“เจ้าสัวธนินท์” ครองแชมป์ “เศรษฐี” เบอร์หนึ่งไทย 3 ปีซ้อน

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   6 กันยายน 2555 15:59 น.   

[attach=1]
ธนินทร์ เจียรวนนท์

"ฟอร์บส์" จัดอันดับ "เจ้าสัวธนินท์" ครองแชมป์ "เศรษฐี" เบอร์หนึ่งไทย 3 ปีซ้อน 2.8 แสนล้าน หลังธุรกิจ "ซีพีออลล์" โตกระฉูด "จิราธิวัฒน์" พุ่งขึ้นอันดับ 2 เจ้าพ่อน้ำเมา "เจริญ" ครองอันดับ 3 เจ้าพ่อกระทิงแดง ถูกเบียดตกไปอยู่อันดับ 4 ส่วนอดีตนายกฯ "แม้ว" ยังติดโผรั้งอันดับ 23 แม้จะหนีคดีอยู่ที่ดูไบ
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า นิตยสารฟอร์บส์ ฉบับเดือนกันยายน 2555 เปิดรายชื่อ 40 อันดับมหาเศรษฐีของไทย ในการจัดอันดับ 40 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2555 (Thailands top 40 Richest 2012) ผลปรากฏว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ และครอบครัว (รวมถึงพี่ชายทั้ง 3 คน คือ นายจรัญ นายมนตรี และนายสุเมธ เจียรวนนท์ ) เป็นแชมป์มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทยปีที่ 3 ติดต่อกัน มีทรัพย์สินรวมกัน 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 282,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยหุ้นซีพีออลล์เติบโตขึ้น 27% รวมทั้งกิจการซีพีเอฟ และซีพีในอินโดนีเซียเติบโตมาก
       
       ส่วนเศรษฐีไทยอันดับ 2 คือ ครอบครัวจิราธิวัฒน์ เจ้าของเครือเซ็นทรัล ธุรกิจค้าปลีกชื่อดัง โดยขยับขึ้นจากอันดับ 4 ของปีก่อน มีทรัพย์สิน 6,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 217,000 ล้านบาท และอันดับ 3 คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเบียร์ช้าง ทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 6,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 195,300 ล้านบาท ขณะที่ตระกูลอยู่วิทยา ซึ่งติดอันเศรษฐีไทย อันดับที่ 2 ในปีก่อน ในปีนี้ฟอร์บส์จัดอันดับเป็นที่ 4 ทรัพย์สินรวม 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
       
       อันดับ 5 นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธาน และซีอีโอของบริษัทบางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (บีบีทีวี) หรือช่อง 7 ทรัพย์สินรวม 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย อยู่อันดับที่ 23 มีทรัพย์สิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18,000 กว่าล้านบาท ซึ่งฟอร์บส์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจในการปฏิวัติปี 2006 ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศที่รัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อหลบเลี่ยงโทษจำคุก 2 ปีจากความผิดฐานคอรัปชัน
       
       ฟอร์บส์ยังระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการเสนอร่างกฎหมายปรองดอง ซึ่งเชื่อว่ามีขึ้นเพื่ออภัยโทษให้เขา ทำให้เขาสามารถเดินทางกลับบ้านได้โดยไม่มีโทษ และเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ (ราว 6.2 หมื่นล้าน) ที่ถูกอายัดไว้คืนด้วย ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม เขาได้เดินทางเข้าสหรัฐฯ ท่ามกลางการประท้วงขับไล่โดยกลุ่มชาวไทยในสหรัฐฯ
       
       นิตยสารฟอร์บส์ฉบับดังกล่าว ซึ่งจะวางแผงในเดือน ก.ย.นี้ จัดอันดับ Asia's Fab 50 Companies หรือ 50 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีขนาดใหญ่ในเอเชีย โดยคัดเลือกมาจาก 1,295 บริษัท ที่มียอดขาย หรือมูลค่าตลาดอย่างน้อย 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ปรากฏว่า บริษัท "ซีพี ออลล์" บริษัทหลักของกลุ่มธุรกิจการตลาด และการจัดจำหน่าย เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอิ่มสะดวก "เซเว่น อีเลฟเว่น" มีชื่อติด 1 ใน 50 บริษัทขนาดใหญ่ในเอเชีย โดยมีมูลค่าตลาด 9,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 309,000 ล้านบาท มียอดขาย 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 155,000 ล้านบาท และเป็นเพียง 1 ใน 2 บริษัทไทยที่ติดอันดับ

[puiey]

รวยโคตร

[อู๊ด อารีย์]

รวยโคตร

อย่างไรก็รวยอยู่แล้วเพราะเป็นธุรกิจที่จำเป็นของคนเราอยู่แล้ว ลองไม่กินดูซิว่าอะไรจะเกิดขึ้น

[อู๊ด อารีย์]

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   6 กันยายน 2555 15:59 น.   

[attach=1]
ธนินทร์ เจียรวนนท์

"ฟอร์บส์" จัดอันดับ "เจ้าสัวธนินท์" ครองแชมป์ "เศรษฐี" เบอร์หนึ่งไทย 3 ปีซ้อน 2.8 แสนล้าน หลังธุรกิจ "ซีพีออลล์" โตกระฉูด "จิราธิวัฒน์" พุ่งขึ้นอันดับ 2 เจ้าพ่อน้ำเมา "เจริญ" ครองอันดับ 3 เจ้าพ่อกระทิงแดง ถูกเบียดตกไปอยู่อันดับ 4 ส่วนอดีตนายกฯ "แม้ว" ยังติดโผรั้งอันดับ 23 แม้จะหนีคดีอยู่ที่ดูไบ
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า นิตยสารฟอร์บส์ ฉบับเดือนกันยายน 2555 เปิดรายชื่อ 40 อันดับมหาเศรษฐีของไทย ในการจัดอันดับ 40 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2555 (Thailands top 40 Richest 2012) ผลปรากฏว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ และครอบครัว (รวมถึงพี่ชายทั้ง 3 คน คือ นายจรัญ นายมนตรี และนายสุเมธ เจียรวนนท์ ) เป็นแชมป์มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทยปีที่ 3 ติดต่อกัน มีทรัพย์สินรวมกัน 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 282,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยหุ้นซีพีออลล์เติบโตขึ้น 27% รวมทั้งกิจการซีพีเอฟ และซีพีในอินโดนีเซียเติบโตมาก
       
       ส่วนเศรษฐีไทยอันดับ 2 คือ ครอบครัวจิราธิวัฒน์ เจ้าของเครือเซ็นทรัล ธุรกิจค้าปลีกชื่อดัง โดยขยับขึ้นจากอันดับ 4 ของปีก่อน มีทรัพย์สิน 6,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 217,000 ล้านบาท และอันดับ 3 คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเบียร์ช้าง ทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 6,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 195,300 ล้านบาท ขณะที่ตระกูลอยู่วิทยา ซึ่งติดอันเศรษฐีไทย อันดับที่ 2 ในปีก่อน ในปีนี้ฟอร์บส์จัดอันดับเป็นที่ 4 ทรัพย์สินรวม 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
       
       อันดับ 5 นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธาน และซีอีโอของบริษัทบางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (บีบีทีวี) หรือช่อง 7 ทรัพย์สินรวม 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย อยู่อันดับที่ 23 มีทรัพย์สิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18,000 กว่าล้านบาท ซึ่งฟอร์บส์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจในการปฏิวัติปี 2006 ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศที่รัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อหลบเลี่ยงโทษจำคุก 2 ปีจากความผิดฐานคอรัปชัน
       
       ฟอร์บส์ยังระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการเสนอร่างกฎหมายปรองดอง ซึ่งเชื่อว่ามีขึ้นเพื่ออภัยโทษให้เขา ทำให้เขาสามารถเดินทางกลับบ้านได้โดยไม่มีโทษ และเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ (ราว 6.2 หมื่นล้าน) ที่ถูกอายัดไว้คืนด้วย ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม เขาได้เดินทางเข้าสหรัฐฯ ท่ามกลางการประท้วงขับไล่โดยกลุ่มชาวไทยในสหรัฐฯ
       
       นิตยสารฟอร์บส์ฉบับดังกล่าว ซึ่งจะวางแผงในเดือน ก.ย.นี้ จัดอันดับ Asia's Fab 50 Companies หรือ 50 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีขนาดใหญ่ในเอเชีย โดยคัดเลือกมาจาก 1,295 บริษัท ที่มียอดขาย หรือมูลค่าตลาดอย่างน้อย 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ปรากฏว่า บริษัท "ซีพี ออลล์" บริษัทหลักของกลุ่มธุรกิจการตลาด และการจัดจำหน่าย เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอิ่มสะดวก "เซเว่น อีเลฟเว่น" มีชื่อติด 1 ใน 50 บริษัทขนาดใหญ่ในเอเชีย โดยมีมูลค่าตลาด 9,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 309,000 ล้านบาท มียอดขาย 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 155,000 ล้านบาท และเป็นเพียง 1 ใน 2 บริษัทไทยที่ติดอันดับ

ขอแสดงความยินดีด้วยจิตคารวะ

[dj cop]

                         "  เราไม่รู้หรอกว่าถ้าเอาเงินทองของเจ้าสัว  มากองต่อหน้าต้องใช้รถบรรทุกกี่คันถึงจะเคลื่อนย้ายได้หมด  เงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อ  ความอุตสาหะ   การคิดการณ์ไกล  ในเชิงพัฒนาธุรกิจด้านการเกษตรและสินค้าอุปโภค บริโภค  เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก....         มิได้มาจากการโกงกิน คอรัปชั่น  เอารัดเอาเปรียบสังคม     เราต้องนับถือในความสามารถของคนไทย   ของเจ้าสัว...   เครือเจริญโภคภัณฑ์เราไม่รู้หรอกว่ามีกิจการขยายใหญ่โต  สาขาบริวารว่านเครือครอบคลุมธุรกิจประเภทต่าง ๆ กว้างไกลไปถึงไหน    แต่เราแคภูมใจที่ว่า  ถ้าเราเข้าใจไม่ผิดไปจากความจริง   มีร้านค้านึงที่ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3  ด้านซ้ายมือเยือง ๆ โรงแรมยงดี  ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าเป็นที่ตั้งของร้านแว่นตา ท๊อปเจริญหรือเปล่า   เป็นร้านคูหาเดียวขายเมล็ดพันธ์พืช ผักต่าง ๆ  ชื่อร้านเจียไต๋จั่น    ชาวหาดใหญ่อาจจะรู้จักกันดี     เค้าบอกเล่าว่าร้านเจียไต๋นี่แหละ  คือร้านเริ่มแรกชื่อแรกของตระกูลของเจ้าสัว   เราชาวหาดใหญ่ก็คงพลอยยินดีไปกับเขากัน    สมาชิกท่านใดมีข้อมูลความจริง เพิ่มเติม แชร์หน่อยน่ะ    "