ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ป้ายห้ามจอดหน้าบ้าน (แถวโรงเรียนดังในเมือง)

เริ่มโดย ถนนของใคร, 09:02 น. 11 มิ.ย 55

นายไข่นุ้ย

DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ลุงแกลบ

อ้างจาก: ใจเขาใจเรา เมื่อ 07:44 น.  19 มิ.ย 55
ตัวเองมีบ้านอยู่ต่างจังหวัดกลางใจเมืองเลย หน้าบ้านเป็นขาวดำ จอดได้ และเก็บรถในบ้านด้วย ถ้าวันใหนจะใช้รถก้อตื่นมาเอารถออกจอดหน้าบ้านตอน6โมงเช้า ถ้าไม่ใช้รถก็จอดในบ้าน และอยู่มาตั้งแต่เกิดไม่เคยแขวนป้่ายห้ามใครจอดเลย เพราะ มันคือถนนเทศบาล ทุกคนมีสิทธิ์จอดครับ ไม่เคยห้ามใครเลย

ตามน้ั้นครับ ทำเหมือนกัน แต่จะดีกว่านี้ถ้าหันมาใช้รถสาธารณะกัน

เห็นใจ


ถ้าเจ้าของบ้านติดป้ายกรุณาอย่าจอดเป็นเวลา ก็น่าจะดีนะ เพื่อเจ้าของรถจะได้จอดรถบนถนนสาธารณะในเวลาที่เหลือได้ และถ้าเจ้าของบ้านจะเข้าออกในเวลาฉุกเฉิน แล้วเจ้าของรถเองก็มีเบอร์โทรติดไว้ หรือปลดเกียร์ว่างไว้ ก็น่าจะดีเป็นที่สุดนะ

บังไอซ์

พวกกางหรางที่ไปจอดขวางบ้านเพื่อน ทะเลาะกันถูกยิงตายก็หลายรายแล้ว

นางงามสามร้อยศพ

จริง ๆ แล้วตามกฎหมาย  ถึงเค้าไ่ม่ติดป้ายห้ามจอดหน้าบ้าน  เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปจอดหน้าบ้านเค้านะคะ  เคยดูรายการตอบปัญหาทางกฎหมายของอาจารย์ประมาณ  เคยพูดถึงเรื่องนี้ด้วย  แกบอกว่า  ถึงถนนจะเป็นที่สาธารณะที่เราทุกคนสามารถจอดได้ก็ตาม  แต่ถ้าทางสาธารณะนั้น  มีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเรียกว่า " ที่อยู่อาศัย หรือบ้าน " ปลูกอยู่  ตามกฎหมายก็จะกลายเป็นห้ามจอดไปโดยปริยายค่ะ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ

แดงเทียม

 ถนนเป็นที่สาธารณะครับ ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของบ้านที่อยู่ติดถนน
ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่า ทางเท้าหน้าบ้านก็กลายเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของบ้านนั้นหรือครับ

edward

การจอดรถถึงจะเป็นที่สาธารณะแต่ถ้าขวางทางเข้าออกบ้าน ถือว่ามีความผิดฐานกีดขวางการจราจรครับ

สามารถแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายได้เลย ชัวร์ๆ ไม่มั่วนิ่ม  ส.ยกน้ิวให้

ขุนศึก

อ้างจาก: edward เมื่อ 15:37 น.  10 ก.ค 55
การจอดรถถึงจะเป็นที่สาธารณะแต่ถ้าขวางทางเข้าออกบ้าน ถือว่ามีความผิดฐานกีดขวางการจราจรครับ

สามารถแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายได้เลย ชัวร์ๆ ไม่มั่วนิ่ม  ส.ยกน้ิวให้

จากข้อกฎหมายที่ว่า ขอขยายความเกี่ยวกับคำว่าจอดขวางทางเข้าออกที่ผิดกฎหมายนั้น คำว่าจอดรถกีดขวางทางเข้าออกนั้นจะต้องหมายถึงทางเข้าและออกที่เทศบาลเว้นทางให้นะครับ เช่นทางเข้าออกห้างร้านหรือหมู่บ้าน ไม่ใช่จอดริมฟุตบาตรที่เจ้าบ้านทำทางเข้าออกแบบสะพานปูนสะพานไม้หรือสะพานเหล็กเอาเอง แบบนั้นไม่ผิดครับ

พฤติกรรมข้างบ้าน

ข้างบ้านที่ติดกัน ทั้ง ด้านซ้าย และ ด้านขวา  เอาสิ่งของน้ำหนักมาก เช่นยางรถยนต์ที่เทปูนไว้ข้างใน หรือ ถังสี ที่เทปูนไว้ข้างใน ยากแก่การเคลื่อนย้าย มาวางขวาง หน้าบ้านตัวเอง จำนวน 3 จุด ต่อบ้าน วางห่างจากทางเท้าล้ำไปบนถนนประมาณ 1 เมตร ทั้ง 3 อัน วางไว้ตลอด 24 ชั่วโมง  ภายในบ้านของทั้ง 2 บ้านมีรถยนต์ จอดทิ้งไว้ ไม่ค่อยได้เอาออกจากบ้าน บ้านด้านซ้ายมือ มากกว่า 3 เดือนแล้วที่ไม่เคยเอารถยนต์ออก เขาใช้แต่มอเตอร์ไซค์ บ้านนี้จะเปิดขายอาหาร 5 โมงตอนเย็นถึง 3 ทุ่ม เวลากลางวันจะปิดบ้านไว้ทั้งวัน  ส่วนบ้านด้านขวา จะเอารถยนต์ออกทุก ๆ วันอังคาร ใน 1 สัปดาห์ จะเอารถยนต์ไปใช้แค่ 1 ครั้ง  บ้านนี้อยู่อาศััยอย่างเดียว  ปกติใช้มอเตอร์ไซค์  ส่วนบ้านผม ไม่ได้วางอะไรขวาง 

มีหลายครั้งมีรถที่วิ่งมาจอดไม่ทันมองว่ามีสิ่งของขวางอยู่ ชนเข้าหลายต่อหลายราย กันชนเป็นแผล นึกแล้วสงสารเขาจัง แต่ไม่เห็นมีใครลงไปไวยวายกับเจ้าของบ้านสักราย

ก็แปลกใจว่า ที่หน้าบ้าน ไม่ใคร่มีใครมาจอด กลางวันจะว่างตลอด  จะมีรถมาจอดก็ต่อเมื่อบริเวณนั้นไม่มีที่จอดจริงๆ ซึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก

ที่น่าแปลกอีกอย่าง ไม่เคยเห็นเทศกิจมาจัดการอะไรเลย นับแต่ที่เขาวางมานี่เป็นปีแล้ว

เห็นใจทั้งสองฝ่าย

ผมเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะ  แต่เรื่องแบบนี้จะว่ากันตามกฏหมายมันก็ยุ่ง บ้านเมืองเรากฏหมายตั้งเยอะแยะที่บังคับใช้ไม่ได้
จะมีสักกี่คนที่เอาเรื่องนี้ไปเป็นคดีความ  เว้นแต่มันทำให้เจ้าของบ้าน หรือเจ้าของรถโดนยิงตายนั่นแหละ ถึงจะเป็นข่าว

จูกรีนเวย์

ฝ่าย"โจทย์"กับ"จำเลย"ว่ากันไปคนละหนุบสองหนุบแล้ว "เจ้าภาพ"ล่ะครับ ไม่ออกมาพูดอะไรบ้างหรือครับผม...หรือจะให้เรื่องนี้ถึงครูอังคณา..หือม ส.งอน

จูกรีนเวย์

สำหรับผม...เรื่องนี้ ถ้าจะเอาประเด็น"เอาใจเขา-มาใส่ใจเรา"ละก็ ไม่จบครับ แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ มันต่างมีเหตุผลร้อยแปดพันประกันเถียงกันก็ไม่จบหมด
โจรขับรถชิงสร้อยตอนกลางคืน ก็ต้องเห็นใจทั้งสองฝ่าย คุณออกมาทำอะไรดึกๆดื่นๆ ยามวิกาล คุณใส่ทองหยองมาทำไม ขับรถออกมาคนเดียวได้อย่างไร โจรจริงๆมันเป็นคนดีหรอก แต่มันจำเป็นต้องหาเงินไปรักษาพ่อแม่ที่ป่วยอยู่ ฯลฯ เชื่อผมเถอะมันไม่มีจบ ประเด็นปัญหาคือ เรื่องนี้ต้องมีการ"ฟันธง"ถึงจะ"แก้ปัญหา"หรือหาทางออกที่แท้จริงได้ ถกกันสามฝ่าย ทุกฝ่าย รวมถึงสำคัญ"เจ้าภาพ"คือเทศบาลหรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเอง อย่าเอาแต่การแก้ปัญหาไปวันๆครั้งๆทีๆ รังแต่จะพอกพูนปัญหาครับ ลองคิดแบบสามัญสำนึก ต้องยอมได้(อย่าง)เสีย(อย่าง) ถ้าจะห้ามจอด(โดยปริยาย)ทุกถนนหน้าบ้านก็ต้องเป็นพื้นที่หวงห้ามทั้งหมด ใช่หรือไม่ แต่ถ้าเป็นพื้นที่สาธารณะ มีเส้นจอดรถ ก็ต้องเป็นของทุกคนทุกวันเวลาที่สามารถจอดได้ ใช่หรือไม่ มันไม่ใช่ประเด็นใครมีรถไม่มีรถ ต้องเข้าออกไม่เข้าออก หรืออ้างความจำเป็นใดๆ ถ้าอ้าง รถต้องออกไปธุระ ไปส่งคนป่วย คนที่มาจอดรถเค้าก็มีความจำเป็นต้องหาที่จอดรถใกล้ ให้ทัน ร้อยแปดพันประการเหมือนกัน...ลองว่ากันดูคร่าวๆอีกทีนะครับ สำหรับผม"ฟันธง"เรื่องนี้ได้เลย แต่เมือแก้ปัญหาไปทางใดแล้ว ก็ต้องหาทางออกให้กับฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ ให้เข้าใจ ยอมรับ และใช้ความเด็ดขาดในทางกฎหมายหรือมติร่วมกันของสังคมส่วนใหญ่ฯลฯ ครับผม ส.มองลอดแว่น

จูกรีนเวย์

ปล.อันที่จริง อันนี้เป็นปัญหาของประเทศเลย ไม่เฉพาะแต่พื้นที่หาดใหญ่ ปัญหาคือ กฎหมายบ้านเมือง กฎหมายผังเมือง กฎหมายจราจร ยังมีลักษณะอยู่ใต้"อภิสิทธิ์ชน"อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าการวางอำนาจ(เขียนป้าย)-ข่มขู่(ด่าว่า)-อ้างความจำเป็น(อ้างรถเข้าออก)-ความเห็นแก่ตัว(ตั้งข้าวของอุปกรณ์)
สมมุติจะลองให้แก้ปัญหาแบบหนึ่ง เช่น หน้าบ้านไหนมีรถเข้า-ออก ต้องไปขึ้นทะเบียน(จ่ายภาษีรายวันรายปีที่สูงอะไรก็แล้วแต่) แล้วทางเทศบาลจะเว้นที่ให้โดยไม่ขีดเส้น หรือตีเส้นขาวแดง ปัญหาคือ บ้านที่ไม่มีรถ ต่อไปจะมีรถขึ้นมาทุกบ้าน หลายบ้านจะทำอย่างไร แล้วบ้านที่มีรถ ก็ใช่ว่าจะร่ำรวย-ยากจนเท่าเทียมกัน อย่าลืมว่าคนเดี๋ยวนี้ก็มีรถกันได้ไม่ยาก ลองไปศึกษาดูบ้านเพื่อนเมืองเพื่อนเขาบ้างก็ได้ ว่าปัญหานี้เค้ามีไหม และแก้ปัญหากันอย่างไร เรื่องนี้ผม"เลือกข้าง"ชัดเจน และคิดว่าเป็นเรื่องที่จะต้องแก้ไขแบบ"เอาจริง" ถึงจะเห็นว่าจริงๆแล้วผู้บริหารบ้านเมืองเรานั้น มี"กึ๋น"มีความสามารถจริงอย่างที่อวดอ้างโฆษณาเวลาหาเสียงหรือไม่ ลองคิดดู ส.มองลอดแว่น

จูกรีนเวย์

ผมฝากถึงว่าที่นายกฯคนใหม่ที่จะมาเป็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ด้วยแล้วกัน ว่าจะมีแนวนโยบาบในการแก้ไขปัญหาระเบียบจราจรของตัวเมืองหาดใหญ่อย่างไร เพราะเท่าที่เห็นที่ผ่านมานายกฯคนก่อนๆก็ไม่เคยเห็นทำอะไรที่มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเลย เริ่มตั้งแต่ง่ายๆ เรื่องเดียวก่อนเลย การจัดเก็บค่าจอดรถ พนักงานไม่ใคร่มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เขียนวันเวลา ทะเบียนรถ รายละเอียดในใบเสร็จจอดรถ,เพียงแต่เซ็นลายเซ็นต์ แถมเอาเสียบไว้หน้ารถเอง แล้วเก็บเอาไปเวียนต่อหรือก็ไม่ทราบ,ไม่เคยแจ้งว่าจอดนานเท่าใดต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใด แต่มักเรียกเก็บเลยสองใบ(สิบบาท) หนำซ้ำบางคนก็เรียกเก็บเงินเฉยๆโดยไม่ให้ใบเสร็จด้วยซ้ำไป ถ้าไม่ทวง พอทวงก็ทำทีไม่พอใจ(หาว่าเราเรื่องมาก,ห้าบาทสิบบาทให้กันไม่ได้)เป็นเรื่องประจำ,ถ้าท่านไม่ได้รู้เห็นเป็นใจหรือมีตื้นลึกหนาบางอะไร-ก็จะต้องไม่เพิกเฉย หรืออย่างน้อยก็ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่เป็นที่ทราบทั่วๆไปบ้างแล้วเป็นอย่างน้อย กี่ปีๆๆ ก็ยังทำไม่ได้ ไม่เคยทำ ฯลฯ ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ...หรือท่านถนัดแต่ "เล็กๆไม่ ใหญ่ๆ.....(เติมคำในช่องว่างกันเอาเองละกัลลล์) ส.ปิดปาก

ขอดูโฉนดมันสิ

อ้างจาก: ถนนของใคร เมื่อ 09:02 น.  11 มิ.ย 55
     ป้ายที่ติดอยู่หน้าบ้านมากมาย คือ ห้ามจอดรถขวางประตู!!!!! ไม่ทราบว่าจริงๆถนนเป็นของใคร เพราะ คุณทำเช่นนี้ประชาชนส่วนใหญ่จะเดือดร้อนกับการหาที่จอดรถไม่ได้และต้องจอดซ้อนสอง บนถนนแทน และในที่สุดก้อต้องเป็นปัญหาการจราจรติดขัด!!!!!นี่ มันเป็นความเห็นแก่ตัวของพวกเจ้าของบ้านที่มีสตังค์แต่ซื้อบ้านในตัวเมืองใช่หรือไม่????
      ตัวเองได้ประสบปัญหานี้มาตลอดหลายปีที่มีลูกเล็กๆและต้องส่งทุกเช้า และรับทุกเย็น และวันนี้ก้ออีกครั้งที่ต้องประสบเหตุตอน 7 โมงเช้า บริเวณตรงข้ามร้านคอมฯซึ่งอยู่ข้างโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมือง ขณะกำลังจอดรถ ก้อมี เจ้าของบ้่านขี่มอไซต์มาถึงพอดี และก้อมาจอดแปะปิดท้าย และมายืนเคาะท้ายรถ เมื่อเห็นเช่นนั้นก้อคิดจะย้าย แต่ทำไม่ได้เพราะหน้ารถก้อมีรถจอดหลังรถก้อมอไซต์มัน!!! ท่านทราบหรือไม่ว่า จุดที่จอด คือ หน้าบ้่านอีกหลังที่อยู่ติดกันและไม่มีป้ายห้ามจอดติด แต่ท้ายรถดันโผล่เกินไปหน้าบ้านมัน!!!เพียงแค่ฟุตเดียวเท่านั้นเองนี่ขนาดไม่ได้จอดตรงๆหน้าบ้านมัน!!! ก้อเป็นเรื่องจนได้ ในขณะที่ตัวเองถูกปิดท้ายด้วยมอไซต์มัน ตัวเองก้อยังมีความพยายามที่จะถอยเอารถออก แต่ ขอโทษที มัน!!!!!ไม่ยอมถอยมอไซต์ให้ เพราะมัน!!!ตั้งใจเดินมาด่าซ๊า........... มัน!!!ช่าง......จริงๆๆๆๆๆๆๆๆ

     ลูกที่กำลังรอจะลง เพื่อไปทานข้าวเช้าและเข้าเรียน ก้อต้องตกใจกับเหตุการณ์ความ....ของมัน!!!!!
     
     ทำไมสังคมปัจจุบันถึงได้เป็นเช่นนี้น๊า.....คนหน้าตาดีๆๆๆแต่จิตใจช่างแคบๆๆๆๆๆๆๆ ซะเหลือเกิน

ผมคนหนึ่งเคยเจอคับแต่ในตัวเมืองสงขลาซึ่งเต็มไปด้วยคนที่ไม่ทราบแม้กระทั่งบิดามารดาตัวเองว่าชื่ออะไร หรือว่าตัวเขาเองก้อยังไม่ทราบเลยครับเขายังถามผมและตำรวจจราจรที่สงขลาเลย ว่าคุณ  แล้วคุณดาบละรู้ไหมนี่บ้านใครบ้านพ่อผมแล้วรู้ไหมว่าพ่อแม่ผมเป็นใคร แล้วรู้ไหมผมเป็นใคร ยังกล้ามาจอดหน้าบ้านผมอีก

จุ้นจัง

ระวังนะครับ เรื่องจอดรถ มีไข้โป้ง ตัวอย่างก็มีอยู่ เย็นไว้ครับ

จูกรีนเวย์

ยิ่งบอกว่ามีเรื่องไข้โป้งกันเป็นประจำ ขูดขีดรถ ข่มขู่ ด่าว่า...เทศบาลควรต้องสังคายนาเรื่องนี้แล้วล่ะครับ--
จัดเวทีเสวนากันสักตั้ง ครั้งแรกอาจจะหาข้อสรุปไม่ได้ เป็นการประมวลความเห็นกันก่อน ต้องทำครับต้องทำ เพื่อเป็นแผนนำร่องให้กับ ปัญหาซึ่งเป็นทุกแห่งของเมืองใหญ่ๆครับ หลายอย่างที่หลายคนเสนอมาดี เช่น ให้เขียนวันเวลาเข้าออกโดยประมาณ แต่ปัญหามันก็คือ ถ้าเค้ามาจอดเวลานั้นก็เป็นความจำเป็นที่เค้าจะต้องจอดครับ สมมุติง่ายๆมีที่ว่างตรงนั้นพอดี เป็นต้นนะครับ หรือคนที่จอดรถปลดเกียร์ว่าง เขียนเบอร์โทรไว้ ก็อีกนะแหละครับ คันหน้าคันหลังซ้อนอยู่จะปลดยังไงก็เข็นไม่ได้ จะโทรให้เค้ามาเลื่อน ก้เค้าดูหนังอยู่ ก็เค้าทำธุระอยู่ ยังไงก็เป็นเรื่องลำบากอยู่ดี
ปัญหานี้ต้อง"ฟันธง"อย่างเดียวครับ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องมีน้ำใจ-ไม่มีน้ำใจ ใจเขา-ใจเรา เพราะต่างคนต่างว่ากันได้อยู่ดี ต่างก็มีเหตุผลครับ ไม่มีจบ
แก้ไม่ง่ายครับ แต่ถ้าไม่แก้ก็ไม่ได้ครับ ปล่อยไว้ก็รังแต่จะเป็นปัญหา คนมีรถจอดในบ้านก็จะอ้างเหตุผลของเค้า คนจะจอดถึงขวางหน้าบ้านเค้าก็มีสิทธิ์จอดทุกคน-ลงถ้าท่านที่มีบ้านมีรถก็จอดไว้ตรงนั้นซะเลย น่าจะแก้ปัญหาไปได้บ้างสักเปราะ แต่ถ้าไม่กลัวรถหายก็จอดได้ทั้งวันทั้งคืนแหละครับ เสียค่าจอดไปตามปกติ ถ้าท่านอ้างว่าขวางทางเข้าออกรถท่าน คนอื่นก็ว่าท่านก็ขัดขวางการจอดรถของประชาชนทุกๆคนด้วยครับ สมมุตินะครับ นายกฯไพร ไปจอดรถขวางหน้าบ้านท่าน ท่านจะพูดกับนายกฯไพร ว่างัย...ผมอยากได้คำตอบข้อหลังนี้จัง ส.หลก

โป๊ะกัง

มีปัญญาซื้อรถ แต่ไม่มีปัญญาหาที่จอด ทำไมไม่ทำเหมือนมาเลเซียบ้าง ก่อนซื้อรถต้องแสดงสถานที่จอดก่อน ถ้าไม่มีที่จอดรถ ไม่สามารถซื้อรถได้
"...ในโลกใบนี้ ไม่มีคนแปลกหน้าสำหรับเรา มีแต่เพื่อนที่เรายังไม่ได้พบเท่านั้น..."

คนมีจิตสำนึก

ผมว่านะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่จิตสำนึกมากกว่า ไม่จำเป็นหรอกครับว่ามีตำแหน่งสูงใหญ่มาจากไหนแล้วจะมาจอดขวางหน้าบ้านคนอื่นได้นานๆ ผมเองก็เพิ่งโดนมาเมื่อวาน โดนรถยนต์จอดขวางหน้าร้านกินที่จอดลูกค้าไปสองคัน (ต้องบอกก่อนว่าร้านผมเป็นร้านอาหาร หน้าร้านห่างจากถนนเข้ามาค่อนข้างเยอะครับเพื่อจะได้มีที่ให้ลูกค้าจอดรถแนวตรงได้ครับ) จอดแปปเดียวไม่เคยว่าครับนี่เล่นจอดตั้งแต่บ่ายโมงยันหกโมงเย็น ลูกค้าที่ร่้านจอดไม่ได้เลยครับ ตกเย็นพอเจ้าของรถมาปรากฏว่าออกไม่ได้ครับเพราะพี่แกเล่นจอดแนวขวางทั้งที่คนอื่นเค้าจอดเป็นแนวตั้งกัน ข้างๆเจ้าของรถดันเป็นรถแฟนผมด้วยครับ พอดีผมนั่งอยู่หน้าร้าน เจ้าของรถเดินมาไม่ขอโทษสักคำครับ จริงๆถ้าพูดดีๆก็จะเลื่อนให้ แต่นี่มาถึงชี้หน้าผมกับแฟนแล้วบอกว่า"รถน้องใช่มั๊ย เลื่อนด้วย!!" แล้วก็เดินขึ้นรถไป เท่านั้นละครับผมปรี๊ดแตกสวนกลับไปเลยว่าถ้าจะจอดนานๆไปจอดข้างๆร้านสิว่างตั้งเยอะทำไม่ไม่จอด มันลดกระจกครับแล้วพูดจาข่มขู่แล้วก็บรืนเครื่องใส่แล้วก็ขับไป หลังจากนั้นมีคนเดินมาบอกครับว่ามันใหญ่ ผมว่าคนส่วนใหญ่ยึดติดกับยศถาบรรดาศักดิ์มากไปหรือเปล่าครับจนลืมว่าทุกคนอยู่ภายใต้กฏหมาย ปล.รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้พวกกร่างเยอะเกลือเกินครับในหาดใหญ่ อยากให้เจอพวกนักเลงจริงกันบ้างครับ เผื่อมารยาทจะดีขึ้นมาบ้าง

Freemansonry,,

ฟุตบาทที่ว่า มันรวมถึงที่ๆเจ้าของบ้านเว้นไว้เองมั้ย ?

คือแบบซื้อที่มาแล้วสร้างให้มีพื้นที่หน้าบ้านให้นั่งเล่น จอดรถ ได้น่ะค่ะ รวมว่าเป็นสาธารณะมั้ย ?

แอบสงสัยเพราะตอนนี้สร้างบ้านในซอยทวีรัตน์น่ะค่ะ แล้วเว้นที่ไว้ด้านหน้าด้วย

ส่วนเรื่องคนกร่างในหาดใหญ่ เจอเยอะค่ะ วันนี้ก็เจอ

จอดรถซ้อนที่สันติสุข เรามอไซค์จะเอารถออกก็เสียวจะไปเฉี่ยวรถมัน

รถเบนซ์ ป้ายหมวด กร ซะด้วย แถมที่นั่งข้างคนขับ เขาวางเงินไว้ค่ะ แบงค์พันเป็นปึกๆทั้งนั้น

เห็นแล้วไม่สงสัย ถ้าคันนี้มันจะโดนทุบกระจกเอา

จูกรีนเวย์

"มีปัญญาซื้อรถ แต่ไม่มีปัญญาหาที่จอด ทำไมไม่ทำเหมือนมาเลเซียบ้าง ก่อนซื้อรถต้องแสดงสถานที่จอดก่อน ถ้าไม่มีที่จอดรถ ไม่สามารถซื้อรถได้"

ผมว่าคำตอบหรือทางออกควรเป็นลักษณะนี้ เพียงแต่ขอยั้งประเด็น "มีปัญญาซื้อรถ แต่ไม่มีปัญญาหาที่จอดรถ"ไว้นะครับ คือการซื้อรถมันเป็นสิทธิส่วนบุคคล จะรวยจนก็ซื้อหาได้ครับ ไม่สดก็ผ่อน (ไม่ผ่อนก็โดนยึด-ใครหว่ามีอำนาจยึดรถ) แต่คุณต้องยอมรับกฎกติกา คือให้ทุกคนยอมรับร่วมกัน เพราะถ้ามีการห้าม-ห้ามจอดขวางหน้าบ้านไม่ได้ทุกบ้านเหมือนกัน ทุกคนก็จะไม่มีใครอ้างใคร เพราะทุกคนต้องปฏิบัติเหมือนกัน แล้ววางแผนแก้ปัญหา ต้องยอมเสียสละ ที่สำคัญคือต้องไม่อยู่เหนือตัวบทกฎหมาย
แต่ปัญหาคือมันไม่มีอะไรออกมา ให้รับรู้รับทราบ เป็นข้อตกลง เป็นกฎระเบียบที่ถูกต้อง ชัดเจน และเป็นธรรม ในเบื้องต้นเสียก่อน คำก็ต้องเห็นใจกัน ต้องเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา อลุ้มอล่วยกัน คนมันหลากหลาย รถมันมากมาย ร้อยพ่อพันแม่ครับ ความจำเป็นอันหลากหลาย มันหาเหตุผลเข้า-ออกได้ทั้งนั้นวันยังค่ำแหละครับ ไม่จบไม่สิ้น ดังที่มีกรณีปัญหาตลอดทุกวันเวลาขณะนี้ ตัดบทสั้นๆ คำว่าเป็นธรรมก็คือต้องอาศัยกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมู่ หรือตามอำเภอใจของใครคนใดคนหนึ่ง ด้วยเหตุผลส่วนตัว ความจำเป็นใดจำเป็นหนึ่ง โดยต่างคนต่างอ้าง ไม่มีหลักให้อ้าง เทศบาลนครหาดใหญ่ครับ ต้องลงมาดูแล แล้วทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องเป็นราวทีเถอะครับ นี่เป็นปัญหาซึ่งๆหน้าของพี่น้องประชาชนผู้เสียภาษี ที่จะทะเลาะ ฆ่าแกงกันอยู่ร่ำๆนะครับ.... ส.มองลอดแว่น

ใจเขาใจเรา

อ้างจาก: จูกรีนเวย์ เมื่อ 22:43 น.  11 ก.ค 55
สำหรับผม...เรื่องนี้ ถ้าจะเอาประเด็น"เอาใจเขา-มาใส่ใจเรา"ละก็ ไม่จบครับ แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ มันต่างมีเหตุผลร้อยแปดพันประกันเถียงกันก็ไม่จบหมด
โจรขับรถชิงสร้อยตอนกลางคืน ก็ต้องเห็นใจทั้งสองฝ่าย คุณออกมาทำอะไรดึกๆดื่นๆ ยามวิกาล คุณใส่ทองหยองมาทำไม ขับรถออกมาคนเดียวได้อย่างไร โจรจริงๆมันเป็นคนดีหรอก แต่มันจำเป็นต้องหาเงินไปรักษาพ่อแม่ที่ป่วยอยู่ ฯลฯ...


เหตุผลไร้สาระ ครับ
โจรชิงทรัพย์ ต้องเห็นใจทั้งสองฝ่าย ---> ถ้าคุณหรือญาติพี่น้องคุณโดนโจรชิงทรัพย์ แล้วเขาให้เหตุผลดั่งที่คุณว่า และคุณคงจะต้องเห็นใจนะครับ
ทุกคนมีสิทธิ์ออกไปทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ ครับ ไม่ได้อยู่ในระหว่างประกาศ เคอร์ฟิว
โจรชิงทรัพย์ทำผิดกฏหมาย อาญา จะอ้างหาเงินรักษาพ่อแม่ ---> บัตรทองรักษาฟรี มีครับ คนดีเขาไม่ชิงทรัพย์หรอกครับ เขาไม่เรียกคนดีครับ
ยกตัวอย่างเหตุผลมาเทียบไม่เกี่ยวข้องกันเลย

รถยนต์เป็นปัจจัยที่ 5 สำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน  ปัญหาการจอดรถหน้าบ้าน เป็นเรื่องที่แก้ยากครับ ต้องใช้ถ้อยทีถ้อยอาศัย ใจเขาใจเราครับ ตราบใดที่ไม่มีกฏหมายเข้ามาควบคุมชัดเจน (ผู้บริหารกำหนดนโยบายและแก้ไขกฏหมาย ให้สอดคล้องและเหมาะกับสถานการณ์)

คนที่มีรถยนต์ย่อมไม่มีใครอยากจอดรถยนต์หน้าบ้านย่ามค่ำคืน เนื่องจากกลัวถูกโขมย (เหมือนที่คุณยกเหตุผลโจรชิงทรัพย์ไง "คุณออกมาทำอะไรดึกๆดื่นๆ ยามวิกาล คุณใส่ทองหยองมาทำไม ขับรถออกมาคนเดียวได้อย่างไร") และพอนำรถยนต์จอดในบ้าน สึ่งที่ต้องทำต่อมาแน่นอนคือเวลาจะใช้รถยนต์ก็ต้องนำรถออกจากบ้าน แล้วถ้ามีคนจอดขวางหน้าบ้านคุณอยู่คุณจะทำอย่างไร

ผมว่าอย่างไร ก็ควรจะให้สิทธิ์แก่เจ้าบ้าน เนื่องจากเทศบายยังเคยมีนโยบายให้เจ้าบ้านจัดหน้าบ้านตัวเองให้สะอาด น่าอยู่ เก็บทำความสะอาดฟุตบาต ถนนหน้าบ้านตนเอง แสดงว่าหน้าบ้านสิทธิ์ทางเอกยังคงเห็นของเจ้าบ้าน แต่ในความเป็นจริงก็คือของสาธารณะที่ใช้ร่วมกันอย่างเห็นอกเห็นใจกันมากกว่า (เจ้าของรถยนต์เสียภาษีเหมือนกันทุกปีอยู่แล้ว) เจ้าของบ้านควรนำรถตนเองออกแต่เช้าครับ จะได้ไม่เป็นการกัน/จองพื้นที่รถออกทั้งวัน (ซึ่งผมก็ทำอยู่ทุกเช้า)

การแก้ปัญหาถ้าจะนำวิธีจากต่างประเทศมาใช้ เช่น จำกัด 1 บ้านมีรถยนต์ได้ 1 คัน ถ้ามีมากกว่าก็จะเสียที่สูงขึ้น, จะซื้อรถ ต้องมีที่จอดรถ เพื่อจะได้รับอนุญาตให้ซื้อรถได้, หรือรถจากนอกเมืองถ้าจะเข้าเมืองต้องจ่ายค่าเข้าเมือง (ลำพังรถในเมืองไม่มีปัญหาหรอกครับ มีแต่รถจากนอกเมืองเข้ามาในเมือง ที่ทำให้มีปัญหา ที่จอดรถและปัญหาจราจรติดขัด)

การติดป้ายหน้าบ้าน เป็นวิธีที่ผมว่าดีที่สุดในตอนนี้แล้ว คือเป็นการแจ้งให้ผู้มาจอดได้ใช้วิจารญาณในการจอด ถ้าจอดไม่นาน จอดในวิสัยที่มาเลื่อนรถได้ จอดนานติดเบอร์โทร ปลดเกียร์ว่าง เป็นต้น ก็จอดไปได้ เพราะทุกบ้านไม่ใช่จะมีรถจอดในบ้าน แต่ถ้าไม่แขวนป้ายผู้มาจอดรถ จะรู้ได้อย่างไรครับ 

อีกข้อครับ
คุณบอกว่าถ้า คุณไพรมาจอดรถขวางหน้าบ้านคุณ คุณจะทำอย่างไร
ผมถามกลับว่า ถ้าคุณไปจอดรถขวางหน้าบ้านคุณไพร คุณไพร ออกไปทำธุระไม่ได้ ผมก็อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นครับ


ผมถึงบอกว่าใจเขา ใจเราครับ....... คุณจู
คนส่วนใหญ่ที่เขาได้รับข้อมูลว่าจะเอารถออกจากบ้าน แล้วเอาออกไม่ได้ ติดรถจอดขวางหน้าบ้าน เขาเข้าใจความรู้สึกเจ้าของบ้านทั้งนั้นแหละครับ คงไม่เหมือนคุณจู ที่บอกว่าเป็นการอ้างความจำเป็น ซึ่งมันคือเรื่องจริง "ไม่ว่าการวางอำนาจ(เขียนป้าย)-ข่มขู่(ด่าว่า)-อ้างความจำเป็น(อ้างรถเข้าออก)-ความเห็นแก่ตัว(ตั้งข้าวของอุปกรณ์)"