ไม่มีมัน.ไม่มีความขัดแย้ง

[คนไทยต่อต้านคอรัปชั่น]

..คงไม่เกินความเป็นจริงจะกล่าวว่า ความยุ่งยากวุ่ยวายทั้งหลายแหล่ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้เกิดขึ้นจากการกระทำของคนคนเดียว คือนักโทษชายคนนี้ ผู้ใช้ทั้งอำนาจเงินและอำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือเพื่อประโยชน์ตนและพรรคพวกอย่างไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกฎหมาย หรือเรื่องทางคุณธรรมจริยธรรมใดๆที่ควรยึดถือและปฏิบัติตาม นักโทษชายคนนี้เมินเฉยต่อกฎเกณฑ์แห่งความดีงามและความถูกต้องในทุกรูปแบบ ทำให้สังคมไทยและคนไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้กระทั่งในขณะนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก แตกแยกกันเองในระหว่างประชาชนกับประชาชนถึงขั้นปะทะกันด้วยกำลังก็มี

ก่อนที่จะกล่าวถึงเหตุการณ์ต่อจากนี้ไปว่าจะเป็นอย่างไรนั้น ขอทบทวนความเป็นมาของพฤติกรรมต่างๆที่นักโทษชายคนนี้ ได้ก่อขึ้นกับบ้านเมืองให้ทราบเป็นพื้นฐานก่อน เพื่อจะได้เข้าใจไม่หลงลืมสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่คนคนนี้ทำขึ้น และยังทำต่อเนื่องกันมาไม่เคยหยุดแม้จะถูกยึดอำนาจจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 จนต้องเร่ร่อนหลบหนีอยู่ในต่างประเทศขณะนี้ก็ตาม เพราะอดีตจะบอกปัจจุบัน และปัจจุบันจะบอกอนาคต

พฤติการณ์ฉ้อฉล ติดสินบน และเอาเปรียบผู้อื่นมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างความมั่งคั่งแก่ตนเอง ทางธุรกิจผูกขาดสัมปทานดาวเทียม โดยการติดสินบนผู้มีอำนาจสมัยรัฐบาลพลเอก ชาติชาย และรัฐบาลสมัย ร.ส.ช. และนำเข้าไปเล่นแร่แปรธาตุในตลาดหลักทรัพย์ ปั่นหุ้น สร้างราคาจนร่ำรวยอย่างมหาศาล ไม่นับรวมการฉวยโอกาสจากการลอยตัวค่าเงินบาทสมัยรัฐบาลพลเอกชวลิต ได้เงินจากส่วนต่างของค่าเงินนับหมื่นล้านบาทเพียงข้ามชั่วคืน

ธุรกรรมฟอกเงินและซุกหุ้นที่ได้มาจากการทำธุรกิจฉ้อฉลในประเทศ โดยได้ไปเปิดบริษัทบนเกาะบริติช เวอร์จิน และบนเกาะเมอร์ริเชียสรวมหลายบริษัทเพื่อทำการยักย้ายถ่ายแทและฟอกเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องที่รู้กันทั่ว

ความมักใหญ่ใฝ่สูงแนบไร้ขีดจำกัดของคนคนนี้ด้วยการแสวงหาอำนาจทางการเมืองด้วยเงินที่ได้มาดังกล่าว พรรคการเมืองและนักการเมืองที่อยู่ในสังกัดของนักโทษชายคนนี้ ได้ใช้วิธีการหลายอย่างนอกกติการัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นพรรคใหญ่สภา จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544

ใช้อำนาจรัฐที่ได้มาในการสร้างมิติใหม่ขึ้นในบ้านเมืองให้ผู้คนทั้งหลายบูชาเงินกับอำนาจ เมินเฉยต่อกฎเกณฑ์แห่งความดีงามทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการใช้นโยบายประชานิยมให้ประชาชนที่อยู่ห่างไกลข้อมูลข่าวสารยกย่องเชิดชู โดยมิได้มีคำถามอยู่ในหัวของคนเหล่านี้ถึงความดีงามในเชิงศีลธรรม จริยธรรม และความเป็นผู้มีมนุษยธรรมของเขาว่าเป็นอย่างไร

ด้วยความย่ามใจที่ไม่มีใครทัดทานได้ นักโทษชายคนนี้พร้อมด้วยวงศ์วานว่านเครือและบ่าวไพร่ผู้รับใช้ทางการเมืองทั้งหลายจึงถือโอกาสเข้าไปหาผลประโยชน์ในกิจการของรัฐ และกิจการของสาธารณะประโยชน์ต่างๆ แม้กระทั่งกิจการระหว่างประเทศเพิ่มเติมอีก รวมทั้งผลักดันคนในตระกูลและบ่าวไพร่ทางการเมืองเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญๆ ผลักดันเพื่อนร่วมรุ่นทั้งทหารและตำรวจเข้าควบคุมหน่วยงานสำคัญๆ แม้กระทั่งปล่อยให้ลูกเมียและน้องๆเข้าไปวุ่นวายในกิจการต่างๆ ไม่ว่ากิจการของพรรค องค์กรทางสังคม แม้กระทั่งกิจการทางรัฐวิสาหกิจต่างๆจนทำให้ร่ำรวยไปตามๆกัน

ในระดับล่างถูกมอมเมาและสนุกกับการซื้อขายหวย 2 ตัว 3 ตัว และลุ่มหลงกับโครงการประชานิยมซึ่งสร้างแต่หนี้ให้กับคนยากจน

เข้าแทรกแซงกิจการของเอกชน กดดัน และหาวิธีเข้ายึดกิจการเป็นของตนเองเช่นกรณีของ ทีพีไอ รวมทั้งพยายามที่จะให้มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่างๆ เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อการซื้อหุ้นมาเป็นของตนและพรรคพวก เช่นกรณีของ ปตท.

ยามใดที่ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจใคร หรือใครขัดขวางผลประโยชน์ ก็พร้อมจะทำลาย ขู่กรรโชกหรือทำให้สูญหายไป เราจึงเห็นการหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร กรณีล้อมปราบที่มัสยิดหรือเซะ และการล้มตายของชาวบ้านที่ตากใบ

แม้กระทั่งการทำสงครามยาเสพติดที่มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากกว่าสองพันห้าร้อยคนเพียงเพื่อแสดงความจริงจังเด็ดขาดของนโยบาย ทั้งๆที่ผู้คนเหล่านี้จำนวนไม่น้อยอาจเป็นผู้บริสุทธิ์

นี่คือความเลวร้ายของการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมในยุคของนักโทษชายคนนี้ ภายใต้สังคมที่ถูกยัดเยียดให้บริโภคแต่ข่าวสารที่ถูกจำกัดพื้นที่แห่งความเป็นจริง วิ่งตามการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจ การแก้ไขปัญหาด้วยอำนาจจึงเป็นไปได้อย่างกว้างขวางและรุนแรง ขยายตัวไปสู่ความขัดแย้งทางศาสนาในปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งยังคงร้อนระอุมาจนทุกวันนี้

อนุสาวรีย์แห่งความทุจริตคดโกงอย่างมโหฬารที่สุดในยุคเรืองอำนาจของนักโทษชายคนนี้นั้น เห็นจะไม่มีที่ใดเกินสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะตั้งแต่รันเวย์ถึงตัวอาคารและพื้นที่ใช้สอยในสนามบินล้วนแต่เต็มไปด้วยการหาเงินเข้ากระเป๋า เป็นสนามบินอัปยศที่เต็มไปด้วยความทุจริตคอรัปชั่น อิ่มหมีพีมันมาจนทุกวันนี้โดยไม่มีใครแตะ ทั้งๆที่สมัยหนึ่งในยุคของสภานิติบัญญัติแห่งชาติระหว่างปี พ.ศ.2549 – 2550 ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบ และได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้กระทำผิดในเรื่องต่างๆ แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไรในการลงโทษคนผิดเหล่านั้นให้เห็นดำเห็นแดง...

[puiey]

 

[นายไข่นุ้ย]

+10

[ทำได้แค่นี้]

ไม่รู้ใครเป็นใคร ที่โกงกินชาติบ้านเมือง

ไม่เห็นกับตา ไม่สามารถปรักปรำใครได้ กลัวบาปกรรม

ทำได้แค่นี้จริงๆ ขอแช่ง ขอแช่ง ขอแช่ง

ขอให้คนที่โกงกินชาติบ้านเมือง ทั้งที่เห็นๆอยู่ในเมืองไทยและไม่อยู่

ไม่ว่าจะโกงบาทเดียว โกงหมื่นบาท หรือโกงเท่าไหร่ก็ตาม

ขอให้มันผู้นั้นจงพบแต่ความฉิบหายตลอดชีวิต

อย่าได้พบความสุข ความสบาย ความเป็นคนให้ลอยนวลอยู่ได้

ขอให้พบวิบากกรรมในเวลาของชีวิตที่เหลืออย่างสาสม สาธุ สาธุ สาธุ