ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อนุภาพ แห่ง รัก

เริ่มโดย phanuwat, 08:35 น. 26 ส.ค 55

phanuwat

 หลังจากที่เราได้ฟังเรื่องราวของคุณตาและคุณยายของผม ด้วยความรักของคนสองคนที่รักกันมา 70 ปีแม้วันนี้คุณยายผมจะจากไปคุณตาผมที่ยังมีลมหายใจอยู่นั้นยังไม่เคยหมดรักหรือรักคุณยายผมน้องลงไปเลย ด้วยอนุภาพที่เราเรียกว่ารักนั้นเราสามารถทำอะไร ได้หลายๆอย่างทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็ทำได้ ทำในสิ่งที่ไม่ดีเพื่อความรักก็ทำได้ ทำเพื่อปกป้องคนที่เรารักเราก็ทำได้ อะไรบนโลกใบนี้เราสามารถทำได้หมดถ้าจะต้องเพื่อคนที่เรารัก ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องถูกหรือไม่ถูกต้องก็ตาม
     จริงๆแล้วความรักเป็นสิ่งที่หลายๆคนมองเป็นเรื่องสวยงาม มองเป็นสิ่งที่หอมหวานอยากได้มา แต่เมื่อเวลาที่ได้มันมาครอบครองนั้นเราสามารถที่จะรักษามันได้นานขนาดไหน เราสามารถเปิดใจยอมรับกับความรักในสิ่งที่อีกคนเป็นได้มากน้อยแค่ไหน อะไรที่เป็นเกณฑ์วัดว่าความรักนั้นจะต้องเป็นรักที่สมบูรณ์แบบตามที่เราปารถนา ทรัพย์สิน เงินทอง ฐานะ บรรดาศักดิ์ รูปลักษณ์ภายนอก เปลือก นิสัยใจคอ ทัศนคติ จิตใจ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งหมดเล่านี้คือองค์ประกอบทั้งหมดที่สมัยนี้จะต้องมีเพื่อประกอบกับ คำว่ารัก ที่จะมอบให้ ใครที่ยอมรับในสิ่งที่เป็นของกันและกันได้ก็ปรับตัวกันน้อยหน่อย ส่วนใครที่กะเกณฑ์ว่าความรักของเราเองจะต้องมีข้อกำหนดมากมายก็จะเหนื่อยกันหน่อย หลายคนมีข้อกำหนดคนที่จะเข้ามารักเราไว้เยอะ บางคนยอมรับในสิ่งที่แต่ละฝ่ายเป็น หลายๆคนบอกว่างั้นเราปรับครึ่งนึงฉันปรับครึ่งนึงเพื่อให้เรารักกันได้อย่างสมดุล บางคนยอมปรับเพื่อคนที่เรารักเพียงคนเดียวโดยที่เขาไม่ต้องปรับอะไรเลยก็ได้ นี่ก็เป็นตัวอย่างคร่าวๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
     ในโลกของปัจจุบันคนบนโลกใบนี้สามารถเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย สามารถทำมาหากินเลี้ยงชีพกันได้ตัวเอง อัตราการเลิกกัน การหย่าร้างเลยสูงขึ้น มีการสอบถามชายและหญิงชราคู่นึงว่า " ทำไมยายกับตาถึงรักกันมานานถึง 60 กว่าปี ยายก็บอกว่า คนสมัยเราเวลาที่อะไรมันพังนั้นเราจะซ่อม ไม่เหมือนหนุ่มสาวสมัยนี้เวลาที่อะไรมันพัง เขาจะเปลี่ยนใหม่"  นี่คือสิ่งที่ต่างกันว่าเวลาคนสมัยโบราณคนรักที่เขาทะเลาะกันเขาจะซ่อมความรู้สึกของกันและกันมากกว่าการเลิกกันและไปหาคนใหม่ แต่เมื่อการใช้ชีวิตปัจจุบันมันเป็นแบบนั้นการหย่าร้าง การเลิกรากัน การที่เราไม่แคร์ถึงขนบประเพณี วัฒนธรรม แนวคิดตะวันตกเข้าครอบงำ หลายๆคนไม่คิดในสิ่งที่เสียไปแม้ว่าจะเสียให้กับคนที่เขาไม่ได้รักก็ตาม เพียงแต่ทุกวันนี้คิดแค่ว่าชายหญิงเท่าเทียมกัน อะไรที่ชายทำได้หญิงต้องทำได้ ใช้อารมณ์ตัวเองมากำหนดการกระทำ โดยไม่ได้ใช้ความรู้สึกมาเป็นตัวกำหนด สมัยนี้เป็นสิ่งที่เรียกว่าง่ายๆ ขอแค่อารมณ์พาไป ณ.ตอนนั้นก็สามารถไปกับสิ่งที่ไม่ดีได้ โดยไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของกันและกันเลย ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์จนลืมนึกถึงใครบางคนที่อยู่ในความรู้สึก
    สุดท้ายนี้บทความนี้ทางผมได้เขียนเพื่อเตือนสติกับตัวผมเองและเตือนสติกับผู้ที่อ่านนะครับ มิได้มีเจตนาจะดูถูก เหยียดหยามแต่ประการใดเพียงนำประสบการณ์ที่ได้พบเจอมา มาเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ยังสำนึกในสิ่งที่ตัวเองกระทำและสามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ศาสนาอิสลามเขากล่าวว่า " สำหรับลูกเดินไปในทางที่ผิดนั้น พ่อแม่จงกล่าวตักเตือนลูกให้อยู่ในแนวทางที่ดี เพราะผลที่ลูกกระทำไม่ดีนั้น เจ้าผู้ที่ซึ่งเป็นพ่อแม่จะต้องรับผลกรรมที่ลูกของเจ้ากระทำขึ้น อีกทวีคูณ " เวลาที่จะตัดสินใจทำอะไรอย่าลืมคิดถึงผลกรรมที่จะตกกับพ่อแม่ของเราด้วย

Cr. Phanuwat Thanomwong   Pj_mc     26/8/55
บินเท่าที่บินไหว

ทำดีเพื่อพ่อแม่

ใชครับถ้าลูกที่ยังมีชีวิตทำไม่ดีไว้หากพ่อแม่ได้เสียชิวิตไปแล้วก็จะได้รับผลกรรมที่ลูกได้ทำไว้ แต่ถ้าหากว่าลูกปฏิบัติตนอยู่ในทางที่ดี พ่อแม่ก็ย่อมสุขสบายด้วย นี้คือสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่พึ่งหวังจากลูกได้เมื่อเสียชีวิตไปแล้ว

Destiny

อ้างจาก: phanuwat เมื่อ 08:35 น.  26 ส.ค 55
หลังจากที่เราได้ฟังเรื่องราวของคุณตาและคุณยายของผม ด้วยความรักของคนสองคนที่รักกันมา 70 ปีแม้วันนี้คุณยายผมจะจากไปคุณตาผมที่ยังมีลมหายใจอยู่นั้นยังไม่เคยหมดรักหรือรักคุณยายผมน้องลงไปเลย ด้วยอนุภาพที่เราเรียกว่ารักนั้นเราสามารถทำอะไร ได้หลายๆอย่างทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็ทำได้ ทำในสิ่งที่ไม่ดีเพื่อความรักก็ทำได้ ทำเพื่อปกป้องคนที่เรารักเราก็ทำได้ อะไรบนโลกใบนี้เราสามารถทำได้หมดถ้าจะต้องเพื่อคนที่เรารัก ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องถูกหรือไม่ถูกต้องก็ตาม
     จริงๆแล้วความรักเป็นสิ่งที่หลายๆคนมองเป็นเรื่องสวยงาม มองเป็นสิ่งที่หอมหวานอยากได้มา แต่เมื่อเวลาที่ได้มันมาครอบครองนั้นเราสามารถที่จะรักษามันได้นานขนาดไหน เราสามารถเปิดใจยอมรับกับความรักในสิ่งที่อีกคนเป็นได้มากน้อยแค่ไหน อะไรที่เป็นเกณฑ์วัดว่าความรักนั้นจะต้องเป็นรักที่สมบูรณ์แบบตามที่เราปารถนา ทรัพย์สิน เงินทอง ฐานะ บรรดาศักดิ์ รูปลักษณ์ภายนอก เปลือก นิสัยใจคอ ทัศนคติ จิตใจ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งหมดเล่านี้คือองค์ประกอบทั้งหมดที่สมัยนี้จะต้องมีเพื่อประกอบกับ คำว่ารัก ที่จะมอบให้ ใครที่ยอมรับในสิ่งที่เป็นของกันและกันได้ก็ปรับตัวกันน้อยหน่อย ส่วนใครที่กะเกณฑ์ว่าความรักของเราเองจะต้องมีข้อกำหนดมากมายก็จะเหนื่อยกันหน่อย หลายคนมีข้อกำหนดคนที่จะเข้ามารักเราไว้เยอะ บางคนยอมรับในสิ่งที่แต่ละฝ่ายเป็น หลายๆคนบอกว่างั้นเราปรับครึ่งนึงฉันปรับครึ่งนึงเพื่อให้เรารักกันได้อย่างสมดุล บางคนยอมปรับเพื่อคนที่เรารักเพียงคนเดียวโดยที่เขาไม่ต้องปรับอะไรเลยก็ได้ นี่ก็เป็นตัวอย่างคร่าวๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
     ในโลกของปัจจุบันคนบนโลกใบนี้สามารถเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย สามารถทำมาหากินเลี้ยงชีพกันได้ตัวเอง อัตราการเลิกกัน การหย่าร้างเลยสูงขึ้น มีการสอบถามชายและหญิงชราคู่นึงว่า " ทำไมยายกับตาถึงรักกันมานานถึง 60 กว่าปี ยายก็บอกว่า คนสมัยเราเวลาที่อะไรมันพังนั้นเราจะซ่อม ไม่เหมือนหนุ่มสาวสมัยนี้เวลาที่อะไรมันพัง เขาจะเปลี่ยนใหม่"  นี่คือสิ่งที่ต่างกันว่าเวลาคนสมัยโบราณคนรักที่เขาทะเลาะกันเขาจะซ่อมความรู้สึกของกันและกันมากกว่าการเลิกกันและไปหาคนใหม่ แต่เมื่อการใช้ชีวิตปัจจุบันมันเป็นแบบนั้นการหย่าร้าง การเลิกรากัน การที่เราไม่แคร์ถึงขนบประเพณี วัฒนธรรม แนวคิดตะวันตกเข้าครอบงำ หลายๆคนไม่คิดในสิ่งที่เสียไปแม้ว่าจะเสียให้กับคนที่เขาไม่ได้รักก็ตาม เพียงแต่ทุกวันนี้คิดแค่ว่าชายหญิงเท่าเทียมกัน อะไรที่ชายทำได้หญิงต้องทำได้ ใช้อารมณ์ตัวเองมากำหนดการกระทำ โดยไม่ได้ใช้ความรู้สึกมาเป็นตัวกำหนด สมัยนี้เป็นสิ่งที่เรียกว่าง่ายๆ ขอแค่อารมณ์พาไป ณ.ตอนนั้นก็สามารถไปกับสิ่งที่ไม่ดีได้ โดยไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของกันและกันเลย ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์จนลืมนึกถึงใครบางคนที่อยู่ในความรู้สึก
    สุดท้ายนี้บทความนี้ทางผมได้เขียนเพื่อเตือนสติกับตัวผมเองและเตือนสติกับผู้ที่อ่านนะครับ มิได้มีเจตนาจะดูถูก เหยียดหยามแต่ประการใดเพียงนำประสบการณ์ที่ได้พบเจอมา มาเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ยังสำนึกในสิ่งที่ตัวเองกระทำและสามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ศาสนาอิสลามเขากล่าวว่า " สำหรับลูกเดินไปในทางที่ผิดนั้น พ่อแม่จงกล่าวตักเตือนลูกให้อยู่ในแนวทางที่ดี เพราะผลที่ลูกกระทำไม่ดีนั้น เจ้าผู้ที่ซึ่งเป็นพ่อแม่จะต้องรับผลกรรมที่ลูกของเจ้ากระทำขึ้น อีกทวีคูณ " เวลาที่จะตัดสินใจทำอะไรอย่าลืมคิดถึงผลกรรมที่จะตกกับพ่อแม่ของเราด้วย

Cr. Phanuwat Thanomwong   Pj_mc     26/8/55

ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้
อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
"ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจหนึ่ง
ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์"  พระบรมราชปณิธานของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

phanuwat

อ้างจาก: ทำดีเพื่อพ่อแม่ เมื่อ 21:25 น.  27 ส.ค 55
ใชครับถ้าลูกที่ยังมีชีวิตทำไม่ดีไว้หากพ่อแม่ได้เสียชิวิตไปแล้วก็จะได้รับผลกรรมที่ลูกได้ทำไว้ แต่ถ้าหากว่าลูกปฏิบัติตนอยู่ในทางที่ดี พ่อแม่ก็ย่อมสุขสบายด้วย นี้คือสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่พึ่งหวังจากลูกได้เมื่อเสียชีวิตไปแล้ว
ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้
บินเท่าที่บินไหว