑃
×
𝑟
(
1
+
𝑟
)
𝑛
(
1
+
𝑟
)
𝑛

1
C=P×
(1+r)
n
 −1
r(1+r)
n
 

 
โดยที่:
✅ C = ค่างวดที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน
✅ P = ยอดเงินกู้ (ราคารถ - เงินดาวน์)
✅ r = อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน (ถ้าเป็นอัตรารายปี ให้หารด้วย 12)
✅ n = จำนวนเดือนที่ต้องผ่อน

📌 ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติว่าคุณต้องการซื้อรถราคา 700,000 บาท โดยวางเงินดาวน์ 20% และขอสินเชื่อที่ดอกเบี้ย 3% ต่อปี ผ่อน 60 เดือน

👉 เงินดาวน์ = 20% ของ 700,000 = 140,000 บาท
👉 ยอดเงินกู้ = 560,000 บาท
👉 อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน = 3% ÷ 12 = 0.0025
👉 ระยะเวลาผ่อน = 60 เดือน

แทนค่าลงในสูตร คุณจะได้ค่างวดรายเดือนประมาณ 10,070 บาท

หากต้องการลดค่างวดรายเดือน คุณสามารถ ขยายระยะเวลาผ่อน หรือ เพิ่มเงินดาวน์ ได้

💰 อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ คำนวณอย่างไร?
ประเภทของดอกเบี้ยในสินเชื่อรถยนต์
✅ ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate)
คิดดอกเบี้ยจากยอดเงินต้นเดิมทุกเดือน เช่น อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี หากคุณกู้ 500,000 บาท คุณจะต้องจ่ายดอกเบี้ย 15,000 บาท/ปี เท่ากันตลอดระยะเวลาผ่อน

✅ ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate)
คิดดอกเบี้ยจากยอดเงินที่เหลือหลังจากชำระค่างวดไปแล้วทุกเดือน ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะลดลงเรื่อยๆ เพราะเงินต้นลดลง

📌 ตัวอย่างเปรียบเทียบ

ถ้าผ่อน 60 เดือน (5 ปี) กับ Flat Rate 3% ดอกเบี้ยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 90,000 บาท
ถ้าผ่อนแบบ Effective Rate 3% ดอกเบี้ยรวมอาจอยู่ที่ 80,000 - 85,000 บาท
💡 เคล็ดลับ – หากคุณวางแผนโปะหนี้เร็ว ควรเลือกดอกเบี้ยแบบ Effective Rate เพราะช่วยลดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายรวมได้มากกว่า

💸 เงินดาวน์: จ่ายมากดีกว่าหรือจ่ายน้อยดี?
เงินดาวน์ คือเงินที่คุณต้องจ่ายเองก่อนขอสินเชื่อ โดยทั่วไปธนาคารกำหนดให้ดาวน์ขั้นต่ำ 10-30% ของราคารถ

✅ ดาวน์มากขึ้น = ค่างวดต่อเดือนลดลง + ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายลดลง
✅ ดาวน์น้อย = ผ่อนยาวขึ้น + ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายสูงขึ้น

📌 ตัวอย่างเปรียบเทียบ

ซื้อรถ 800,000 บาท วางเงินดาวน์ 20% (160,000 บาท) จะกู้ 640,000 บาท
ซื้อรถ 800,000 บาท วางเงินดาวน์ 10% (80,000 บาท) จะกู้ 720,000 บาท
หากดอกเบี้ย 3% ต่อปี ผ่อน 60 เดือน ค่างวดในกรณีดาวน์ 20% จะอยู่ที่ 11,500 บาท/เดือน
แต่ถ้าดาวน์ 10% ค่างวดจะเพิ่มเป็น 13,000 บาท/เดือน

💡 คำแนะนำ: หากคุณมีเงินก้อน ควรจ่ายเงินดาวน์ให้มากขึ้นเพื่อลดภาระค่างวดและดอกเบี้ยรวม

🕵� เทคนิคเลือกสินเชื่อรถยนต์ที่ดีที่สุด
✅ เปรียบเทียบดอกเบี้ยจากหลายธนาคาร – ธนาคารแต่ละแห่งมีเงื่อนไขต่างกัน ควรเลือกที่ดอกเบี้ยต่ำที่สุด
✅ ตรวจสอบค่าธรรมเนียม – บางแห่งอาจมีค่าธรรมเนียมการปิดหนี้ก่อนกำหนด
✅ เลือกระยะเวลาผ่อนที่เหมาะสม – ไม่ควรเลือกผ่อนยาวเกินไปจนดอกเบี้ยรวมสูงเกินจำเป็น
✅ คำนวณค่างวดให้ไม่เกิน 30-40% ของรายได้ – เพื่อให้การผ่อนสบายและไม่กระทบค่าใช้จ่ายอื่นๆ
✅ พิจารณาสินเชื่อรีไฟแนนซ์ในอนาคต – ถ้าดอกเบี้ยลดลง อาจรีไฟแนนซ์เพื่อลดค่างวดได้

📌 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์
🔹 สมัครสินเชื่อรถยนต์ต้องมีรายได้เท่าไหร่?
✅ รายได้ขั้นต่ำควรอยู่ที่ 15,000 - 20,000 บาท/เดือน ขึ้นไป

🔹 ถ้ามีภาระหนี้อื่นอยู่แล้ว ยังขอสินเชื่อรถยนต์ได้ไหม?
✅ ได้ แต่ต้องดูอัตราหนี้ต่อรายได้ (DTI) ไม่ควรเกิน 50% ของรายได้ต่อเดือน

🔹 สามารถโปะหนี้ก่อนได้ไหม?
✅ ได้ แต่บางธนาคารอาจมีค่าปรับปิดหนี้ก่อนกำหนด

🔹 อายุเท่าไหร่ถึงจะขอสินเชื่อรถยนต์ได้?
✅ ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป และไม่เกิน 65 ปี ณ วันสุดท้ายของการผ่อน

🎯 สรุป: การคำนวณสินเชื่อรถยนต์ให้เหมาะสมกับคุณ
✔️ เลือกสินเชื่อที่ดอกเบี้ยต่ำและเงื่อนไขดี
✔️ กำหนดเงินดาวน์ที่เหมาะสมเพื่อควบคุมค่างวด
✔️ เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมก่อนตัดสินใจ
✔️ คำนวณค่างวดให้เหมาะสมกับรายได้ของคุณ

หากคุณเข้าใจการคำนวณสินเชื่อรถยนต์ คุณจะสามารถเลือกสินเชื่อที่เหมาะกับคุณที่สุด และทำให้การผ่อนรถเป็นเรื่องง่าย ไม่เป็นภาระในระยะยาว